​ใครไม่น้อย “ตลาดน้อย"

ใครไม่น้อย “ตลาดน้อย"

ครั้งนี้วิชาขอชวนเพื่อนๆไปชิลกับชุมชนคนจีนที่ตลอดน้อยกันครับ

ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า ทำไมถึงเรียกว่า”ชุมชนคนจีน” ก็เพราะว่าบริเวณนี้มีพี่น้องชาวจีนอาศัยกันอยู่มาก อยู่มากันตั้งแต่สมัยต้นของกรุงรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว นอกจากนี้ตลาดน้อยยังถือเป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีการขยับขยายมาจากย่านสำเพ็งอีกด้วย และที่สำคัญที่นี่การเดินทางมาก็ง่าย และสะดวกมาก เพื่อนๆที่อยากจะชิลกับชุมชนโบราณดั่งเดิมของคนกรุงเทพ ไม่ควรพลาดจริงๆ และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ร้านของแซ่บของอร่อยก็เยอะ เอาเป็นว่า มาแล้วไม่ผิดหวัง วิชาคอนเฟิร์ม!!!

สถานที่แรกที่วิชาไปคือ โบสถ์วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์)

โบสถ์วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) แค่เห็นด้านนอกก็รู้สึกได้ถึงความสวยงามของโบสถ์แล้ว ยิ่งพอได้เข้าไปชมด้านในก็ยิ่งประทับใจสุดๆ เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามมากๆ ตรึงสายตาไว้ได้อย่างดีเลย นอกจากนี้โบสถ์แห่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์คาทอลิกในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความดั้งเดิมทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว

สถานที่ที่สองของวิชาคือ Street art
ระยะทางเท้ายาว ประมาณ 50-100เมตร

สังเกตว่าแต่ละรูปจะสะท้อนเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนในสมัยก่อนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในย่านตลาดน้อยแห่งนี้ บางรูปเหมือนมีชีวิตจริงๆเลย เป็นสตรีทอาร์ตแบบเก่าแก่แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งหาชมได้ยากมากครับ

สถานที่ที่สามคือ ศาลเจ้าโรงเกือก

ศาลเจ้าโรงเกือก
เดินผ่านกำแพงสตรีทอาร์ตยาวๆ จนมาเจอกับ ศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง หรือ ศาลเจ้าโรงเกือก ตลาดน้อย ตรงนี้เป็นอีกมุมที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่ของศาลเจ้าโรงเกือกกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิชาชอบบรรยากาศตรงนี้มากๆ เต็มไปด้วยประวัติความเป็นอยู่ของคนในสมัยโบราณ ทำให้วิชาซึมซับบรรยากาศได้เป็นอย่างดีเลย

สถานที่ที่สี่ คือ บ้านโซวเฮ่งไถ่

บ้านสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ที่สร้างโดยต้นตระกูลโซวผู้มั่งคั่งที่เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี

แต่ยังคงอนุรักษณ์สถาปัตยกรรมและของตกแต่งบ้านแบบโบราณ เช่น เครื่องลายครามเก่าแก่แบบจีนไว้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากตัวบ้านที่มีความเก่าแก่มากๆ และลายไม้ฉลุที่เป็นแบบโบราณ ชอบบรรยากาศของบ้านหลังนี้มาก

เราขออนุญาติขึ้นมาเดินชมที่ชั้น2 นี่คือภาพด้านบนของตัวบ้าน ซึ่งสะท้อนถึงความเก่าแก่ของสถานที่แห่งนี้ได้ดีมากๆ ทั้งประตูและตัวบ้านยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่เอาไว้ บรรยากาศรอบตัวบ้านเงียบสงบมาก ตอนขึ้นไปชั้นบน ยิ่งมองเห็นภาพถ่ายเก่าๆ ประตูเก่าๆ ยิ่งรู้สึกได้ถึงความเก่าแก่ หากต้องการจะเข้าไปเดินชม บ้านหลังนี้ ต้องเสียค่าซื้อน้ำตามจำนวนคนที่เข้า เพื่อเป็นค่าเข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ครับ