"เกาะพระทอง สุดขอบฟ้า ท้องทุ่งซาฟารี แดนใต้ศรีสยาม"

3วัน 2คืน บนเกาะสงบ

ประวัติความเป็นมา

"เกาะพระทอง" มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 401,250 ไร่ หรือ 642 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอยู่ในท่องที่อำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ภูมิประเทศเป็นชายฝั่งทะเลยุบตัว ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของภาคใต้ ตั้งแต่เกาะระ สูงจากระดับน้ำทะเล 235 เมตร เกาะพระทองและเกาะคอเขามีภูเขาสลับที่ราบ สูงจากระดับน้ำทะเล 310 เมตร และมีเขาบ่อไทรเป็นยอดเขาสูงสุด สูงประมาณ 450 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในพังงาและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเมืองไทย


  • เกาะนี้ประสบภัยสึนามิ ทำให้ครึ่งเกาะจมอยู่ในท้องทะเล น้ำทะเลหนุนมาถึงทุ่งหญ้าป่าเสม็ด ทำให้ฟื้นฟูสภาพได้ช้าแต่ตอนนี้ ต้องบอกว่ากลับมาอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าน่าจะเต็มที่

  • เกาะพระทองเคยเป็นแหละท่องเทียวที่ถูกยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ บนเกาะมีจุดให้ท่องเทียวชม หลายจุดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

- ทุ่งสะวันนาเกาะพระทอง หรือทุ่งซาฟารี ตอนที่ไปทุ่งหญ้าหญ้าสูงมาก เลยไม่ได้ภาพกลับมา

- ป่าเสม็ด (ไม่เสร็จทุกรายนะ) จุดนี้เป็นปาเสม็ดที่มีต้นเสม็ดเรียงราย เต็มไปหมดเยอะมาก มุมถ่ายภาพก็เยอะถ้ามีเวลาเดินถ่ายกันเพลินเลยทีเดียว

- หมู่บ้านชาวประมง เช่น หมู่บ้านมอร์แกน (หมู่บ้านนี้ได้รับผลกระทบ สึนามิ ทั้งหมู่บ้าน) อยู่ติดชายหาดบรรยากาศสงบเงียบ ดูมีมนต์ขลังมาก


  • แสงยามเช้าทำให้ชวนลุกขึ้นมาหยิบกล้องแล้วลั่นชัตเตอร์ให้มันพังกันเลยทีเดียว

- ชายหาดสุดขอบฟ้า ที่เดินให้ตายยังไงก็ไม่สุดซักที (ยังไม่ได้ลองเดินนะ แต่เห็นละเหนื่อยเลยฮ่าาา ยาวจริง) จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์บนเกาะเลย เพราะเป็นจุดที่เหมาะสำหรับถ่ายพระอาทิตย์ตกมากๆ แถมบรรยากาศยามเย็น ถือว่าสงบเงียบเหมาะแก่การปล่อยวาง แล้วนั่งโง่ๆ ชมพระอาทิตย์ตกมากมาย


  • ชายหายยาวสุดตา เดินไม่สุดสักที สมชื่อ สุดขอบฟ้า !!

  • นั่งโง่ๆ ไปสิ

  • เล่นไรกันหืมมมม.....
  • เล่นกับอุปกรณ์ที่นำไป ก็ได้ภาพมุมแปลกตาดีเหมือนกันครับ


  • ยำไข่แดง เอ้ย ไม่ใช่ พระอาทิตย์ไข่แดงๆจร้า

และอีกหลายๆ ที่เป็นแหล่งสำหรับเดินศึกษาธรรมชาติ วิถีชีวิตชาวประมง(แต่รอบนี้เน้นวิวฮ่าาแคนดิส น้อยมากกก )

- สัตว์ที่พบเห็นได้บนเกาะ เหยี่ยว / นกเงือก (ดีใจที่ได้เห็นตัวเป็นๆ) ไม่ได้ถ่ายรูปมาเสพด้วยตาเอา / กวางม้า / เสือ(อันนี้พี่แดงคนนำทาง พาไปดูรอยเท้าไม่รู้ใช่จริงไหมแกบอกว่าใช้ฮ่าาาา)

- คนที่มาถ่ายภาพ เหมาะมากครับถ้าเลือกมาคืนเดือนมืดจะสามารถมาถ่ายทางช้างเผือกได้ครับแถมยังได้ฉากหน้างามๆสวยดีครับ

  • ความงดงามของท้องฟ้า ไม่ได้มีแค่ดาวเป็นจุดๆ แต่หากมาเวลาพอเหมาะคุณจะได้ความอลังการของทางช้างเผือกไปด้วย


  • ยามเช้าาาา แต่เราถ่ายยยย

  • เดินถ่ายภาพกันไม่หยุดเพลินสุดๆไปเลย

  • เรือพาไปดำน้ำก็เริ่มทยอยเข้าฝังกันยามเย็น


เหมาะสำหรับใครที่ควรมาเที่ยว

- เหมาะสำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัย เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เรียนรู้วิถีชุมชน หรือท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา CSR เพราะบนเกาะมีความสงบ มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ไม่ใช่เกาะแห่งแสงสี หรือการท่องเที่ยวแบบสะดวกหรูหรา เพราะการสัญจรบนเกาะ ต้องใช้รถอีแต๊ก รถขับเคลื่อน 4 ล้อ รถจักรยานยนตร์พ่วงข้าง หรือทางเรือ ใกล้ๆกับเกาะพระทองมี เกาะระ และ เกาะคอเขา เป็น 2 เกาะท่องเที่ยวที่น่าสนใจเคียงคู่กัน

- บนเกาะ ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้แต่ชาวบ้านมีไฟปั่นและโซล่าเซลล์ติดตั้ง (ได้ยินว่าไฟฟ้าจะเข้าบนเกาะ เร็วๆนี้) ทำให้การใช้ไฟฟ้าได้อย่างจำกัด

การเดินทาง

- เดินทางจาก กทม ด้วยรถยนต์ส่วนตัว แชร์ค่าน้ำมันกัน /4 (แก๊ส) ตกคนละ 400กว่าบาท

- ค่าเรือข้ามเกาะ คนละ 60 ไปกลับ 120.- ขึ้นที่ท่านเรือบังแดด

- ค่าที่พักบนเกาะ 1000-1500 แล้วแต่ที่ บนเกาะมีที่พักหลายที่ สามารถตั้งแคมป์ได้ครับ

- คารถเหมาะเที่ยวรอบเกาะ 1500 6-7 คน

ฝากติดตามภาพท่องเทียวได้ที่

Fackbook

เพจ OptimisticViewfinder ฝากกดติดตามกันด้วยครับ


ถ้าชอบกดแชร์หน่อยครับ แล้วจะมารีวิวให้ชมกันบ่อยๆ ขอบคุณมากครับ


Genz Viewfinder

 วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.32 น.

ความคิดเห็น