ไหว้พระดัง 3 จังหวัด ตามแบบฉบับเราเอง

ใกล้วันวิสาขบูชาแล้ว วันนี้เลยขอจัดทริปไหว้พระวัดดัง 3 จังหวัด มาเป็นแนวทางในการทำบุญวันหยุดนี้กัน

เราเริ่มต้นกันที่วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ 5 กิโลเมตร


ด้านหน้าวิหารก่อนจะเข้าไปกราบหลวงพ่อพระนอนด้านใน ก็จะมีองค์หลวงพ่อพระนอนจำลองอยู่ด้านหน้าวิหาร ซึ่งจุดนี้จะเป็นที่สำหรับจุดธูปเทียนบูชาและปิดทององค์พระ



ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ มีพุทธลักษณะแบบสุโขทัย ที่มีความงดงามมาก มีความยาวทั้งสิ้น 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ และ 7 นิ้ว ลักษณะ พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ พระเศียรหันไปทางทิศตะวันออก พระกรขวายื่นไปด้านหน้า ไม่งอพระกรขึ้นรับพระเศียร เหมือนแบบไทย


เดินทางต่อประมาน 15 นาที หรือ ประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะมาถึงวัดพิกุลทอง ภายในวัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว


นอกจากทำบุญ ไหว้พระแล้ววัดนี้ก็ยังสามารถทำทานให้อาหารปลาได้อีกด้วย


เดินมาด้านข้าง บริเวณลานจอดรถ จะพบกับวิหารหลวงพ่อแพร หรือ พระเทพสิงหบุราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดนี้ ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านเคารพรักมาก ท่านได้ทำประโยชน์ แก่พุทธศาสนาไว้มากมาย และมีส่วนช่วยให้วัดพิกุลทองมีลักษณะสวยงามอย่างที่เราเห็น


ออกจากวัดพิกุลทอง มุ่งหน้าไปทางเหนือ เดินทางต่ออีก ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึง “วัดโพธิ์เก้าต้น” ตั้งอยู่ตรงข้าม อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน วัดนี้ไม่มีพระองค์ใหญ่ให้ได้กราบไหว้ แต่มีวีรกรรมอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นที่นี่ จุดเด่นวัดโพธิ์เก้าต้น คือ สัญลักษณ์กำแพงวัด ที่สร้างจำลองกำแพงค่าย เพราะวัดนี้เดิมเป็นฐานที่มั่น ของชาว บ้านบางระจัน ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นสถานที่ที่วีรชนชาวบ้านบางระจัน ได้เคยใช้เป็นที่มั่นใน การต่อต้านพม่า ที่ยกกองทัพมาตี กรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2308


ด้านหน้ามีวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติรังสี ประดิษฐานรูปปฏิมากรรมอยู่ ซึ่ง พระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นที่เคารพสักการะของชาวสิงห์บุรีมาตั้งแต่ช้านาน เนื่องจากท่านเป็นมิ่งขวัญและพลังใจแก่เหล่าวีระชนชาวบ้านบางระจัน ทำให้วีระชนเข้าต่อสู้ป้องกันข้าศึกและได้รับชัยชนะ บริเวณกุฏิพระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นสถานที่ ที่ประชาชนเข้ามากราบไหว้บูชา ขอพรบนบานศาลกล่าวศักดิ์สิทธิ์มาก โดยมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งผู้คนมักเดินทางมาขอพรหรือบนขอสิ่งที่ต้องการ เมื่อได้ตามที่ได้ ขอพรไว้ ก็จะ มาแก้บนด้วยการ หาบน้ำตามจำนวนหาบที่บนไว้ เพื่อแก้บน


จุดเด่นอีกจุดหนึ่งของที่นี่ คือ ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เราเลยขอฝากท้องมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย


พ่อค้า แม่ค้าที่นี่เค้าก็แต่งตัวย้อนยุคกันนะ แม้แต่คำพูดคำจา ก็ยังย้อนยุค


ได้เรือขนมหวานมาหนึ่งลำ พร้อมกับคำขอบคุณ “ขอบน้ำใจเจ้าค่ะ” อร่อยมากขอบอก


อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อ ออกจาก จ.สิงห์บุรี มุ่งตรงไปยัง วัดขุนอินประมูล จ.อ่างทอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ภายในมีพระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง องค์พระยาว 1 เส้น 5 วา หรือ 50 เมตร ซึ่งนับเป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือ พระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง จ. สมุทรปราการ


จากตำนานกล่าวว่า ขุนอินทประมูล ได้ยักยอกเงินหลวงมาสร้าง ครั้งถูกสอบถามว่าเอาเงินจากใหนมาสร้างพระ ขุนอินทประมูลก็ไม่ยอมบอกความจริง จึงถูกลงโทษจนตาย คงมีความชื่อที่ว่า ถ้าบอกแหล่งที่มาของเงินแล้ว ตนจะไม่ได้กุศลตามที่ปรารถน


เดินทางออกจากวัดขุนอินทประมูลไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึง “วัดต้นสน”


พระราชสุวรรณโมลี ได้เริ่มสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่นามว่า "สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร ธัมมบดีศรีเมืองทอง” หรือ "สมเด็จพระศรีเมืองทอง” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนอ่างทองและใกล้เคียงเคารพนับถือมาก มีพุทธศิลป์สวยงามเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง หล่อด้วยทองเหลืองหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 2 ศอก 19 นิ้ว ปิดทองคำแท้ทั้งองค์


เดินทางออกจากจังหวัดอ่างทอง ประมาณ 47 กิโลเมตร
ก็จะถึง “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุพรรณอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี ต้นกำเนิดของพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรี หนึ่งในเบญจภาคีที่โด่งดังในหมู่นักเลงพระเครื่อง


ก่อนออกจากวัดมองเห็นนกเขาคู่ สายตาอ้อนวอนมากกกกก ......ขอให้เป็นอิสระนะ


มาต่อที่วัดป่าเลไลก์ วัดแห่งนี้ประชาชนนิยมมานมัสการ “หลวงพ่อโต” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารสูงเด่นเห็นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิมีลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุ พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุอีกข้างหนึ่งในท่าทรงรับของถวาย องค์พระสูง 23.46 เมตร รอบองค์ 11.20 เมตร


ใหนๆก็มาถึงสุพรรณบุรีละ ก็ขอไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเสียหน่อย ซึ่งที่นี่เค้ามีดีที่มังกรตัวใหญ่ๆ ตั้งเด่นเป็นสง่า

จบแล้วสำหรับทริปสะสมบุญของเรา อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มบุญ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ





อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว Want To Travel

 วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.12 น.

ความคิดเห็น