สวัสดีครับ ผมชื่อเอ็กซ์นะครับ ขอแทนตัวผมเองว่า "เรา" ละกันนะครับ ^^

... ขอเล่าเหตุผลย่อๆ ก่อนนะครับ คือผมเป็นคนภูเรือโดยกำเนิด ซึ่งผมขึ้นมาบนยอดภูเรือบ่อยมากๆ ตลอด 21 ปี (ปีนี้ผมจะ 22 แล้ว) เท่าที่จำความได้คือ ตอนนั้น 6 ขวบ แม่ผมกับครอบครัว พามานอนดูดาวที่บนยอดภูเรือ วันนั้นเป็นวันที่มีดาวตก ซึ่งผมเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกในชีวิตจึงทำให้ผมชอบ ท้องฟ้าและดวงดาวยามค่ำคืนมาก ผมจึงสนใจวิชาฟิสิกส์ จึงเลือกเรียนใน สาขาฟิสิกส์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการเดินทางครั้งนี้ (เกริ่นมาซะยาวเลยยย ไปเริ่มกันเลยดีกว่า)

------------------------------------------------------------

เราออกเดินทางจากที่บ้านผมเอง ที่อยู่ในตัวอำเภอภูเรือ ช่วง 16.30


ระหว่างการเดินทาง ก็จะเห็นป่าไม้ ต้นไม้ เยอะมาก ทั้ง 2 ข้างทางเลย ซึ่งตั้งแต่เด็กจนโต ผมก็ยังคงเห็นแบบนี้เรื่อยมา ไม่ว่าจะขึ้นมาครั้งไหน ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากสักเท่าไหร่

และนี่คือ หินเต่า ที่โดดเด่นเป็นสงา ระหว่างทางขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ

แล้วก็มาถึง บนลานกางเต็นท์ ซึ่งตอนที่เราไป เป็นช่วง เดือนกุมภาพันธ์ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เงียบสงบดีมาก

พอถึงแล้วเราก็เริ่มกางเต็นท์ อ้อ..ลืมบอกไปว่า ครั้งนี้ ผมมากับแฟน 2 คนนะ ^^

เมื่อกางเต็นท์เสร็จแล้ว เราก็เริ่มไปเดินเล่นแถวๆนั้น ระหว่างรอทานข้าวเย็น

ต่อไปจะเป็นภาพที่ถ่ายระหว่างเดินเล่นนะครับ ^^

ดวงอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว ชอบบรรยากาศนี้มากครับ นั่งดูดวงอาทิตย์ตกกับแฟน 2 คน นั่งเงียบๆ ได้คุยเรื่องราวต่างๆด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข อีกช่วงเวลาหนึ่งเลยครับ

มองมาอีกมุมนึงก็เห็นทิวต้นสน ที่ฉากหลังเป็นท้องฟ้าที่ไล่เฉดสีอย่างสวยงาม เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ให้เราได้มาชมกันครับ

เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ และได้นั่งดูแสงค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไป

ภาพนี้ที่จริงแสงหมดแล้ว แต่พยายามถ่ายให้เห็นวิว พร้อมดวงจันทร์ เล็กๆบนนั้น

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ผมก็เลยเปลี่ยนเลนส์เพื่อมาเก็บภาพ ดวงจันทร์

------------------------------------------------------------------------------------

เราก็เลยซ้อมถ่ายดาวก่อน เพราะดวงจันทร์ยังไม่ลับขอบฟ้า แสงของดวงจันทร์รบกวนแสงของดวงดาว เลยทำให้เห็นดาวไม่ชัดเจน

วอมเครื่องจาก 20.30 - 23.20 ดวงจันทร์ก็ลับขอบฟ้าไป ได้เวลาถ่ายดาวกันแล้วววว เริ่มกันเลย!!

------------------

ภาพแรก ตั้งใจจะถ่ายเต็นท์ โดยที่มีฉากหลังเป็นทางช้างเผือก แต่ที่ได้ ......

ก็ไม่เลวเลยนะสำหรับผม ^_^

ระหว่างที่นั่งถ่ายดาวไป ผมก็นั่งเล่าเรื่องเกี่ยวกับอวกาศ ดวงดาวที่ผมพอจะอธิบายได้ ซึ่งเป็นการดูดาวที่พูดง่ายๆคือ "ฟินมากกก" เพราะเราได้เห็นดวงดาวทั้งหมดแบบสุดขอบสายตาเลย เหมือนดูหนังยิ่งกว่าในโรงหนัง IMAX ซะอีก เพราะภาพที่อยู่ต่อหน้าเราคือ ภาพดวงดาวจริงๆ ที่บนนั้น มีดวงดาวนับล้านๆๆๆๆๆๆ ดวง มากกว่าเม็ดทรายทั้งหมดบนโลกใบนี้เสียอีก ซึ่งโลกเราก็จะค่อยๆหมุนไปเรื่อย ในการนั่งดูดาวนั้นจึงไม่น่าเบื่อเลย เพราะบางครั้งก็มีดาวตกบ้าง บางทีก็เครื่องบินบ้าง เต็นท์ข้างๆ ก็นั่งดูดาวเหมือนกันกับเรา ตอนที่ผมดู ความรู้สึก เหมือนเราสามารถเอื่อมมือไปหยิบดาวได้เลย ผมได้เห็นหางของทางช้างเผือก บางๆ จางๆ ที่เป็นเส้นพาดผ่านท้องฟ้า ทำให้เราได้รู้ว่า อันที่จริงแล้ว เราคือจุดเล็กๆ ในอวกาศเท่านั้นเอง เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ผมนั่งถ่ายรูปและดูดาวกับแฟน ตั้งแต่ 20.30 ถึง 01.00 ของอีกวันเลยทีเดียว (เพลินมากก ไม่ง่วงเลย) ไปดูภาพที่ถ่ายกันมาเลยครับผม ^_^

ภาพนี้ ตั้งใจให้แฟนไปยืนถือไฟฉายส่องขึ้นบนฟ้า เห็นฝรั่งทำกัน แต่ผลที่ได้ ก็ประมาณนี้ อิอิ 1 ภาพใช้เวลาในการถ่าย 30 วินาที แฟนปวดแขนเลย ถ่ายได้ไม่เยอะ และด้วยไฟฉายไปแรงมาก เพราะมาจากคลองถม 5555


วาดไฟด้วยยยย ^_^


ดาวเบลอๆ ยืดๆ เพราะลองถ่าย มากกว่า 30 วินาที เพราะโลกหมุนตลอดเวลา จึงทำให้ดาวยืดเลยทีเดียว อิอิ

ลองหันไปถ่ายเต็นท์ข้างๆ ดูบ้าง ^_^


เจอเพื่อนสมัยมัธยม บนนู่นด้วย เพื่อนกำลังไปเข้าห้องน้ำพอดี เลยบอกให้เราถ่ายให้ เลยจัดไป 1 ภาพถ้วนครับ 555

และนี่คึอภาพสุดท้ายก่อนเข้านอน แอบถ่ายเต็นท์ข้างๆ ซึ่งรู้จักกันแต่เขาก็มากับเพื่อนๆเขา เลยแอบถ่ายมาครับ สิริเวลารวม 4 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณกับการนั่งดูดาวและกดชัตเตอร์กล้อง และแล้วก็ถึงเวลาเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตี 5 เพื่อจะไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น บนยอดภูเรือ งั้นก็....นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ zzZZZZ......

--------------------------------------------------------------------------

ด้วยความที่รีบมากๆ เพราะตื่นสายเลยไม่ได้ถ่ายภาพตอนตื่น ขอวาปมาที่ทางเดินไปดูดวงอาทิตย์

ภาพนี้ ผมตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง แล้วให้แฟน ถือไฟฉายวิ่งไปวิ่งมาระหว่างทางเดิน

ปล.ในความเป็นจริง มันมืดมากๆ ในภาพสว่างเพราะ ตั้งเวลา 30 วินาที

เดินมาถึงเป็นคนแรกเลย ที่ๆประจำ ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ผมก็จะมาดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่นี่ เพราะเป็นที่ๆ คนหลายๆคน ไม่ค่อยรู้จัก ทำให้ถ่ายได้ง่าย ไม่ต้องไปแย่งที่กับใคร

ภาพนี้ ลองให้แฟนไปยืนแล้วถ่าย ตอนนั้นอุณภูมิประมาณ 10 องศา และลมแรงนิดนึง ทั้งหนาว ทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย เพื่อมารอดูดวงอาทิตย์ ^^

คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้ววววว......


เราก็รอจนดวงอาทิตย์เริ่มขึ้น งั้นไปชมภาพกันต่อเลยยย....


เริ่มขึ้นแล้ววว



ภูเขาที่เห็นนั่นคือ "ภูผาสาด" เป็นภูเขาประจำอำเภอภูเรือ บนนั้นจะเป็นเสาร์ สถาณีต่างๆ ซึ่งถ้าอยู่ในตัวอำเภอภูเรือ เราจะเห็นภูผาสาดตลอดเลย อารมณ์เหมือน ภูเขาหลังโรงเรียนของโนบิตะ ก็ว่าได้ ^^



หลังจากนั้น ผมกับแฟน ก็พากันเดินมาเรื่อยๆ เพื่อจะมาบริเวณบนยอดภูเรือ ระหว่างทางก็เห็นวิว ที่แสงกระทบกับยอดหญ้า อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

เดินมาเจอกลุ่มเพื่อน นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น เลยแอบถ่ายมา ^^ ชอบอารมณ์ภาพนี้มากๆ

และก็แอบถ่ายอีกภาพ ^^

คุณพระ!! คือตกใจมาก และกลัวมากๆ แต่ก็ยังถ่ายมา เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ

นี่คือทางเดินขึ้นจากจุดดูดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนหน้านี้ไปยังบนยอดภูเรือ

ภาพคู่บ้างงง ^_^

แสงแดดเริ่มมา อากาศเริ่มร้อน เหงื่อออก (ที่จริงเค้ามีบริการรถรับส่งด้วยนะ แต่ผมกับแฟนตกลงกันที่จะเดิน เพราะทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่างระหว่างทาง มันคุ้มค่ามากกับการเหนื่อย ^_^)

ให้แฟนเป็นนางแบบละกัน ^^

และเราก็มาถึงจุดไหว้พระประจำอุทยานแห่งชาติภูเรือ

และเราก็เดินลงกลับมาที่ลานกางเต็นท์


สุดท้ายนี้ การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติภูเรือครั้งนี้ ทำให้ผมได้ประสบการณ์ในการดูดาวที่พิเศษกว่าการอ่านในตำรา หรือดูสารคดี หรือแม้แต่ในห้องเรียนก็ไม่สามารถให้ผมได้ ผมก็อยากจะชวนให้ทุกๆคน ที่ได้อ่านบทความนี้ ได้มาเที่ยวกัน มานอนดูดาว ตื่นมาดูดวงอาทิตย์ขึ้น และเดินชมธรรมชาติกันนะครับ นอกจาก อุทยานแห่งชาติภูเรือแล้ว ยังมีที่เที่ยวอีกหลากหลายที่ ที่รอให้ทุกคนได้มาสัมผัส แล้วเจอกัน หนาวนี้ ที่ภูเรือ ^_^ ขอบคุณครับ

Tinnawat Nampootta

 วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.40 น.

ความคิดเห็น