ได้รับคำชวนให้ไปชิมพิซซ่าที่ Scoozi Pizza ที่ Paseo ลาดกระบังค่ะ เลยต้องข้ามห้วยจากที่ทำงานไปยังลาดกระบังมาที่ Paseo แห่งนี้ Paseo ถือเป็น Mall ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งนะค่ะ เต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ ร่วมถึงร้านอาหารนานาชนิด และ Scoozi Pizza นี่ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ที่นี่

Scoozi Pizza แห่งนี้ถือว่าจัดร้านได้เรียบหรูดูดี ไม่รกเลอะเทอะ เรียบ ๆ แบบมีรสนิยม ดูโปร่งโล่งสบายด้วยเฟอร์นิเจอร์สีพื้น แถมยังมีครัวเปิดให้เราได้ชมวิธีปรุงอาหาร และการทำพิซซ่าได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะกั้นกระจกไว้เรียบร้อย แถมยังมีระบบระบายอากาศที่ดี ทำให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่มารบกวนลูกค้า จะมีก็แต่อาหารที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นที่รบกวนกระเพาะอาหาร

บรรยากาศภายในร้าน เรียบหรู ดูดี

Mr.Ivan Barone, Corporate Chef เป็นเชพชาวอิตาเลี่ยน และ Mr. Topsyn Kladjarerm, Executive Sous Chef ซึ่งเป็นเชฟชาวไทยที่ไปประกอบอาชีพปรุงอาหารอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี ออกมาแนะนำตัวและให้การต้อนรับพวกเราเหล่านักชิมผู้มาเยือน

วันนี้นอกจาเชฟจะเลี้ยงพิซซ่าเราแล้ว เชฟยังจะสาธิตวิธีการปรุงอาหารอิตาเลี่ยนแบบแท้ ๆ ให้เราได้ชมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เราก็เริ่มด้วยการเดินทัวร์ครัว ด้วยครัวที่นี่เป็นครัวเปิดที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก การจัดเก็บข้าวของ อุปกรณ์ เครื่องปรุง จึงเป็นระเบียบเรียบร้อย และสะอาดมาก (ผิดกับครัวที่บ้านเรา อย่าให้เล่าเลยพี่น้องเอ้ย)

ครัวเปิดที่ลูกค้าสามารถเดินมาชมวิธีการปรุงอาหารของเชฟได้สบาย ๆ

เครื่องปรุงต่าง ๆ ถูกจัดวางเตรียมพร้อมสำหรับเมนูที่เชฟจะมาสาธิตเป็นอันดับแรกนั่นก็คือ Parma Ham Pizza โดย เชฟ Mr.Ivan Barone

เครื่องปรุงหลักของ Parma Ham Pizza

การนวดแป้งและการเตรียมแป้งพิซซ่า

ระหว่างที่เชฟ Mr.Ivan Barone กำลังสาธิตการปรุงอยู่นั้น เชฟ Topsyn ขอเรียกง่าย ๆ ว่า เชฟท๊อปแล้วกันนะคะ ก็มาพูดคุยถึงคอนเซปของร้าน Scoozi Pizza แห่งนี้ ว่าได้ทำการซื้อกิจการมาจากเจ้าของเดิม และทำการรีโนเวทตั้งแต่เครื่องหมายการค้า รูปแบบชื้อร้าน ตลอดจนการตกแต่งต่าง ทั้ง 18 สาขาที่มีอยู่ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคง่ายกว่าเดิม

โรยชีสหนา ๆ รอเข้าเตาอบ

โดยวางฐานของลูกค้าอยู่ในระดับกลาง จึงมีการปรับราคาลงมาให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ลดคุณภาพของวัตถุดิบลง เพราะอาหารอิตาเลี่ยนนั้น เน้นในเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยเฉพาะวัตถุดิบบางประเภทก็จำเป็นต้องสั่งมาจากต่างประเทศ

อบด้วยเตาถ่านแบบดั้งเดิม

Mr.Ivan Barone, Corporate Chef สาธิตการอบพิซซ่าด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ยังปรับปรุงรสชาติให้สามารถเข้ากับรสนิยมการกินของคนไทย ด้วยการผสมผสานรสชาติของ Pizza บางหน้า หรือ ปรุง Pizza หน้าใหม่ ๆ ให้เหมาะกับคนไทย เช่น พิซซ่าลาบหมู เป็นต้น อย่างไรก็ตามก็ยังคงอาหารอิตาเลี่ยนแบบต้นตำหรับเอาไว้ สำหรับท่านที่มีรสนิยมชมชอบในอาหารอิตาเลี่ยนดั่งเดิม เช่น อิตาเลี่ยน ซอสเซส

Mr.Ivan Barone กับพลาม่าแฮม พิซซ่าของเขา

นอกจากพิซซ่าและสปาเกตตี้ที่เป็นตัวชูโรงใน Scoozi Pizza นี้แล้ว ยังมีอาหารยุโรป และอิตาเลี่ยนอื่น ๆ ให้เลือกชิมกันอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสเต็กต่าง ๆ หรือซุปต่าง ๆ อีกมากมาย

Mr.Ivan Barone สาธิตวิธีปรุงสปาเกตตี้คาโบนาร่า

กลับมาที่การสาธิตปรุงอาหารของเชพ Ivan บ้างค่ะ เชฟเล่าให้ฟังว่าแป้งพิซซ่าของที่นี่จะไม่เหมือนของที่อื่นที่จะมีเพียงแบบหนานุ่ม และบางกรอบ แต่แป้งพิซซ่าของ Scoozi Pizza นี้มีแบบเดียวคือ บางนุ่ม คือ ไม่หนาจนมีแต่แป้ง และไม่กรอบจนแข็ง แต่จะกรอบกรุบกรับที่ขอบด้านนอก และนุ่มเหนียวหนุบหนับที่ด้านใน เวลากินนี่เคี้ยวอร่อยมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหนก็เข้ากับกับแป้งของร้าน Scoozi Pizza แห่งนี้ ถือได้ว่า "ตัวแป้ง" เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยทีเดียว

เมนูต่อไปที่เชฟบอกว่าเหมือนง่าย แต่ทำให้ดีนั้นไม่ง่ายเลย นั่นก็คือ สปาเกตตี้ คาโบนาร่า ที่เราเองก็คิดว่าง่าย ๆ นะคะ เพราะเคยทำ แต่พอเห็นเชฟทำแล้วไม่ง่ายเลยค่ะ เชฟมีเคล็ดลับต่าง ๆ มากมายมาแสดงให้พวกเราดู เริ่มจากการแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ผสมชีส และครีมชีส เอาลงไปเคี้ยวกึ่ง ๆ ตุ๋นในน้ำร้อน โดยไม่ให้ผ่านไฟโดยตรงเพราะจะทำให้สีและกลิ่นเสียไป พอเคี่ยวจนได้ที่แล้ว เชฟจึงเอาขึ้นมาผัดแบบเร็ว ๆ กับเส้นสปาเกตตี้ที่ลวกไว้ด้วยเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสม และเบคอนที่ทอดจนสุกกรอบหอมกรุ่น

จากนั้นตักลงใส่จานประดับด้วยออริกาโน่ และใบไทมส์ ทำให้ได้ซอสสปาเกตตี้ที่เหนี่ยวนุ่มเข้าเนื้อกับเส้นสปาเกตตี้ที่เชฟเอาลงไปคลุกเคล้า ให้รสชาติหวานมัน อร่อยมากค่ะ

สปาเกตตี้ คาโบนาร่า

และของหวานที่พลาดไม่ได้ เทรามิสุ

ตามมาด้วยเมนูของหวาน หอมหวานมันอย่าง เทรามิสุ หรือ ทีรามิสุ (เอาที่สบายใจค่ะ) ซึ่งดูเหมือนจะยาก แต่ไม่ยากค่ะ เชฟใช้แผ่นแป้งแบบแพนเค็กที่มีส่วนผสมของชีสแบบเข้มข้น เอามาชุปกับกาแฟที่แช่จนเย็นจัด แล้วนำไข่แดงกับไข่ขาวแยกจากกัน เอาไข่ขาวมาตีกับชีสและน้ำตาลจนตั้งยอด จากนั้น นำไข่แดงมาตะล่อมผสมกับครีมไข่ขาวที่เตรียมไว้ แล้วนำมาทาบนแพนเค็กเป็นชั้น ๆ แล้วโรยด้วยผงโกโก้ ประดับด้วยใบมินต์ หรือสะระเหน่ เป็นอันเสร็จพิธี

สวยงามตามท้องเรื่อง

เครื่องดื่มเก๋ ๆ เพื่อสุขภาพ Honey Lime Soda และ Raspberry Italian Soda

นอกจากอาหารแล้วเครื่องดื่มของร้าน Scoozi Pizza แห่งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีเมนูน้ำผลไม้หลากหลาย ทั้ง Honey Lime Soda และ Raspberry Italian Soda ที่หวานหอม ซ่าสดใส เป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อของทางร้าน หรือถ้าไม่อยากกินโซดา Mulberry Juice ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

(ซ้าย) Mulberry Juice, (ขวา) Lobster Soup

Lobster Soup หอม หวาน มัน

เมนูถูกจัดมาตามลำดับเริ่มจาก Lobster Soup หอมกรุ่นเสิร์ฟมาพร้อมกับบาเกต หรือขนมปังฝรั่งเศสอบกรอบ ฉีกจิ้มกินกับซุปร้อน ๆ อร่อยมากค่ะ ได้กลิ่นของล๊อบเตอร์ฟุ้งไปทั้งปาก กุ้งที่ลอยมาบนซุปก็เนื้อแน่นสดอร่อยจริง ๆ

Caesar Salad

ตามมาด้วยซีซ่าร์ สลัด ซอสสลัดสูตรเด็ดของเชฟ Ivan เสิร์ฟมากับเบค่อนทอดกรอบมาแบบเป็นแผ่น ๆ ผักสด ๆ กรอบ ๆ กับน้ำสลัดรสละมุน กรุบกรอบด้วยขนมปังกรอบที่โรยมา กินสนุกดีค่ะ น้ำสลัดเปรี้ยว ๆ เบค่อนหอมหวาน ผักกรอบ ๆ

Italian Sausage อาหารสูตรต้นตำหรับจากอิตาลี

ไส้กรอกอิตาเลี่ยน หรือ Italian Sausage นี่เป็นสูตรดั้งเดิมของทางร้านค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมมันบดที่เนื้อเนียนรสนุ่มชุ่มครีมและเนยจริง ๆ ค่ะ ตัวไส้กรอกก็แน่นด้วยเนื้อล้วน ๆ ที่บดจนเนียนผสมคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงอิตาเลี่ยน เหมาะสำหรับคนที่อยากทานอาหารรสชาติดั้งเดิมค่ะ

ผักโขมอบชีส

จานนี้เป็นเมนูสากล ร้านพิซซ่าร้านไหนก็ต้องมี ผักโขมอบชีสค่ะ มันดีตรงที่อบกันสด ๆ ใหม่ ๆ หอมกลิ่นชีสกรุ่นมาเลย ความหวานมันของชีสและความมันสดของใบผักโขมอร่อยเข้ากันค่ะ ไม่แฉะไม่แข็งหรือร่วนจนเกินไป เพราะได้ชีสเนื้อดีแนบแน่น

Parma Ham Pizza แป้งนุ่ม ๆ บาง ๆ

จานนี้คือจานสาธิตค่ะ จะเห็นว่าถึงจะผ่านเวลาไปได้สักพักใหญ่แล้วตัวแป้งก็ยังไม่ยุบตัว และไม่แข็งแต่ให้รสสัมผัสที่กรุบกรอบ ได้ความเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศที่ ๆ นี่พิถีพิถันในการทำ เพราะใช้มะเขือเทศสีดาลูกเล็กนำมาบดจนเนื้อเนียน ผสมกับชีสแล้วนำเข้าอบจนชีสละลาย แป้งสุกกรอบ จึงตกแต่งด้วย ผักโขม ชีส และพลาม่าแฮม ทั้งหมดจึงรสชาติเข้ากันดี ด้วยพลาม่าแฮมสดใหม่จึงไม่เค็มมากนัก ตัดกับรสเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศได้เป็นอย่างดี เคี้ยวเพลิน กรอบอร่อยกับผักสด ๆ ค่ะ

Diavola Pizza กับ เปเปอร์โรนี่หอมฉุย

เมนูนี้ทางร้านทำมาให้ชิมสองแบบ แบบธรรมดา กับแบบเอ็กตร้าชีส สำหรับคนชอบชีส เป็นพิซซ่าแป้งบางนุ่มที่ชุ่มไปด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน โรยหน้าด้วยเปปเปอร์โรนี่หมูแผ่นกำลังดีไม่หนาไม่บางจนเกินไปนัก เคี้ยวแป้งกรุบ ๆ กับรสชาติหอมหวานของชีสและเปปเปอร์โรนี่นี่เข้ากันจริง ๆ ค่ะ โดยส่วนตัวชอบเอ็กตร้าชีสมากกว่าแบบธรรมดา เพราะมันเหนี่ยวยืดหอมชีสเข้มช้นเลยเชียวค่ะ

Diavola Pizza Extra Cheese

เหนี่ยวหนืดยืดชีส

Margarita Pizza

แม้นว่าจะเป็นพิซซ่าที่เรียกได้ว่าเบสิก ๆ ที่ต้องมีทุกร้าน แต่ที่นี่ก็ทำ Magarita Pizza ได้อย่างแตกต่าง ทั้ง ๆ ที่ใช้ส่วนผสมพื้นฐานแค่ 4 อย่าง คือ แป้ง ซอสมะเขือเทศ ชีส และโหระพา แต่ Magarita Pizza ของที่นี่ให้ความกรุบกรอบหวานละมุนลิ้น

อ้อชื่อ Magarita Pizza นี่มีที่มานะคะ ว่ากันว่าพระราชินีมาเกริต้า (Margherita of Savoy) แห่งอิตาลีทรงเสด็จมาเยี่ยมเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอิตาลี คนในเมืองนั้นจึงทำพิซซ่าถวาย โดยใช้สีสามสี คือ แดง ขาว และ เขียว อันเป็นสีของธงชาติอิตาลีเป็นสีของพิซซ่า ซึ่งสีแดง ก็ได้มาจากซอสมะเขือเทศ ขาวจากมอซซาเรลล่าชีส และ เขียวจากใบโหระพานั่นเอง จากนั้น ก็เลยเรียกพิซซ่าแบบนี้ตามชื่อพระราชินีพระองค์นั้นว่า Magarita Pizza

Four Cheese Pizza โรยน้ำผึ้งหวานหอม

Four Cheese Pizza นี่มีส่วนผสมที่ทำง่ายกว่า Magarita Pizza เสียอีก เพราะ Four Cheese Pizzaนั้น ใช้เพียงแป้งพิซซ่า และชีส 4 ชนิดอันได้แก่ gouda, mozzarella, cheddar และParmesan cheese อัตราส่วนเท่า ๆ กัน แต่บางสูตรอาจดัดแปลงโดยเพิ่มชีสประเภทอื่น ๆ (ซึ่งมันก็ไม่น่าจะ Four ละ) หรือปรับเปลี่ยนสัดส่วนของชีสชนิดต่าง ๆ ตามความถนัด

Four Cheese Pizza ของที่นี่ นอกจากจะมีชีสสี่ชนิดดังกล่าวแล้ว ยังเพิ่มความพิเศษและความสนุกสนานในการกินด้วยการ โรยน้ำผึ้ง ใช่ค่ะ น้ำผึ้งนี่หละคะ โรยหน้าเลย ไม่เคยเจอใช่มั้ยคะ ไม่เคยเหมือนกัน แต่พอเคี้ยวเข้าไปเท่านั้นหละค่ะ ความหวานหอมของน้ำผึ้ง ช่วยทำชีสที่กลมกล่อมอยู่แล้วกลมกล่อมมากขึ้น ยิ่งได้ความกรุบกรอบนุ่มเหนียวของแป้งมาผสมด้วยแล้ว ทำให้การกินพิซซ่าที่นี่สนุกยิ่งขึั้น แน่นอนค่ะมาอีกครั้งต้องไม่ลืมสั่ง Four Cheese Pizza ของที่นี่


พิซซ่าลาบหมู พิซซ่าสไตล์ไทย Laab Moo Pizza

มาถึงพิซซ่าสัญชาติไทยเพียงหนึ่งเดียวของที่นี่ พิซซ่าลาบหมู หรือ Laab Moo Pizza ตัวแป้งก็ยังคงกรุบกรอบนุ่มอร่อยเหมือนเดิมนะคะ แต่เสียดายไปนิดนึงตรงที่คงอยากให้กินง่าย และตอบโจทย์แบบอาหารอิตาเลี่ยน จึงใส่ข้าวคั่วน้อยไปหน่อย ทำให้กลิ่นและรสของลาบหมูดร๊อปลงไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็พอจะได้ผักชีลาวและหอมแดงมาช่วยทำให้ได้รสชาติของลาบหมูขึ้นมาบ้าง

Seafood Pizza หอมกรุ่นกลิ่นซอสไวน์ขาว

มาถึงพระเอกของงานกันบ้าง Seafood Pizza เชฟ Ivan เล่าว่า ส่วนผสมทั้งหมดที่เป็นท็อปปิงค์ของพิซซ่าชนิดนี้ ถูกนำไปผัดในไวน์ขาว ให้ได้รสหอมกรุ่นและใช้ไวน์ขาวดึงรสของส่วนผสมทางทะเลออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหอมแมลงภูนิวซีแลนด์ตัวโต ๆ หอยตลับ ซึ่งไม่เคยเห็นใส่กันในร้านอื่น ปลาหมึกเนื้อขาว ๆ เด้ง ๆ เพราะความสด กุ้งลายเสือตัวใหญ่ที่วางประดับไว้ด้านบน ตกแต่งด้วยช่อพริกไทสดสวยงามตามท้องเรื่อง

รสชาติที่ได้ของตัวพิซซ่าจะได้รสชาติของความเปรี้ยวเล็ก ๆ ของซอสมะเขือเทศและไวน์ขาว ช่วยกลบความคาวของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบทุกอย่างล้วนแต่สดใหม่ เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว พิซซ่าถาดนี้อาจจะกินไม่ได้เพราะความคาวเลยก็ได้

เทรามิสุ หรือ ทีรามิสุด ปิดรายการ

ปิดครอสอาหารมื้อนี้กันด้วยของหวานฝีมือเชฟ Ivan อีกครั้ง นั่นคือ เทรามิสุ หรือ ทีรามิสุด (เอาที่สบายใจ) ความหวานนุ่ม ๆ มันเบา ๆ ของเนื้อครีมตัดกับความขมและนุ่มของชีสเค็กที่แช่มาในกาแฟหอมกรุ่น เนื้อครีมนุ่มละมุนลิ้น รสชาติกลมกล่อมไม่ต้องพูดถึง จานนี้เกือบขอเบิ้ลกันเลยทีเดียว

รับประทานอาหารร่วมกันพร้อมทั้งร่วมพูดคุยถึงเมนูอาหารต่าง ๆ กับ
Mr.Ivan Barone, Corporate Chef และ Mr. Topsyn Kladjarerm, Executive Sous Chef

หลังจากอาหารถูกนำออกมาเสิร์ฟกันหมดแล้วเราก็นั่งล้อมวงกินไป คุยไป แต่แหม๋ บอกเลยว่า พอเชฟถอดเครื่องแบบเท่านั้นหละ อยากจะชวนไปเที่ยวสงกรานต์ด้วยกันเลยทีเดียว อิ่มอร่อยกันไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปร่วมกันไว้เป็นที่ระลึกนะคะ

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน


Scoozi Pizza (สกู๊ซซี่ พิซซ่า) สาขา เดอะพาซิโอ

โครงการ เดอะพาซิโอ เลขที่ 318/5 ถนนลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

โทร. 02-346-4170, 090-990-1147 / สั่งอาหารสายด่วน 1227

เวลาทำการ. 10:00 am - 10:00 pm / เวลาบริการส่งถึงบ้าน : 10:00 am - 9:30 pm

https://www.scoozipizza.com/th

สายลม ที่ผ่านมา

 วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 20.36 น.

ความคิดเห็น