Hill Fresco Pattaya (ฮิลเฟรสโก้ พัทยา)
หลาย ๆ ท่านที่มีน้องหมาในอุปการะเคยประสบปัญหานี้กันมั้ยค่ะ อยากไปเที่ยว แต่ไม่มีใครดูแลน้อง, ไม่อยากทิ้งน้องไว้บ้าน ของเราก็เหมือนกันค่ะ อยากไปเที่ยวถามว่าทิ้งน้องไว้บ้านได้มั้ย ได้ค่ะ มีคนดูแล แต่พอกลับไปแล้วสงสาร เพราะน้องจะดีใจที่เห็นเรากลับบ้าน แบบคิดถึงน่ะค่ะ หรือบางทีคนดูแลก็บอกน้องไม่ค่อยกินอาหาร เห่า วิ่งหา สงสารน้องนะคะ
ทีนี้ พอจะไปเที่ยวไหนแล้วจะเอาน้องไปด้วย ก็ประสบปัญหา เพราะโรงแรมในบ้านเรามักจะไม่ให้น้องหมาเข้าพักกับเราด้วย หรือเอาน้องไปพักด้วย ก็ต้องตระเตรียมข้าวของกันราวกับจะย้ายบ้าน ดูโกลาหลยิ่งนัก จนบางทีอ่อนใจไม่ต้องปงต้องไปกันละ
ฟร้อนด้านหน้า และรีเซฟชั่น
แต่วันนี้ค่ะ จะพาน้องอาร์ตี้มาเที่ยวทะเล ไม่ไกลหรอกค่ะ พัทยาแค่นี้เอง ไม่ค่ะไม่ใช่หาดพัทยา มันเอาท์ละ อยากไปพักผ่อน นอนเล่น เดินเล่น หาดสงบ ๆ ไม่เจี้ยวจ๊าว กรี๊ดกร๊าดดดดดดดดดดด เวลาเราพาน้องไปเดินเล่น แถว ๆ เขาพระตำหนัก หาดยินยอม เป็นทำเลที่ดีค่ะ แถมยังมีโรงแรมที่ให้น้องอาร์ตี้ของเราพักร่วมกับเราได้ด้วย ถึงตรงนี้แล้ว จองสิค่ะ รออะไร !!! Hill Fresco Pattaya (ฮิลเฟรสโก้ พัทยา)
ล๊อบบี้ ลิฟท์ และโถงทางเดิน
Hill Fresco Pattaya (ฮิลเฟรสโก้ พัทยา) เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว ที่บอกตรง ๆ ค่ะว่าราคาถูกมาก เพิ่งเปิดให้บริการห้องพักที่เข้าพักร่วมกับสุนัขได้ โดยต้องเพิ่มค่าบริการอีกคืนละ 500 บาท สนนราคารวมค่าห้องก็ตกสองพันกว่าบาทนิดหน่อย แต่เดี๋ยวก่อน ที่นี่จัดที่นอนไว้ให้น้องหมาต่างหาก และเราสามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ตรงไหนก็ได้ภายในห้อง มีจานอาหาร จานน้ำให้น้องครบถ้วน แถมยังมีขนม สแนคต่าง ๆ ไว้สำหรับน้องด้วย ซึ่งจากประสบการณ์ที่พาน้องไปเที่ยวมาก็หลายที่อยู่ โรงแรมอื่น ๆ ไม่ค่อยมีของเหล่านี้ไว้ให้น้อง เราต้องเตรียมกันเไปเอง นี่ก็เลยช่วยเราตัดปัญหาการแปลงร่างเป็นบ้าหอบฟางไปได้อีกเปราะหนี่ง
ภายในห้องคาบาน่า ที่เปิดให้เจ้าของสามารถพักร่วมกับน้องหมาขนาดไม่เกิน 10 Kg. ได้
แต่อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ทางโรงแรมเพิ่งเริ่มกิจกรรมการให้เจ้าของได้พักร่วมกับน้องหมาของตัวเองดังนั้น จึงยังไม่มีห้องให้เลือกหลาย Type นัก มีแต่ห้อง คาบาน่า ขนาด 37 ต.ร.ม. เพียงห้องเดียว ดังนั้น ถ้าจะไปต้องโทรไปสอบถามยืนยันกันให้แน่ใจก่อนว่าห้องว่างพร้อมจองหรือไม่ อ้อ แล้วน้องหมาก็ขอเป็นน้องหมาไซด์เล็ก ไม่เกิน 10 Kg. นะคะ ตัวใหญ่เกรงจะดูแลไม่ไหวค่ะ
สตูร์วางของ ตู้เย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง โอ๊ะ ๆ มีขนมขัดฟัน และคุ๊กกี้ให้น้องอาร์ตี้ด้วย
มาค่ะ มาชมห้องคาบาน่าที่เราจะพาน้องอาร์ตี้มาพักกันคืนนี้ เริ่มจากเปิดห้องเข้าไป เราจะพบกับการตกแต่งโดยการใช้โทนสีขาว ดูสะอาดสะอ้าน การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และขนาดห้องทำให้ไม่อึดอัด ด่านแรกที่เราเจอคือตู้บิลอินสำหรับใส่เสื้อผ้า ข้างในมีชุดคลุมอาบน้ำ 2 ชุด รองเท้าใส่ในห้องและตู้นิรภัย เหมือน ๆ กับโรงแรมทั่วไป แต่สิ่งที่ประทับใจสำหรับเราคือ ตู้เย็นค่ะ เป็นตู้เย็นขนาดกลาง ที่เปิดมาก็เย็นแล้ว ไม่ต้องรอความเย็นกว่าจะเริ่มทำงาน เหมาะกับท่านที่ใช้อาหารสดให้น้องทานค่ะ เก็บใส่ตู้เย็นได้อย่างสบายใจ
ถัดไปเป็นโต๊ะเล็ก ๆ ไว้นั่งกินขนม หรือทำงาน มีเก้าอี้นุ่ม ๆ พร้อมสรรพ ที่เก๋ไก๋สไลเดอร์มาก คือ โคมไฟ เปิดตอนกลางคืนแล้วสวยมาก ถัดจากโตีะทำงานก็เป็นทีวีจอแบนและชั้นวางของหน้าที่วี เลยไปก็เป็นมุกเล็ก ๆ ไว้สำหรับนอนเล่น กินขนม เปิดม่านออกไปก็จะมองเห็นสระว่ายน้ำ ยิ่งตอนกลางคืน ยิ่งเปิดไฟสวย
ส่วนของมุมนั่งเล่น ดูทีวี กินขนม หรือมองสระว่ายน้ำสวย ๆ
มาดูการตกแต่งห้องสำหรับห้องคาบาน่าที่สามารถนำน้องเข้าพักได้ด้วยว่ามีความพิเศษอย่างไรนะคะ เริ่มจากผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนสั่งทำกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ สั่งทำจากผ้าที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ ไม่เก็บฝุ่น เป็นลายน้องหมาน่ารักทั้งปลอกหมอน และผ้าปู เห็นแล้วนอนไม่ลงเลยค่ะ กลัวยับ สวยจัง !!!
ที่นอนลายน้องหมา
ได้คุยกับผู้จัดการ เธอว่าเพื่อเป็นการเอาใจลูกค้าที่รักน้องหมา น่าจะชอบลายน้องหมาแบบนี้ อีกทั้งเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับห้องคาบาน่าแบบธรรมดา และห้องคาบาน่าแบบที่สามารถนำน้องเข้ามาพักด้วยได้
ปลอกหมอนลายน้องหมาน่ารัก
มองออกมาข้างนอกเป็นวิวสระว่ายน้ำ
ที่นอนของน้อง เราสามารถเอามาวางข้าง ๆ เตียงเรา หรือส่วนไหนของห้องก็ได้
เพราะมีน้ำหนักเบา นุ่ม สบาย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง อยากบอกว่า สบู่ แชมพู โลชั่น หอมมาก กลิ่นแบบต้นไม้ ธรรมชาติ
จากระเบียงหน้าห้อง ที่ทางโรงแรมล้อมลูกกรงไว้เพื่อไม่ให้น้องหมาออกมาข้างนอกเมื่อเราเผลอ
ดูภายในห้องกันแล้ว มาดูรอบ ๆ โรงแรมกันบ้างค่ะ อยากบอกว่าสระว่ายน้ำสวยมาก โดยเฉพาะกลางคืน มีส่วนของน้ำตกที่จะเปิดตอนค่ำ ๆ (เสาสีน้ำตาลที่ท้ายสระ) และส่วนของจากุสซี่ที่น่านั่งที่สุด นอกจากนี้ยังมีบาร์น้ำไว้ค่อยให้บริการบริเวณริมสระน้ำอีกด้วย ดีงามที่ห้องของเราแค่เปิดประตูออกมาก็ได้บรรยากาศของสระว่ายน้ำละ
ห้องออกกำลังกาย
ถนนลงหาดยินยอม
เอาหละค่ะ ในเมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว จะรออะไร ไปเที่ยวทะเลกันค่ะ บอกไว้ก่อนนะคะว่า Hill Fresco Pattaya (ฮิลเฟรสโก้ พัทยา) นี่ไม่ติดทะเล แต่ใช้เวลาเดินเตร็ดเตร่จากโรงแรมไปยังหาดยินยอมแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เส้นทางไม่ยากเย็น เดินออกมาถนนใหญ่แล้วเดินตรงไปก็ถึงแล้ว
หาดยินยอม พัทยา
พอดีเราขี้เกียจขับรถมาค่ะ กลัวไม่มีที่จอด ที่ไหนได้ที่จอดรถเต็มเลย สองข้างทางเป็นร้านขายของ ร้านขายอาหาร ใกล้ ๆ โรงแรมมีร้านสะดวกซื้อตั้ง 2 ยี่ห้อ เรียกว่าสบายค่ะ
เด็ก ๆ ลงเล่นน้ำกับครอบครัว
ถึงเวลาเปิดตัว มันต้องเปิดตัวที่ริมหาดนี้ ถึงจะสมศักดิ์ศรี อาร์ตี้ของแม่
หาดยินยอมเป็นหาดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่นักค่ะ สามารถเดินเลาะไปได้ถึงหาดจอมเทียน แต่ไม่เดินจะดีกว่า มองเห็นฝนเริ่มตั้งเค้ามา กลัวสปีดกลับโรงแรมไม่ทัน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่หาดนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะโรงแรมแถวนี้สวนใหญ่ติดทะเล จึงสามารถเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวมานอนอาบแดดที่ชายหาดกันได้เลย
ซากเม่นทะเล ที่ถูกน้ำทะเลพัดมาเกยหาด
หนูไม่รู้จักไหนลองชิมซิ อร่อยมั้ย ดีนะมันตายแล้ว ถ้ามันอยู่ในทะเล ปากบานไปแล้วลูก
เราเดินเล่นกันอยู่บริเวณริมหาดพักใหญ่ เพราะอาร์ตี้ดูตื่นเต้น วิ่งเล่น อยู่รอบ ๆ ตัว เลยไม่จำเป็นต้องใช้สายจูงแต่อย่างใด คนที่มาเที่ยวหาด ส่วนใหญ่ก็มอง ๆ แล้วยิ้มให้ ฝรั่งหลายคนคงเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาของอาร์ตี้ เขามาขอถ่ายรูปก็มี และทั้งหมด ไม่ว่าคนไทย หรือคนต่างชาติเข้ามาทักทายโดยสุภาพ น่ารักจริง
เดินเล่นกับแม่ที่ริมหาด
อีกมุมหนึ่งของหาดยินยอม
เดินเล่นกันอยู่พักใหญ่ เลยคิดว่าควรจะเข้าไปอาบน้ำอาบท่าและพักผ่อนเสียหน่อย ไว้ค่ำ ๆ ค่อยออกมาหาอะไรกินกันน่าจะดี เพราะเห็นร้านรวงมากมาย ร้านขายอาหารน่านั่งหลายร้าน แต่ก็แอบหวั่นใจว่าเขาจะให้อาร์ตี้ของเราเข้าร้านหรือเปล่านะ แต่อย่ากระนั้นเลย กลับโรงแรมไปตั้งหลักก่อนดีกว่า
มุมสูงของสระว่ายน้ำในโรงแรม
พอมาถึงพี่ก็ยึดเตียงนอนเลยทีเดียว
สนใจกันบ้างมั้ย แบบว่าอยากพัก อยากนอนเหมือนกัน ผ้าปูปลอกหมอนเขาสวยน่านอนเห็นมั้ย
ลงมาเลยที่นอนตัวเองอยู่ข้างล่าง ไม่ไป จะให้แม่ไปนั่งเป็นเพื่อน ได้ ๆ จัดไป
พอมีเพื่อนนั่งด้วยหละนอนสงบทีเดียว
สระว่ายน้ำยามค่ำ
เอาเข้าจริง ๆ พอถึงเวลาที่ว่ากันไว้ว่าจะไปกินข้าวข้างนอก ก็เป็นอันล้มเลิกเพราะดูทีแล้วฝนกำลังจะมา สองกลัวเขาไม่ให้เอาอาร์ตี้เข้าร้าน ต้องวิ่งเอากลับมาไว้ที่โรงแรมอีก จะทิ้งไว้ไกล ๆ ก็ห่วง เอาหละ ลองเปิดเมนูของทางโรงแรมเลือกดู บอกเวลาว่าจะลงไปทานตอนไหน เรียบร้อย นอนเล่่นต่อได้อีกหน่อย
ห้องอาหารของโรงแรม
และด้วยความโลภ ประกอบกับความหิวของตัวเอง นึกว่าอาหารของโรงแรมจะจานเล็ก ๆ กลัวจะไม่พอกิน สั่งมาสัก 4 - 5 อย่างกินกัน 3 คนก็น่าจะพอ เดี๋ยวไม่พอค่อยสั่งใหม่ ที่ไหนได้ พอเจ้าหน้าที่เขายกออกมา เริ่มนั่งมองหน้ากัน จะกินกันหมดมั้ยนี่
(ซ้ายบน) ปีกไก่ทอด (ขวาบน) ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
(ซ้ายล่าง) ต้มยำ (อุดม) กุ้ง (ขวาล่าง) ก๋วยเตี๋ยวยำหมูมะนาว
(ซ้าย) จ้วงเส้นก๋วยเตี๋ยวมาโชว์ (ขวา) ไข่เจียวกับพริกน้ำปลา
ทำเป็นเล่นกับข้าว 5 อย่างกินกันสามคนแทบไม่หมด แล้วคิดไม่ผิดจริง ๆ เพราะนอกจากฝนจะลงเม็ดหนักมากแล้ว อาหารที่สั่งมาล้วนแต่อร่อยทุกอย่าง ปีกไก่ทอดแห้ง กรอบ ๆ เค็ม ๆ ถูกใจ, ไก่ผัดมะม่วงหิมพานต์ชอบตรงที่เอาไก่ชิ้น ๆ ไปชุปแป้งทอดก่อนเอามาผัด แต่ก็ไม่ได้ทำให้แป้งที่ชุปทอดมายุ้ยแหยะ, ต้มยำกุ้งไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้นว่ารสจะไม่จัดจ้านแบบคนไทยแท้ ๆ กิน แต่ก็ไม่ได้อ่อนจนเสียรสชาติ แถมทำให้เชื่อว่าทะเลแถบนี้อุดมสมบูรณ์เพราะกุ้งเต็มชามมาเลย
สระว่ายน้ำยามค่ำคืน เสียดายแต่ว่าฝนตกแรงไปหน่อย โรงแรมเลยไม่ได้เปิดน้ำตก
แต่ที่เก๋ คือ ก๋วยเตี๋ยวยำหมูมะนาว ที่ใช้เส้นใหญ่นุ่ม ๆ รองมาใต้หมูมะนาวรสจัดจ้าน ตัวเส้นดูดซับน้ำยำ รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน เอาไว้ได้เป็นอย่างดี (เคยลองทำน้ำยำไม่เข้าเส้น ไปถามเชฟ ๆ ว่าต้องลวกเส้นให้หมดมันก่อน) ส่วนไข่เจียวไม่ต้องพูดถึง เป็นอาหารสิ้นคิดที่ต้องมีในแทบทุกมื้อ แถมเจ้าหน้าที่ยังใจดี รับเอาอาร์ตี้ไปดูแลระหว่างเรานั่งกินข้าวกันด้วย
หลังอาหารค่ำก็ได้เวลาพักผ่อน เพื่อตื่นมารับยามเช้าอันสดชื่น เพราะเจ้าตัวแสบเข้าไปอึไปฉี่ในห้องน้ำเรียบร้อย แบบไม่ต้องกลัวผิดที่กันเลยทีเดียว
บรรยากาศยามเช้าหน้าห้องคาบาน่าที่นอนกับน้องหมาอาร์ตี้ของเราค่ะ
ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากอาหารค่ำเมื่อคืนแล้ว มื้อเช้าจึงเป็นอะไรที่เราค่อนข้างคาดหวังกันมาก แล้วก็ไม่ผิดหวัง อาหารเช้าที่มีไว้ให้บริการ ค่อนข้างหลากหลาย และยกเติมทันทีที่ของหมด และอาหารอร่อยทุกอย่าง ผักผลไม้สด ๆ น้ำสลัด ถูกใจทุกรายการ แต่ต้องรีบมาหน่อย เพราะโรงแรมแถบนี้รับทัวร์จีนแทบจะทุกโรงแรม ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท กินก่อนได้เปรียบ
มุมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์
ด้านนี้เป็น American Breakfast
สลัดต่าง ๆ
ไม่ค่ะคราวนี้เราไม่เอาน้องอาร์ตี้ไปฝากเจ้าหน้าที่ไว้ เพราะเข้าใจว่าเขาคงจะยุ่ง ๆ กันเพราะแขกต้องลงมาทานข้าวตอนเช้ากันแน่ ๆ เราเลยเอาอาหารเช้ามาทานที่ห้องค่ะ ลืมบอกไป ห้องคาบาน่าที่สามารถนำน้องหมาเข้ามาพักได้ของที่นี่ ค่อนข้างเป็นสัดส่วนค่ะ อนุญาติให้นำอาหารเช้ามาทานที่ระเบียงห้อง ริมสระว่ายน้ำได้ เพราะจะได้มาทานร่วมกับน้องหมาที่น่าห้อง และไม่เป็นการรบกวนแขกท่านอื่น ๆ
อาหารเช้า
กินข้าวเช้าด้วยกัน
หลังจากกินข้าวเช้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งเล่น และถ่ายรูปกันแถวริมสระน้ำ ก่อนจะออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ แบบไม่ลืมที่จะแวะซื้อของฝากกลับบ้านค่ะ
สายลม ที่ผ่านมา
วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.52 น.