• หมื่นพฤกษา กฤษดาดอย : "เชียงใหม่ - สะเมิง" เส้นทางสายดอกไม้





25th Feb 2018



จริง

ๆ แล้ววันนี้ต้องขับตรงไปโบสถ์สินะ แต่ด้วยความหมอนฉุดหัว

และผ้าห่มทับตัวทำให้ตื่นยาก - ตื่นสาย

จากที่แต่งตัวจะไปโบสถ์อยู่แล้วเชียว เลี้ยวขวาออกคูไปทางสะเมิงเฉย

เพราะอะไร ทำไมต้องเส้นนี้ ก็เพราะ... ไม่ชอบความอะไรก็ตามที่มัน "ค้างคา"

มันค้างคามาหลายปีดีดัก ไอ่โค้งเจ็ดพับก็น่ากลัว แต่เท่าที่จำได้ว่า...

คืนเคาท์ดาวน์ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งเมื่อวัยกะเตาะนั้น.. ทางไปที่นั่น

มันไม่ได้ชันขนาดนั้นนี่นา (หรือตรูไม่ได้ขับว่ะ)
เอ่อ ๆ ๆ เอาก็เอา

(คือคุยกะตัว หรือจะเป็นออเจ้า) ไปเส้นนั้นกันค่ะ ข่าวว่าขาดอกไม้อย่าง

จขบ.ไม่น่าผิดหวัง มันเลยเป็นที่มาของทริปในบล๊อกนี้ค่ะ



Flora Creek

90 หมู่ 1 ซอย 4
ตำบล บ้านปง
อำเภอ หางดง เชียงใหม่
50230

ส่วนตัวแล้วขอเรียก

กฤษฏาดอยเนาะ เพราะรู้จักมานานแล้ว คุ้นชื่อเดิมมากกว่า

เหมือนจะได้ข่าวว่าเขาเพิ่งปรับเปลี่ยน รีโนเวทไม่นานนี้

จำได้ว่าหน้าฝนสองปีก่อนยังไปยูเทรินรถที่ป้ายกฤษดาดอยซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงอยู่เลย

ส่วนการเปิดบริการโฉมใหม่นี้ จขบ.ไม่มีข้อมูลที่แน่นอนค่ะ รู้แต่ว่า

"สถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปแล้ว"




.
.
.



ซึ่งขับออกไปไม่ไกลก็เจอต้นดอกเหลืองอินเดียบานกันเต็มค่ะ
(ตามรอยพี่จิน)




มาดูเรื่องเล่าผ่านเลนส์ของ

จขบ.เนาะ ซึ่งวันที่ไปก็ดันลืมปรับ iso คืนก่อนนั้นดันไป 3200 แหะ ๆ

ลั่นไปเกือบสิบรูปถึงจะดู แม่เจ้า (มือทาบ-อก) มันจ๊ามาก !!!

ปรับได้แค่นี้ค่ะ ส่วนจะให้กลับไปถ่ายใหม่ ไม่ใช่จขบ.ละค่ะ

ยิ่งเจอแสงแดดอย่างนี้ด้วยแล้ว ผ่านขร่ะ










ลุงในรูปก็จะเพ้อว่า แหม่ะ.. ตั้งเกือบ 20 ปีไม่ได้มา (แล้วลุงไปอยู่ในมามิทราบ?)
และ

กว่าจะรู้ตัว กว่าจะได้ปรับความไวแสง








................................





ซึ่งการมาเยือนที่นี่เหรอ? อย่าได้ถามว่ามาทำไม ใจความนั้นมันสำคัญแค่ว่าอยากมาแวะเพราะไม่ได้แวะมา - นานแล้วววววววว
แต่
รู้สึกจะแวะนานไปหน่อย แวะจนเมื่อยเลย หิวด้วย










ก็เล่นเดินซะไม่แคร์ตะวัน
www.mariabamboo.bloggang.com

















อยู่กับต้นก็สวย ร่วงที่พื้นก็ดันสวยอีก
จะสวยไปไหน






หลุดไปอยู่โลกส่วนตัวได้สักพัก มีคนเรียก "แม่" อ้อได้เวลาตื่น





"""""""""""""



วิ่งตามหนุ่มน้อยไป... จนได้เจอที่มาของ creek สายน้ำเล็ก ๆ ลัดเลาะในรีสอร์ทจากที่ร้อน ๆ ได้ยินเสียงสายน้ำแล้ว ฮืมมม เย็นทันที









เถลไถลจนข้ามฟากไป










กะจะไถลไปไกลกว่านี้แต่ดันอ่านอังกฤษได้
สงวนพื้นที่เฉพาะแขกเข้าพัก -
เอ้าวววว์ ขออภัยค่ะ มาทางสะพาน
กลับทางสะพานสิคะ รออะไร







ไปต่อเรื่อย ๆ กับดอกฝ้ายคำที่แม้ร่วงแล้วก็ยังงาม
เอิ่มอันนี้พูดถึงดอกนะคะ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง 5555+





.
.
.


เรื่อยไปจนคนตัวเล็ก ๆ บ่นร้อน หิวน้ำ โมเม้นท์ตามหาเครื่องดื่มก็บังเกิด














โม.. น้ำนี้ไม่ได้นะจ๊ะ






เจอละ รอดตาย






ซึ่งงานไม้เขาก็จะสวยหน่อย ๆ
นี่ ๆ เราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วล่ะ













ซึ่งเครื่องดื่มอร่อยนะ ติงว่าแพงไปไม่นิดค่ะ T.T







ได้เครื่องดื่มชื่นอกชื่นใจคนตัวเล็กแล้ว...
ได้เวลาหาที่ใหม่กันสินะ ว่าละก็ลาเลยค่ะ









เที่ยวแบบหอม ๆ ที่สวนกุหลาบหลวงทุ่งเริง : "เชียงใหม่ - สะเมิง" เส้นทางสายดอกไม้


จากที่เดินจนหอบที่ Flora Creek - กฤษดาดอย

และยังไม่ใช่เวลาข้าวเที่ยงนัก เราตัดสินใจหาข้าวเที่ยงกินกันบนดอย

เพราะยังอยากไปต่อกันบนทางสายดอกไม้ "เชียงใหม่ - สะเมิง" ที่อ้าง

จะว่าไป... ไหน ๆ ก็มาแล้ว opened my eyes on Samoeng loop 1269 กันเนาะ

จากที่เคยกลัว ๆ ไม่กล้าขึ้นหลายครั้ง มื้อเที่ยงนี้คงจะใกล้คำว่า "กล้า"

ขึ้นอีกนิดเราออกตามหาสวนกุหลาบหลวงที่ได้ยินเขาอ้างว่างดงามสไตล์สวนอังกฤษ

"สวยจริงเหรอ" ว่าละก็จัดสิเนาะ รออะไร ^^

สวนกุหลาบหลวงโครงการหลวงห้วยผักไผ่

เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง

จังหวัดเชียงใหม่ ขับไปบนเส้นทาง 1269 นับจากกฤษดาดอยไปอีก 7 กม.

หรือตามป้ายไปเรื่อย ๆ ทางเข้าสวนกุหลาบหลวงทุ่งเริงจะอยู่ด้านขวามือ

และเข้าไปอีกประมาณ 50 เมตรก็เจอลานจอดรถของสวนค่ะ



ซึ่งเรา... จอดรถไว้ที่จอดด้านนอกค่ะ

ด้วยความเข้าใจว่าใกล้เที่ยงแล้วคนคงเยอะด้านในและก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

ลงจากรถภาพแรกที่ได้จากสวนจึงเป็นมุมนี้ ไม่ใช่มุมทางเดินเข้าร้านอาหาร

มันก็จะแนว จขบ.อยู่หน่อย ๆ คือ รก ๆ ป่า ๆ

แต่เข้าไปข้างในสวนแล้วคนละอารมณ์ คือร่ม หอม และเย็น

นั่งคิดอะไรคับ



ก็แวะมันซะทุกมุม กว่าจะถึงร้านอาหารด้านใน หึ ๆ




ก็จะเถลไถลถ่ายรูปจนตัวเล็กบ่น "หิว" ตัวโต ๆ

นี่ ๆ เป็นลูกแม่ต้องอดทนป่ะวะ





ในส่วนของที่กินข้าวเที่ยงวันนี้

กินข้าวกลางสวน

ซึ่งสวน หรือ ร้านอาหารจะเป็นชั้น ๆ

ลดหลั่นตามความชันของเขาที่ถูกดัดแปลงมาเป็นสวนหรือร้านน่ะค่ะ และเที่ยง ๆ

อย่างนี้คนก็จะแน่นหน่อย


เราสั่งอาหารจานเดียวไปค่ะ สักพักเขาก็ยกน้ำชาสมุนไพร 7 อย่างและน้ำผลไม้ที่ปลูกในโครงการมาให้ลองชิมนิด ๆ หน่อย ๆ พอล่อใจ



ก็ฟังเพลงไป ก็รออาหารไป

เสพความหอมของกุหลาบไปพลาง ๆ


...........



แล้วอาหารบ้าน ๆ ที่คลีน ๆ ของเราก็มา





ต่อจากข้าวเที่ยงเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะแวะดูของในโครงการที่ติดกับ cashier ในสวนนั้นแหล่ะค่ะ



ซึ่งกาแฟคงหอมมากเช่นกัน แต่อดไม่ได้ลอง เอาไว้มาใหม่เนาะ



ได้สตอร์เบอรี่ติดมือกลับบ้าน


.

.

.


จ่ายค่าเสียหายแล้วยังไม่กลับรถไปสำรวจสวนด้านบนดีกว่า


ซึ่งอุณหภูมิใกล้บ่ายอย่างนี้เหรอ?? อย่าให้ได้พูด

แต่สวนสวยไง ให้อภัยก็ได้คับ




แม่เจ้า.... แดดเมืองไทย




หน้าหนาวคงฟินกว่านี้ในเรื่องของบรรยากาศ

ปลายหนาวอย่างนี้ "ร้อน" ค่ะช่วงบ่าย ๆ คุยกันว่าหน้าฝนคงดีไม่น้อย "จะกลับมานะ"


ขึ้นมาด้านบน



ซึ่งร้อนไปไม่หน่อยละค่าบ








ลาสวนกุหลาบหลวงไว้แค่นี้

.

.

.


แผ่นฟ้า ภูผา ผืนนา "สะเมิง" : เชียงใหม่ - สะเมิง "เส้นทางสายดอกไม้





1st March 2018


ต่อจากกฤษดาดอยและทุ่งกุหลาบหลวงกันเนาะ เราทิ้งสะเมิงไว้ในฐานที่เข้าใจว่ายังไงก็ต้องเยือนให้ได้

เนื่องจากวันเดียวกันนั้นบ่ายคล้อยกลัวว่าจะไปมืดค่ำกันที่สะเมิงแล้วจะไม่มีเวลาเที่ยวเลยกลับบ้านเพื่อตั้งหลักเดินทางกันอีกครั้งน่ะค่ะ



ซึ่งอีกวันที่เราไปกันนั้นเราเริ่มจากเส้นทางเดิมคือสะเมิง 1269 เพราะใกล้บ้านโดยบ่ายหน้าจากสนามบินไปทางสะเมิงค่ะ แรก ๆกะไปหากาแฟจิบที่ฮิลโบโรแต่ด้วยความที่ว่าอยากขับเลยไปอีกนิดไปดูว่าจะมีสตอร์เบอรี่เหลืออยู่บ้างไหมแหล่ะนี่ละนะ จุดเริ่มต้นของทริปเรา

สะเมิง
เป็นอำเภอหนึ่งในจ.เชียงใหม่
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวจังหวัด

พื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอ
เป็นทิวเขาสูง
อากาศเย็นเกือบทั้งปี




ประกอบด้วยชุมชนชาวไทยภูเขาจำนวนมาก สะเมิง เป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์

เป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์มีทิวเขาสูงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนไม่น้อยรวมทั้งเป็นแหล่งปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาวและสตรอเบอร์รีแหล่งสำคัญของประเทศไทยอีกด้วย


เครดิตข้อความ : วิกิพีเดีย
เครดิตแผนที่ : กูเกิ้ล


.
.
.



ต้นเดือนมีนาคมที่ "เหลืองอินเดีย" ยังเบ่งบานทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น และก็ต้นมีนาอีกนั่นแหล่ะที่อากาศยังดี และเย็น ๆ อยู่ในช่วงเช้า - สาย งานนี้สาวกลัทธิบุชาวิวอย่าง จขบ.ไม่ช้าค่ะ ไม่ช้าที่จะจอดรถ

หยิบกล้องตัวเก่าคู่ใจก็ลั่นชัตเตอร์มันไปตลอดทาง "สวย" นี่เนาะ (คนมาด้วยถามไม่เคยเห็นหรือไงดอกเนี่ยะ 555)




"""""""""""


แหล่ะก็ขอบอกว่าหลังจากถ่ายสองรูปด้านบนแล้ว จขบ.ก็ไม่ได้จับกล้องอีกแล้ว
เพราะ...

ถัดจากสวนกุหลาบหลวงทุ่งเริงแล้วโค้งเจ็ดพับที่แอบกลัวมาตลอดก็ดักรอแบบไม่ให้ได้เตรียมใจกันเล้ยยยยย

จังหวะนั้นเพลงกลับไม่ได้ไปไม่ถึงมันดังอยู่ในหัว 5555 จะเป็นลม



ตัดภาพมาที่นี่เลยเนาะ เพราะอย่างที่บอกไม่สามารถล้วงกล้องมาถ่ายได้อีกแล้วระหว่างทาง



"ไร่นภ - ภูผา" มาตามหา strawberry กัน



ในความเซอร์ไพรส์ที่สะเมิงมักมอบให้เสมอนั้น

"นางพญาเสือโคร่ง" ที่ไปเขตสะเมิงกี่ครั้งเราก็เจอกัน

ถ้าใครยังจะจำน้ำพุร้อนโป่งกวาวคราแรกที่เยือนสะเมิงนั้น

จขบ.ก็เจอนางพญาช่วงปลายหนาวอย่างนี้แหล่ะค่ะ ตำแหน่งเขาได้หรือไง ?


ในความแดดนั้น กราบ..


ที่ซูมนี่ซูมไรกัน ป้าย หรือ ดอก
และขอสนใจสตอร์เบอรี่หน่อยได้หม๊ายยยยยยย (ตัวเล็กบอก)



อีกสักรูปนะ ป้ายเขาเยอะ



ตัวบ้าน และร้าน
ใช้หลังเดียวกันที่นี่
บริการที่พัก และอาหาร
เจ้าของบอกห้องพัก
เพิ่งจะว่างนทท.แวะเวียนมาตลอด
เพราะเป็นที่รุ้จักดี
และติดตลาด
ส่วนเราเพิ่งแวะมา
เพราะรักดอยแต่กลัวดอย แหะ ๆ
ไปเล่นทางโน้น






นี่ ๆ มาหาสตอร์เบอรี่ ๆ


แต่แดดแรงเบอร์นี้




ที่พักเขาล่ะค่ะ หนาว ๆ คงฟิน

........




ไร่สตอร์เบอรี่












เราเข้าใจว่า แล้งแล้ว
อากาศร้อน และไม่มีน้ำ
เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงไร่นี้
ผลสตอร์เบอรี่เฉาและแห้ง
ไปมากค่ะ
แต่ไม่เป็นไร
เพราะเตรียมใจไว้แล้วว่า
เจอนิดหน่อยก็ได้
ไม่ต้องมากพอหายอยาก
ก็เพียงพอ
แหม่ะ.. แม่พระ


แดดแรงอย่างนี้
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ซะมีสิคะ
พาลูกเที่ยวไปเร่ย
ดีมากจ๊า ปรบมือรัว ๆ






Sweety Strawberries

🍙 ไม้หนาม
🍙 ท้องฟ้า ธารา ป่าเขา
🍙 สาวกลัทธิบูชาวิว





ใต้ร่มไม้ ใต้ชายคา

ที่ไร่บริการอาหาร และเครื่องดื่มค่ะ
เพราะใกล้เที่ยง
และก็ด้วยความไม่รู้ว่า
ข้างหน้าจะมีร้านอะไรรอเราไหม
เราเลยตัดสินใจจบมันซะเลยที่นี่
ตู้ว์ ฮูว์





ไร่สตอร์เบอรี่ของขึ้นชื่อคงไม่พ้นสมูธตี้เขาล่ะเนาะ
ปล.ไม่ทันถ่ายอาหารค่ะ 555
::::::::::::::::::::





ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง



ที่นี่เป็นที่แรกที่

จขบ.อยากมา และเราผ่านที่นี่ก่อนจะถึงไร่นภ - ภูผา

และตัวเมืองค่ะเพียงแค่เราอยากให้ที่นี่เป็นที่สุดท้ายก่อนกลับบ้านกันน่ะ
แม้แดดจะรุนแรงอะไรเบอร์นั้น

แต่ "เรา" ก็ไม่หวั่นแหล่ะเนาะ แดดเหนือ

แดดขุนเขามันก็จะบางเบากว่าแดดเมืองใหญ่ว่าเปล่า อากาศก็เพียวกว่าเยอะเลย

เอ้า ๆ เข้าเรื่องชอบโผล่โน่น นี่ นั่น ตลอด ๆ พวกวอกแวกสมาธิสั้น 555



ที่นี่เป็นแหล่งวิชาการ

ให้ความรู้เกี่ยวกับ

การปลูกข้าวและ

เพาะพันธ์ุข้าวพันธุ์

เพื่องานวิจัย

เช่น ข้าวสาลี

ข้าวบาเลย์

บริเวณภายในศูนย์เต็มไปด้วยพื้นที่แปลงเพาะปลูกทดลอง โรงสีข้าว รวมถึงตัวอาคารที่พร้อมจะให้ความรู้

เชิงวิชาการแก่ผู้สนใจ และผู้มาเยือน

การเดินทาง : หากใช้เส้นทางจาก จ.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1269 แม่ริม – สะเมิง ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ 40 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. รถโดยสารประจำทางคิวรถ อ.สะเมิงใต้-เชียงใหม่ ที่บริเวณ ตลาดวโรรส (กาดหลวง)

เมื่อรถมาถึงทางเข้าตัวอำเภอสะเมิงที่บริเวณทางแยกป้อม(ตำรวจ) จะเห็นป้ายศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงอย่างเด่นชัดทางขวามือ และซ้ายมือเป็นไร่นิตยา สามารถเดินเข้าไปภายในศูนย์วิจัยข้าวได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่ให้เซ็นต์เอกสารเข้าออก ตามระเบียบของศูนย์ ฯ เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย เราก็สามารถเดินชมถ่ายรูปเก็บเกี่ยวภาพสวยๆ บริเวณศูนย์วิจัยข้าวได้เลย

หมายเหตุ : ข้อความถูกดัดแปลงแก้ไขตามความเหมาะสม credit : https://www.at-samoeng.com





ต้องยอมรับว่า

เราไปอย่างไม่เจอใครให้ถามไถ่ เป็นไปได้ว่าเขาอาจพักกันอยู่

เห็นงั้นก็ลงแปลงข้าวกันเฉยแบบเปิดเผยนิดหน่อยว่า "เรา" พ่อ แม่ ลูก

แค่แวะมาเที่ยวนะคะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นไดแอบแฝงเลย ^^

เรื่องงี้คนตีสเท่านั้นจะเข้าใจ 5555 (ร้อนก็ร้อนจะมาทำไม?

นี่สินะที่เขาไม่เข้าใจ)










ตรงหน้า barley หรือ rye ข้าเจ้าก็ไม่ทราบแน่
ออเจ้าคิดเห็นเป็นเช่นไร









นั่นพุงเรอะ ?
สาบาน ?







ถ่ายยังไงให้โลกจำ ถ่ายให้เบลอและเบี้ยวนี่สิ ใช่เลย


ทางคดโค้ง ไม่น่ากลัวเท่าใจคนคดว่าไหม
ธรรมชาติยังคงเดิมอยู่อย่างนั้น ดอกเสี้ยวยังบานเมื่อถึงเวลาของมัน
กุมภา มีนา เวลาดอกเสี้ยวบานและร่วงโรยแล้วปีแล้วปีเล่า มันก็จะเวียนวนอยู่อย่างนั้นตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง -จบทริปสะเมิง-







ขอบคุณที่แวะมา

ความคิดเห็น