หลังจากที่เที่ยวอย่างหนักหน่วง ทำงานมาอย่างอ่อนล้า นอกจากร่างกายที่ไร้การดูแล ผมของเราที่ทนแดด ทนฝนก็ควรได้รับการดูแลเช่นกัน เราจะพาไปพบกับการนวดศีรษะผ่อนคลายความเครียดที่ดังมากในโซเชี่ยลตอนนี้ ชิคจนเผลอหลับ ผมก็สวย ความเมื่อยล้าก็หาย ที่ Nap Sleep Salons ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองมาก

ปกติเป็นคนลุยๆอยู่แล้ว อย่าว่าแต่แต่งหน้าแต่งตัวเลย ผมนี่ยิ่งแทบไม่ได้ดูแล ปกติแค่สระผม ลงครีมนวดก็หรูแล้วจริงๆ จะเข้าซาลอนก็เฉพาะเวลาไปตัดผมแค่นั้น แต่นี่ละคือจุดเริ่มตอนของการส่องหาที่ผ่อนคลาย จนมาเจอ Nap Sleep Salons ใครๆก็ว่าดี แถมตอนนี้เค้ามีสาขาเปิดใหม่ที่สาธรด้วย วันนี้แวะมาทำธุระแถวนี้พอดี เลยโทรไปสอบถามข้อมูล เห็นว่ามีคิวว่างพอดี เลยจองเลย กลัวคิวเต็ม

สาขา 2 ที่สาธรนี้มาไม่ยาก อยู่ตึกโมบิคอม 3 ซอย นราธิวาสราชนครินทร์ 7 ที่จอดรถสะดวกสบาย หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีหรือ BRT สาธร ก็ได้ เดินเรียบถนนนราธิวาสมาประมาณ 200 เมตร เจอตึกโมบิคอม 1 ก็เดินทะลุเจอโมบิคอม 3 ได้ขึ้นมา ชั้น 1 ก็จะเจอเลย เปิดประตูเข้ามาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกสบาย

เข้าไปแจ้งชื่อปุ๊บ พนักงานจะมาสอบถามเรื่องสภาพผมของเราอย่างละเอียด ใส่ใจมากเว่อ เพื่อให้เราได้บำรุงผมและหนังศีรษะของเราได้อย่างตรงจุด รวมถึงที่ปิดตา จะรับหรือไม่ เกาแรงมัย นวดหนักเบาแค่ไหน จะไดร์ทรงไหน เราเลือกคอร์ส NAP Elite Every balancing scalpเพราะเรามีปัญหารังแคกับหนังศีรษะมันคอร์สนี้พนักงานบอกว่าจะช่วยฟื้นฟูให้หนังศีรษะแข็งแรงและกลับมาเป็นปกติ ดีเลยได้ผ่อนคลายแถมได้รักษาปัญหาหนังศีรษะด้วย ชอบๆ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1.30 ชั่วโมง สุดท้ายก่อนจะเข้าห้องก็จะให้เลือกเหมือนกลิ่นอะโรม่า พร้อมแล้วเปลี่ยนรองเท้า ของไปข้างในกันเลย

ห้องที่เราเข้ามาน่ารักมาก ชื่อห้องนารุกุ สามารถทำพร้อมได้ 2 คน วันนี้มากับพี่สองคน ต่างคนต่างทำงานหนักทั้งคู่ เลยลากกันมาผ่อนคลายซะหน่อย อีกอย่าง พี่เราเป็นคนชอบทำเรื่องสวยๆงามๆอยู่แล้ว ตอนชวนมีความกรี๊ดกร๊าดเบาๆ เพราะนางเองก็อยากมาตั้งนานแล้ว

พาเข้ามา พนักงานพาไปที่เตียงสระ เอนนอน และบรรจงรวบผมเราอย่างเบามือ และเอาที่ปิดตาอุ่นๆมาวาง มันสบายจนแทบจะหลับ สักพักพนักงานจะบอกให้เราสูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อให้เราได้ผ่อนคลายไปกับกลิ่นอโรม่าที่เราเลือกไว้ก่อนเข้ามานี่เอง พูดไปจะหาว่าเว่อ แต่มันสบายมากๆๆๆๆหลังจากที่ผ่อนคลายเรียบร้อยแล้ว ก็จะเอาเหมือนเซรั่มมาหยอดที่บริเวณหนังศีรษะเรา เป็นการบำรุงหนังศีรษะและนวดกดจุดไปเรื่อยๆไล่จากหัวมาถึงช่วงไหล่ แขน มันสบายๆจนเผลอหลับไป หลับแบบจริงจังด้วย ก็แหงละเราทำงานมาเหนื่อยๆ ก็ต้องมีกันบ้างอะเน้อ

หลังจากนวดครบถ้วนทุกอณูของคอ บ่า ไหล่ แขน และแล้ว ก็ถึงเวลาที่เรารอคอย คือการนวดศีรษะนั่นเอง พนักงานค่อยๆล้างผม และใส่แชมพูเกาศีรษะ พร้อมนวดไปเรื่อยๆ ไม่รู้เลยว่าใช้เวลานานแค่ไหน เพราะมันเพลิน เพลินจนหลับไปอีกรอบ

หลังจากสระผมแล้ว ก็ถึงเวลาลง ทรีทเม้นท์ ซึ่งสาขานี้เค้าจะลง ทรีทเม้นท์ กับทุกบริการเลยนะ ถึงแม้ว่าจะทำตัวเริ่มต้นก็ตาม เราว่า คุ้มเว่อ เป็นสูตรเฉพาะหาซื้อที่ไหนไม่ได้ แถมยังเป็นออร์แกนิคอีกด้วยนะเออ แล้วส่วนผสมก็ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล สมุนไพรของไทยเรานี่เอง กลิ่นหอมสบายมากเลย

ลงทรีตเม้นท์นวดผ่อนคลายไปอีกรอบ ก็ถึงเวลาไฮไลท์ของที่นี่ คือพนักงานค่อยๆเทน้ำอุ่นค่อนข้างร้อน ลงบนศีรษะเรา แต่ว่า พนักงานเค้าจะแจ้งเราก่อนนะ ว่าจะเทน้ำแล้ว เราจะได้ไม่ตกใจเพื่อเปิดรูขุมขน DETOX ล้างไขมัน ล้างสารพิษที่อยู่บนหนังศีรษะออก มันก็จะสะดุ้งหน่อยๆ เเล้วล้างอีกทีด้วยน้ำเย็น

หลังจากที่ล้างผมเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะซับผมและห่อผม พร้อมประคองและขยับเก้าอี้ขึ้นมาให้เรานั่ง ต่อด้วยเอาผ้าอุ่นมาประคบที่คอและค่อยๆนวดคอ บ่า ไหล่ แขน นิ้ว และให้ดื่มน้ำมะตูมอุ่นๆปิดท้ายก่อนไดร์ผม

ไดร์ผมเสร็จจับผมแล้วต้องร้องอู้หูว สบาย เบาสบายหัวมาาากกก แถมผมนิ่มมาก เข้าใจฟิลคนไฮโซที่เค้าทำผมกันบ่อยๆหรือเข้าร้านสปาผมก็วันนี้ละ มันดีเหลือเกิน เดินกลับสวยๆ สะบัดผมเรียงตัวเป็นเส้น เป็นความรู้สึกที่ไม่มีมานานมากแล้วเพราะเราทำงานลุยๆตลอดเวลา บางครั้งผมแห้ง เหนียวและพันกันสำหรับคอร์ส NAP Elite Every balancing scalpค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,500 บาท ถ้าเทียบกับเราเข้าร้านซาลอน สระ ทรีตเม้นท์ ไดร์ แล้วต้องไปร้านนวดอีกชั่วโมงละ 250-500 บาท การมาที่นี่นับว่าคุ้มค่า สะดวกสบาย และฟินเฟ่อ เพียงแค่ได้มานอนนวดศีรษะ และงีบหลับก็สามารถชาร์จพลังได้แล้ว ใครกำลังมองหาที่ผ่อนคลายพร้อมทำสวยไปที่นี่เลย คอนเฟริม์ว่าดีจริงๆ