โรงแรมเรเนซองค์ (ราชประสงค์)

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปงาน Wine testing ของ Cafe Buongiorno อีกครั้ง ครั้งนี้จัดกันที่ห้องอาหาร La Tavola & Wine Bar ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองค์ (ราชประสงค์) ใช้ชื่องานว่า ITALIAN BOUTIQUE WINE GALLERY

บริเวณล๊อบบี้ โรงแรมเรเนซองค์

ห้องอาหาร La Tavola & Wine Bar ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองค์

ส่วนปรุงเครื่องดื่ม หรือ บาร์น้ำ

ภายในห้องอาหาร

พบปะสังสรรค์รอการเริ่มงาน

ผู้มาร่วมงาน

เชฟและอาหารประเภทต่าง ๆ ที่เตรียมไว้สำหรับไวน์ประเภทต่าง ๆ

"SALMONE" 24hr. Marinated salmon with lemon flavored ricotta
ปลาแซลมอนหมักกับมะนาวริคอตต้า (24 ชั่วโมง)

"ACCIUGA AL ROSSO" Marinated white anchovy serve with pepper jam
แองโชวี่ขาว เสริฟกับแยมพริกไท บนขนมปังกรอบ

"TONNATO" Sous-vide veal loin in tuna dressing หรือ โรลเนื้อซี่โครงหมูในน้ำสลัดปลาทูน่า

"INSALATA DI POLLO" Smoke chicken breast serve with Asian pomelo salad
อกไก่รมควันกับส้มโอสลัด

ผู้บริหาร โรงแรมเรเนซองค์ กล่าวต้อนรับและเปิดงาน

ท่าน Cavaliere Enzo Peroni (ถือไมค์) แห่ง Cafe Buongiorno
กล่าวเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การจัดงานในค่ำคืนนี้

แขกที่มาร่วมงาน

ค๊อกเทลเปิดงานวันนี้ มีสามชนิด คือ สตอร์เบอร์รี่คิส, มิโมซ่า และเลมอน จิงเจอร์

ทั้งสามชนิดใช้สปาร์คกิ้งค์ไวน์ GLERA BRUT จาก VENETO, IGT ซึ่งเป็นสปาร์คกิ้งค์ ไวน์ ดื่มง่าย กลิ่นหอม รสชาดออกหวานเล็กน้อย เป็นตัวหลักของส่วนผสม

สตอร์เบอร์รี่คิส และเลม่อมจิงเจอร์

(ซ้าย) GLERA BRUT // (ขวา) ARRIGONI MAMON

ถัดจากค๊อกเทลทั้ง 3 ชนิด คือ ARRIGONI MAMON ซึ่งเป็นไวน์ขาวสีเหลืองนวล กลิ่นหอมมีรสหวานปนฝาด ดื่มง่าย กินกับ "SALMONE" 24hr. Marinated salmon with lemon flavored ricotta หรือปลาแซลมอนหมักกับมะนาวริคอตต้า (24 ชั่วโมง)

ปลาแซลมอนหมักกับมะนาวริคอตต้า ได้ปลาแซลมอนสด ๆ น้ำมาหมักกับน้ำมะนาว ทำให้ได้รสชาติสดหวาน และสดชื่น ทั้งกรุบกรอบกัลบิสกิตที่รองมาด้านล่างเคี้ยวสนุก

ส่วนของ TRAPPOLINI-Orvieto

ถัดจากนั้น ยังเป็นไวน์ขาวอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ TRAPPOLINI-Orvieto เป็นไวน์ขาวที่มีกลิ่นหอมหวาน คล้ายผลไม้แห้ง หอมกว่าตัว ARRIGONI MAMON แต่ก็มีความฝาดมากกว่าเล็กน้อย กินกับ "ACCIUGA AL ROSSO" Marinated white anchovy serve with pepper jam หรือ แองโชวี่ขาว เสริฟกับแยมพริกไท บนขนมปังกรอบ ที่ส่วนตัวคิดว่าจะมีกลิ่นที่แย่ แต่ที่ไหนได้ แยมพริกไท ช่วยขับรสชาติความเค็มนิด ๆ ของปลาแองโชววี่ ออกมาผสมกับความกรุบกรอบของบาเก็ตกรอบ ที่กินเข้ากันแล้ววเคี้ยวได้มันปาก กลั่วกับ TRAPPOLINI-Orvieto แล้วสุดยอด

แต่หากต้องการความหวานมันสดชื่น ต้องกินกับ "INSALATA DI POLLO" Smoke chicken breast serve with Asian pomelo salad หรือ อกไก่รมควันกับส้มโอสลัด นั่นเลย

(ซ้าย) TRAPPOLINI-Orvieto // (ขวา) ARRIGONI-La Bisbetica

ARRIGONI-La Bisbetica เป็นไวน์แดง ที่มีกลิ่นหอมขององุ่นและมีความฝาดติดปลายลิ้น เหมาะกับการดื่มพร้อมกับอาหารหลักประเภทเนื้อ

วันนี้ทางร้านจัดอาหารที่เหมาะกับ ARRIGONI-La Bisbetica มาสองชนิด คือ "BOCCONCIN" Dried prune & almond wrapped in pancetta หรือ เนื้อลูกพรุนและเมล็ดอัลมอนด์ห่อด้วยเบคอนย่าง กับ "BRAISED PORK CHEEK" หรือ แก้มหมูตุ๋นกับมันบดนั่นเอง

"BOCCONCIN" Dried prune&almond wrapped in pancetta
หรือ เนื้อลูกพรุนและเมล็ดอัลมอนด์ห่อด้วยเบคอนย่าง

อาหารชนิดนี้เหมาะเป็นอย่างมากกับปาร์ตี้ เพราะสามารถใช้มือหยิบกินได้ และกินสนุกมาก เพราะได้ความหวานของเนื้อลูกพรุนและความกรุบกรอบของเมล็ดอัลมอนด์ทำให้รสชาติทั้งมันทั้งหวาน ยิ่งมาเจอกับเบค่อนย่างจนแห้งห่อมา ยิ่งได้ครบรสทั้งหวานมันของผลไม้ และหวานมันของเบคอน

BRAISED PORK CHEEK" หรือ แก้มหมูตุ๋นกับมันบด

จานนี้อร่อยและเข้ากับ ARRIGONI-La Bisbetica เป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อแก้มหมูตุ๋นที่นุ่ม และนิ่มซับความหวานของเครื่องตุ๋นเอาไว้อย่างเต็มพิกัด ตัดรสกับมันบดหอมมัน ได้เบบี้แครอทที่แซมมาเคี้ยวอร่อย

ถัดไป คือ ARRIGONI-Simon B และ "IN CARROZZA"
Crouncy mozzarella with tomato dip มันบดห่อชีสมอสซาแรลล่าทอดกับซอสมะเขือเทศ

ARRIGONI-Simon B เป็นไวน์แดง สีแดงทับทิม มีกลิ่นหอมชวนกิน รสชาติอมหวานนิด ๆ ทำให้ดื่มง่าย และยิ่งสนุกเมื่อกินกับ "IN CARROZZA" Crouncy mozzarella with tomato dip มันบดห่อชีสมอสซาแรลล่าทอดกับซอสมะเขือเทศ ที่ทอดร้อน ๆ เวลากัดจะได้เห็นชิสยืด ๆ เคี้ยวมัน

(ซ้าย) ARRIGONI-Simon B // (ขวา) ARRIGONI-Poggio Al Vento

ARRIGONI-Poggio Al Vento นั่นเสิร์ฟมากับ "TONNATO" Sous-vide veal loin in tuna dressing หรือ โรลเนื้อซี่โครงหมูในน้ำสลัดปลาทูน่า

ARRIGONI-Poggio Al Vento เป็นไวน์แดงรสชาติดีมีความฝาดติดปลายลิ้นและให้รสหวานของรสองุ่นฟุ้งอยู่ในคอ และเมื่อกินกับ โรลเนื้อซี่โครงหมูในน้ำสลัดปลาทูน่า ยิ่งขับรสให้รสชาติของไวน์เด่นยิ่งขึ้น

"TONNATO" Sous-vide veal loin in tuna dressing หรือ โรลเนื้อซี่โครงหมูในน้ำสลัดปลาทูน่า

ร่วมพูดคุย ชิมไวน์และอาหาร

ผ่านมาถึงสเตชั่นเกือบสุดท้าย สเตชั่นนี้พิเศษสุด เพราะเชฟจะมาปรุงพาสต้าให้ทานกันสด ๆ

TRAPPOLINI-Cenereto เป็นไวน์แดงที่ให้รสชาติเข้มข้นที่สุดของวันนี้ แต่ในความเข้มข้นมีรสหวานและหอมจัดขับรสกับเฟสตูชินี่ที่รสชาติหวานมันได้เป็นอย่างดี อย่างนี้นี่เอง ที่เขาว่า ไวน์ดี ต้องกินกับอาหารดี ๆ เพราะมันช่วยส่งรสชาติให้ถึงกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะไวน์อิตาลี่และอาหารเช็ตนี้

เครื่องปรุงสำหรับ "FETTUCINE" Parminggiano reggiano and black truffle หรือ เฟสตูชินี่ครีมซอสน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลดำ

Black Truffle

เชฟกำลังปรุง "FETTUCINE" Parminggiano reggiano and black truffle หรือ เฟสตูชินี่ครีมซอสน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลดำ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานชิมกับ TRAPPOLINI-Cenereto

(ซ้าย) TRAPPOLINI-Cenereto // (ขวา) ARRIGONI-Alfredo

ARRIGONI-Alfredo เป็นไวน์รายการสุดท้ายของวันนี้ และแทบจะทุกครั้ง เพราะ ARRIGONI-Alfredo เป็นไวน์หวานรสซ่า หรือ Sparkling Dessert ที่กินกับของหวานที่วันนี้มีให้เลือกสองอย่างนั่นคือ เพนนาค๊อตต้ามะพร้าว และมูสมะม่วง โอ้ย ไม่อยากบอกเลยว่ามันฟินแค่ไหน ที่ได้กินไวน์หวานกับของหวานที่อร่อยแบบนี้

เพนนาค๊อตต้ามะพร้าวนั้น ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะรสชาติหวานนุ่ม ๆ ของมะพร้าวอ่อนที่นำมาทำเนื้อที่หยุ่นนุ่มกำลังดี เวลาเคี้ยวกลิ่นหอม ๆ ของมะพร้าวคลุ้งไปทั้งปาก ส่วนมูสมะม่วงนั้น ให้รสชาติของมะม่วงอย่างแท้จริง เสียอย่างเดียวค่อนข้างแข็งไปสักหน่อย และถ้าเปลี่ยนจากครีมมะม่วงด้านหน้ามาเป็นมะม่วงสดหั่นเต๋า น่าจะฟินได้มากกว่านี้ ของหวานทั้งสองอย่างให้รสชาติเป็นอย่างดีเมื่อกินกับ ARRIGONI-Alfredo ที่ให้รสสัมผัสที่ซ่า ๆ หวาน ๆ กินง่าย ๆ เพลิน ๆ

งานไวน์เทสติ้งค์ (Wine Testing) ของ Cafe Buongiorno ซึ่งเป็นผู้นำเข้าไวน์อิตาลีรายใหญ่ของไทย จะจัดตามโรงแรมใหญ่ ๆ เป็นประจำแทบจะทุกเดือน หากใครสนใจข่าวคราว หรือสอบถามการจัดครั้งต่อไปสามารถสอบถาม วันเวลาสถานที่การจัด Wine Tasting ของ Cafe Buongiorno ได้ที่ :: คุณพิมพ์ Tel :: 062 494 1649 ค่ะ