ย้อนไปเมื่อ 11 มีนาคม 2560 เราเคยมา ณ สถานที่แห่งนี้ https://th.readme.me/p/8674 ประทับใจมาก ๆ แต่มันยังไม่สุด...

เลยสัญญาว่า จะต้องกลับมาซ่อม และจะพาครอบครัวมานอนบนเกาะให้ได้ เริ่มจากอ่าน ๆๆๆ ข้อมูล ดูรีวิว ศึกษาวิธีการเดินทาง, ช่วงเวลาที่เหมาะสม,เปรียบเทียบราคา ก่อนลงทือทำข้อสอบทีละด่านดังนี้ >>>


การเดินทางไปหลีเป๊ะ ไปได้ทุกฤดู ทั้งหน้า hi (พ.ย.-เม.ย.) และหน้า low (พ.ค. - ต.ค.) แต่ถ้าหน้า low รอบเรือจะมีจำกัด และบางจุดจะไม่สามารถเที่ยวได้ เช่น เกาะไข่ เกาะตะรุเตา เกาะหินงาม และดำน้ำได้แต่โซนใน แต่ก็แลกกับค่าที่พักจะถูกมากกก และคนไม่แออัด (อาจมีฝนตกชุกบ้าง น้ำท่วมบนเกาะ จากที่ติดตามข่าวสารมานะ)

** แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่ดวงด้วย บางคนไปหน้า hi ฝนก็ตกซะงั้น ส่วนใครไปหน้า low บางวันฝนไม่ตกสามารถไปดำน้ำได้ และที่พักก็ถูกด้วย สะดวกหน้าไหน ก็ไปหน้านั้นเลย


3 มิถุนายน 2560 ลงสนามจองตั๋วเครื่องบิน เลือกเดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงที่หลานสาวตัวแสบปิดเทอม แน่นอน เราจองตั๋วกับเจ้าเดิมเจ้าประจำ จองนาน แค่ไหนก็ยอมเพราะถูก อิ ๆ ผ่านด่านข้อแรกมาแระ มีเวลาอีก 10 เดือน ให้เตรียมตัว


ต่อไปก็ศึกษาข้อมูลที่พัก การเดินทาง และทัวร์ เพราะเราจองได้เดือนเมษายน ยังอยู่ในช่วงหน้า hi ซะด้วย ข้อแรก ว่ายาก ข้อ 2 ยิ่งยากกว่า ฮึบ ๆ สู้ ๆ


ดูราคาที่พักแต่ละที่ (เน้นห้องแอร์ +ห้องน้ำในตัว+อาหารเช้า + ไม่ไกลหาด + ไม่มียุง + สะอาด + บริการดี + ไม่ไกลจากถนนคนเดิน+ราคาไม่แพง ) เฮ้ย !!!! โจทย์ไปหากันเองเถอะยากวุ้ย T_T ไอ้ที่คิดจะซื้อทัวร์ในงานท่องเที่ยวไทย หรือในอินเตอร์เน็ต ก็กลัวจะโดนโกง (ก่อนมาก็มีบริษัท ไทย ...... ปิดตัว ลอยแพ ลูกทัวร์ ด้วยนะ เล่นเอาเสียวเลยเรา)


14 พฤศจิกายน 2560 มัดจำ 50 % จองที่พัก+ทัวร์ดำน้ำ+อาหาร 4 มื้อ หั หั หั เล็งไว้หลายที่ แต่มาเลือกที่นี่ เพราะเป็นที่พักเปิดโซนใหม่ ทดลองตลาดพอดี แถมราคาไม่แพง และตอบโจทย์ได้หลายข้อด้วย มันต้องลองดิ อยากรู้มันต้องลอง


11 กุมภาพันธ์ 2561 จองรถตู้+เรือ คนละ 1200 บาท (มัดจำไว้ 2000) เวลาโดนโกง จะได้ไม่เจ็บตัว 555 มีให้เลือกหลายเจ้า แต่เราเลือกเจ้านี้เพราะ มีรอบเดินเรือขากลับ 16.00 น. ตามทีเราต้องการ (แถมราคาไม่แพงด้วยนะเออ)


อือ ช่วงเวลาการเดินทาง แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไฟลท์เช้า ๆ สุด และขากลับ ก็เย็น ๆ สัก 16.00 น. จะดีหน่อย ไม่ต้องรีบ หรือเสี่ยงตกเครื่องขากลับค่ะ ส่วนเรา นี่เลย จองรอบไฟลท์ 20.00 น. สบายไม่มีตกชัวร์


และแล้ว ช่วงเวลาเตรียมตัว 10 เดือน ก็มาถึง มาเลยจ้า ตามมาเที่ยวกันเลย >>>>>>>>>


20 เมษายน 2561 ได้เวลาเข้าห้องสอบ สถานที่ ณ ดอนเมือง มาก่อนเวลาก็ดี เพราะจะได้หาของกินฟรี ๆ แฮะ ๆ ใครใช้ TRUE / AIS สบายหน่อยกินฟรีเยอะดี เช้านี้เลย อิ่มท้องประหยัดเงินไปได้เยอะ อิ ๆ


ถึงสนามบินหาดใหญ่ รถตู้มารอรับ เพื่อไปท่าเรือปากบารา รถนั่งเป็นวีไอพี ใหม่ สะอาด ที่นั่งเยี่ยม ใช้เวลาเดินทางประมาณ เกือบ ๆ 2 ชม. นอนไปเลย

เราใช้บริการของ Dee Travels Hatyai .. ดี ทราเวล หาดใหญ่ (คาเธ่ย์ทัวร์ หาดใหญ่)


รถจะจอดให้เข้าห้องน้ำ และซื้อของที่ 7-11 ให้ตุนน้ำ อาหาร ขนม ไปเลยนะจ๊ะ เพราะข้าวของ บนเกาะจะราคาแพง โดยเฉพาะน้ำดื่ม เบียร์ น้ำอัดลม ขนได้ก็ขนไป 55


ถึงท่าเรือปากบารา ก็ไปเช็คอิน ที่ อาดังซีทัวร์ ติดสติ๊กเกอร์ และติดโบว์ที่กระเป๋า



พร้อมกับรับตั๋วเรือ ขาไป-ขากลับ (อย่าทำหายนะจ๊ะ) ดีจังเจ้านี้ มีตั๋วเรือหางยาว ให้ฟรีด้วย ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 50 บาท/คน ที่เกาะหลีเป๊ะ

เวลา ณ ตอนนี้ 10.30 น. เรือออก 11.30 น. ให้ไปหาอะไรทานกันก่อน เราเลือกทานร้านอาหารใต้ อร่อยดี ราคาไม่แพง แถว ๆ นั้นแหละค่ะ


ท้องอิ่ม ก็เข้าไปยังท่าเรือ จ่ายค่าธรรมเนียม คนละ 60 (40+20) เด็กไม่เสีย จงเก็บใบเสร็จติดตัวไว้ให้ดี เพราะเวลาไปดำน้ำ / เข้าอุทยาน จะมี จนท. คอยเรียกตรวจ ถ้าลืมพกมา จะต้องจ่ายอีกรอบนะ (เห็นมีนักท่องเที่ยวลืม พกติดตัว ต้องจ่ายซ้ำกันหลายคน)


ออกจากท่าเรือ ให้เลี้ยวซ้าย เรือของเราชื่อพลอยสยาม อย่าไปรอผิดหล่ะ เดี๋ยวตกเรือไม่รู้ด้วย


คนเยอะมาก ดูวุ่นวาย ก็สถานที่มันสวยนี่เนอะ ใคร ๆ ก็อยากไป อิ ๆ


สงสัยนักท่องเที่ยว คงอยากไป คนครบ ก่อนเวลา 11.30 น. อีก เวลานั่งเรือ ถ้ามาก่อน ให้นั่งแถวกลาง เพราะจะนั่งสบายกว่า ขอบเรือ พวกเราลงมาช้าไง เลยได้นั่งริมขอบ นั่งไม่เต็มตรูดเท่าไหร่ ขาสั้นลอยอีก T_T


รอบที่เราเลือก จะแวะ เกาะตะรุเตา และเกาะไข่ (เลือกรอบนี้เพราะเป็นของแถมไง ถ้าใครมารอบอื่น ก็จะไม่มีแวะ ตรงไปเกาะหลีเป๊ะเลย) **** ใครที่เลือกรอบที่แวะ แนะนำให้ใส่กางเกงขาสั้นนะจ๊ะ เพราะเวลาไปเกาะไข่ ต้องลงน้ำ ขาจะเปียกเอานะเออ

นั่งเรือประมาณ 45 นาที ถึงเกาะตะรุเตา (ตรวจบัตร) (จะมีคนเรือ/ไกด์ คอยแนะนำสถานที่ แต่เสียงคนในเรือดังมาก จึงฟังไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่)

มีที่พักด้วย

ให้เวลา 15 นาที ลงมาถ่ายรูป ไม่กี่รูป เรียกนกหวีด เรียกขึ้นเรือแล้ว 555

ช่วงที่รอเข้าแถว ลงเรือ ก็จัดสักหน่อย ถือว่าเป็นรางวัล ก็แล้วกันนะ

ขึ้นเรือครบ ไปต่ออีก 45 นาที ถึงเกาะไข่ ซุ้มประตูหิน ตอนนี้ต้องเปียกน้ำเวลาลงแล้วนะ เตี้ยมาก เปียกมาก เตี้ยน้อยก็เปียกน้อย ลดหลั่นกันไป ตามความสูง อิ ๆ


คนจะเยอะ เวลาที่มีเรือมาจอด ก็แบ่ง ๆ กันถ่ายรูปเนอะ จะได้มีภาพ สวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึกกัน

ซึ่งมีความเชื่อว่าคู่รักคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้จะสมหวังในความรัก และครองคู่กันอย่างมีความสุข มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง เหมือนดังป้ายที่จารึกไว้หน้าซุ้มประตูหิน


ถ้าอยากจะได้ภาพสวย ๆ คนน้อย ๆ ให้ขึ้นเรือเป็นคนหลัง ๆ เพราะยังไง ก็ต้องต่อคิว ขึ้นเรืออยู่ดี ภาพที่ได้จะไม่ค่อยมีคนค่ะ


เรือของเรา มุ่งหน้าสู่เกาะหลีเป๊ะกันเลย


นั่งต่อไปอีก 30 นาที ถึงแล้ว

เรือจะมาจอดที่หาดบันดาหยา ไกด์และคนที่นี่ บอก ไม่อยากให้เรียกว่าหาดพัทยา (ไม่รู้ใครเรียกคนแรก น่าตีนัก) เพราะชื่อเค้าก็เพราะอยู่แล้ว ไปแปลงชื่อเค้าทำไมหนอ พิลึกคน

น้ำทะเลใสแจ๋ว นี่ขนาดเป็นจุด ขึ้นเรือนะ ยังใสขนาดนี้ อยากกระโดดลงไปเลยจริง ๆ

ถึงหาด ก็จะมี เด็กมาคอยถือป้าย และนั่งรถไปที่พัก


รถบนเกาะจะเป็นมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง แต่ที่นี่จะเรียกว่าแท็กซี่



ถึงที่พักแล้ว เราจองไว้ที The noi guesthouse koh lipe มี 2 ที่นะคะ เราเลือกที่พักเปิดใหม่ ใกล้หาดซันไรซ์ (ก่อนจองถามก่อนนะ ว่าที่พักอยู่ตรงไหน หาดซันไรซ์ หรือซันเซ็ท)

ที่พัก เป็นห้องแอร์ นอนได้ 3-4 ท่าน/หลัง


ห้องน้ำในตัว พร้อ อุปกรณ์ในห้อง มี ทีวี ตู้เย็น มินิบาร์ ไว้บริการ


ชอบ แชมพู ครีมนวด ยาสระผม แบบนี้จัง

ห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน เปียก แห้ง น้ำถ้าใช้พร้อม ๆ กัน จะไม่แรง ก็คงต้องเข้าใจเพราะที่นี่ไม่มีน้ำประปา ต้องใช้น้ำบาดาลแทน ต้องรอหน่อย

ช่วงที่เช็คอิน ในโปรแกรมที่จองมา จะรวมทัวร์ดำน้ำโซนใน 1 วัน แต่อีกวันเวลาเราเหลือ ๆ เลยจองทัวร์ดำน้ำโซนนอก ซะเลย ไหน ๆ ก็มาแล้ว มันต้องถึงสิ ดำทีเดียวเอาให้คุ้ม 555 คุณนุ่น เจ้าของใจดีมาก ๆ วันเช็คเอ้าท์ ให้เราเอาของมาไว้รวมกัน 1 ห้องและให้อาบน้ำ หลังจากกลับจากดำน้ำได้ น่ารัก สวย และใจดี สุด ๆ ค่ะ ประทับใจมาก ๆ


ท้องหิว ก็ไม่ต้องออกไปไหนไกล ที่พักมีส้มตำ อาหาร ไว้บริการ ขอบอกว่า ส้มตำอร่อยมากกก อร่อยกว่า ร้านหลายร้านในกรุงเทพฯ เสียอีกนะ (พวกเราฝากท้องไว้ 2 วันเลย 55)



ช่วงเวลาที่เหลือ มันร้องไง ก็นอนสิ พักสายตาสักพัก หลับไปไม่รู้ตัว พี่สาวโทร.ปลุก ไปอาบน้ำกัน

จากที่พัก เดินไปหาดซันไรซ์ ประมาณ 2-3 นาที (ไม่ได้ติดหาด แต่ก็สามารถเดินลัดเลาะไปได้สบาย ๆ)


หาดซันไรซ์ จะเป็นที่จอดเรือ แต่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ (จะมีกลิ่นน้ำมันบ้าง) สงบดี ไม่วุ่นวาย

กว่าจะได้ลง ถ่ายไปหลายภาพ (แต่ทำภาพหายหมด อยากจะบ้าตาย T_T)

ไม่ต้องไปไกล ที่หาด สามารถ ดำน้ำดูปะการังได้เลย แถมมีปลานีโม่ ให้ดูด้วย ไม่ต้องไปไกล

ทริปนี้พี่เขย ทุ่มแบบเหลือเชื่อ ถอยกล้องกันน้ำ มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ 555

อาบน้ำเสร็จ ก็ไปเดินถนนคนเดิน Walking Street ไม่ต้องใช้รถเพราะเดินออกมานิดเดียวก็ถึง


หิวแล้วสิ เจอร้านนี้ บุฟเฟ่ซีฟู้ด 490 บาท ลองแวะดู

ต้องจ่ายเงินตรงหน้าร้าน ก่อนนั่งโต๊ะ และไปตักอาหารได้ ให้เวลา 1.30 ชม. เรามาดึกไป 20.00 น. อาหารหมดไปบ้าง โดยเฉพาะปูผัดผงกระหรี่ ไม่เหลือเลย เจอแต่ขา ทิ้งไว้ดูต่างหน้า T_T

ส่วนอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลาหมึก ปลา สามารถเลือกใส่ตะกร้า และให้พนักงานไปย่าง เราไม่ต้องทำเองค่ะ (เสียดาย นึกว่ามีปู มีหอย เพราะถ้าอยากกินต้องจ่ายเพิ่ม พลาดไปไม่ถามให้ละเอียดเอง)


และก็เดินย่อย อาหาร ริมชายหาด ดูควงไฟ ตามร้าน บาร์ เบียร์ ต่าง ๆ ก็สนุก และเพลินตาดี ก่อนเข้านอน


21 เมษายน 2561 ตื่นเร็วมาก ๆ ตี 5.30 น.นอนไม่หลับเพราะทำภาพหายไป เมื่อตอนเย็น 55 จึงเดินออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นคนเดียวที่หาดซันไรซ์

ยามเช้า ๆ ไม่มีผู้คน

ปลายฟ้า เริ่มแดงขึ้น ๆ

บ้างก็นั่งรอ บ้างก็นอนรอ แต่ไม่รู้ว่าจุดหมาย ของการรอ เหมือนกันหรือไม่

ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเล มันสวยแบบนี้นี่เอง ไม่ต้องมีคนมาบัง ไม่ต้องมีต้นไม้มากั้น ภาพกว้าง ๆ แบบพาโนราม่า สุด ๆ

สวยงามตามท้องเรื่อง ห้ามพลาดนะคะ


กลับที่พักดีกว่า ออกมานานแระ ทานอาหารเช้า ก่อนไปลุยดำน้ำโซนนอก กัน


มีอาหารชุด 8 อย่างให้เลือกสรร ว้ายังกินไม่ครบเลย ถ้าจะให้ครบ คงต้องมาแก้ตัวอีกแล้วมัางงง


และก็ให้รถไปส่งที่จุดเช็คอิน ลงเรือ เวลา 9 โมงหน่อย ๆ

ลงทะเบียน เสียค่าประกันอีกคนละ 30 บาท

แนะนำ ถ้ามาหลายคน ให้เหมาลำเถอะ ไม่ต้องจอยกับคนอื่น เพราะเรามาถึงลงเรือได้เลย ส่วนนักท่องเที่ยวคนอื่นก็มีโวยบ้าง ว่ามารอนานแล้ว ไม่ได้ไปซะที จนท. ต้องมาบอกว่า รอรถไปรับนักท่องเที่ยวท่านอื่นอีก รอแป๊บ

เอ่อ อยู่บ้านเถอะ ถ้ากลัวดำขนาดนี้ 555


ที่แรกเลยก็จะเป็นเกาะหินซ้อน จำง่ายหน่อย หลังจากนั้นก็จะจำอะไรไม่ได้แล้ว 55 เพราะคนเรือพูดกลางไม่ค่อยชัด ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ว่าพูดอะไร 55



ต่อไปก็ดำน้ำที่อ่าวกำนัน เกาะดง เป็นอ่าวเล็กๆ แต่น้ำใสมาก จุดเด่นของที่นี่คือแนวปะการังที่มีสภาพสมบูรณ์


และมาพักทานข้าวเที่ยงที่ อ่าวลิง (แต่ตอนมาไม่มีลิงนะ สงสัยคนขับจะพามาอีกฝั่ง ส่วนตัวสุด ๆ ค่ะ)



วิว และน้ำทะเล ที่นี่สวยเหลือเกิน สวยจนเกินบรรยาย

บ้างก็เล่นน้ำ บ้างก็ถ่ายภาพ ฟิน


**** ไว้มาต่อตอน 2 (เวปเดี้ยงใช้งานไม่ได้ 2 วัน เลยเขียนต่อไม่ติด T_T)










แตงโมเนื้อทราย

 วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.12 น.

ความคิดเห็น