ที่นี่จะเป็นแบบบังกะโลไม้ และกระท่อมไม้ไผ่ที่นี่จะเป็นแบบบังกะโลไม้ และกระท่อมไม้ไผ่ที่นี่จะเป็นแบบบังกะโลไม้ และกระท่อมไม้ไผ่

"ระนอง"ต้องไปสัมผัส เมืองฝนแปดแดดสี่

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้จะพาไปเที่ยวระนอง เป็นจังหวัดที่ไม่เคยไปเลยและไม่ค่อยผ่านไปทางระนองด้วย

ช่วงนี้เห็นรีวิวระนองมาเยอะเลยอยากลองไปสัมผัสด้วยตัวเองบ้าง ครั้งนี้ตั้งไว้อยากไป"เกาะพยาม" ไปค้างสัก 1 คืน การเดินทางก็จะเริ่มเดินทางออกจากภูเก็ตในวันศุกร์ประมาณ 16:00 ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะมีพี่ที่รู้จักจะพาครอบครัวไปเที่ยวกับรถตู้ เราก็ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยกันเลย

ภูเก็ต ==> ระนอง (หงาว) ==> เกาะพยาม ==> ภูเก็ต


คืนแรกพักที่ The White Village Ranong Resort

the white village ranong resort เป็นที่พักเล็กๆ สไตล์โมเดลวิลเทจ ตั้งอยู่ที่ "หงาว" ใกล้กับภูเขาหญ้า,น้ำตกหงาว และที่ท่องเที่ยวสำคัญ ตกแต่งโทนสีขาว ที่พักสะอาด จัดสวนได้สวยงาม

ภายในห้องพักก็มีเตียงนอนนุ่มๆ ห้องน้ำกว้างขวาง แยกโซนแห้ง โซนเปียก มีเตรียมอุปกรณ์ในห้องน้ำไว้ให้ครบเลย ตกแต่งด้วยดอกไม้ที่ปลูกในสวนของรีสอร์ท

นี้หน้าตาของที่พักคืนแรก เล็กๆแต่ดูอบอุ่น เหมือนเป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัว

มีเปลชิงช้าให้เด็กๆได้นั่งเล่นกัน

มีห้องอาหารสำหรับมื้อเช้าด้วยนะ จัดได้อย่างน่ารัก


" โรตีนิสรา"

เช้านี้เราไม่ได้จองมื้อเช้าจากที่พัก เพราะจะมากินที่ร้านโรตีขึ้นของหงาวให้ได้ ก่อนจะเดินทางไปเกาะพยาม

ร้านโรตีอร่อยๆ นี้มีชื่อว่า “โรตีนิสรา” หรือบางคนอาจจะเรียกว่าโรตีหงาว เพราะร้านนี้เขาตั้งอยู่ในย่านตลาดสดบ้านหงาวนั่นเอง ตอนนี้เพิ่มร้านถัดไปจากร้านเดิมเพื่อขยายที่นั่งถัดจากที่เดิมประมาณ 2 คูหา

เดินมานิดนึงก็จะเจอร้านไก่ทอดนิสรา จะเป็นร้านใหม่กว้างกว่าร้านมุมแรกมีหลายโต๊ะขึ้น ร้านเดิมก็ยังคงเป็นมุมตีแป้งโรตีกันให้เห็น พิกัด ร้าน “โรตีนิสรา” ตั้งอยู่ที่บ้านหงาว ถนนประชาพิทักษ์ อ.เมือง จ.ระนอง การเดินทางออกจากตัวเมืองระนองไปทางน้ำตกหงาว ประมาณ 10 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ใกล้กับตลาดสดหงาว ร้านเปิดบริการทุกวัน

ร้านโรตีของระนองที่ได้เห็นรีวิวกันมานานแล้ว ถ้าไม่มาลองก็คงเหมือนมาไม่ถึงระนอง ดังนั้นแม้จะอยู่ไกลจากตัวเมืองเป็นสิบกิโลเมตร เราก็ต้องดั้นด้นไปชิม (เรื่องกินนี่มันเรื่องใหญ่มิใช่น้อยๆนะจ๊ะ)

อร่อยทุกเมนูจริงๆ แป้งโรตีที่แตกต่างจากร้านทั่วไป โรตีธรรมดา แป้งโรตีเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นนมเนย กรอบพอดี

ไก่ทอด ไก่ทอดที่นี่แป้งกรอบกริ๊บ รสชาติไม่เหมือนที่อื่น ไม่รู้ปรุง/หมักด้วยอะไร ทอดมาดี๊ดีไม่อมน้ำมัน เนื้อไก่แน่นเคี้ยวอร่อย แต่ก็นุ่มฉ่ำไม่แห้งกระด้าง ที่จริงหลายคนลงความเห็นว่าไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยอยู่แล้ว แต่ทางร้านก็มีน้ำจิ้มไก่ให้ค่ะ เมนูนี้บอกเลยว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้โรตี ห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ


"วัดบ้านหงาว"

ออกจากร้านโรตีนิสรา ก็ไม่ไกลมากนักก็จะผ่านวัดบ้านหงาว ก็ต้องแวะไหว้พระกันก่อนนะ

วัดบ้านหงาว เป็นวัดดังของ จ.ระนอง ซึ่งมีพระพุทธรูปดีบุก เป็นพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งของวัดบ้านหงาวจะอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และ อยู่ตรงข้ามกับน้ำตกหงาว

จากวัดบ้านหงาวมองไป อีกฝั่งทางทิศตะวันออก จะเห็นน้ำตกไหลลงเขามาเป็นน้ำหงาว ถ้ามาช่วงที่มีน้ำเยอะจะเห็นได้ชัดและสวยมากด้วย

ภูเขาที่อยู่หลังกุฏิพระมีบันไดขึ้นไปประมาณ 300 ขั้น ถ้าใครแรงดีก็ขึ้นไปชมวิวได้เป็นจุดชมวิว 360 องศาบนยอดมีระฆังที่ไว้ตีเพื่อสิริมงคลในชีวิตและยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย

มาทริประนองครั้งนี้ต้องขอบคุณรถตู้นำเที่ยวของพี่ที่รู้จัก สามารถบินมาลงสนามบินภูเก็ตและไปทำทริปต่อระนองได้และพังงาได้

Go-Daytrip บริการรถตู้นำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต/พังงา/ระนอง ต้องการใช้รถติดต่อ

💎เพชร💎📲 087-419-5679

Line Id: petchphuket

https://www.facebook.com/phukettaxiservice/


"ภูเขาหญ้า"

ถ้ามาเที่ยวระนองไม่มาถ่ายรูปเช็คอินที่ "ภูเขาหญ้า" เหมือนมาไม่ถึงระนองนะ

ภูเขาหญ้า” “เขาหัวล้าน” หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “เขาผี” กลุ่มภูเขาเหล่านี้เป็นเขาลูกเตี้ยๆ ถ้าคุณมาในฤดูฝน จะมีหญ้าเขียวขจีปกคลุมทั่วแนวเขา ให้คุณได้เดินเล่น เป็นภูเขาที่มีลักษณะโดดเด่นคือ ไม่่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เลย โดยเฉพาะในฤดูฝนจะมีหญ้าเขียวขจีขึ้นปกคลุมทั้งแนวเขา จนถึงช่วงหน้าแล้ง หญ้าที่ขึ้นปกคลุมภูเขาจะเปลี่ยนจากสีเขียว กลายเป็นหญ้าแห้งที่เปลี่ยนสีภูเขาเป็นสีเหลือง จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูเขาหญ้า”


"เกาะพยาม"

เต็มอิ่มกับภูเขาหญ้า ก็ตรงมาที่ท่าเรือ "ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ" จะเป็นท่าเรือโดยสารไปยังเกาะพยามหรือใกล้เคียงมีทัง้เรือใหญ่และสปีดโบ้ท ถ้าใครอยากไปถึงเกาะเร็วๆก็ต้องสปีดโบ้ทใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาทีถึงเกาะพยาม

ตารางเรือก็มีที่ท่าเรือจะออกเป็นเที่ยว แล้วแต่ละบริษัทกันเลย

ใช้เวลานั่งสปีดโบ้ทประมาณ 45 นาทีก็ถึงท่าเรือเกาะพยามกันแล้ว วันนี้โชคดีที่ฟ้าโปร่งใสมาตั้งแต่เช้า

ก่อนมาเกาะพยามก็ได้หาที่พักเพื่อจะทำการจองก่อน แบบว่าเสาร์-อาทิตย์ ที่พักค่อยข้างแน่นเต็มไปหลายที่ แต่สุดก็ได้จองที่ "Banana Resort" บริเวณอ่าวเขาควาย

ขึ้นจากเรือก็เดินตรงมาก็จะเจอคิวรถรับจ้างของชาวบ้าน แต่เราตรงไปร้านเช่ารถมอเอตร์ไชค์กัน เพื่อจะได้แว้นเที่ยวกันรอบเกาะด้วย ราคาเช่าก็จะแตกต่างกันด้วยรุ่นของมอเตอร์ไซค์ เหมือนว่ารุ่นใหม่ๆจะแพงกว่า

เมื่อได้รถแล้วก็ขับกันไปยังที่พัก ซึ่งพี่ที่ร้านเช่ารถก็ได้ถามว่าพักที่ไหน เขาก็แนะนำบอกทางให้

พี่ที่ร้านเช่ารถบอกว่าขับตรงไปเรื่อยๆเลยนะน้อง พอถึงสี่แยกโรงเรียนก็ขับตรงไปเลย แต่ที่นี้ต้องสังเกตุป้ายกันดีๆหน่อยนะ เพราะมีป้ายบอกทางน้อยมีแต่ป้ายรีสอร์ทต่างๆ ซึ่งจะไม่มีบอกช่วงหน้านะจะบอกก็ต่อเมื่อถึงปากทางเข้าที่พัก

และแล้วเราก็มาถึง "บานาน่า รีสอร์ท" มาถึงก็จะเห็นทะเลสวยอยู่หน้าที่พักกันเลยจร้า

ที่นี่จะเป็นแบบบังกะโลไม้ และกระท่อมไม้ไผ่ มีห้องน้ำในตัว แต่ปลั๊กไฟน้อยไปหน่อยมีแต่ 1 ปลั๊กเอง

จากสำรวจห้องแล้วก็พาหลานๆไปหาดหน้าที่พัก ทุกคนดูเหมือนสนุกกันมาก วิ่งลงไปไม่รอช้ากันเลยจร้า

หาดบริเวณอ่าวเขาควายทางทิศใต้ค่ะ อ่าวเขาควายจะมีสองฝั่งคือ ทิศเหนือกับทิศใต้

สังเกตุดูดีๆที่นี่จะมีเจ้าหมาเยอะ วิ่งเล่น นอนอาบแดดกันตามชายหาด

ไม่ต้องไปเล่นน้ำทะเลไกลเลย มาชายหาดหน้าที่พักก็สวย น่าเล่นน้ำมาก

นั่งเล่นกันอยู่เฝ้าเด็กๆสนุกกันก็หันไปหาดซ้ายขวามือ ก็จะเจอเรือโจรสลัดที่เห็นรีวิว หรือมาเช็คอินกันเยอะ นี้อยู่ใกล้ที่พักเราเองนิ

เพราะเดินทางมาเรือรอบ 10:00 มาถึงที่พักก็ประมาณเที่ยงแล้ว ทุกคนก็เริ่มหิวก็เห็นร้านอาหารใกล้ๆที่พักก็เดินไปตามชายหาดก็จะเจอร้าน "The Sun" ร้านอาหารที่ใหญ่พอสมควร ช่วงนั้นไปก็พอมีลูกค้าต่างชาติบ้าง

บรรยากาศร้านดีมากริมทะเล นั่งกินไปชมทะเลที่สวยๆไป

เมื่อกินอิ่มกันแล้วก็เดินไปที่ Hippy Bar บาร์ฮิปๆ ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังโจรสลัด

บาร์แห่งนี้เหมือนสร้างโดยการนำเศษไม้เหลือ. นำมาต่อกันจนเป็นเรือ และส่วนต่างๆของบาร์นี้ มันเป็นศิลปะมากครับ. บาร์แห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่ได้เข้าไปอุดหนุนและชมภายในเลยเพราะมาช่วงบ่ายอากาศร้อนและยังอิ่มจากร้านเดอะซัน

กลับมาขออาบน้ำนอนพักสัปแปป เดี่ยวจะออกไปสำรวจเกาะอ่าวอื่นๆ

พักหายเหนื่อยกันแล้วก็ออกมาหน้าห้องขึ้นใต้ต้นไม้ เอ๊ะๆมีตัวอะไรบินผ่านเราไปนะ พอมองไปที่บนต้นไม้ ถึงกับร้องโห้!!! นี่มันนกเหงือกตัวเป็นๆเลยครั้งแรกที่เห็นตัวเป็นก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลยจร้า เกาะพยามมีนกเหงือกหลายตัวมากคงเป็นเพราะยังคงความอุดมสมบรูณ์ของธรรมชาติ

ตั้งใจแว้นไปอ่าวแรกก็คือ "อ่าวกวางปีป"ซึ่งออกจากที่พักก้แค่เลี้ยวซ้ายขับตรงขึ้นไป เดินทางมายากหน่อย นอกจากถนนขรุขระแล้ว ก่อนถึงหาดยังมีเนินสูงๆ ถ้าใครขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็ง แนะนำให้จอดเดิน

จอดมอไซค์ด้านบนแล้วก็เดินลงมา มาเที่ยวเกาะพยาม ต้องอย่าพลาดที่นี่ครับ มันคุ้ม เพราะอ่าวกวางปีบเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อของเกาะพยาม หาดทรายของอ่าวนี้จะมีหินเยอะๆ หน่อย และมีต้นไม้รอบอ่าวเยอะมากกกกก เกาะพยามนี่อุดมสมบูรณ์มากๆ ครับ มีต้นไม้แทบทุกอณู

"อ่าวกวางปีป" อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะพยาม เป็นอ่าวที่ไม่ใหญ่มาก มีน้ำทะเลใส คลื่นไม่แรงมาก

ความงามของธรรมชาติที่สัตว์ตัวน้อยๆได้สร้างสรรค์ขึ้นมา

เดินเล่นกันไม่นานนัก เห็นฟ้ามืดมาเลยฝนต้องตกแน่ๆ แล้วจะออกไปอีกอ่าวทันฝนไหมนะ จากนั้นก็รีบแว้นออกจากอ่าวกวางปีป เพราะถ้ารอช้าถนนจากจุดนี้ลื่นแน่ๆ อันตรายกับคนที่ไม่ชำนาญอย่างเรา

ยังไปไม่ทันถึงอ่าวใหญ่เลย ฝนก็เทมาอย่างหนักหาที่หลบฝนกัน จนขับเข้าไปจอดหลบฝนที่โรงเรียน รอให้ฝนซาลง ก็เกือบจะ 17:30 แล้ว จะทันออกไปไหนอีกไหมยังมีพี่สาวกับหลานอยู่ที่ห้อง เลยตัดสินใจไม่ไปต่ออ่าวอื่น ได้แวะหาของกินมื้อค่ำก็แล้วกัน

ฝนหยุดก็ขับรถออกจากโรงเรียนตรงไปทางจะกลับท่าเรือก็จะผ่านร้านอาหาร ซุ้มขายอาหารก็แวะจัดส้มตำ ลูกชิ้น ข้าวเกรียบปากหม้อกันไปกิน

หลังที่ฝนหยุดสนิท ฟ้าเปิดให้ได้เห็นพระอาทิตย์แสงทองสวยๆหน้าที่พัก กลับมาจากซื้อของมาทันแสงสวยๆพอดีเลย เป็นมื้ออาหารที่กินริมทะเล วิวสวย ชมพระอาทิตย์ตกกัน

ก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่น ถ่ายรูปกันหลังจากฝนหลุดตก

หลังจากกินอิ่มยุงเริ่มมาก็ย้ายไปนั่งที่ห้อง ระเบียงหน้าห้องไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนต่อเลย เพราะโดนฝนกันเปียกต้องกินยาแล้วพักผ่อนกลัวจะเป็นไข้กัน


สวัสดียามเช้าที่ "เกาะพยาม" อากาศดี้ดี ออกมาเดินเล่นตามชายหาด

เดินสำรวจชายหาดก็รีบขึ้นไปเก็บของแล้วออกจากที่พัก เพราะวันนี้ต้องกลับภูเก็ตกันแล้ว แต่เมื่อวานเจอฝนเลยทำให้ไม่ได้ไปรอบเกาะเลย จึงทำให้เช้านี้พยามไปที่ห้ามพลาดก่อน มีจองเรือกลับระนองรอบ 9:00

ออกมาจากที่พักประมาณ 7.00 ก็มุ่งไปยังวัดเกาะพยาม อย่างที่ตั้งใจไว้ขับรถออกมาถึงสี่แยกโรงเรียนก็เลี้ยวซ้ายขับตรงไปเรื่อยๆ ก็จะมาเจอวัด

จะพบวัดเกาะพยาม วัดแห่งเดียวของเกาะ เป็นวัดเล็กๆ แต่วิวสุดยอดมาก ที่วัดแห่งนี้ ยังมีโบสท์กลางทะเลนหน้าออกสู่ทะเล ตัวโบสถ์มีลักษณะคล้ายมีดอกบัวมาโอบอุ้ม และมีสะพานปูนทอดยาวสู่ตัวโบสถ์บนหลังประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ มองเห็นสวยเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ถือเป็น unseen แห่งเกาะพยามได้เลยนะเนี่ย

บริเวณวัดเกาะพยามมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย อาทิ รูปปั้นกรมหลวงชุมพร

ออกจากวัดก็กลับทางเดิมมาถึงสี่แยกโรงเรียนยังพอมีเวลาก็เลยขับตรงขึ้นไปอ่าวใหญ่

"หินทะลุ อ่าวเขาควาย" เกาะพยาม จ.ระนอง อีกหนึ่งเสน่ห์ของเกาะพยาม บริเวณชายหาด มีกองหินรูปร่างแปลกตาจำนวนมาก ที่ถูกน้ำกัดเซาะเป็นช่องโพรง เหมือนซุ้มประตู...

หินทะลุ เดินลงหาดมามองไปทางขวาก็เห็นหินทะลุอันแรกเลย แต่อย่าเพิ่งเดินกลับกันนะ เพราะเดินไปทางนั้นมีหินทะลุอีกหลายอันเลย

ซุ้มประตูหินมีอยู่ด้วยกันประมาณ 3-4 ซุ้ม เป็นรูหินขนาดใหญ่ สามารถเดินลอดได้ ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง จากก้อนหินที่ถูกน้ำทะเล และคลื่นเซาะ ใช้เวลาหลายสิบปีจนกลายเป็นหินทะลุ


เห็นเวลาแล้วคงไปต่ออ่าวใหญ่ไม่ทันเรือแน่ๆ เลยต้องกลับไปคืนมอเตอร์ไซค์และแวะหามื้อเช้ากินลองท้อง

มาเจอร้านอยู่ใกล้ท่าเรือพอถามว่าเป็นกาแฟสดไหมก็จอดรถสั่งอาหารกัน

ระหว่างรอมื้อเช้าก็ขับไปเยี่ยมชมบลูสกายกันสักนิด เพราะเมื่อวานตั้งใจจะมาดินเนอร์ที่นี่แต่เจอฝนกัน แผนเลยล่มสะ


ได้เวลาบอกบายๆเกาะพยามกันแล้ว ตั๋วพร้อม เรือพร้อมก็เดินทางกลับฝั่งระนองกันได้เลยจร้า


"ห้วยค้างคาว กาแฟสด"

พอถึงระนองเวลาที่เหลือก่อนเดินทางกลับภูเก็ตก็ต้องแวะที่ห้ามพลาดก่อน แต่คงได้ไม่ครบเพราะมีเวลาจำกัด

ร้านแรกที่ตรงมาหากาแฟดื่มกันก็คือ "ร้านกาแฟสด ห้วยค้างคาว"

คุ้นลิ้นกาแฟสด ห้วยค้างคาวแห่งจังหวัดระนอง ร้านกาแฟในบรรยากาศริมธารน้ำตก ท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่นและแมกไม้เขียวขจี ของภูเขาที่โอบล้อม เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสุดเก๋และสุดฟิน ของการมาเที่ยวเมืองระนองที่มิควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

โซนที่นั่งด้านล่างอยู่ติดลำธาร ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจและพากันหามุมจิบเครื่องดื่ม ที่นั่งเล่นเป็นแคร่ไม้ไผ่ท่ามกลางลำธาร ถูกวางจัดแต่งได้อย่างกลมกลืนไปกับบรรยากาศ

กลับจากห้วยค้างคาวก็มาต่อที่ "สวนสาธารณะรักษะวาริน" ในตัวเมืองระนอง บ่อน้ำร้อน รักษะวาริน ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ เกิดจากน้ำใต้ดินที่ไหล่ผ่านความร้อนใต้พิภพ

มีคนมานั่งแช่เท้าและนอนเล่นที่ลานโยคะร้อนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากให้บริการฟรี

เที่ยงแล้วก็ต้องแวะกินที่ "คุ้นลิ้น" ร้านอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของระนอง

เมนูที่สั่งวันนี้อร่อยทุกมื้อเมนูเลยค่ะ

- ปลาหลุมพุกลุยสวน (เป็นอีกเมนูที่อยากแนะนำ กินจนหมดจาน ต้องสั่งใส่กล่องกลับบ้านด้วย)

- แกงส้มไข่ปลาริวกิว

- ปลาทูทอดกะปิ (เมนูนี้บอกเลยกะปิหอม ปลานี้กรอบมาก)

- ใบเหลียงผัดไข่


"พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)"

พระราชวังรัตนรังสรรค์ วังเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็น 1 ใน 19 พระราชวังในไทย

พระราชวังรัตนรังสรรค์องค์แรก สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครั้งเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝั่งตะวันตก (ระหว่างวันที่ 23 – 25 เมษายน พ.ศ.2433) นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จประพาสเมืองระนอง (Cr.museumthailand)

ในปัจจุบันพระตำหนักจำลองตั้งอยู่บนเนินเขานิเวศน์คีรี เป็นพระราชวังรัตนรังสรรค์ที่ทำขึ้นมาใหม่ แทนของเดิมที่ได้พังไป ที่ตั้งพระราชวังรัตนรังสรรค์ของเก่าจะอยู่ที่บริเวณศาลากลางเมืองระนอง ปัจจุบันถูกรื้อสร้างเป็นศาลากลางระนองไปแล้ว สามารถเข้าไปเยี่ยมชมบนตัวอาคารได้แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้บรรยาย จะมีเป็นรอบเวลาวันนี้ไปไม่ได้ตรงกับเวลารอบบรรยายเลยได้ถ่ายรูปตัวอาคารจากลานหน้าตำหนัก

บริเวณด้านหน้าก็จะเป็นสวนสาธารณะค่ะ ลานหญ้ากว้างมีมุมนั่งเล่นพักผ่อน มีไม้ดัดในรูปต่างๆ ถ้ามาช่วงค่ำๆหรือกลางคืนก็จะประดับประดาด้วยแสงไฟ ก็จะได้ไปอีกบรรยากาศ

บริเวณด้านหน้าพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นสวนสาธารณะมีรูปปั้นการทำเหมือนแร่ในสมัยก่อน บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์แร่ธาตุในสมัยนั้น


"บ้านไร่ ไออรุณ"

ที่ท้ายสุดต้องแวะชม "บ้านไร่ ไออรุณ" เพราะเป็นทางเดียวกับกลับภูเก็ต แวะจิบน้ำเครื่องดื่มผลไม้สดๆกับบรรยากาศบ้านไร่ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ได้ติดตามเพจของบ้านไร่ ไออรุณ มาตลอดตั้งแต่เปิดคือชอบมากและอยากมาพักที่นี้สักคืนให้ได้ แต่ของเขาฮิตจริงๆที่พักเต็มตลอดนะและบางครั้งเราก็ไม่ว่าง ครั้งได้มโอกาสมาระนองแล้วก็ต้องแวะชมบรรยากาศของที่นี่สักหน่อย ไม่ได้พักก็ได้มานั่งพักจิบน้ำให้สดชื่น

โต๊ะนี้กลางน้ำแช่เท้าเย็นๆ จิบเครื่องดื่มด้วยคงจะฟินนะ แต่ช่วงที่ไปนั้นฝนตกจร้า ก็ชุ่มฉ่ำกันถ้านหน้า

น้ำเสาวรสสดแท้ โอวัลตินเย็น กับข้าวต้มมัดอร่อยๆ กินเข้ากันกับเครื่องดื่ม

พวกพี่ๆก็สั่งขนมจีนกินกัน มาพร้อมเรื่องเคียงผักเป็นเชตจัดได้น่ารักมาก


"ระนอง" ยังมีที่ท่องเที่ยว สถานที่ที่สวยงามอีกหลายที่นะ ครั้งนี้ได้ไปมายังไม่ถึงครึ่งเลย เดี่ยวจะหาเวลาไปเที่ยวและเก็บบรรยากาศของระนองมาให้ชมกันอีกนะค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวค่ะ

How About Chillout

 วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.47 น.

ความคิดเห็น