ประเทศญี่ปุ่นประเทศยอดฮิตที่คนไทยเที่ยวกันเยอะมากกกก เพราะไปไหนในประเทศญี่ปุ่นเจอแต่คนไทย รู้สึกอบอุ่นเหมือนเที่ยวไทย 55+ สำหรับทริปในครั้งนี้มีเวลาเที่ยว 5 วันเต็ม รวมวันเดินทาง ถามจริงๆ ว่าพอไหมกับ Plan ที่วางไว้ บอกเลยว่าไม่พอ และคิดว่า ญี่ปุ่น ครั้งเดียวไม่เคยพอจริงๆ สำหรับแผนของทริปนี้มีดังนี้ครับ

📍 Day1: Bangkok > Narita Airport > Asakusa > Ameyoko market

📍 Day2: Nippori > Gala Yuzawa > Odaiba (JR TOKYO Wide Pass)

📍 Day3: Nippori > Kawaguchiko > Mt.Fuji (JR TOKYO Wide Pass)

📍 Day4: Kawaguchiko > Pagoda Chureito > Shinjuku-Shibuya (JR TOKYO Wide Pass)

📍 Day5: Nippori > UENO > Narita airport (Tokyo Subway + Skyliner)

📍 Pass ที่ใช้สำหรับทริปนี้

- JR TOKYO Wide Pass 3 Day

- Skyliner เข้าโตเกียว ไป-กลับ

- Tokyo Subway 24 hr.

📍ที่พัก Tokyo

สำหรับที่พักใน Tokyo วันที่ 1 -2 และ วันสุดท้าย ผมพักที่ Sakura Hotel Nippori เป็นโฮเทลแบบห้องน้ำรวม จองผ่าน agoda ห้องพักส่วนตัวแบบญี่ปุ่น 3 คน ราคาสำหรับ 3 คืน ได้ในราคา 7300 บาท สามารถเดินจากสถานี JR Nippori ไม่ใกล้ ไม่ไกลมาก เดินได้เรื่อยๆ ห้องพัก ห้องน้ำ สะอาดมาก เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก

📍ที่พัก Kawaguchiko

ผมพักที่ K's House Fuji View Hostel ที่พักวิวฟูจิสวยมากกก แต่ถ่ายรูปแล้วมีสายไฟเต็มนิดหน่อย ไกลจากสถานี KAWAGUCHIKO นั่งแท๊กซี่จะสะดวกสุด ผมจองผ่าน Traveloka ห้องพักแบบญี่ปุ่นวิวฟูจิ สำหรับ 6 คน


📌ฝากกดติดตามกันด้วยครับ

Instagram : instagram.com/hairoowamalaew
Facebook : facebook.com/hiroowamalaew
Youtube : youtube.com/c/hairoowamalaew
Twitter : twitter.com/hairoowamalaew

#ให้รู้ว่ามาแล้ว #Hairoowamalaew


การเดินทางครั้งนี้ โดย Air Asia XJ600 เที่ยวบินเวลา 11.45PM ถึง Narita Airport ประมาณ 7 โมงเช้า ซึ่งดูพยากรณ์อากาศว่าวันนี้หิมะจะตกที่โตเกียวพอดี ตื่นเต้นไปอีก



ถึงสนามบินนาริตะ ก็เดินยาวๆ มาเลย

ออกมาแล้วก็ไปซื้อ Skyliner แบบไป-กลับ + Subway 24 hr. ราคาอยู่ที่ 2930 เยน เคาน์เตอร์มีเจ้าหน้าคนไทยแนะนำอยู่ครับ

เมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็นั่ง Skyliner ไปที่ Nippori เลยครับ



โชคดีของวันดี หิมะตกโตเกียว

เมื่อถึง Nippori Station ก็เดินไปที่พัก เพื่อไปฝากกระเป๋าที่พักกันครับ ระยะทางประมาณ 700 เมตร เดินได้เรื่อยๆ ไม่ไกลมาก

พักผ่อน ฝากกระเป๋ากันเรียบร้อยก็ออกไปเที่ยวต่อเลยครับ โดยจะไปที่ย่าน Asakusa เลยเดินกลับมาที่สถานี Nippori นั่งรถไฟฟ้า JR ไปลงสถานี JR UENO ใช้หยอดเหรียญ 140 เยน



หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนสถานีไปลง Subway เพื่อไปสถานี Asakusa อากาศวันนี้ก็จะเย็นๆๆ หิมะตกนิดหน่อย

สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็ไปที่ Sensoji Temple และเดินท่ามกลางผู้คนที่ Nakamise shopping street เดินเพลินๆ เลยครับ



ของกินก็เยอะ

เดินมาเรื่อยๆ ก๋็เลยมาที่แถวสะพานแดง Asahi Beer Tower

Tokyo sky tree town

ปิดทริปของวัน ด้วยการไปเดินของกินที่ Ameyoko Market



📍 Day2: Nippori > Gala Yuzawa > Odaiba

ไปญี่ปุ่นสักครั้งต้องไปเล่นหิมะที่นี่เลย Gala Yuzawa เดินทางสะดวก ใกล้ๆ Tokyo แถมได้นั่ง Shinkansen อีกด้วย ปิดท้ายทริปของวันนี้ด้วย Odaiba แบบ Mini

📍Pass ที่ใช้

JR TOKYO Wide Pass

📍การเดินทางไป Gala Yuzawa

สามารถขึ้นที่สถานี Tokyo หรือ Ueno ไปลงสถานี Gala Yuzawa ผมเริ่มต้นที่สถานี Ueno ขึ้น Shinkansen ใช้ JR Pass ผ่านตลอด โดยก่อนเดินทางได้ทำการจองที่นั่ง เพื่อยืนยันได้ว่ารถจะไม่เต็ม

ซูชิซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตเอามากินบน Shinkansen ได้

ใช้เวลาการเดินทางประมาณ ชม.กว่าๆ ก็มาถึงสถานี Gala Yuzawa

Gala Yuzawa มีช่วงเวลาที่รีสอร์ทเปิดทำการด้วยนะครับ สามารถเช็คได้จาก https://gala.co.jp/winter/english/

ค่าเข้า Snow Resort มีราคาพิเศษสำหรับผู้ใช้ JR TOKYO Wide Pass ประมาณคนละ 2500 เยน รวมค่ากระเช้ากอนโดล่า+ถาดเลื่อน ส่วนคนที่จะเล่นสกีก็จะมีอีกราคานึงครับ สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย ให้บริการดีมาก คอยแนะนำให้เป็นอย่างดีครับ ถาดเลื่อนไม่ต้องเช่าทุกคนก็ได้ครับ จะได้ประหยัด

ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ไปขึ้นกระเช้ากอนโดล่าไปยังด้านบนกัน

ด้านบนของ Gala Yuzawa

สำหรับใครที่เล่นสกีก็ต้องไปต่อ

สำหรับคนที่เล่นแค่ถาดเลื่อน ก็ต้องมาโซนนี้ครับ

หิมะตกปรอยๆ

เล่นหิมะจนเพลิน จนได้เวลากลับ เลยมีเวลาเลยได้ที่เที่ยวนอกแผน นั้นคือ Odaiba ซึ่งการเดินทางก็ไม่ยากเลย กลับไปเริ่มที่ Tokyo แล้วนั่ง JR ไปลง SHIMBASHI ต่อรถไฟไร้คนขับ Yurikamome นั่งหน้าสุด วิวสวยมาก



ถึง Odaiba ก็ไปเก็บแลนมาร์คสำคัญๆ กันเลย ได้แก่ ห้าง Aqua City Odaiba เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty) เดินข้าม Skywalk ไป ห้าง Diver City Tokyo Plaza ดูกันดั้มยักษ์ ปิดท้ายที่ ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel เพื่อให้รู้ว่ามาแล้วจริงๆ Odaiba แบบ Mini

📍 Day3: Tokyo > Kawaguchiko > Mt.Fuji

ไปญี่ปุ่นทั้งที ต้องไปดูฟูจิ ถึงจะมาถึงญีปุ่น แนะนำว่าถ้ามีเวลาควรจะพักสัก 1 คืน จะได้ดูฟูจิแบบ HD ถึงใจ ถึงอารมณ์



📍Pass ที่ใช้

JR TOKYO Wide Pass ผ่านตลอดครับ



📍การเดินทางไป Kawaguchiko

ผมจะใช้ตัวช่วยจากเว็บนี้ http://www.hypedia.com/ เป็นหลักเลยครับ ในตรวจสอบเวลาเดินทาง โดยจะเลือกจากการต่อรถน้อยที่สุด ผมเริ่มสถานี Nippori ไปต่อที่ SHINJUKU นั่งต่อไปลงสถานี OTSUKI และต่อขบวน FUJISAN VIEW EXPRESS ไป KAWAGUCHIKO ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.

เริ่มออกเดินทางจากสถานีชินจูกุไปลงสถานี Otsuki ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม

มาถึงสถานี Otsuki มาต่อด้วย Fujisan View Express มีป้ายบอกชัดเจนว่าไป Fuji ขึ้นที่ไหน

นั่งมาสักพักก็จะมาถึง Kawaguchiko Station

เมื่อถึงสถานี KAWAGUCHIKO สิ่งแรกคือไปซื้อตั๋วรถบัสรอบทะเลสาบ+Ropeway+Boat ราคาอยู่ที่ 2360 เยนต่อคน แล้วออกเดินทางกันเลย

ที่แรกไปดูฟูจิแบบเต็มๆ ตากัน นั่งรถบัสไปสุดสายเลย ป้ายที่ 22 Kawaguchiko Living Center วันนี้ฟ้าเปิดแบบมัวๆ เมฆมากบางส่วน ฟูจิของเราก็จะมีหมวกนิดหน่อย

Mt.Fuji at Kawaguchiko Living Center

หันหลังกลับมาอีกด้านนึง ให้อารมณ์ยุโรปมาก

หลังจากถ่ายรูปเดินเล่นก็เป็นชม.ได้ 55+ ก็ไปต่อที่ป้ายทื่ 11 Sightseeing Boat / Ropeway ขึ้นกระเช้าไปดูวิวด้านบนกัน

อากาศแปรปรวน ฝนมา

แต่สักพักก็หายไป

ดูเพลินไปหน่อย ลงมาจะขึ้นเรือล่องทะเลสาบก็หมดเวลาซะก่อน

ได้เวลากลับที่พัก K's House Fuji View Hostel

วิวฟูจิจากที่พักตอนเย็น

📍 Day4: Kawaguchiko > Pagoda Chureito > Shinjuku-Shibuya

วิวจากห้องพักตอนเช้า วันนี้ฟ้าใสมาก

สำหรับ Plan ทริปจะไปเก็บแลนด์มาร์คกัน ก็คือที่ Chureito Pagoda

การเดินทางเริ่มที่สถานี KAWAGUCHIKO นั่งกลับไปแปปเดียวก็ถึงสถานี Shimoyoshida

เดินทะลุสถานีออกมาก เลี้ยวขวาแล้วเดินไปตามถนน ข้ามทางรถไฟเลี้ยวซ้ายตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอสะพานทางด่วนให้เลี้ยวขวาลอดสะพาน เดินตรงไปจะเจอกับทางขึ้นเจดีย์แดง Chureito Pagoda

เดินขึ้นไปเลย

ถึงแล้วมุมมหาชน

ถ่ายรูปกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับ Tokyo สิ้นสุดทริปดูฟูจิแบบ HD กลับมาถึง Tokyo เลยแวะไปเดินเล่นที่ Shinjuku-Shibuya คืนสุดท้ายที่ญี่ปุ่น เป็นการเดินช็อปปิ้งย่านท่องเที่ยวที่ไม่ได้ดูเวลาเลยจริงๆ และรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากๆ ถามว่าเดินครบ ตอบเลยว่าไม่ และครั้งหน้าคงจะมาซ้ำแน่นอน เลยเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืนมาฝาก

สำหรับ 📍 Day5: Nippori > UENO > Narita airport เป็นวันของการซื้อของฝากย่าน Ueno ก่อนที่จะบินกลับไทย

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

Instagram : instagram.com/hairoowamalaew
Facebook : facebook.com/hiroowamalaew
Youtube : youtube.com/c/hairoowamalaew
Twitter : twitter.com/hairoowamalaew

#ให้รู้ว่ามาแล้ว #Hairoowamalaew

ให้รู้ว่ามาแล้ว

 วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 13.26 น.

ความคิดเห็น