เที่ยวหิวหิน Wora Wana Hua Hin Hotel & Convention

เที่ยวหัวหิน กิน นอน พักผ่อนสบาย

หัวหิน ที่เที่ยวใกล้กรุงฯ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชายหาด ทะเล แหล่งช็อปปิ้ง ซีฟู้ด ตลาดกลางคืน ภูเขา ชมวิว นอนชิล จุดถ่ายรูปสวยๆ ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับคนกรุงเทพฯที่ต้องการเดินทางไม่ไกลในช่วงวันหยุดพักผ่อน

การเดินทาง

การเดินทางสู่ หัวหิน นั้นก็ง่ายแสนง่าย และมีให้เลือกได้หลายรูปแบบ

1. รถตู้ สามารถขึ้นรถตู้สาย กรุงเทพ-หัวหิน ได้ที่สถานีขนส่งกรุงเทพ หมอชิต 2 และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่

2. รถทัวร์ สายใต้ มีทั้งแบบปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 มีรถออกทุกๆ 2 ชั่วโมง / วิภาวดี ของสมบัติทัวร์ วันละ 3 เที่ยว / สุวรรณภูมิ Bell Travel Service มีรถประมาณวันละ 9 รอบ

3. รถไฟ มีออกจากสถานีธนบุรี และจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)

4. รถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที – 3 ชั่วโมง โดยประมาณ สามารถวิ่งออกจาก กทม. ได้ 2 เส้นทาง คือ

4.1. ทางพระราม 2 – สมุทรสาคร – สมุทรสงคราม – ออกแยกปากท่อ ราชบุรี – ผ่านชะอำ เพชรบุรี – แล้วเข้าหัวหิน

4.2. ทางตลิ่งชัน – ออกพุทธมณฑล – นครปฐม – ราชบุรี – เพชรบุรี – หัวหิน

แผนการเดินทาง 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1

- Wora Wana Hua Hin Hotel & Convention

- The Cicada Market

- Tamarind Market

วันที่ 2

- อุทยานราชภักดิ์

- สวนสนประดิพัทธิ์

บันทึกการเดินทาง

วันที่ 1

ออกเดินทางจาก กทม. ช่วงเวลาประมาณ 7 โมง 30 นาที และมุ่งหน้าสู่หัวหินทันที ระหว่างทางมีแวะเติมแก๊สเล็กน้อย ไปถึงหัวหินประมาณ 10 โมง แวะซื้อผลไม้กันที่ Villa Market ชอบความดูดีภายในนี้จัง สินค้า ของสด โดยเฉพาะผลไม้ มีทั้งผลไม้ไทยและนำเข้า แต่ละอย่างดูสดใหม่น่าทานมาก ส่วนขนมขบเคี้ยวก็มีให้เลือกละลานตาไปหมด จนแทบเลือกหยิบไม่ถูก เข้าใจแล้วว่าทำไมเข้ามาแบบนี้แล้วถึงใช้เวลาอยู่นาน

จากนั้นตรงไปเข้าที่พัก คือ WORA WANA HUA HIN HOTEL & CONVENTION (วรวนา หัวหิน โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น) โดยสามารถใช้ถนนได้ 2 เส้นทาง จากซอยหัวหิน 83 ไปสัพักจะพบกับป้ายนี้ สามารถวิ่งตรงไปทางเขาเต่า - ผ่านซิคาด้า มาร์เก็ต – เมื่อถึงวัดเขาไกรลาด เลี้ยวขวาเข้าถนนหมู่บ้านตะเกียบ มาทะลุเข้า ซอยหัวหิน 97 แต่เส้นนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว จึงแนะนำให้มาอีกทาง คือ เลี้ยวขวามาทางที่จะไปประจวบฯ เข้าถนนเพชรเกษม ตรงไปเรื่อยๆจนถึง ซอยหัวหิน 97 อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปประมาณ 300 เมตรจะพบ วรวนา อยู่ทางขวามือ

เมื่อเข้ามาแล้วจะพบศูนย์ประชุมนานาชาติจุฬาภรณ์อยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นหอประชุมที่อยู่ในเขตของโรงแรมนี่เองค่ะ แล้วขับรถต่อเข้าไปยังด้านในได้เลย เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตของโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตร ต่อมาได้ทำการขายที่ให้กับทางเจ้าของ วรบุระ หัวหิน รีสอร์ท แอนด์สปา จึงได้มี วรวนา หัวหิน โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น ขึ้นที่นี่นั่นเอง

ลานจอดรถมีพื้นที่กว้างขวางมาก อยู่บริเวณด้านข้างเยื้องไปทางด้านหลังเล็กน้อย มีเจ้าหน้าที่ขับรถกอล์ฟไว้คอยให้บริการด้วยค่ะ สามารถโทรแจ้งที่หน้าฟร้อนท์ได้ว่าต้องการใช้รถกอล์ฟให้ไปรับหรือส่งจุดไหน ภายในโรงแรม

เมื่อเช็คอนแล้วจะได้รับ Welcome Drink เป็นน้ำตะไคร้อัญชัญ หอมหวานเย็นชื่นใจ

รอเวลาเพื่อเข้าเช็คอินแป๊บเดียวเท่านั้นก็เข้ามายังห้องพักของเราได้แล้ว เป็นห้องประเภท POOL ACCESS ขนาดกว้างขวางดีค่ะ มีข้าวของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบ และอีกความพิเศษของห้องพักประเภทนี้คือ สามารถเปิดประตูทางด้านหลังออกไปยังสระว่ายน้ำอีกแห่งหนึ่งของโรงแรมที่อยู่ติดกับอาคารที่พักได้เลย โดยมีทางลง และเก้าอี้อาบแดดวางไว้ให้พร้อม ออกมานั่งสูดอากาศ รับลม ชมวิว ชิลๆกันได้หลังห้องพักแบบนี้มันดีมากเลย

ทานอาหารกลางวันกันที่ห้องอาหารของวรวนา จะเป็นเมนู A la carte อย่างเช่นที่เราทานไป ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพาน ปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มข่าไก่ สปาเก็ตตี้ซอสโหระพาแซลมอน ต้มย้ำกุ้งน้ำข้น รสชาติกลางๆค่ะ สามารถทานได้ทุกคน

หลังจากทานอาหารไปได้สักพัก ฝนก็เริ่มตกลงมา ทำให้แผนการออกไปเที่ยวใกล้ๆของเราต้องพักไว้ก่อน หันมาถ่ายรูปรอบๆที่พักต่อไป

ภายในโรงแรม วรวนา ประกอบไปด้วย

1. อาคารล็อบบี้และห้องอาหาร

หลังจากจอดรถไว้เรียบร้อยแล้ว เดินมาเช็คอิน จะได้เห็นบรรยากาศอันหรูหราและปลอดโปร่ง โดยใช้การออกแบบเปิดให้ลมพัดระบายเข้าออกได้สะดวก ทำให้เย็นสบายตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ

บริเวณเหนือศีรษะ ด้านหน้าเค้าน์เตอร์ มีแผงผ้าดีไซน์เก๋ๆ ติดแบบโค้งเป็นวงกลมซ้อนกันหลายๆชั้น ระหว่างผ้ามีดวงไฟ สามารถถ่ายรูปมุมนี้ได้ออกมาอย่างงดงาม

มีที่งนั่งโซฟานุ่มๆอยู่อีกหลายจุด นั่งรับลมเย็นๆเพลินๆอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวัน

ถัดไปทางซ้ายเป็นห้องอาหารซึ่งมีโต๊ะอยู่ด้านนอกและด้านในห้อง ภายในกว้างขวางรองรับได้จำนวนมาก ห้องอาหารให้บริการอาหารเช้า และมีอาหารกลางวัน อาหารเย็น เป็นเมนู A la carte ไว้ให้บริการด้วย

2. สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำส่วนกลาง รูปทรงอิสระขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารล็อบบี้กับอาคารที่พัก แบ่งเป็นส่วนสำหรับเด็กๆและสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป บริเวณขอบสระมีเก้าอี้และร่มสีฟ้าสดใส เปิดช่วงเวลา 07.00 - 19.00 น.

3. อาคารที่พัก

อาคารสีเทาอมน้ำตาลสูง 8 ชั้น ดีไซน์สวยเท่แปลกตา มีลักษณะโค้งเล็กน้อย ที่สำคัญคือ ยังคงมีสภาพใหม่มาก เนื่องจากที่นี่เปิดให้บริการมายังไม่ถึงปีเลยค่ะ ห้องพักภายในอาคารนี้จะประกอบไปด้วย

- SUPERIOR ROOM

มีจำนวนทั้งหมด 84 ห้อง พื้นที่การใช้งานภายในห้อง 34 ตารางเมตร โดยยังแบ่งเป็นห้องที่มีห้องน้ำแบบอ่างอาบน้ำ 42 ห้อง และแบบฝักบัวอาบน้ำอีก 42 ห้อง และสามารถเลือกเตียงคู่หรือเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ได้ จะอยู่ที่ชั้น 2 - 5

- Executive View Room

มีทั้งหมด 31 ห้อง จะอยู่ชั้นที่ 6 และ 7 พื้นที่ใช้สอยขนาด 34 ตารางเมตร มีระเบียงห้องที่สามารถเปิดประตูออกไปนั่งรับลมชมวิวได้อย่างสบายๆ

- POOL ACCESS

มีทั้งหมด 15 ห้อง เนื้อที่การใช้งานขนา 42 ตารางเมตร เป็นประเภทที่อยู่ชั้น 1 ของอาคาร มีส่วนของระเบียงออกไปยังสระว่ายน้ำอีกแห่งของโรงแรม ซึ่งสามารถลงสระว่ายน้ำตรงนี้ได้เลย

- SEAVIEW SUITE

มีทั้งหมด 7 ห้อง อยู่บนชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาคาร เนื้อที่การใช้งานกว้างขวางถึง 76 ตารางเมตร ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และมีอุปกรณ์ครัวที่สามารถใช้ประกอบอาหารได้

- DELUXE GARDEN ROOM

มีทั้งหมด 29 ห้อง เนื้อที่การใช้งานขนา 47.5 ตารางเมตร เป็นห้องพักแบบพิเศษ แยกออกมาจากอาคาร 8 ชั้น เป็นการใส่ใจของทางที่พักที่อยากเอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะ คือ สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักด้วยได้นั่นเอง ซึ่งภายในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้สำหรับผู้เข้าพักและสัตว์เลี้ยง

4. ห้องประชุมและจัดเลี้ยง

ภายในหอประชุม ประกอบไปด้วยห้องประชุมมากถึง 11 ห้อง โดยมีขนาดแตกต่างกันออกไปสำหรับการจัดประชุม สัมนา หรือจัดเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ

5. สวนสระน้ำพุ

นอกจากส่วนต่างๆที่ได้บรรยายไว้แล้ว ยังมีอีกส่วนที่พิเศษของโรงแรม นั่นคือ สวนสระน้ำพุ สามารถเดินหรือวิ่งออกกำลังกายได้รอบๆสวน โดยมีถนนอยู่รอบสระ และมีสระดินอยู่บริเวณนี้ จำนวน 3 สระ ซึ่งมีการเปิดน้ำพุเป็นเวลา และช่วงค่ำจะมีการเดแสงไฟสีสันต่างๆบริเวณน้ำพุพร้อมเสียงดนตรีประกอบ เป็นโชว์ที่สามารถชมได้อย่างเพลิดเพลิน

จากบริเวณชั้น 8 สามารถมองออกไปเห็นวิวทะเล และอุทยานราชภักรอยู่ไม่ไกล

WORA WANA HUA HIN HOTEL & CONVENTION

9/1 Soi Moo Baan Suan Son, Nong Kae, Hua Hin, Prachuap Khiri Khan 77110

Tel. 032-523-899

Fax. 032-523-890

http://www.worawana.com

ทานอาหารเย็นกันที่ห้องอาหารวรวนาอีกครั้ง มื้อนี้ออกอิตาเลี่ยนกันสักหน่อย ซุปมะเขือเทศ เข้มข้น กลมกล่อม สเต็กเนื้อ เป็นของพี่สาวไปค่ะเพราะเราไม่ทานเนื้อวัว สเต็กปลาแซลม่อน จานนี้เราชอบมาก ชอบทานแซลม่อนอยู่แล้ว และเมนูนี้ทำออกมาได้ลงตัวมาก เนื้อปลานุ่มหลังกรอบ ซอสกลมกล่อม สลัสดผัก และตบท้ายด้วยผลไม้

พอเริ่มค่ำ ออกไปเดินเล่นที่ Cicada Market ตลาดจักจั่น คล้ายตลาดนัดแต่ชิคกว่าหลายเท่า เอาจริงๆเรามาที่นี่ 3-4 ครั้งแล้ว ราคาของที่ขายข้างในส่วนใหญ่ค่อนข้างแพงกว่าตลาดทั่วไป แต่เป็นแหล่งรวมของดีๆสวยๆเก๋ๆ แบบที่คัดมาแล้ว ให้เลือกซื้อกันได้อย่างสบายใจ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ มีทุกอย่าง

โซนของกินที่มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด แต่ราคาขายนักท่องเที่ยว บางอย่างก็ดูน่าทานมาก คนเยอะมากเช่นกัน

จากนั้นเดินออกไปทางด้านหลัง จะมีร้านขายของทั่วไปหมือนตลาดนัด เช่นกัน

และเดินไปอีกหน่อยจะพบทางเข้าด้านหลังของ Tamarind Market อยู่ใกล้ๆกันเลยค่ะ ลักษณะของกิน ของใช้ จะคล้ายๆกับทางตลาดจักจั่น แต่จะเป็นแบบที่ราคาถูกกว่า และเน้นของกินมากกว่า

มีโซนให้นั่งทานกันเป็นระเบียบ อีกหนึ่งจุดเด่นๆนั่นก็คือ มีเวลาและวงดนตรีบันเลงดนตรีสดร้องสดให้ฟัง เพลงส่วนใหญ่เนแนวฟังสบายๆและสนุกสนาน ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย

กลับเข้าที่พัก มานั่งชมจันทร์อยู่หลังห้องก่อนนอน

วันที่ 2

เมื่อคืนที่ผ่านมานอนหลับสบายตลอดคืน ที่นอน หมอน ผ้าห่ม นุ่มมาก จนไม่อยากรีบตื่น พอลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปนั่งเล่นกันริมสระ อากาศดีสุดๆ

อาหารเช้าของโรงแรมเป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ มีไลน์อาหารให้เลือกทานค่อนข้างเยอะ หลากหลาย และรสชาติอร่อยใช้ได้เลยล่ะค่ะ

ทานกัน 2 คน อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่ากิน ตักไปตักมา...วางเต็มโต๊ะ กินหมดทุกอย่างด้วยนะจะบอกให้

เช็คเอ๊าท์กันช่วงสายๆ แล้วออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆกันต่อ ที่แรกเลยคือ อุทยานราชภักดิ์ เป็นอุทยานที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์" ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีและเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์แห่งสยาม มีความยิ่งใหญ่จนขนลุกและรู้สึกตื้นตันใจที่ได้เห็น

พระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 7 พระองค์ ประกอบด้วย

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

อุทยานราชภักดิ์ อยู่ในการดูแลของกองทัพบก ดังนั้นเราจะได้เห็นภาพทหารคอยอำนวยความสะดวกให้ในส่วนต่างๆ ตั้งแต่ลานจอดรถ บริเวณทางเข้าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ถ้าหากว่าสุภาพสตรีท่านใดแต่งกายไม่สุภาพ คือนุ่งสั้นเหนือเข่า จะมีผ้าถุงให้ยืมใส่ ฟรี หรือใส่ เกาะอด สายเดี่ยว แขนกุด ก็จะมีผ้าคลุมไหล่ให้ยืม ฟรีเช่นกัน

นอกจากบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์แล้ว ภายในอุทยานยังมี ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และพระมหากษัตริย์ไทย

จากนั้นเข้ามากันต่อที่ สวนสนประดิพัทธ์ เป็นชายหาดที่อยู่ในพื้นที่การดูแลของกองทัพบกเช่นกัน แต่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันได้ปกติ

หาดทรายที่นี่สะอาด กว้าง และบริเวณรมหาดมีต้นสนให้ร่มเงาอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมานั่งรับลมชมวิว นั่งปิกนิก และเล่นน้ำทะเลกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีที่พักและหอประชุมไว้ให้บริการด้วย