ก่อนที่แอร์เอเชียจะปิดเส้นทางการบินเชียงใหม่-อุบลราชธานีสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ต้องไปชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวอุบลกันหน่อย เมืองดอกบัวงามนี้มีจุดเช็คอินสุดสวยมากมายล้วนแล้วแต่ UNSEEN ทั้งนั้นเลย ไปแอ่วกันค่ะ^^

อุบลราชธานี เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเมืองใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่า 200 ปี เป็นจังหวัดแรกที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนจังหวัดอื่นเลยค่ะ

ถึงเมืองอุบลแล้วววว มาถึงประมาณบ่ายสอง เริ่มแอ่วกันเลย


สถานที่แรกไปไหว้พระขอพรกันค่ะที่ วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดราษฎร์ นิกายธรรมยุตมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากค่ะ โดยเฉพาะพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร


รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้วทั้ง 4 มุม ของกำแพงแก้ว ได้ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีก 4 องค์









ด้านหลังของพระบรมธาตุ เป็นที่ตั้งของศาลาการเปรียญ ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณี มีเทียนพรรษาที่ขึ้นชื่อสวยงามตั้งอยู่ด้วยค่ะ




วิจิตรงดงามฝีมือช่างไทยจะหาไหนในโลกา




ไปชมเรือสุพรรณหงส์กันต่อที่ วัดบ้านนาเมือง หรือวัดสระประสานสุข ค่ะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ด้านทิศเหนือของสนามบิน เป็นวัดที่มีพระอุโบสถแปลกตา สร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ประดับตกแต่งด้วยเซรามิคและมีเรือธรรมนาคราชที่สวยงาม จะเข้าวัดนี้ต้องลอดท้องช้างกันก่อนค่ะ ประตูทางเข้าวัดเป็นพระพิรุฬทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อนเลย^^ ปัจจุบันวัดสระประสานสุขเป็นวัดที่มีชื่อเสียง มีพุทธศาสนิกชนเลื่อมใสจำนวนมาก ด้วยบารมีของหลวงปู่บุญมี ท่านเคร่งในพระวินัยและเป็นพระสายธรรมยุทธ์ค่ะ เข้ามาแล้วจะพบว่าเป็นวัดที่มีความสงบร่มรื่นค่ะ สถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา



อุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ เป็นอุโบสถที่แปลกกว่าวัดอื่นๆอุโบสถอยู่บนเรือสุพรรณหงส์ที่ประดับด้วยเซรามิคสีน้ำตาลแดงแกะสลักลาย ช่อฟ้าใบระกาก็เป็นเซรามิกทั้งหมด หลังคาลดหลั่นแบบศิลปะภาคกลางในกรุงรัตนโกสินทร์


ลวดลายฐานเรือ สวยงาม


ดอกบัว สัญลักษณ์ของเมืองอุบล



อุโบสถบนเรือสวยงาม



ตื่นตาตื่นใจ^^ เรือลำนี้ มีความหมายว่า จะเป็นพาหนะที่จะพาบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้มีใจเป็นกุศลข้ามห้วงมหาสมุทรแห่งวัฏสงสารสู่ดินแดนมหานิพพาน


พญาครุฑ อยู่บนศาลาเอนกประสงค์ภายในอาคารไม้นี้มีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมี และมีสังขารหลวงปู่บุญมีซึ่งไม่เน่าไม่เปื่อยในโลงแก้วค่ะ



หอระฆัง 5 ชั้น ปะดับด้วยเซรามิคสีน้ำตาลแดง


ไปให้อาหารปลา และชมความงาม วิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราชกันค่ะ จะเดินหรือจะขับรถเข้าไปชมด้านในก็ได้ค่ะ






สวยงามแปลกตา


จุดต่อไป ไปชม หอไตรกลางน้ำ ที่เลื่องลือของเมืองอุบลกันค่ะ อยู่ที่วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่บริเวณถนนหลวง ในเขตเทศบาล


หอพระไตรปิฏกที่สร้างด้วยไม้ตั้งอยู่กลางสระน้ำนี้ มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทย ลาว และพม่า บริเวณหลังคาเป็นทรงจั่วคล้ายสถาปัตยกรรมแบบเชียงรุ้ง เป็นหอไตรที่สวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ที่สำคัญหอไตรกลางน้ำหลังนี้ยังได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามมงกุฎราชกุมารี อีกด้วยค่ะ



“พระอุโบสถ” หรือ “หอพระพุทธบาท” ภายในประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองที่ได้จำลองแบบมากจากวัดสระเกศราชวรวิหาร

พระเจ้าใหญ่ศรีเมือง พระพุทธรูปเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี

จิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 100 ปี เริ่มมีสีซีดจางไปตามอายุ

รอยพระพุทธบาท


เริ่มเย็นแล้ว ไปไหว้ศาลหลักเมือง เดินชมถนนคนเดินและให้อาหารปลาริมฝั่งแม่น้ำมูลกันค่ะ

เวลาประมาณ 17.30 น ถนนคนเดินเริ่มตั้งกันแล้วมีเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ค่ะ

ศาลหลักเมือง ตั้งอยู่บนถนนศรีณรงค์ ทางทิศใต้ของทุ่งศรีเมือง

บริเวณโดยรอบทุ่งศรีเมืองสวยงาม

วิจิตรงดงาม

ไปชมพระอาทิตย์ตกดินริมน้ำมูลกันค่ะที่ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำมูลอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นวัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระอุโบสถใช้โทนสีขาว ตัดสีชมพู

บริเวณวัดมีที่ให้อาหารนกและปลาริมน้ำ

ใกล้ค่ำแล้วชมตะวันตกดินริมฝั่งน้ำมูลกัน^^

เย็นย่ำเข้าที่พักกันดีกว่าเลือกพักที่ โรงแรมระพีพรรณวิลล์ในเมืองค่ะ คืนประมาณแปดร้อยกว่าบาทค่ะ ที่พักใหม่สะอาด พนักงานอัธยาศัยดีมากกกกกก อาหารอร่อยค่ะ


แนะนำผัดไทเกี๊ยวกรอบลูกสาวชอบมากค่ะ^^

เช้าวันที่ 2 ไปไกลหน่อย ไปผาแต้ม สามพันโบก วัดป่าภูพร้าวกันค่ะ^^

แวะไหว้พระที่ วัดมหาวนารม พระอารามหลวง กันก่อน ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดป่าใหญ่ ตั้งอยู่ในเมือง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี

วัดนี้เคยได้ฟังเพลง ขอพรพ่ออินแปง แล้วติดใจในการชมความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าใหญ่อินแปงพระคู่บ้านคู่เมือง เลยอยากมากราบขอพรค่ะ


งดงามสมคำร่ำลือดังเนื้อเพลงท่อนหนึ่งกล่าวไว้ว่า

พระงามดั่ง องค์อินทร์ลงมาแปงปั้น
ศิลาจารึกหลักฐาน พระมหาราชครูปูทาง
ท่านท้าวทิดพรหม เจ้าเมืองอุบลให้สร้าง
วิหารข้างหนองตะพัง ตั้งองค์พระไว้คู่บุญญา



งดงามมากค่ะสมคำว่า พระงามดั่ง องค์อินทร์ลงมาแปงปั้น


ออกนอกเมืองกันบ้างงงง ทางผ่านไปผาแต้ม แวะถ่ายรูปพัทยาน้อยกัน


มาอุบลคงพลาดวัดเรืองแสงไม่ได้นะคะ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศไว้ ครั้งนี้มาตอนสายไม่ได้มาตอนกลางคืนไม่เห็นวัดเรืองแสงแต่ก็ยังสวยงามค่ะ เพราะมองเห็นธรรมชาติโดยรอบได้ชัด

ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว

ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะเรืองแสงแบบนี้ค่ะ (เป็นรูปเก่าที่เคยถ่ายไว้)


ต้นกัลปพฤกษ์ ตอนกลางคืนจะเรืองแสงงดงาม

เดินทางต่อจุดชมวิวแม่น้ำสองสี อยู่ที่ ต.โขงเจียม ห่างจากวัดป่าภูพร้าวประมาณ 7 km ค่ะ

แม่น้ำสองสี เป็นบริเวณที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำโขงสีปูน แม่น้ำมูลสีคราม “โขงสีปูน มูลสีคราม” จุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำสองสีได้อย่างชัดเจน คือ บริเวณลาดริมตลิ่ง แม่น้ำมูล แม่น้ำโขงหน้าวัดโขงเจียม เดือนนี้ไปแล้วมองไม่เห็นความต่างของสีแม่น้ำค่ะ คงต้องช่วงหน้าฝนถึงจะเห็นชัด




ไปต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านหนองผือน้อย ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 95 กิโลเมตร ภายในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น เสาเฉลียง อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ

เสาเฉลียง หรือ Rock Pillar ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม เป็นเสาหินทรายยุคจูแรสซิก รูปทรงคล้ายดอกเห็ดบาน พบกระจายอยู่ตามลานหินในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการกัดเซาะจากน้ำและกรวดที่ลมพัดพามาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายล้านปี

ผาแต้ม เป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และยังเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นแหล่งทางโบราณคดีที่สำคัญของภาคอีสาน คำว่า “แต้ม” ในภาษาถิ่นดั้งเดิมหมายถึง รอยวาด ระบาย ประทับ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ โดยใช้สี ให้ปรากฏเป็นรูปภาพ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆค่ะ ค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาทค่ะ



ธรรมชาติโดยรอบสวยงาม

บริเวณหน้าผาสูงชัน ระวังอย่าเข้าไปใกล้มากนะคะ เพราะอาจจะตกลงไปหรือทำหินดินทรายตกไปใส่คนที่ดูภาพเขียนอยู่ด้านล่าง

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ


ลูกไม้สีแดงสวยมากค่ะ ไม่ร฿ู้ชื่อต้นอะไร ใครทราบบ้างเอ่ย

ลงไปดูภาพเขียนริมผากัน

จุดที่เห็นภาพเขียนสีชัดเจนเป็นจุดที่ 2 ค่ะ ภาพเขียนสีนี้อายุเก่าแก่มากกว่าสามถึงสี่พันปีแล้วน่าทึ่งที่ยังอยู่ให้เห็นจนทุกวันนี้

ไปสามพันโบกกันต่อเลย ห่างจากตัวเมืองอุบลประมาณ 110 กิโลค่ะ

สามพันโบก หรือ แกรนด์แคนยอนเมืองไทย เกิดจากแอ่งหินรูปร่างแปลกตาจำนวนมากมายกลางลำน้ำโขงไปหน้าร้อนก็ยังพอมองเห็นค่ะ ไม่ได้ไปตรงจุดขึ้นเรือชมน้ำโขงแต่เข้าทางลัดไปจากถนนใหญ่ประมาณ 1.5 กิโลค่ะ มีร้านอาหารให้บริการด้วย


สามพันโบก เกิดจากการกัดเซาะของแรงน้ำวน จากข้อมูลพบว่ามีจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง และคำว่า "แอ่ง" ในภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า "โบก" จึงเป็นที่มาของคำว่า สามพันโบกค่ะ

ฝั่งตรงข้ามลำน้ำโขงเป็นประเทศลาว สามารถนั่งเรือชมความงามสองฝั่งโขงได้มีให้บริการค่ะ

เจอรูปหัวใจน่ารักๆเยอะเลย

ชมความงามแล้วก็กลับไปรอขึ้นเครื่องในเมืองกัน ระหว่างรอเครื่องไปเช็คอินร้านน่ารักๆที่ เล็กนมสดกัน^^


มีจุดให้เซลฟี่เยอะแยะเลย ราคาไม่แพงค่ะ อยู่ใกล้สนามบิน

จบทริปเมืองดอกบัวแล้วพบกันใหม่ค่ะ ฝากเพจท่องเที่ยวเล็กๆโตยเจ้า^^ ไปแอ่วกัน FUN TRIPS
















ความคิดเห็น