หวัดดีคร้าบ ชุมชนคนรักการท่องเที่ยว หลังจากกลับจากนครวัดมาก็เลยอยากจะมารีวิว เที่ยวเสียมเรียบกันแบบง่ายๆ "สไตล์นักแบกเป้" เอ้า!! ลุยย!!!!

ทำความเข้าใจก่อน?

เมืองเสียมราฐหรือชื่อท้องถิ่นว่าเมือง"เสียมเรียบ" (เขมร: សៀមរាប เสียมราบ) มีความหมายว่า "สยามราบ" หรือ "สยาม (แพ้) ราบเรียบ" เอาแบบผิวๆ แค่นี้พอ เดี๋ยวจะไม่สนุก ขอต่อเลยแล้วกัน!? เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนอรัญประเทศ (ตลาดโรงเกลือ) ราวๆ 150 กิโลเมตร ฝ่าๆ ไม่ใกล้ไม่ไกล ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2-3 ช.ม. และอยู่ใกล้กับทะเลสาบเขมร(โตนเลสาบ) (เขมร: បឹងទន្លេសាប บึงทนฺเลสาบ) มีนครวัดและกลุ่มปราสาทหิน เป็นแลนด์มาร์กในการตั้งกระทู้นี้จ้า เดินทางกันต่อโลดดด!!!

ขอเริ่มต้นทริปที่ "หมอชิต" เปรียบดั่งหลักกิโลเมตรที่ 0 แล้วกัน

หาวิธีที่จะมาถึงหมอชิตได้แล้ว ก็ดิ่งไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วเลยครับ อยู่ชั้นล่างตรงกลางเลยครับ แล้วก็เลือกการเดินทางที่สะดวกที่สุดของท่านได้เลย มีตั้งแต่นั่งรถทัวร์จากหมอชิต-เสียมเรียบ ไปจนถึงนั่งรถตู้ลงที่ตลาดโรงเกลือ

ปล.ถ้าเลือกรถโดยสารต้องจองมาก่อน หรือถ้าสตรองจริงๆ ก็วัดกันหน้าเคาน์เตอร์เลยครับ ว่าจะมีที่ว่างหรือเปล่า และถ้าใครเลือกขึ้นรถตู้จากท่ารถ ตรงข้ามกับฟิวเจอร์ฯ (ZPELL) ก็ขึ้นได้เหมือนกันครับ

แต่ผมเลือกนั่งรถตู้เพราะว่ามันเต็มครับ ถถถถถถถ ราคาค่าตั๋วก็ตามนี้เลยจ้าา

ได้ตั๋วแล้วเราก็มายืนรอที่ชานชลา ตามคำบัญชาจากเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว เพื่อรอรถตู้ไปส่งยังตลาดโรงเกลือเลยคร้าบ

พอมาถึงตลาดโรงเกลือ ก็ตรงดิ่งไปหาข้าวกินกันก่อน ร้านอาหารจะอยู่ท้ายๆ ตลาดนั่นแหละคร้าบ หรือไม่ก็ถามคนแถวนั้นก็ได้ครับถ้ากลัวไปไม่ถูก...

แต่ที่สำคัญ!!! จำไว้ว่าที่แลกเงินจะอยู่ที่ ธนาคารกสิกรด้านขวาของตลาด ริมทางรถไฟ ตรงนี้สามารถแลกเงินในราคาเป็นธรรมที่ฝุดแล้ว (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 5 ธ.ค. 58 อยู่ที่ 1 USD=36.08฿ รวมกับค่าดำเนินการของธนาคารไปแล้ว)

งบประมาณ ทริปนี้ แลกไปประมาณ 80 เหรียญ ประมาณ 3 พันต้นๆ

เมื่อแลกเงินพร้อมแล้ว ก็กำพาสปอร์ต+เงินดอล์ แล้วดิ่งไปที่ ต.ม. เลยจ้าา

ปล.อย่าลืมเข้าห้องน้ำ ด้วยนะ เพราะจากนี้จะไปถึงเสียมเรียบเลย ห้องน้ำต้องหยอดเหรียญ 5 บาท ด้านขวามือ หลังธนาคารกสิกร(ตรงรางรถไฟ)

หลังจากทำเรื่องขาออกแล้ว ก็เดินมาเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ ตั้งโต๊ะเพื่อกรอกใบขาเข้า อย่าไปยื่นพาสปอร์ตให้นะครับ เพราะคุณจะเสียตังค์ค่าเขียนใบขาเข้า ไปประมาณ 2 เหรียญ เท่านั้นเอง!!! ให้เดินมาทางขวามือ ตามทางเรื่อยๆ ดังภาพนี้เลย
คร้าบ


แล้วก็จะเจอ แถวซึ่งยาวมาก ให้ขอใบขาเข้ากับเจ้าหน้าที่แถวนั้นได้เลยครับ เค้าจะยืนถืออยู่ กรอกเสร็จแล้วก็เข้าแถวได้เลย

ปล.ให้เลือกแถวสั้นๆ และคนน้อยๆ ต่อแถวกับคนไทยจะไวกว่าเยอะเลยครับ

นั่งรถเข้าเสียมเรียบยังไง?

มาถึงทางเลือกอีกแล้วครับ ทางเลือกที่ต้องคุ้มที่สุด ปกติแล้วก็คือนั่งรถโดยสาร ราคา 9 เหรียญ จาก ต.ม.กัมพูชา ขาเข้า จะไปส่งตรงขนส่งของกัมพูชา (เป็นขนส่งที่มีแท็กซี่จอดรออยู่เพียบเลย) หรือ นั่งแท็กซี่จากตรงนั้น คนละ 12 เหรียญ (4 คน) ส่งถึงบ.ทัวร์ของแท็กซี่คันนั้นๆ ทำไมต้อง 12 เหรียญ!? ทำไมต้อง บ.ทัวร์!? เดี๋ยวมีคำตอบครับ และเพื่อความรวดเร็วในการเดินทางเราก็แชร์แท็กซี่กับคู่สามีภรรยาขาวรัสเซีย อ่อ ลืมบอกไป ผมเดินทากับเพื่อนอีก 1 คนครับ รวมทั้งหมด 4 คน พอดี กอรปกับได้อ่านรีวิวหลายๆที่ ก็บ่งบอกได้ว่าต้องต่อแท็กซีเข้าเสียมเรียบอยู่ดี ก็เลยตัดสินใจได้ว่าแท็กซี่ไปเถอะ ถูกกว่าเห็นๆ ก็นั่นแหละครับ ลงเอยที่แท็กซี่อยู่ดี มาครับเรามาดูบรรยากาศในรถแท็กซี่กันบ้างว่าน่านั่งขนาดไหน ;)

อ่อ ลืมไปว่า ถนนที่กัมพูชาขับทางขวานะคร้าบ และแน่นอนบรรยากาศ แจ่มจริงๆๆ


สมกับวันหยุดจริงๆ 55555


อ่าห์ รถโดยสารในตำนาน เจอกันเสียมเรียบนะคร้าบ


ในที่สุดก็ถึงเสียมเรียบ พร้อมกับคำตอบที่ว่าทำไมเค้าถึงส่งเราแค่บ.ทัวร์ และต้องต่อสามล้อไปเอง

มาดูคำตอบกัน!!!

ที่แท็กซี่ส่งแค่ บ.ทัวร์ของแท็กซี่นั้น เพื่อเค้าจะมาขายทัวร์ต่อนั่นเอง เรียกว่า One stop service เลยทีเดียว เมื่อมาส่ง แท็กซี่จะส่งไม้ต่อให้กับ คนขายทัวร์ครับ เค้าจะมาขายทริปต่อ นั่นก็คือ ทริปนครวัด นครธมนั่นเอง ที่แน่ๆ ก็คือมีเหมาค่าสามล้อ ทั้งวัน รวมถึงดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ในวันเดียว ราคา 20 เหรียญ เสียค่าเข้านครวัดเอง ถ้ารอบเล็ก 20 เหรียญ ถ้ารอบใหญ่ ก็ 40 เหรียญ หรือจะไป ทัวร์โตนเลสาบ ซึ่งต้องเสียค่าเข้าแยกจากค่าเหมาสามล้ออีก 20 เหรียญ ทริปโตนเลสาบจะได้นั่งเรือ ชมพระอาทิตย์ตกด้วย ได้เล่นน้ำ ได้ไปกลางทะเลสาบ

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ บ.ทัวร์ พยายามขายหลังจากส่งเรามาถึง บ.ทัวร์เค้าแล้ว ถ้าเรามีการจองทัวร์ของเราไปเองแล้ว แนะนำว่าให้ไปส่งตรงถึงที่พักได้เลยครับ

ในที่สุด เราก็ไหลไปตามเทคนิคการขายของยอดเซลล์จากบ.ทัวร์ สัญชาติกัมพูชา เลยจัดโปรเหมาสามล้อ 1 Day trip+ชมนครวัด(รอบเล็ก) รวมทั้งหมด 40$ เบาๆ จ่ายเงินกันเสร็จก็ขึ้นรถสามล้อคู่ใจ ไปเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ นั่นก็คือ One stop hostel ราคาตกคืนละ 7$ อยู่กัน 2 คืน 14$

สามล้อประจำตัว

หน้าโรงแรม One stop hostel


แล้วก็ทำตามพิธีรีตอง เช็คอินเสร็จสรรพ เก็บของขึ้นห้อง แต่ตาเหลือบไปเห็นว่า ที่โรงแรมก็มีขายทัวร์หวะเห้ยยยย จอยทัวร์ได้ด้วย แต่คำนวนไปคำนวนมา ซื้อก่อนหน้าก็คุ้มกว่าแหะ เอ้ามาดูกันเลย


ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในห้องมาชมนะครับ เพราะว่า คนอยู่เยอะเกรงใจคนในห้อง ก็เลยลงมาแล้วก็เสต็ปเดิมครับ มุ่งหน้าสู่ Pub street อารมณ์เหมือน walking street ในพัทยา แต่ไม่โหดกว่านะครับ แถวนี้จะเป็นไสตล์ข้าวสาร แต่ของขายไม่เยอะเน้นเดินเมา อย่างเดียว ร้านนั่งชิล หลายๆ ร้าน ไม่เงียบเหงาเท่าไหร่


บรรยากาศดีๆ ดนตรีเพราะๆ

ของทำมือแจ่มๆ

น้ำปั่นอร่อยๆ

ของที่ Pub Street ส่วนใหญ่ก็ราคา 1$-2.50$ ค่อนข้างแพง อยู่หน่อย

แต่ทีเด็ดที่สุดนั่นก็คือ มีชา ภาษากัมพูขา : មីឆា, ឆាមី (Eng: Fried instant noodle) ภาษาไทย "ผัดมาม่า" ราคา 1$ ถ้าใส่ไก่ ใส่หมูก็บวกไป 0.5$ กันเลยทีเดียว จะเป็นไง ไปชมกันเลยครับ


เราสามารถเลือกผสมเส้นกันได้ หน้าตาจะเป็นแบบนี้

เสร็จแล้วน่าตาจะเป็นแบบนี้


แล้วก็แบบนี้


ส่วนน้ำ ที่นี่ขายขวดละ 2,000 เรียล (0.5$) ที่นี่เรตเงิน 4,000 เรียล=1$ นะคร้าบ น้ำจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่ก็มีขายที่มินิมาร์ทเหมือนกัน

กินเสร็จเดินเล่นอีกนิดหน่อยก็กลับโรงแรมนอน เตรียมพร้อมกับ one day trip ทัวร์นครวัด และหมู่ปราสาทรอบๆ เย่!!!!


ตื่นมาเช้าวันเสาร์ เรานัดกับพี่สามล้อที่ชื่อ พี่อาราม ก็นัดที่หน้าโรงแรมไว้ประมาณ ตี 5 ก็เตรียมตัวกันพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นกันหละครับ ก่อนอื่นต้องแวะซื้อตั๋วเข้าชมนครวัด ราคา 20$ เป็นใบเบิกทาง ที่ห้ามหายโดยเด็ดขาด เพราะเค้าจะเช็คทั้งวันเลยหละครับ แวะซื้อตั๋วเสร็จก็ได้เวลาเดินทางเข้านครวัดแล้วหละครับ

ทำความรู้จักนครวัดกันก่อน!?

นครวัด (กัมพูชา: អង្គរវត្ត) เป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ในเมืองเสียมเรียบ สร้างในสัมยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 โดยเป็นศาสนสถานประจำตัวของพระองค์ แต่เดิมเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู สร้างเพื่อถวายแด่พระวิษณุหรือพระนารายณ์ ในปีพ.ศ.1720 ชาวจามได้บุกรุกขอม ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ย้ายเมืองหลวงไปที่นครหลวง หรือเสียมราฐในปัจจุบัน หลังจากนั้นพระองค์จึงสร้างเมืองนครธมและปราสาทบายน ห่างจากนครวัดไปทางเหนือ เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของชาวขอม ปราสาทนครวัดมีขนาดใหญ่มากถึง 200,000 ตร.ม. ที่เด็ดที่สุดและควรค่าแก่การเป็นมรดกโลกก็คือ แผนผังการสร้าง ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของปราสาทขอม ซึ่งมีปราสาทเป็นศูนย์กลางจำนวน 5 หลังอยู่บนฐานสูง ที่เชื่อว่าเป็นศูนย์กลางจักรวาล และมีกำแพงด้านนอกยาวด้านละ 1.5 ก.ม. มีคูน้ำล้อมรอบตามแบบมหาสมุทรบนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งใช้แรงคนนับแสน ช้างอีก 40,000 เชือก ขนหินประมาณ 600,000 ลบ.ม. จากเขาพนมกุเลน ซึ่งห่างออกไปกว่า 50 ก.ม. มาสร้างและใช้เวลาสร้างมากถึง 100 ปี นับว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้นะครับ

ต่อครับหลังจากดื่มด่ำกับประวัติ นครวัดคร่าวๆ แล้วเรามาดื่มด่ำวิว ที่เด็ดที่สุดสำหรับทริปนี้เลยแล้วกันนะครับ นั่นก็คือ วิวปราสาทนครวัดสะท้อนน้ำ ถือเป็นไฮไลท์ประจำเช้านี้เลยครับ ไปชมกันเล้ยยยย

วิวปราสาทนครวัดสะท้อนผิวน้ำในตำนาน

ตัดกับวิวนักท่องเที่ยวสะท้อนน้ำ

แนะนำว่าถ้าจะมาดูวิวนครวัดสะท้อนน้ำต้องมาถึงตอนตี 4.30 จะแจ่มมากๆ ไม่ต้องรอตอนตี 5 นะครับ เพราะคนจะเยอะมากก

หลังจากนั้นเราก็หนีนักท่องเที่ยวไปที่ปราสาทบายน เพื่อจะได้เที่ยวให้เยอะที่สุดหละคร้าบ เอ้ามูฟๆๆๆ

ชมปราสาทบายน

ปราสาทบายน (กัมพูชา: ប្រាសាទបាយ័ន) เป็นปราสาทที่สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นศาสนสถานที่ค่อนข้างซับซ้อนในแง่โครงส้รางและความหมาย เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงด้านความเชื่อและศาสนา แต่ที่พีคที่สุดคือ ปราสาทนี้จะมีรูปสลักพระนางอัปสราร่ายรำตลอดทั้งปราสาทอีกด้วย

เรามาชมกันเลยดีกว่านะครับ ว่าปราสาทจะสวยแค่ไหน หน้าเดิน!! เฮ้!!

ด้านหน้าปราสาทบายน

ภายในปราสาทบายน


รูปพระนางอัปสราร่ายรำ

บริเวณเสาภายในปราสาท


ด้านในปราสาท


บางส่วนของปราสาทบายน


บางส่วนของปราสาทบายน


อีกมุม


พระนางอัปสรา

เอาหละครับ หลังจากทัวร์ปราสาทบายนกันแล้ว ก็ไปต่อที่ปราสาทตาพรหมกันเลยดีก่าครับ ไปตามกันต่อที่เม้นท์หน้าเลยจ้ามาแล้วคร้าบบ ต้องขอโทษที่ทำให้รอนาน มาครับมาลุยกันต่อกับปราสาทตาพรหม

ปราสาทตาพรหม

ปราสาทตาพรหม (กัมพูชา: ប្រាសាទតាព្រហ្ម) เป็นปราสาทเห็นในยุคท้ายๆ ของอณาจักรเขมร ซึ่งสร้างโดยมีความเชื่อในเรื่องพุทธศาสนา ลักษณะโดดเด่นของปราสาทคือมีต้นไม้ รากไม้ ปกคลุมจำนวนมาก ในภายหลังเป็นรัชสมัยที่กษัตริย์นิยมนับถือศาสนาฮินดู จึงมีการทำลายปราสาทตาพรหมทิ้ง จนเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไม่มากนัก แต่ที่ปราสาทตาพรหมโด่งดังมากที่สุดก็คือได้ใช้เป็นที่ถ่ายทำหนังเรื่องทูมไรเดอร์ เจมส์บอนด์ เป็นต้น

และแน่นอนปราสาทตาพรหม ก็นิยมไปด้วยนักท่องเที่ยว มากมายเช่นเคย เรามาสำรวจ ปราสาทกันพลางๆ ดีกว่าครับ


และที่สุดท้ายคือ ปราสาทพนมบาเค็ง ปิดทริปเพื่อดูพระอาทิตย์ตก ตามแพลนที่วางเอาไว้

ปราสาทพนมบาเค็ง!?

ตั้งอยู่บนภูเขาสูง 75 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สร้างตั้งแต่สมัยของพระเจ้ายะโสวรมัน ที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.1432-1453 เป็นศาสนสถานฮินดูถวายแด่ พระศิวะ โดยมีศิวะลึงค์ (Royal Linga) ไว้ที่มุมทั้งสี่ของปราสาท เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองในระบอบ "กษัตริย์สมมุติเทพ" นั่นเอง

แต่เส้นทางการรอขึ้นดูพระอาทิตย์ตกช่างยาวไกลเหลือเกิน เพราะมีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าแถวรออยู่เป็นจำนวนมาก (เกิ๊นนนนนน) เพราะฉะนั้นเราควรจะมาถึงที่นี่ประมาณ 4 โมงเป็นอย่างน้อย เพราะไม่งั้นจะอดเก็บภาพยามเย็น ณ ปราสาทพนมบาเค็ง ไปเลย


เมื่อเก็บภาพและดื่มด่ำกับความสวยงาม บนปราสาทพนมบาเค็งกันอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เวลาเดินทางกลับจากสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญที่สุดของโลกใบนี้

เมื่อกลับมาถึงที่พักก็สลบสไลกันไปตามสภาพ พอฟื้นขึ้นมาก็จองตั๋วรถกลับประเทศไทยที่เคาน์เตอร์เช็คอินของโฮสเทล ด้วยราคา 8$ เป็นรถบัสมารับหน้าโฮสเทล-ชายแดนปอยเปต เวลา 10 โมง (สำหรับที่ One stop hostel แห่งนี้ จะมี 3 เที่ยว คือ 8 โมง 9 โมง และ 10 โมง แต่ที่อื่นไม่แน่ใจว่ามีกี่เที่ยวต้องถามเองจ้า) แต่ตอนกลับจริงๆ ดันได้นั่งแท็กซี่กลับซะงั้น สุดคุ้มด้วยราคา 8$ ชิลมากก มาส่งที่ชายแดนเลย เราเพียงแค่เดินและทำเรื่องกลับไทยเท่านั้น ก็เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับคนที่อยากจะมาเที่ยวแบบชิลๆ ที่เสียมเรียบเดินดูนครวัด ซากอารยธรรมในอดีต ก็แนะนำให้มาเถอะครับ มาไม่ยากเลย แต่ต้องมีสติและคำนวนเงินดีๆ นะครับ เพราะอาจจะเสียท่าโดนฟันเอาได้ง่ายๆ ตอนสุดท้ายนี้ก็ขอแจกแจงรายละเอียด และค่าใช้จ่ายต่างๆ เลยแล้วกันนะครับ

ค่ารถตู้หมอชิต-โรงเกลือ 209฿

ค่าอาหาร(ฝั่งไทย ที่โรงเกลือ) 75฿

แลกเงินประมาณ 80$ (3,xxx฿)

ค่าแท็กซี่ปอยเปต-เสียมเรียบ 12$/คน

ค่าเข้าชมนครวัด(รอบเล็ก) 20$

ค่ารถสามล้อ 20$ (2 คน=10$/คน)

ค่า Tip สามล้อ 3$ (2 คน=1.5$/คน)

ค่ารถกลับ (โฮสเทล-ด่านปอยเปต) 8$

ค่ากิน+แอลกอฮอลล์ 13$

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่ากับ 76$

3D/2N กับงบ 3,xxx บาท ชมนครวัดและแหล่งโบราณสถานต่างๆ ก็ถือว่าคุ้มแหละครับ สำหรับวันหยุดดีๆ แบบนี้ ถ้าใครกินเยอะก็บอกเพิ่มไปหน่อย แต่เน้นว่า ต้องจ่ายแน่ๆ ประมาณ 40-50$ แน่ๆ แล้วหละครับ เพื่อการท่องเที่ยวและประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ถือว่าคุ้มม แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า นะคร้าบ สวัสดีครับ


สำหรับใครที่สนใจไปเที่ยว เวียงจันทน์-วังเวียง เชิญได้เลยครับผม

EP1: http://bit.ly/1TLa5uG

EP2: http://bit.ly/1I4fdtm



Jarupong.T

 วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.55 น.

ความคิดเห็น