จังหวัดอะไรเอ่ยไปยังไงก็ไปไม่ถึง??
จังหวัด.....เลยไง ไปยังไงก็ไปไม่ถึงสักทีเพราะเลยตลอด แฮร่
ถ้าพูดจริงจังหวัดเลย คงไม่มีใครไม่รู้จักจังหวัดนี้แน่นอน สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมาย หลากหลายบรรยากาศ ในทริปนี้เราจะไปอำเภอๆนึงซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆติดริมแม่น้ำโขง เป็นเมืองที่มีอะไรให้น่าค้นหามากมาย นั่นก็คือ"เชียงคาน" เชียงคานเป็นเมืองที่ยังมีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียประเพณีที่ยังอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนไม้เก่าๆ ที่ยังคงอยู่เป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส หรือจะเป็นความเงียบสงบ ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน หรือจะเป็นบรรยากาศที่ชวนให้มาลองสัมผัส ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากจะมาลองเที่ยวเชียงคานดูบ้าง อยากรู้ว่าทำไมใครๆก็มาเที่ยวกัน
ทริปนี้เป็นทริปแรกของผมที่ไปเที่ยวจังหวัดทางภาคอีสาน เพราะไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดทางภาคอีสานเลย
จังหวัดเลยจึงเป็นจังหวัดแรกที่ผมได้มาเที่ยว ไปดูกันว่าผมได้อะไรจากการมาเที่ยวเชียงคานบ้าง ไปดูกันเลย

มาเริ่มการเดินทางของผมในทริปนี้คือผมนั่งรถไฟจากพิจิตรมาลงที่พิษณุโลก จากนั้นก็มาต่อรถทัวร์ที่บขส.พิษณุโลก โดยรถทัวร์เป็นรถพิษณุโลก-เลย-อุดรธาณี ผมไปขึ้นที่บขส.เก่าหรือบขส.1 แต่รถก็จะไปแวะรับผู้โดยสารที่บขส.ใหม่ด้วย คือไปขึ้นได้ทั้งบขส.เก่าและใหม่ รอบรถมีรอบ 09.30 น.กับ รอบ 12.00 น. คนที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงเช่นพิจิตร นครสวรรค์ ตาก กำแพงเพชร ฯ ถ้าจังหวัดเราไม่มีรถสามารถมาต่อรถที่พิษณุโลกได้เหมือนกัน จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถึงบขส.เลย (เส้นทางที่ผ่าน นครโทย-ด่านซ้าย-ภูเรือ-เลย-อุดรธาณี)
- ส่วนคนที่เดินทางจากกทม.ก็มีรถทัวร์จากหมอชิตเหมือนกันมีรถไปถึงเชียงคานเลย หรือใครจะนั่งเครื่องบินมาก็ได้แล้วมาต่อรถที่บขส.เลยก็ได้เหมือนกัน

จากนั้นก็ขึ้นรถสองแถว เลย-เชียงคาน มีรถออกน่าจะเกือบทุกชั่วโมงนะ หรือรถทัวร์ที่นครราชสีมา-เชียงคาน ตอนแรกไม่รู้มารู้ตอนขากลับ ได้นั่งแอร์เย็นๆด้วย 555 ถ้าใครไปก็ลองสอบถามกันดูครับ ไม่แน่ใจรอบรถเหมือนกัน รถสองแถวที่ผมขึ้นจะเป็นคันสีน้ำเงินมีป้ายบอกชัดเจน นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ คนเต็มยืนไปด้วยแหละเมื่อยเอาเรื่อง 555 ถึงเชียงคานประมาณเกือบสี่โมงเย็นได้

ที่พักคืนแรก ที่ผมไปพักคือ "บ้านตากะยาย" ที่พักน่ารักมาก เสมือนเป็นบ้านเราเอง อารมณ์คล้ายๆเราไปบ้านญาติต่างจังหวัด คุณตาใจดีเป็นกันเองมาก ที่นี่มีจักรยานให้ปั่น มีรถมอเตอร์ไซด์ให้เช่า

- บ้านตากะยาย อยู่ซอย 16 ติดถนนคนเดิน มีห้องพัก 2 แบบ เป็นห้องแอร์ทั้งหมด มีแบบห้องน้ำในตัวคืนล่ะ 800 บาทกับแบบห้องน้ำแยกคืนล่ะ 600 บาท ถือว่าถูกเลย ส่วนผมพักแบบห้องน้ำแยก ก็โอเคนะ ถ้าไปสองคนตกคนล่ะไม่กี่ร้อยเอง


ภายในห้องที่ผมพักก็จะประมาณนี้ ห้องกว้างขวาง เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อยเตรียมตัวไปเดินเล่นกัน

บรรยากาศริมแม่น้ำโขง ผู้คนมากมาย ต่างมาเดินเล่น อออกำลังกาย ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขง ชมบ้านไม้โบรานเก่าๆ โฮมเตย์น่ารักๆ เป็นการปั่นจักรยานชิวๆ ใช้ชีวิตช้าๆไม่ต้องรีบร้อน ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีเลย

บรยากาศดีมากเลย มองไปอีกฝั่งก็จะเป็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านของเรา

มีเรือให้บริการนักท่องเที่ยวล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขงด้วย ใครไปก็อย่าลืมลองไปนั่งกันดูนะ


มีมุมชิคๆ เท่ๆให้ถ่ายรูปเยอะมาก

พี่จ่าเขียวกับพี่จ่าขาว ใครไปเชียงคานต้องเจอพี่เค้าแน่นอน ตอนค่ำๆแกจะไปอยู่ที่ถนนคนเดิน ไปขอถ่ายรูปกับแกได้นะ

ดูดิคนเยอะเลย มีแต่คนมาปั่นจักรยานมาเดินเล่นชิวๆ ดูพระอาทิตย์ตก

ที่พักติดริมแม่น้ำโขงมีตลอดแนว ถ้าไปวันธรรมดาไปเดินเลือกหาเอาได้เลย มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักพัน


พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว บรรยากาศดีมากเลย

มาเดินเล่นต่อกันที่"ถนนคนเดินเชียงคาน" ถือว่าเป็น 1 ไฮไลท์ของการมาเที่ยวเชียงคานเลยก็ว่าได้ ไปดูกันว่าถนนคนเดินเชียงคานจะมีอะไรเด็ดๆบ้าง

ของดีของเด็ดคงหนีไม่พ้นของกินที่ชวนให้เราต้องไปลิ้มลอง

กุ้งแม่น้ำโขงเสียบไม้ กับข้าวจี่อุ่นๆ ขอบอกว่าไปแล้วต้องลองนะ ของดีของเด็ด อร่อยเวอร์

กุ้งเสียบมีแบบตัวใหญ่กับตัวเล็กด้วยนะ
รสชาติมันๆเค็มๆ เคี้ยวโคตรเพลินไม้เดียวไม่พอจริงๆบอกเลย 555 อร่อยมาก

ต่อมา ปูจี่ กรุบๆกรอบๆ รสชาติมันๆเค็มๆ ลองไปไม้นึงแปลกดีนะอร่อยดี 555

ไส้กรอก น่ากินมาก มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย

แมลงทอด ก้อยหอย ก้อยกุ้ง แซบๆ อยากกินไปซะทุกอย่าง น้ำลายแตก

หอยนาย่างรสเด็ด เห็ดพันเบคอล ไปแล้วต้องลองนะ แซบอีหลีเด้อ

ขนมครก ขนมบ้าบินแม่ประยูร แค่เดินผ่านกลิ่นก็โชยมาแล้ว

ขนมไทย อร่อยๆก็มีนะ

เมี่ยงคำห่อกันสดๆ ไม้ล่ะ 10 บาท รสชาติอร่อยเครื่องแน่น เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบรสอร่อยเลย

ข้าวเกรียบปากหม้อ อันนี้ก็เด็ด อร่อยนุ่มลิ้น ชอบมาก


ข้าวเหนียวปิ้งร้อนๆ

แหนมหมูสูตรโบราณ น่าลองมาก จะซื้อไปเป็นของฝากก็ดีนะ

ลูกชก เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน เค้าบอกว่า 30 ปีมีครั้งเดียว ในใจก็คิดนะมันจริงหรอ ใช่รึเปล่า 555 แต่ด้วยความอยากรู้เลยขอลองมาถ้วยนึง เม็ดข้างในมันคลายๆทับทิม แต่รสชาติมันยังไงไม่รู้อ่ะ เหนียวๆแข็งๆเหมือนจะกรอบก็ไม่กรอบ สรุปถ้าไม่ลองก็ไม่เสียใจเลย 555

เสาวรส สดๆ

ของฝากจากเชียงคาน อย่าลืมซื้อกลับบ้านกันนะ

ร้านติดนมเลย เห็นคนมุงเต็มเลย อยากลองเหมือนกัน เดินไปเดินมาสองรอบคนก็ยังเยอะ สรุปอดลอง 555

ร้านขายเสื้อผ้า ชุดน่ารักๆ ชุดสวยๆมีให้เลือกหลายร้านมาก จะซื้อเป็นของฝากหลายๆตัวเค้ามีลดราคาให้ด้วยนะ

กระเป๋าเล็กๆ ซื้อเป็นของฝากก็น่ารักดีนะ


แท่นวางมือถือ แท่นวางแท็บเล็ตทำด้วยไม้เก๋ๆ


ปิ่นโตเล็กๆน่ารักๆ



ร้านกาแฟ ร้านขายของ เท่ๆ เก๋ๆ เข้าไปนั่งจิบกาแฟชิวๆ ถ่ายรูปชิคๆกันได้


ตู้ATMของธกส. ยังน่ารักเลย เห็นคนมาถ่ายรูปกับตู้กันเยะเลย


มุมถ่ายรูปชิคๆ ตามถนนคนเดินมีเยอะมาก ถ่ายมาแค่บางส่วนเองนะ


สุเนตต์ตาโฮเทล ใครไปเชียงคานก็ต้องไปถ่ายรูปกับป้ายนี้ เรียกได้ว่าเป็นมุมมหาชนเลยก็ว่าได้



ที่พักมีเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้เก่าๆที่ยังคงสภาพเดิม มีทั้งติดฝั่งแม่น้ำโขงและติดถนนคนเดิน


พี่คนนี้เทพมาก ใช้ปลายมีดวาด ภาพสวยมาก


จบไปกับการเดินเล่นถนนคนเดิน เป็นยังไงกันบ้าง อยากไปเชียงคานกันแล้วใช่เปล่า อิอิ ได้เวลาพักผ่อนเตรียมลุยพรุ่งนี้ต่อ
-ผมลืมบอกไปตอนเช้าที่ถนนคนเดินจะมีการตักบาตรข้าวเหนียวด้วยนะ เราสามารถบอกทางที่พักจัดของไว้ตักบาตรได้ วันนี้ผมไปผมอาจจะพลาดไปเพราะว่าไปภูทอกแต่เช้ามืดเลย แอบเสียใจเล็กๆ


สวัสดีเช้าวันที่ 2 ของการมาเที่ยวเชียงคาน ตื่นตีห้า รีบแว๊นซ์มอเตอร์ไซด์มาที่ภูทอก จอดรถไว้ด้านล่างเพราะมีรถรับส่งขึ้นลงเสียค่ารถขึ้นลงคนล่ะ 25 บาท
ภูทอกจะอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานมาประมาณ 3 กม. คนที่จะมาภูทอกถ้าใครมีรถส่วนตัวก็ขับรถมาได้เลย ส่วนคนที่ไม่ได้เอารถส่วนตัวมา แต่มากันหลายๆคน สามารถนั่งรถสกายแล็ปจากเชียงคานมาได้หรือจะเช่ามอเตอร์มาก็ได้ จะได้แวะเที่ยวจุดอื่นๆด้วย


ภูทอกเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ของเชียงคานที่เมื่อใครมาเที่ยวก็ต้องมาดูทะเลหมอกที่นี่
วันนี้หมอกอาจจะไม่หนาแน่น เพราะว่าลมค่อนข้างแรง แต่มีแค่หมอกบางๆฟ้าสวยๆก็โอเคอยู่นะ
บางทีการชมทะเลหมอกก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยนะผมว่าบางคนมาเจอทะเหมอกแบบอลังการ บางคนมาอาจจะไม่เจอ แต่ผมมองว่ายังไงธรรมชาติมันก็สวยงามเสมอ



กดถ่ายรูปกันรัวๆไปเลย





วันนี้คนเยอะมาก มุมถ่ายรูปก็มีเยอะนะแต่ต้องต่อคิวกันหน่อย


มีพระพุทธรูปอยู่ด้านบนภูทอกด้วยนะ ใครขึ้นไปก็ไปไหว้พระขอพรกันได้




พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ณ ภูทอก


พอพระอาทตย์ขึ้นมีแสงส่องสีส้มๆ พร้อมกับหมอกบางๆ สวยงามมาก บรรยากาศดีด้วย


บรรยากาศดูเหงาๆไปนะบางที 555 ป่ะเริ่มสายแล้วลงเขากันเถอะ ไปกันต่อ


มาต่อกันที่แก่งคุดคู้
แก่งคุดคู้เป็นแก่งขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กม.เช่นเดียวกัน อยู่ไม่ไกลจากภูทอก ทางไปมีป้ายบอกทางชัดเจน


ที่แก่งคุดคู้มีร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของฝากด้วยนะ ร้านขายอาหารก็เยอะเลย


มาดูวิวกันบ้าง สวยจังเลย



ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาชมแก่งคุดคู้คือช่วงเดือน กุมภาพันธ์-พฤษภาคม ช่วงนี้จะเห็นแก่งชัดเจน เห็นแนวหินทอดตัวลงอยู่กลางแม่น้ำโขง





มีเรือสำหรับไว้บริการนักท่องเที่ยวชมวิวแม่น้ำโขงด้วยนะ ใครไปก็ไปลองนั่งกันได้




ถือว่าแปลกอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่าเราจะเห็นแนวหินแบบนี้เฉพาะที่แก่งคุดคู้ตรงนี้เท่านั้น สวยงามแปลกตา





บริเวณริมแม่น้ำโขงก็จะเป็นร้านอาหาร มีเยอะมาก ที่เห็นๆจะเป็นพวกปลาเผา ไก่ย่าง ส้มตำแล้วก็อาหารตามสั่งอื่นๆ


ก็จบไปกับแก่งคุดคู้ ไปลุยกันต่อ

กลับมาที่เชียงคานเหมือนเดิม ที่เห็นนี้จะเป็นรถสกายแล็ปหรือว่ารถสามล้อประจำเมืองเชียงคาน เรักได้ว่าเป็นอีก 1 สัญลักษณ์ของเชียงคาน


ร้านไอติมลุงเติบ ผ่านมาพอดีเห็นมันน่ากินเลยแวะลองชิม ของบอกว่าอร่อยมาก หวานมันอย่างอร่อย


ขนาดธนาคารยังคลาศสิค


มาต่อกันที่"วัดศรีคุณเมือง"


วัดศรีคุณเมือง ตั้งอยู่บนถนนชายโขง ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6 และซอยศรีเชียงคาน 7 ถือเป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองเชียงคานเลยก็ว่าได้


ที่สะดุดตาที่สุดก็คงจะเป็นโบสถ์ จะมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะล้านนาเหมือนทางภาคเหนือเลย ทำให้เป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเข้ามาเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม

ด้านในก็จะมีพระพุทธรูปทรงนาคปรก ใครมาเชียงคานก็จะมากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลใก้กับตัวเอง

ไปกันต่อๆ

ได้เวลาเที่ยงพอดี มาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวไก่รสเด็ดอยู่ในซอยถนนคนเดิน เลยจัดไปซะหนึ่งชาม

อีก 1 วัดเก่าแก่ประจำเมืองเชียงคาน "วัดท่าคก" อยู่บนถนนศรีเชียงคาน ซอย 21
เค้าว่ากันว่าเป็นวัดที่อยู่คู่เชียงคานมาร่วม 200 ปี สร้างขึ้นในสมัยที่เชียงคานยังขึ้นอยู่กับมณฑลพิษณุโลก เมื่อปี 2395 หูววว นานมากเลย


ลักษณะโบสถ์มีลวดลายสวยงาม ผสมผสานศิลปะจากหลายชนชาติ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถที่มีศิลปะลวดลายแบบฝรั่งเศสอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าโบสถ์ และขอบหน้าต่าง ที่คาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากสมัยที่ฝรั่งเศสยึดครองดินแดนฝั่งลุ่มน้ำโขง(ลาว)เป็นเมืองขึ้น

ส่วนตัวอุโบสถจะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ตามแบบศิลปะล้านช้าง ตกแต่งด้วยปูนปั้น เพดานไม้วาดลายเขียนสีแบบโบราณ และภายในประดิษฐานพระประธาน ปางมารวิชัย ศิลปะปูนปั้นล้านช้าง

หลังจากนั้นช่วงเย็นๆผมก็นั่งสกายแล็ปไปที่พักคืนที่ 2 คืนสุดท้ายที่เชียงคาน

ผมมาพักที่นี่เลย Chiangkhan River Green Hill ที่พักที่นี่พึ่งเปิดได้ไม่นาน บรรกาศยังดิบๆอยู่เลยขอ บอกอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดินเชียงคาน ใกล้แก่งคุดคู้ ใกล้ภูทอก ถือเป็นที่พักอีก 1 ตัวเลือกใหม่ เผื่อใครที่มาเที่ยวเชียงคานอยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนโฮมสเตย์ลองมานอนกระโจมติดแอร์กันดูบ้าง

-การเดินทางมาที่นี่คนมีรถส่วนตัวเปิดGpsแล้วขับมาได้เลย ส่วนคนไม่มีรถเมื่อมาถึงตัวเชียงคานแล้ว
สามารถนั่งรถสกายแล็ปหรือรถสามล้อรับจ้างจากบขส.หรือถนนคนเดินเชียงคาน มาที่นี่ได้ ค่ารถประมาณ 100 บาท

ภายในกระโจมก็จะประมาณนี้ มีเตียงนุ่มๆมีแอร์เย็นๆ

บรรยากาศก็จะประมาณนี้ มองเห็นวิวภูเขา เห็นแม่น้ำโขง บรรยากาศโคตรดีบอกเลย

บรรยากาศยามพลบค่ำ วิวสวยสบายตา ดึกๆมองเห็นดวงดาวชัดเลย

ตื่นเช้ามามีหมอกบางๆ อากาศเย็นสบาย

ยามเช้า จิบกาแฟชมวิวแม่น้ำโขงเป็นอะไรที่โคตรฟิน

อาหารเช้ากับวิวแบบนี้ รักเลย

หลังจากนั้นผมก็ให้ที่พักไปส่งยังจุดขึ้นรถแล้วก็นั่งรถกลับไปที่บขส.เลย แล้วก็นั่งรถทัวร์กลับบ้านเป็นอันจบทริปเชียงคาน 3 วัน 2 คืน เป็นอย่างไรกันบ้างครับหลงรักเชียงคานเหมือนผมกันหรือยังเอ่ย อยากไปเที่ยวเชียงคานกันแล้วใช่เปล่า อิอิ

สำหรับผมมองว่าเชียงคาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดโดยประการทั้งปวง ทั้งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียประเพณีของที่นี่ หรือจะเป็นผู้คนที่นี่ก็น่ารักเป็นกันเอง ที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของกิน ที่นี่มีของกินแปลกอร่อยๆ ให้ลิ้มลองมากมาย แล้วสถานที่ท่องเที่ยวก็มีหลากหลาย ทั้งวัด ภูเขา แม่น้ำและอีกมากมาย เรียกได้ว่าไปที่เดียวได้เที่ยวครบเลย และหลายสิ่งหลายอย่างที่นี่มันทำให้ผมหลงรักเชียงคานโดยไม่รู้ตัว อยากให้ทุกคนที่อยากจะไปพักผ่อนแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนลองมองเชียงคานไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะเชียงคานไม่ได้เที่ยวเฉพาะช่วงฤดูหนาวแต่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี สำหรับผมบอกเลยว่าประทับใจอำเภอเล็กๆที่ชื่อว่าเชียงคานมากๆ ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะกลับไปเที่ยวเชียงคานอีกแน่นอน..."เชียงคานไปลองเลย"

#อพท #DastaTravel #อพทโดนใจ #พื้นที่พิเศษเลย


อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.39 น.

ความคิดเห็น