Kinabalu Mountain : ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคินาบาลู เมืองโกตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ เกาะบอร์เนียวเหนือ ประเทศมาเลเซีย ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของมาเลเซีย 'คินาบาลู' หรือ 'ภูเขาแห่งความตาย' ถือเป็นเทือกเขาแห่งจิตวิญญาณของผู้คนบนเกาะบอร์เนียว ยอดสูงสุดของคินาบาลู คือ Low's Peak มีความสูง 4,095.2เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(msl) มีความสูงมากกว่าดอยอินทนนท์เกือบ 2 เท่า
ในอุทยานแห่งชาติคินาบาลู มีความหลากหลายของพันธุ์พืช แบ่งได้ตามระดับความสูง
1.ป่าดงดิบชื้น (Lowland Forest) ระดับความสูง 0 - 1,200msl
2.ป่าดิบเขาต่ำ (Lower Montane Forest) ระดับความสูง 1,200 - 2,350msl
3.ป่าดิบเขาสูง หรือ ป่าเฆม (Upper Montane Forest / Cloud Forest) ระดับความสูง 2,000 - 2,800msl
4.ป่ากึ่งอัลพาย (Subalpine Scrub) ระดับความสูง 2,800 - 3,700msl
5.โซนยอดเขา(Summit Zone) ระดับความสูง > 3,700msl
ด้วยความสูงที่มีมากกว่าจุดสูงสุดในประเทศไทยถึง 2 เท่า ทำให้ความหลากหลายของพืชมีมากกว่า
เราจะสามารถพบเห็นพันธุ์พืชที่แปลกตา พันธุ์พืชประจำถิ่น และพันธุ์พืชหายากได้ที่นี่
////เดินทาง 1 - 3 ก.พ. 2018/////
การจองทริป สามารถจองตรงกับทางอุทยานได้เเต่จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายอย่าง
กรุ๊ปเราเลยจองผ่าน Amazing Borneo Tours
////การเดินทางชิพิต Low's Peak (4,095.2msl)////
- ทริป 3 วัน 2 คืน -
////Day 1
- กรุงเทพฯ - โคตาคินาบาลู - เข้าที่พักในเมือง
(08.30น.- 17.00น.)
////Day 2
- เมืองโกตาคินาบาลู - อุทยานแห่งชาติคินาบาลู (1,564msl)
(05.30น.- 08.00น.)
- อุทยานแห่งชาติคินาบาลู - Timpohn Gate (1,866msl) - ที่พัก Laban Rata (3,273msl)
(09.00น.- 18.30น.) ***ปล.เวลาปกติของคนไทยจะเดินที่ 5 - 6 ชั่วโมง***
////Day 3
- ที่พัก Laban Rata - จุดเช็คพอยด์ Sayat-Sayat (3,668msl)
(02.00น.- 04.40น.) ***ปล.ต้องเดินให้ถึงจุดเช็คพอยด์ก่อนตี 5
- จุดเช็คพอยด์ Sayat-Sayat - Low's Peak (4,095.2msl)
(04.40น.- 06.44น.) ***ปล.ต้องเดินให้ถึง Low's Peak ก่อน 7 โมง
- Low's Peak - ที่พัก Laban Rata (3,273msl)
(07.00น.- 09.40น.) ***ปล.ต้องเดินให้ถึง ที่พัก ก่อน 10 โมง เพื่อเช็คเอ้าท์
- ที่พัก Laban Rata - Timpohn Gate - ที่ทำการอุทยาน
(11.00น.- 17.30น.)
- ที่ทำการอุทยาน - เข้าที่พักในเมืองโกตาคินาบาลู
(18.00น.- 20.00น.)
จุดหมายทริปนี้ของเรา ปรากฏอยู่บนธนบัตร 1 และ 100 ริงกิตมาเลเซีย แหลมๆ จะทิ่มฟ้า
ทริปนี้เรามากับ amazing borneo tours เขาจะจัดการให้ทุกอย่าง ทั้งแต่การติดต่ออุุทยาน คนนำทาง จัดการเรื่องที่พักและอาหาร
เช้านี้ amazing borneo tours มารับเราที่หน้าโรงแรมตอน 05.30น. กลุ่มเรามีสมาชิก 19 คน เขาจึงใช้มินิบัสมารับ ถ้ามากันน่้อยกว่านี้ ก็จะใช้เป็นรถตู้มารับแทน
ออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งช
และนี่จุดหมายของเรา เอาจริงมองออกจากมินิบัสออก
"นี่เราจะไปบนนี้จริงๆ หรอเนี่ย" รู้สึกขาอ่อนแรง
ระหว่างทางก็จะเจออะไรทำนอง
ถึงแล้ว ที่ทำการอุทยานแห่งชาติคินา
ถึงแล้วเราต้องมาลงชื่อรายง
เเล้วเราจะได้บัตรห้อยคอแบบ
จากจุดนี้ เราจะได้อาหารเป็น แอปเปิ้ล ไข่ต้ม แซนวิส ไก่ทอด และน้ำสองขวด พกใส่เป้ไปด้วย
จุดเริ่มเดินที่ Timpohon Gate เริ่มที่ความสูง 1,866msl
ก่อนเริ่มเดิน ไกด์จะอธิบายกฎและแนะนำข้อค
เป็นเส้นทางที่อากาศแปรปรวน
แล้วมีคำถามไปว่า มีทากไหม มีแมลงไหม
ไกด์ตอบว่า
"No"
"Tiger only"
"Tiger more more"
5555 ชอคค คค
ก่อนที่จะผ่านจุดเริ่มเดิน จะมีเจ้าหน้าอุทยาน คอยเช็คชื่อเรา โดยที่เราต้องแสดงข้อมูลหลั
เริ่มเดินราวๆ 9.45น.
อุณหภูมิตอนนี้ วัดได้ 19 องศาโดยประมาณ
เดินออกมาได้สัก 500m จะพบกับ Carson Waterfall ให้ได้เริ่มยกกล้องออกมาถ่า
ทางเดินช่องนี้เป็นบันไดไม้
ทุกๆ 1km จะมีแผนที่บอกระยะทางและควา
คือหยุดถ่ายรูป?? ป่าวเราเหนื่อย
มองออกไป หมอกๆ แบบนี้ก็ฟินละนะ ใครจะรู้ว่าหลังจากความฟินน
ราวกิโลเมตรที่ 4-4.5 ความสูง 2,600-2,700msl
เดินมาถึงจุดนี้เกือบบ่าย 3 เป็นครั้งแรกที่มองขึ้นไปเห
ทางเดินขึ้นมีแต่บันได บันได แล้วก็บันไดหิน แล้วก็หิน เอาจริงนาทีนี้น้ำตาจะไหล
ยังไงก็ต้องเดินต่อ ปะ!!
ตอนนี้เดินผ่านกิโลเมตรที่ 5 มาแล้ว สภาพทางเดินเปลี่ยนเป็นหินเ
ตอนนี้เดินผ่านกิโลเมตรที่ 5 มาแล้ว สภาพทางเดินเปลี่ยนเป็นหินเ
หมอกหนาๆ ไหลผ่านตัวเราไปเรื่อยๆ ไต่ขึ้นมาถึงระดับความสูง 3,000msl ปลดล๊อคระดับความสูงยอดเขาใ
800m !! ใกล้จะถึงที่พักแล้ว ระยะทางช่วงนี้มันช่างผ่านไ
เราเดินถึง Laban Rata Resthouse เกือบทุ่มนึงเลย ใช้เวลาเดินไปเกือบ 9 ชั่วโมง จากเวลาเดินเฉลี่ยของคนไทยค
เดินมาถึงที่พัก ส่วนรับประทานอาหารกำลังจะป
ภาพสุดท้ายของวันแรก ก่อนที่จะเดินถึงที่พักและจ
Laban Rata Resthouse ที่ระดับความสูง 3,273msl เป็นอาคารหลังแรก ที่เคยเป็นที่พักของทีมสำรว
คืนนี้ เราต้องรีบจัดการตัวเองและน
(สมมุติว่าถ่ายตอนมาถึง เพราะเรื่องจริงมันมืดและหม
ตี 1 ตรงแทบไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุ
เป้าหมายวันนี้ เอาจริงไม่คิดว่าจะสามารถเด
เทียบเป็น 1 กิโลเมตร ต้องเดินให้ถึงภายใน 2 ชั่วโมง แล้วภาวนาไม่ให้ฝนตก ถ้าเกิดตกหนักเขาไม่อนุญาติ
คิดว่าเราจะเดินถึงไหม....
07.00น. ณ Low's Peak จุดสูงสุดเทือกเขาคินาบาลู ที่ระดับความสูง 4,095.2msl เรามาถึงว่อย มาถึงคนสุดท้าย ไม่ใช่ท้ายสุดของกลุ่มนะ สุดท้ายของวัน เรามาทันพอดี
นี่คือภาพแรกที่เราเห็น นั่งยิ้มรออยู่เกือบชั่วโมง
นาทีนี้น้ำตาไหลพรากๆๆๆ
ยืนบน Low's Peak ยอดสูงสุด แล้วถ่ายออกไปรอบๆ
แล้วนี่ก็เช่นกัน
นี่น่าจะเป็น King Edward Peak
Sounth Peak ความสูง 3922msl นี่เป็นยอดที่น่าจะสวยสุดใน
โอ๊ยย ย ยย สวยจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เราใช้เวลาเดินผ่านจุดนี้ชั
เนี่ย ตอนเรากำลังจะเดินขึ้น Low's Peak กลุ่มนี้กำลังเดินลง กรี๊ดดดด
จาก Low's Peak มองลงไป ดูสเกลคนสิ ด้านหลังนั่นยอด St John's Peak ความสูง 4,091msl ยอดนี้แอบเหมือนแบทแมนมะ 55
นี่ Alexandra's Peak ความสูง 4,003msl แหละ
ต้องเดินลงละแดดเริ่มร้อน หินที่เราเห็นจากข้างบนที่เ
ว่าด้วยเรื่องพรรณไม้บนระดั
ในภาพน่าจะเป็น vaccinium stapfianum
ตอนเดินขึ้นมา เราต้องเดินตามเชือกเส้นนี้
อากาศ ความชื้น การสะสมของตะกอนดินในซอกหรื
ไม้แคระต้นเตี้ยๆ
ยิ่งมีโอกาสได้ออกเดินทาง เราจะยิ่งรู้สึกว่าเราตัวเล
ตามซอกหิน
Sounth Peak ยอดที่เหมือนเป็นภาพจำของที
พื้นที่ลาดรองรับการพังทลาย
ช่วงที่เดินขึ้น Summit จะมีแผ่นป้ายบอกระยะทางและค
นี่ก็ด้วย
นี่ยอด low’s peak จุดสูงสุดที่ 4,095.2msl จากจุดที่เราถ่าย เดินขึ้นไปบนยอดนั่น ราว 20 นาทีเลย
เห็นลักษณะพื้นผิวหินบนนี้ มันดูน่ากลัวมากอะ สมกับฉายา ‘เทือกเขาแห่งความตาย’
ดูเป็นไม้แคระที่มีอายุ
เส้นทางเริ่มลาดลงทีละน้อย เช่นเดียวกันกับขาขึ้น มันก็เป็นเส้นทางเดินที่ลาด
นี่เป็น Ugly Sisters Peak ความสูง 4,032msl
ทะเลหมอกทะเลเฆมแยกกันไม่ออ
ขาขึ้นเราต้องเดินขึ้นช้าๆ พลางใช้มือฉุดเชือกเอาตัวเอ
มีแอ่งเล็กๆ มีน้ำและตะกอนดินขังอยู่ เหมือนโอเอซิสบนยอดเขาหินแก
พี่ไกด์เดินอยู่กับเราตลอดเ
เดินผ่านทุ่งหินด้านบนลงมา เจอกับอีกทุ่งหินนึง มีความสลับซับซ้อนและความชั
พี่ไกด์ของอีกกลุ่มนึงกำลัง
แล้วอาคารหลังสีเขียวๆ นั่น เป็นจุด Check point ที่เราต้องเดินกวดขึ้นมาให้
เมื่อเราผ่าน Sayat Sayat Hut ที่ระดับความสูง 3,668msl ลงมา เราจะเจอต้นไม้มากขึ้นกว่าส
Sayat Sayat Hut จุด Check point บนความสูง 3,668msl ก่อนตี 5 เราเดินถึงจุดนี้ราวตี 4 ครึ่ง ตอนเดินผ่านเจ้าหน้าที่ ขอให้เราแสดงบัตรประจำตัว เพื่อเช็คชื่อและเช็คพิกัดท
นี่เป็นวิวที่มองออกมาจากส้
มองลงไปเห็น Laban Rata Resthouse แล้ว เราต้องเดินลงไปถึงที่นี่ก่
เนี่ย เมื่อเช้าเราไต่ขึ้นไปได้ยั
หันกลับมามองวิวปลอบใจตัวเอ
เเต่เมื่อซูมเอาท์ออกมา แม่จ้าวเว้ย 555
ถึงช่วงที่มีบันไดละ บันไดที่ขาขึ้นเดินขึ้นห้าข
จุดนี้ยังไงมันก็ดีมากอะ
ค่อยๆ เดินไปนะ อากาศตอนนี้ราว 25 องศาเห็นจะได้ แต่ลมเย็นๆ ก็ยังพัดมาตลอดเวลา
แล้วนี่เลย บันไดเมื่อกี้ คือแบบ...ตอนเดินขึ้นมันมืด
ส่วนที่มีบันไดก็ มีบันได ส่วนที่ไม่มีบันไดก็ มีเชือกขาวๆ ไง
ส่วนนี้เริ่มกลับมาสู่ระดับ
หุบนี้สวยมากจริง แต่แอบน่ากว่ามากด้วย
เเอบเห็นว่า ต้นไม้บนนี้สีสันต์มันแปลกต
ในเขต 'ป่ากึ่งอัลไพน์' เราจะได้เห็นพรรณไม้แปลกๆ สีสันต์สดใสเยอะมาก
สีแดงเจ็บแสบมาก หน้าตามันเหมือนกุหลาบพันปี
เริ่มเป็นเส้นทางดินละ เริ่มมีชั้นดินให้พรรณไม้ได
หันขวับกลับไปมอง ขุนเขาตั้งตระหง่านน่าเกรงข
เดินจ้ำกันต่อไป เห็นคนกลุ่มหน้าเดินอยู่ด้ว
เริ่มหันมองพรรณไม้ต้นไม้น้
ไม่เคยเห็นกล้วยไม้หน้าตาแบบนี้ ยืนพักเหนื่อย ได้พักมองดูน่าจะเป็นกล้วยไม้ดิน coelogyne papillosa
อันนี้คล้ายกับบนดอยอินทนนท
นี่ leptospermum recurvum เวอร์ชั่นออกดอก
อันนีเจ๋งมากอ่ะ หาไม่เจอเลย ไม่รู้ว่ามันชื่อเสียงเรียง
พุ่มนี้มีสีสันต์น่าสนใจมว๊
ส่องใกล้ๆ เป็นแบบนี้ ดอกสีส้มอมชมพู กลับมาค้นเจอน่าจะชื่อ vaccinium stapfianum
เนี่ย ที่นี่มีสามสี่อย่าง บันไดไม้ บันไดหิน หมอก และต้นไม้
หน้าตาเหมือนกุหลาบพันปีสีแ
แต่ถ้าเป็นกุหลาบพันปี Rhododendron predominate จริงๆ แสดงว่าคำร่ำลือเป็นความจริ
เหมือนเดินอยู่ในสวนบอนไซ ลมหนาวพัดมาเย็นๆ หมอกไหลผ่านไปมา รู้ไหมมันฟินแค่ไหน ระหว่างยืนนึกฟินแบบนี้ ตะคริวกำลังจับน่องซ้ายอยู่
หมอกเห้ยยย นี่เสพตุนได้สี่เดือน
แอบชอบอันนี้ด้วย เห็นอะไรแปลกๆ ไหมละ จะเรียกว่ากิ่ง มันก็เล็กมากจริงๆ น่าจะต้องเรียกว่าก้าน ใช่ๆ ก้านแหละ ก้านมันมีเหมือนเปลือกไม้มา
นี่ก็ด้วยนะ คู่สีสวยมาก เทาส้ม
นี่เลย บันไดไม้ในตำนาน นี่คือเส้นทางเดินช่วงเเรกข
นี่หน้าตาของส่วนรับประทานอ
แล้วไกด์ก็เดินมาบอกเราว่า เดี๋ยว 11 โมงเริ่มเดินลง เราต้องเดินถึงอุทยานข้างล่
เดี๋ยวววว จากตี 2 ถึง 10 โมงเช้า 11 โมงเดินต่อ ถึง 5 โมงเย็น
ช็อคคคคคค
ผ่านด่านบันไดแล้วเราก็มาถึ
หลายกลุ่มเริ่มมารวมตัวกันท
หมอกขาวพัดเข้ามาคลุมท้องฟ้
กลุ่มเรา 19 คนขึ้นยอดได้ครบทุกคน โดยมีเราขึ้นได้คนสุดท้ายขอ
เริ่มที่จะเดินลง ขาขึ้นอากาศแปรปรวนยังไง ขาลงก็เป็นเช่นนั้นเลย ก่อนจะเริ่มเดินลงฟ้าใสเเจ๋
เมื่อเราเริ่มเดินลงมาจาก Laban Rata Resthouse ที่ระดับความสูง 3,273msl ต่อจากนี้จะเราจะเจอ กับป่าอ
ป่าดิบเขาสูงจะขึ้นปกคลุมพื
ด้วยเฆมหมอกที่มีอยู่เยอะ ทำให้เกิดความชื้นมาก ทำให้มี 'พืชกลุ่มอิงอาศัย' epiphyte และ 'มอส' ขึ้นปกคลุมลำต้น เหมือนที่เราเห็นแบบนี้ เอ้อ ละเขาว่ากันว่าในป่าช่วงนี้
เจอกล้วยไม้ดินด้วย มันน่าจะเป็น dendrochilum stachyodes นะ
นี่ไม่ได้หยุดรอเรานะ ยืนขาสั่นๆ กันอยู่เลย 55
นั่นไงมาแล้ววว วว ว
ไม่รู้ว่าหมอกหรือเฆม แยกไม่ออกเลย รู้แต่ว่ามันวิ่งๆผ่านตัวไป
อย่างกับนิยาย งามดีแท้ แต่ถ้าเดินทิ้งห่างเพื่อนๆ ออกไปคนเดียวนี่หลงเอาง่ายๆ
800m to pl
ป้ายเดิมเพิ่มเติมคือแรงยัง
เขาว่ากันว่า dacrydium gibbsiae เป็น 'ต้นสน' สายพันธุ์พื้นเมือง ของเกาะบอร์เนียว
มันก็จะขึ้นสลับๆ กันไปแบบนี้ ต้นสูงไม่มาก ประมาณด้วยสายตาน่าจะราวๆ สองเมตร
นี่ rhododendron rugosum
ชื้นจัดชื้นจริง พื้นดินเต็มไปด้วยมอส แล้วมอสก็หน้าตาแปลกๆ ด้วยนะ
ดอกสีเหลืองๆ อันนี้ไม่รู้จักอ่า าา แต่ทำไมรู้สึกว่ามันเหมือนก
เจริญงอกงาม โตไวไวนะ
ภาพอย่างเบลอ เเต่มีภาพเดียว ต้นก้านใบมันสวยอย่างให้ได้
Nepenthes Villosa หม้อข้าวหม้อแกงลิง สายพันธุ์พื้นถิ่น ของเทือกเขาแห่งนี้เลย เขาว่ากันว่า มันสามารถเติบโตได้ในสูงสุด
เขายังว่ากันอีกว่าเทือกเขา
เป้าหมายของเราคือ Timpohn Gate อีก 4 กิโลเมตร
ช่วงนี้จะเจอคนเดินสวนขึ้นม
"อีกไกลไหม" กับ "ข้างหน้าเป็นทางราบหรือยัง
ฝรั่งพูดไทยชัดเน๊าะ 555 ไม่รู้ทำไมเวลาตอบกลับคนถาม
ก่อนที่จะแยกย้ายกันด้วยคำว
ป่าดิบเขาต่ำ (lower montane rain forest) ขึ้นปกคลุมพื้นที่ระดับความ
ฝนตกหนักมาขึ้นเรื่อยๆ กล้องถ่ายภาพจะต้องถูกแทนด้
เราเริ่มเดิน 11 โมง เดินลงมาถึง Timpohn Gate เกือบๆ 6 โมงเย็น ขาลงต้องมาแสดงบัตร และเช็คชื่อออกจากเส้นทางเด
กลับมาถึงที่ทำการอุทยาน เจ้าหน้าที่ amazing borneo tours แลมินิบัสคันเดิมรอเราอยู่ พร้อมกับอาหารมื้อเย็น และแน่นอนว่ามินิบัสจะนำแก๊
แล้วนี่เป็นโพย ไม่ใช่! certificate ที่บอกว่าเราได้เดินถึง Low's Peak จุดสูงสุด ของ M.Kinabalu 4095.2msl จะได้เป็น certificate สีสันต์สดใสแบบนี้ ถ้าเดินไม่ถึงหรือไม่ทันจุด
ข้ามทะเลมาเริ่มเดิน 19 หน่วย เดินถึงทั้งหมด โดยที่เลาถึงเป็นคนสุดท้าย สุดท้ายของกลุ่ม! ป่าว..สุดท้ายของวัน 5555
/////บรรยายสรุปนะ/////
- ในส่วนของเส้นทางเดิน : เดินทางด้วยเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์(ต่อเครื่อง) - โกตาคินาบาลู
จากสนามบินโกตาคินาบาลูมีรถบัสเข้าเมือง ง่ายๆ ชิวๆ
- ในส่วนของอากาศ : ในตัวเมืองติดทะเล มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา บริเวณอุทยานฯ
อากาศเย็นลงอย่างน่าตกใจ เดาว่าสัก 22 องศา เดินไปเกือบครึ่งทางฝนตกนัก ถึงหนักมากกกก
บนที่พักอากาศหนาวเย็นแทบจะบ้วนปากแปรงฟันไม่ได้ เรื่องอาบน้ำอย่าได้พูด อากาศวันที่ 2
เริ่มเดินตอนตี 2 เดินออกจากที่พัก แว๊ปแรกคือ 4 องศา หลังผ่านจุดเช็คพอยด์ คิดว่ามี 0 องศา
ที่ลมแรงมากกกก ตอน 7 โมงบนจุดสูงสุด แดดจะเผาร่างง ง ง ขาลงจากนั้นอากาศเหมือนขาขึ้น
ฝนตกหนักมากกก ก ก T^T
- ในส่วนของการเตรียมร่าง : ต้อง!! ออกกำลังกายหนา แนะนำให้วิ่งช้าๆ ต่อเนื่องกันให้ได้อย่างน้อย
30 นาทีโดยไม่หยุดพัก แล ควรจะสควอทได้ 300 ครั้ง โดยไม่เมื่อยล้า ทำล่วงหน้าก่อนไป 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
- ในส่วนของอุปกรณ์และการแต่งกาย :
**อุปกรณ์**
* Trekking pole
* เป้น้ำ/กระบอกน้ำ (ทนความร้อนได้ บนที่พักมีแต่น้ำร้อน)
* เป้ day pack (ใส่เสื้อผ้าสำหรับเดินขึ้น summit)
* ยาส่วนตัว/ ขนมให้พลังงาน
* ไฟฉายคาดหัว(สำหรับเดินขึ้นยอด)
* นกหวีดน่ารักๆ
**แต่งกาย**
* เสื้อแขนสั้น/แขนยาว ระบายเหงื่อได้ดี 1-2 ตัว
* กางเกงขาสั้น/ยาว ระบายเหงื่อได้ดี
* ถุงเท้าสำหรับเดินป่า
* รองเท้าสำหรับเดินป่าพื้นหนากันหิน กันน้ำได้
* เสื้อกันฝน
* ถุงมือหนา (อากาศเย็นและต้องใช้จับเชือกเผื่อไต่ในบางเส้นทาง)
* ผ้าบัฟ
* หมวกกันหนาว
* หมวกกันแดดน้ำหนักเบา
**เครื่องแต่งกายกันหนาว**
* ชั้นที่1 >> Base layer หรือ Heat tech ใส่ทั้งเสื้อและกางเกง
* ชั้นที่2 >> เสื้อ fleece หรือ down เลือกที่น้ำหนักเบาพกพาง่าย
* ชั้นที่3 >> เสื้อกันลมกันฝน + กางเกงเดินป่า กันลมกันน้ำได้
- ในส่วนของอาหาร : เช้าวันเเรกก่อนเดินทางไปอุทยานฯ ดูแลตัวเอง จากจุดเริ่มเดินทีมทัวร์
จะมีอาหารและน้ำดื่มสำหรับมื้อเที่ยงให้เราคนละชุด มื้อเย็นบนที่พักมีอาหารให้ เป็นบุฟเฟต์
แต่จะปิดตอนทุ่มนึง เช้าวันที่ 2 ก่อนเดินขึ้นร้านอาหารจะเปิดตอนตี 1 ครึ่ง มื้อเที่ยงร้านเดิม
จะเปิดตอน 9 โมง แล้ว ปิด 11 โมง ปล.ค่าอาหารบนที่พัก Laban Rata รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว
ยกเว้นเครื่องดื่มเพิ่มเติมและน้ำร้อน
- ในส่วนของส้วม : ส้วมมีความดีงามมากก ก ก ระหว่างทางเดินจะมีจุดพักทุกๆ 1 กิโลฯ
ในจุดพักจะมีส้วมอย่างดี ที่มีน้ำเย็นมากให้บริการ ลืมทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยทิชชูเปียกไปเลย
- ในส่วนของสัมภาระ : พกมาแค่ของจำเป็น อุปกรณ์กันหนาว น้ำดื่ม ขนมเพิ่มพลังงาน ของใช้ส่วนตัวและยา
เพียงเท่านั้น ก็พอออออ
- ในส่วนของใจ : เห็นแว๊ปแรกก็หลังรัก ตกลงปลงไปร่วมทริปนี้ได้โดยบัดดล จองทริปล่วงหน้าเกือบปี
ศึกษาการเตรียมร่าง เตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้าหน้าผม อย่างพร้อมอ่ะ แต่ก็นั่นแหละเรามันมนุษย์เงินเดือน
ไม่มีเวลาออกกำลังกายเลยจ้าาา นับเวลาถอยหลัง สามเดือน สองเดือน หนึ่งเดือน เดือนสุดท้ายเพิ่งจะมาทำ
สควอทได้ 250 ครั้งแบบยังเมื่อยอยู่ แทบไม่ได้วิ่งเลย วันเดินทางรู้เรื่องเลย เป็นตะคริวน่องซ้ายตั้งแต่เช้าวันแรกก่อนเริ่มเดิน
ในวันเเรกปกติคนไทยจะเดินถึง Laban Rata ราว 4 - 5 โมงเย็น เรานี่จัดไป ทุ่มนึงเลยจ้าา หมดมากหมดเกลี้ยงเลย
วันที่สองเดินขึ้น Summit แว๊ปแรกก็คิดว่าน่าจะเดินไปไม่ทันเช้คพอยด์ตอนตี 5 แหละ แต่ก็มันไม่มีอะไรจะเสีย
เอาสักตั้งนึง ถ้าจะไม่ถึงก็เดินไปให้มันสุดแหละนะ เห๊ยยย ย ทันอะ ต้องขอบคุณพี่ไกด์เลยอ่ะคอยกระตุ้นให้ค่อยๆ ก้าว
ไปจนทันตัดตัว หลังจากนี้มันก็ฮึกเหิมสิ ค่อยๆ ก้าว ค่อยๆ เดินต่อ เรากำลังเดินขึ้นคนอื่นเขาก็เดินสวนลงมา
จนเจอกับกรุ๊ปของเราเดินสวนลงมา ทุกคนพูดบอกกับเราคล้ายกัน "เก่งมาก สู้ต่อ ถึงแน่นอน" เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับ
หยุดพักหายใจ แล้วก้มหน้าเดินต่อ แล้วมันก็ถึงอ่ะถึงทันเวลา ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ยังยืนรอยู่บนนี้ นี่ส่วนของใจจริงๆ
ตอนยืนอยู่บนนั้นน้ำตาไหลพรากๆๆ นี่ส่วนของใจจริงจัง
เอาจริงอากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก แต่มันดีมันแปลกดี ต้นไม้แปลกตา เฆมหมอกวิ่งไปมาเผลอแปปเดียวหมอกหาย
หันมาอีกทีมีหมอกอีกและ เอากับเค้าสิ 555 วิวสวย แบบสวยมากก ก ก ก มาก เรื่องความสะอาดนี่เขาดูแลดีมาก
แทบไม่เจอขยะแบบเขาบ้านเราเลยนะ กระดงกระดาษทิชชูแทบไม่เจอ ที่สำคัญไกด์ดีมาก ทัวร์โครตดี ไม่ได้อวย จ่ายเองล้วนๆ 555
อยากให้ลองได้มายืนอยู่บนนั้นนะ สักครั้งก็ยังดี ตอนเดินลงมาถึงอุทยาน มีคนเดินเข้ามาถามว่า จะมาอีกไหม ตอนนั้นหยุดคิดไปสักพักนึง
แล้วบอกเขาว่า อยากมาอีกนะแต่เดี๋ยวก่อน ขอไปที่อื่นก่อน ตอนนี้มานั่งทำรีวิว ตอนที่พิมพ์มาถึงประโยคนี้ มันอยากจะกลับ
ไปยืนอยู่ตรงนั้นเสียตอนนี้เลย ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เห็น ที่ยังไม่ได้เจอเลย อยากกลับไปอีกครั้งนึง ไปป่ะล่ะ
/////Trip's Budget/////
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ BKK- KUL - BKK 7,400THB
- ค่าโปรแกรมทัวร์ 2D1N Amazing Borneo Tours 15,700THB (เฉพาะการจองทริป 15 คนขึ้นไป)
- ค่าอาหารในเมือง 900THB
- ค่าโรงแรมในเมือง 2 คืน 2,000THB หาร 2 = 1,000THB
- ประกันการเดินทาง AIG 1,148THB
////ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 26,148THB////
สามารถแวะไปเยี่ยมเยือนแลพูดคุยกันกับเราได้ที่
https://www.facebook.com/whenigoout/
#mountkinabalu
#kotakinabalu
#sabah #Borneo
#Malaysia #climb
#แค่อยากออกไป
แค่อยากออกไป
วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 20.55 น.