ไต้หวัน ไปทำไม ? ไม่มีไรเล้ย..นี่คือสิ่งที่ท้าทายเรา แล้วเราจะไปให้เสียเงินทำไม คำตอบถูกใจจากคนใกล้ตัว ไปให้รู้ไง ว่าไม่มีไรนี่ มันไม่มีขนาดไหน ทริปนี้จึงเกิดขึ้น (24-28/2/2561)

เริ่มจากไทยไลอ้อนแอร์เปิดเส้นทางบินใหม่ ดอนเมือง - ไทเป วันที่เปิดจองเราก็กดราคามาได้ 6,100 บาทต่อคน ฟรีน้ำหนักกระเป๋าคนละ 20 กก. แต่ add on อย่างอื่นไม่มีให้นะ ด้วยเวลาบินของเราไม่ค่อยโอเค ขาไปนี่บินตี 3 ครึ่ง แบบออกจากบ้านเที่ยงคืน ไปถึงเช้าสะโหลสะเหลกันมาก ยกเว้น เจ้าตัวเล็กที่หลับแค่ 4 ชั่วโมง แต่อีเนอจี้ราวนอนมา 14 ชั่วโมง ขั้นตอนการเข้าเมืองขอข้ามไปเพราะสะดวกสบายและไม่ยุ่งยาก เจ้าหน้าที่ใจดี สมกับที่ยกเว้นวีซ่าให้คนไทยเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ ใช้เวลา 30-40 นาทีก็เรียบร้อยทุกอย่าง จะมาช้าก็อีตรงเราเข้าห้องน้ำล้างหน้า ทาแป้ง ซื้อซิม ช้อปของกินที่ Hi life และเพิ่มเสื้อกันหนาวเพราะมโนว่ามันจะหนาว..

เอาหล่ะ..เกริ่นนานไปละ ออกตระเวนไต้หวันดีกว่า โดยเรามีแพลนคือ คืนแรกไปนอนไถ่จง เพื่อไปตามล่าร้านชานมไข่มุก ร้านแรกในไต้หวัน คือ ร้าน Chun Tang Shui กับ ร้านไอติม Miyahara แต่กลับได้แพลนเพิ่มมา คือ Totoro Bus Stop และ ฟ่งเจี่ย ไนท์มาร์เก็ต เค้าว่ากันว่าเป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันเลย ต่อจากนั้นไปจิ่งจิ้ง ฟาร์ม ไปสูดไอเย็น และแวะไปหาน้องแกะ กลับจากจิ่งจิ้งจะนั่งรถไฟหัวกระสุนเข้าไทเป แต่ในไทเปบอกตรงๆว่า โนแพลน ไว้ไปถึงแล้วค่อยว่ากันว่าจะไปไหนดี

เมืองแรก เมืองนอกสายตาแต่ขอบอกว่าประทับใจมาก เมืองสวย ไม่มีรถไฟแต่รถเมลล์เดินทางสะดวกมาก เพราะป้ายรถเมลล์ไม่ไกล สบายๆ คล้ายๆบ้านเรา ต่างกันแค่รถเมล์เค้าดีกว่าเรามาก 55 คนเยอะ แน่นมาก อดถ่ายรูปเบย เราพักที่ Kiwi Express Branch 1 มีป้ายรถเมล์หน้าโรงแรม ใกล้สถานีรสบัสไปจิ่งจิ้ง และติดกับ Miyahara คือ ว้าวมาก แต่ถ้าทำเลดีที่สุดแนะนำโรงแรม Chance คือลงบัสที่ ไถ่จงก็เห็นโรงแรมเลย ของกินหาง่ายทุกที่ มีทุกมุมถนนอย่าได้ห่วง ส่วน Chun Tang Shui คือเดินไปชิวๆ จากโรงแรม คือดี แต่ที่อื่นๆ นั่งรถเมล์ไปไกลคะ บอกก่อนเลย

วันแรกที่ไปถึงน้องสาวนัดเพื่อนชาวไต้หวัน เทอและสามีพาไปจัดบุฟเฟต์แแสนหรูในห้าง สนนราคาเราไม่รู้จริงๆ รู้แค่ว่าถ้าเทอมาเราต้องดุแลเต็มที่ เป็นบุฟเฟต์อาหารทะเลแบบจัดเต็ม เสียดายที่เค้าห้ามถ่ายภาพ มีเบียร์ไต้หวัน ชา และชานมไม่อั้น ไอติมดีงามมากๆ หลังจากอิ่มก็เข้าที่พัก ล้างหน้าล้างตา เย็นเราแน่นท้องมากเลยออกไปเดินย่อยกันที่ Totoro bus stop นั่งรถเมล์จากหน้าโรงแรมไป 15 นาทีก็ถึง ลงจากรถอย่างง กลับหลังหัน ป้ายรถเมล์อยู่ด้านหลังเองจ้า

สรุปว่าวันแรกผิดแผนมากๆ จากทที่จะต้องไป Chun Tang Shui ตอนมื้อเย็น ไป Totoro Bus Stop ต่อด้วย Miyahara เอาลูกเข้านอนแล้วไปแซ่บที่ฟ่งเจี่ย ไนท์มาร์เก็ต กลับไปได้แค่ Totoro Bus Stop กับฟ่งเจี่ย ไนท์มาร์เก็ต ขออภัยที่ไม่มีรูปแบบคนเยอะมากเนื่องจากเป็นคืนวันเสาร์และเราก็ค่อนข้างสนุกสนานกับการช้อปไปนิด สรุปคืนนั้นกลับถึงโรงแรมตี 1 รถเมล์เที่ยวสุดท้าย อิอิ

เช้ามา เลื่อนเวลาไปจิ่งจิ้งเพราะต้องตามเก็บอีก 2 ที่ คือร้านไอติม และ ร้านชานมไข่มุกต้นตำหรับ ปะ ไปกัน !

ร้าน Miyahara เป็นร้านไอติมที่ดัดแปลงมาจากโรงพยาบาลตา เป็นร้านสุดชิค คิวยาวทั้งวันทั้งคืน ราคา
ไอติมก็แรงนิดนึง แต่ไอติมช๊อคโกแลตนี่มีให้เลือกตั้งแต่ 100% โกโก้ ยัน 25% ผสมนมรสละมุน สามารถขอชิมก่อนสั่งได้ทุกรส และแน่นอนรสชาต่างๆ อร่อยล้ำ ไม่เสียแรงเป็นประเทศแห่งชา ส่วนรสผลไม้ต่างๆ ลองชิมตามชอบนะคะ พนักงานใจดี แต่แถวยาว 3 วา 7 ศอก

อันนี้ คือสถานที่พักผ่อนริมคลอง ตรงข้ามร้านไอติม ส่วนใหญ่คนจะเทค เอ้าท์มากินตรงนี้ อากาศสบายมาก แค่เย็นๆ ชิวๆ

อันนี้ตระกูลชา คือ ละลานตาอะ เวลาสั่งก็เลือกว่าไอติมกี่ก้อน เอาวาฟเฟิลมั้ย ท้อปปิ้งอะไรบ้าง มีทั้งแบบธรรมดา ราคาไม่แรง จนถึงท้อปปิ้งแบบพิเศษที่จะทำให้ไอติมของเราสวยเป็นพิเศษราคาชิ้นละ 80 NT รวมๆกันได้ถ้วยใหญ่มาก บอกตรงๆ กินกัน 3 คนไม่หมดอะ ส่วนเด็กน้อยกินคนเดียวแต่จะเอาอลังการ ปรากฏว่าก็กินแทบไม่หมดวันนั้นหมดไปราวๆ 350 NT ไอติม 2 ถ้วยกินกัน 4 คน แนะนำว่าไปกันหลายคนก็กินรวมๆกันนะ ความลับก็คือท้อปปิ้งที่สวยอะมันไม่อร่อย จริงๆ สำหรับเราวาฟเฟิลอร่อยสุดละ แต่อันนี้นานาจิตตังนะ ถ้ามีโอกาสอย่าได้พลาดร้านนี้ ไอติมเทพมาก และร้านก็เกร๋สุดละ

ไอติมไม่ทันจะย่อย เราก็ออกเดินต่อทันที เพื่อสถานีต่อไปร้านชานมไข่มุกร้านแรก ร้านดั้งเดิม ที่เรียกกันง่ายๆว่าเป็นแหล่งกำเนิดชานมไข่มุกเลยก็ว่าได้ ร้าน Chun Tang Shui Original Store เดินไปประมาณ 25 นาที ผ่านศาลาว่าการเมืองไถ่จงด้วย ตอนแรกกะจะไปกินชานมอย่างเดียว แต่พอถึงร้านคนก็จะเยอะนิดนึง รอคิวอีก 20 นาที ตอนได้โต๊ะก็ 11.50 แล้วเลยตัดสินใจสั่งอาหารเลย เพราะต้องเซฟเวลาเพื่อเดินทางต่อไปจิ่งจิ้ง ฟาร์ม อาหารร้านนี้ ให้ 20 ดาวเลย ดีงามมาก ขนาดอิ่มยังสัมผัสได้ถึงความอร่อย นอนฝันถึงไปอีกหลายคืน ว่าแล้วมาชมภาพกันเล้ย...

ตอนเลี้ยวเข้าไปถนนเล็กๆ แห่งนี้ อีก 300 เมตรจะถึงร้าน เจอบ้านเลขที่ 1 ของไถ่จงด้วย ตื่นเต้นๆ

ถึงแล้ว....คิวยาวมาก ร้านเล็กแบบนี้ มีชั้นบน กะชั้นใต้ดินด้วยนะ เราได้โต๊ะชั้นใต้ดิน

ภายในร้าน ตกแต่งสวย แอร์เย็นดี หายร้อนเลย

พระเอกของเรา...ไม่รู้จะบรรยายความอร่อยยังไงดี

แค่ดูรูปยังอยากกลับไปกิน เฮ้อ รักเทอจังเลยร้านนี้ ถึงขั้นหาตั๋วโปร แล้วตั้งใจไปนอนไถ่จงโดยเฉพาะเลยทีเดียว อิ่มแล้ว เดินทางไปหนานโถวและจิ่งจิ้ง ฟาร์มกันเถอะ ลุ้นๆๆ จะหนาวมั้ย จะสวยมั้ย อยากรู้จัง...บ้าย บาย ไถ่จง