วันนี้เราจะมาต่อจากบันทึกที่แล้ว หลังจากเที่ยวปราจีนแล้ว เราก็เข้ามาเที่ยวต่อที่นครนายกอีก 1 คืนค่ะ ซึ่งวันกลับกรุงเทพเราก็ได้แวะเที่ยวที่ต่างๆตามเส้นทางเข้ากรุงเทพนั่นเองค่ะ ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำตก เพราะมีน้ำตกเยอะมากกก แต่ก็มีที่เที่ยวอื่นที่น่าสนใจด้วยเหมือนกันนะ มาดูกันว่าเราไปแวะไหนมาบ้าง
เขื่อนขุนด่านปราการชล
https://goo.gl/maps/js2wj2KKSfz
สำหรับที่นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของจังหวัดนครนายกเลยก็ว่าได้ ถ้าใครไม่มานี่เหมือนมาไม่ถึงนครนายกกันเลยทีเดียว ซึ่งเราก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนต้องแวะมาที่นี่ เพราะความสวยงามของบรรยากาศบนเขื่อน รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่มีให้ทำมันช่างดึงดูดมากๆ รอบนี้เราได้เช่ารถกอล์ฟเพื่อขับเข้าไปชมวิวบนสันเขื่อน สำหรับรถไม่เกิน 4 คนราคา 350 บาทต่อชั่วโมง บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก แต่ถ้าใครไม่อยากขับ หรือมากันเยอะเป็นหมู่คณะ ที่นี่เค้าก็มีบริการรถนำเที่ยวพร้อมกับผู้บรรยายด้วยนะคะ ดี๊ดี
น้ำตกวังตะไคร้
https://goo.gl/maps/ZVKJfWh9Xow
เป็นน้ำตกที่เคยมาสมัยเมื่อเด็กมาก คือนานมากแล้ว และไม่ได้มีโอกาสมาอีก คราวนี้ถือโอกาสแวะไปดูนิดนุง สรุปได้รูปกลับมาเพียบบบ ตอนเข้าไป จนท. บอกว่า น้ำน้อยหน่อยนะก็แบบ เอ๊ะ อ้าว หรือจะผิดหวังกลับไป แต่สรุปคือไม่ผิดหวังนะจ๊า น้ำยังเยอะอยู่ทีเดียวเชียว บรรยากาศดี มีคนมาเล่นน้ำและปิคนิคเยอะพอสมควรเลย เราเองก็นั่งกินส้มตำมองน้ำตกกันไป ที่นี่มีค่าเข้านะคะ เราไปกับรถ 1คัน เสีย150 บาทค่ะ
วัดถ้ำสาริกา
https://goo.gl/maps/8x5x6Stf8DQ2
วัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นเคยมาธุดงค์และปฏิบัติธรรมอยู่ ซึ่งเราก็สามารถที่จะขึ้นไปดูตัวถ้ำที่หลวงปู่มั่นใช้ปฏิบัติธรรม สำหรับสายบุญก็น่าจะแวะเข้ามาไว้พระขอพรกันนะคะ บรรยากาศทั่วไปก็มีความร่มรื่นและเงียบสงบดีค่ะ
ทุ่งหญ้าสีทองเขาหล่น (เขาหล่นผจญภัย)
https://goo.gl/maps/Hzr1AFmp5um
ใครที่ชื่นชอบการผจญภัยและกิจกรรมผาดโผนไม่ควรพลาดที่นี่ เพราะว่าเค้ามีทั้งการเดินป่า โรยตัวจากหน้าผา และการปีนหน้าผามาให้ทดสอบความกล้า สายฟรุ้งฟริ้งอย่างเราอาจจะไม่เหมาะ แต่ที่นี่ก้อมีมุมเก๋ให้ได้ไปเก็บรูปอยู่ดี ตรงส่วนด้านข้างที่เค้าปีนผากันนั่นเอง งานนี้อาจจะต้องอาศัยสกิลการปีนป่ายเล็กน้อย ยังไงก็ระวังๆกันด้วยนะสาวๆ แต่รับรองว่ารูปเก๋เริ่ด ถ้าใครมาตอนช่วงหน้าหนาว จะได้เห็นต้นหญ้าเป็นสีเหลืองทองด้วยแหละ
สะพานทุ่งนามุ้ย
https://goo.gl/maps/uLSFJUP9kCR2
เนื่องจากไปผิดเวลา เพราะเค้าเพิ่งเกี่ยวข้าวไปเมื่อสองวันที่แล้วเลยพลาดการถ่ายรูปกับทุ่งนาสีเขียวขจี กลายเป็นทุ่งโล่งๆฉะนี้แทน แต่ก็แวะมาบอกสำหรับใครที่สนใจเข้าไปถ่ายรูปลองเช็คที่เป็นหน้านานะจ๊ะ แต่สำหรับใครที่วิชาแก่กล้าพอ ทุ่งโล่งๆแบบนี้ก็ถ่ายมาสวยได้นั่นแหละ เข้าไปแล้วมีค่าจอดรถ 20 บาทนะคะ
วัดจุฬาภรณ์วนาราม
https://goo.gl/maps/iDHFyY6yPWp
อุโมงต้นไผ่เรียงตัวสวยงามจนนึกว่าไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าไม่นับอากาศบ้านเราอะนะ แต่ถึงยังไงก็ร่มรื่นมากๆตอนเข้าไปถ่ายรูปในอุโมงไผ่ ไม่ร้อนเท่าไหร่ค่ะ ถือเป็นมุมสุดฮิตที่ทุกคนต้องเข้าไปถ่ายรูป หลังจากนั้นก็เข้าไปไหว้พระทำบุญให้สบายใจกันได้อีกต่อ
ของแถม...
อ่างเก็บน้ำวังบอน
https://goo.gl/maps/XUeViYpaq642
เป็นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางขากลับ กทม. แต่เราแวะตอนมาจากปราจีนเพื่อเข้านครนายก ซึ่งที่นี่เป็นที่นิยมมากสำหรับการมากางเต๊นท์นอนริมอ่างเก็บน้ำ มีเรือคายัคให้เช่าพายด้วยนะ น่าเสียดายตอนที่เราไปฝนตก เลยได้ไม่ได้ไปพายเรือถ่ายรูปเลย ได้เก็บรูปมานิดเดียวเอง และสำหรับใครที่ไปช่วงหน้าฝน ก็จะได้เจอกับน้ำตกเล็กๆที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำด้วยน้า
Tree House Cafe
https://goo.gl/maps/gwFEoteurw82
เป็นคาเฟ่ที่เราแวะเข้าไปหลบร้อน ตั้งอยู่ที่เดียวกับ เดอะฟอเรสโฮม รีสอร์ท เป็นคาเฟ่สไตล์กลาสเฮ้าส์ตกแต่งด้วยโทนสีดำ บรรยากาศดีมีต้นไม้เยอะ และมีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูป ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็น่ารักและราคาไม่แพงมาก
ร้านริมเขื่อน
https://goo.gl/maps/ohqZTEZVE9J2
เราได้ฝากมื้อเย็นไว้กับร้านนี้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะกินร้านไหนดี ได้แต่ขับรถวนหาร้านอาหารที่ไม่ไกลจากเขื่อนขุนด่านมาก เพราะว่าที่พักเราอยู่แถวนั้น สุ่มๆไปเจอร้านนี้แต่เหมือนโชคดี สุ่มมาเจอร้านอร่อย ราคาไม่แพงและได้อาหารจานใหญ่ รวมถึงกุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่ก็มีด้วย ฟินมาก
จบแล้วสำหรับทริปนครนายกของเรา สำหรับเส้นทางโดยรวมสามารถดูได้ด้านล่างเลยค่ะ หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างนะคะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ฝากติดตามทั้งใน readme ::https://th.readme.me/id/imonit.story
และเพจในเฟสบุ๊คด้วยนะคะ :: https://m.facebook.com/imonit.story/
แล้วเจอกัน,,
I'm on it
วันพฤหัสที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.10 น.