มัลดีฟส์ คือประเทศ ที่ใครหลายๆ คน ใฝ่ฝันอยากจะไปกันมาก ซึ่งแต่ก่อนคนที่อยากจะไปจะต้องคิดหนักพอสมควร เนื่องด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีราคาสูงมาก อาจถึงหลักแสนต่อคนก็เป็นไปได้ แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้วครับ มีทั้งสายบินโลวส์คอร์ส แพคเกจโรงแรมที่พักก็มีให้เลือกหลากหลาย ทริปนี้เริ่มจากความอยากก่อนครับ และตั้งเป้าหมายว่าต้องไปสักครั้งให้ได้ ที่สำคัญต้องไม่คิดเยอะ อยากไปก็จัดไปเลยครับ

ก่อนอื่นต้องหาตั๋วบินก่อนเลย พอดีช่วงนั้นมีโปร 0 บาท ของ AirAsia พอดี ก็ไปเจอราคาดี ไป-กลับ 6,400 บาท จองกันข้ามปีไปเลย ช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค. 61 ก็จัดการจองเลย ได้ Fight บินขาไป 9:30AM - 11:40AM และขากลับ 12:25AM - 7:15PM

เมื่อได้ตั๋วบินแล้ว ก็หาที่พัก เริ่มจากหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักที่อยากไป ตั้งงบประมาณที่เราพอไหว ดูรีวิวเยอะๆ จึงสรุปได้ว่าเป็น Thulhagiri Island Resort & Spa รีสอร์ทเล็กๆ 4 ดาว ที่ตอบโจทย์เรา หลังจากนั้นเลยติดต่อไปที่รีสอร์ทโดยตรง ทางรีสอร์ทจึงแนะเอเจนซี่ของเมืองไทย คือ I Love my Maldives จึงเลยได้ตกลงเรื่องราคาแพคเกจกัน ซึ่งตอนแรกจะซื้อแพคเกจแบบ 4 วัน 3 คืน ตามที่ได้ตั๋วบินมา แต่พอคิดดูแล้ว เวลาบินกลับ ซึ่งเป็นเวลาเที่ยงจะทำให้เราต้องเชคเอ้าท์วันสุดท้ายตอนเช้ามาก เพื่อที่จะไปสนามบิน จึงเปลี่ยนแผนเอาแบบ 3 วัน 2 คืน และวันสุดท้ายจะหาที่พักถูกๆ ใกล้ๆ สนามบินแทน

ทริปนี้ผมไปกัน 12 คน ได้ที่พัก Thulhagiri Island Resort And Spa 3 วัน 2 คืน ห้อง Triple Water Villa 3คน/ห้อง ราคาคนละ 17,200 บาท

ราคานี้รวม

- speed boat ไป กลับ

- อาหาร บุฟเฟ่ 3 มื้อ

- ของว่าง เครื่องดื่ม ตลอดวัน มีเบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

- กิจกรรมที่มีในแพกเกจ คือ snorkeling trip

ซึ่งทาง I Love my Maldives ดูแลดีมาก ถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ตามไปทริปด้วย แต่ก็ไลน์มาถามตลอดว่าเป็นอย่างไร ติดปัญหาตรงไหนไหม แถมคุยทางรีสอร์ทให้ด้วยในวันสุดท้ายก่อนเชคเอ้าท์ เลยได้อาหารกลางวันเพิ่มอีก 1 มื้อก่อนกลับ // ผมไม่ได้ค่าโฆษณาไรเลยนะครับ 555+

อีก 1 คืน ผมได้ที่พัก Hotel Lonuveli ที่พักเล็กๆ บนเกาะ Hulhumale อยู่ใกล้ๆ สนามบิน ในราคา 995 บาท/คน รวมรถรับ-ส่ง จากสนามบิน ด้านหน้าเป็นชายหาด เหมาะสำหรับพักแค่ชั่วคราว เพื่อเดินทางต่อ

จัดการจองทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมเดินทางกันเลยครับ



วันแรกของการเดินทางก็มากันที่สนามบินดอนเมือง มาขึ้นเครื่องที่ลานตากปลาแบบร้อนๆ


ขึ้นเครื่องมาสักพักก็รับใบ ตม. มากรอกไว้เลย

การเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 ชม. ก็จะเข้าสู่ประเทศมัลดีฟส์แล้วครับ

Landing

อีกไม่นานเราจะเข้าเมืองมัลดีฟส์ได้ง่ายขึ้นแล้ว เพราะมีการสร้างสะพานข้ามเกาะจากตัวเมืองมาเลมาที่สนามบินเลย

หลังจากที่ถึงสนามบินแล้ว เดินออกมาจะเจอเคาน์เตอร์โรงแรมต่างๆ เยอะแยะมากมาย เราพักที่ไหนก็เดินไปที่เคาน์เตอร์นั้นได้เลย

พนักงานก็จะพาเราออกมาที่ท่าเรือด้านหน้าสนามบิน เห็นทะเลนึกว่าสระว่ายน้ำ 55+

เรือมาแล้ว ก็พร้อมเดินทาง

การเดินทางโดยสปีดโบทจากสนามบินไปรีสอร์ทใช้เวลาประมาณ 40 นาที

เห็นไกลๆๆ นั้น ใช่แล้ว Thulhagiri Island Resort & Spa นั้นเอง

เดินทางมาเหนื่อยๆ รับ welcome drink กันก่อนครับ อร่อยดี

มาถึงแล้วก็ไปกันที่ห้องพักกันเลย โดยห้องพักกลางน้ำจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ซ้ายกับขวา ผมได้ห้องพักทางด้านซ้าย ถ้าหันออกทะเล

ภายในห้องพัก ดีงามมาก

นอกระเบียง

โต๊ะในห้องจะเป็นกระจกใส มองเห็นพื้นด้านล่าง

ห้องน้ำ

ด้านหน้า

ไปดูอีกฝั่งนึงครับ ฝั่งด้านซ้าย

ตรงกลางจะเป็นสปาของที่นี่ครับ

มุมนี้เคยเห็นในโฆษณามัลดีฟส์หลายๆ ที่เอาไปใช้กัน Thulhagiri Island นี่เอง

ด้านนี้จะโค้งไปทางซ้าย

ท่าเรือที่เข้ามาถึงรีสอร์ท

แบบมุมกว้าง

มาแล้วก็ต้องถ่าย

สำรวจกลางน้ำเสร็จไปสำรวจรอบเกาะกันครับ ด้านริมชายหาดก็จะมีสระว่ายน้ำอยู่ติดทะเลเลยครับ

ห้องพักริมหาด

เดินสัก 5 นาที ก็รอบเกาะแล้วครับ จะเจอชายหาดกว้าง

มีเก้าอี้ให้พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย

เดินมาสักพักพระอาทิตย์ก็จะตกแล้ว จุดนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลมัลดีฟส์ของที่นี่ละครับ

ได้เวลา Dinner Buffet

อาหารจะไปเป็นแนวเครื่องเทศ แต่กินได้ครับ อร่อยอยู่

มุมของหวาน

คืนแรกที่มัลดีฟส์ ใต้ห้องพักจะมีไฟส่องให้ด้วยครับ ปลาเยอะมากๆ


ยามเช้าที่มัลดีฟส์

ตอนเช้าเป็นช่วงที่น้ำลง ก็เห็นปลามาแหวกว่ายอยู่หน้าห้องพัก

น้องนกก็มา

วันนี้ฟ้าใส

มุมอาหารเช้า

กิจกรรมวันนี้ คือ Snorkeling trip ไปดำน้ำด้านนอกรีสอร์ท

นั่งเรือของรีสอร์ทไปกัน

ประมาณ 10 นาที ก็มาถึงจุดดำน้ำ

กระแสน้ำแรงมาก เลยมองไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ผมว่าปะการังบ้านเราสวยกว่า

กลับมาเล่นน้ำที่ชายหาดดีกว่า

หมดไปอีกหนึ่งวัน

สำหรับคืนนี้มีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักเล่นเกมส์กัน เป็นเกมส์แข่งปูเสฉวน ให้เราไปเลือกปูเสฉวนมา 1 ตัว ปูตัวนั้นจะมีเลขกำกับอยู่ กติกาก็ง่ายๆ ปูตัวไหนเข้าเส้นชัยก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะ ได้รางวัลเป็นเบียร์กระป๋องนั้นเอง

ซึ่งปูผมดันเข้าที่ 1 ก็เลยได้มา 4 กระป๋อง พร้อมนวดสปาฟรี 30 นาที สบายไป


เช้าวันสุดท้าย

มีน้องฉลามมาว่ายเล่นให้ชมกัน

ขอลงไปเล่นน้ำกับฉลามหน่อย 55

โขดหินแนวปะการัง

ช่วงเวลาความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ได้เวลา Check out กลับฝั่งสนามบิน

ถึงสนามบินแล้ว ก็เลยนั่งเรือข้ามเกาะ ไปยังเมืองมาเล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์นั้นเอง ค่าโดยสารก็อยู่ที่ 1 ดอลล่า

เมืองมาเล อยู่ฝั่งนู้น

ได้เวลาเรือออก


สะพานข้ามเกาะที่กำลังก่อสร้างระหว่างเมืองมาเล กับเกาะ Hulhule ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Velana International Airport

ถึงแล้วเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลก

เมืองที่เต็มไปด้วยมอเตอร์ไซต์

เดินเลียบทะเลมาเรื่อยจะเจอกับทำเนียบประธานาธิบดีมัลดีฟส์


อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะ (Victory Monument)

มัสยิดกลางมัลดีฟส์ (Islamic Centre)


จัตุรัสสาธารณรัฐ (Republic Square)


ธงชาติผืนใหญ่อาคารชาฮีด ฮุสเซน อดัม (Shaheed Hussain Adam Building)


ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก


เดินเล่นในเมืองสักพักก็ได้เวลาข้ามฝั่งกลับมาสนามบิน เพื่อนั่งรถบริการของโรงแรมไปที่พักสำหรับคืนนี้ ก่อนบินกลับไทยในวันรุ่งขึ้น คือ Hotel Lonuveli ที่นี่พนักงานบริการดีมาก มีบริการอาหารเย็นที่สามารถสั่งเพิ่มได้ อาหารอร่อย ห้องพักสะอาด มีชายหาดหน้าที่พัก ใกล้ๆ สามารถเดินเล่นริมชายหาดได้ มีร้านอาหารเยอะ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักแล้วต่อเครื่องกลับ หรือเพิ่งมาแล้วจะไปเที่ยวมัลดีฟส์ในวันรุ่งขึ้นก็ได้ครับ

จบทริปอย่างสมบูรณ์ อย่าลืมมาเอาตราประทับมัลดีฟส์กันนะครับ

ปล. 2 item นี้อร่อยมากบนเครื่อง

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปมัลดีฟท์

ค่าที่พัก Thulhagiri Island 3 วัน 2 คืน ราคา 17,200 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียบินตรง ไป-กลับ ราคา 6,400 บาท

ค่าที่พักฝั่ง Hulhumale ราคา 995 บาท ค่าภาษีสิ่งแวดล้อม 150 บาท ค่าอาหารเย็น 300 บาท

ค่าซิมการ์ด 528 บาท ค่าทิปพนักงาน ราคา 500 บาท ค่าเรือข้ามเกาะมาเล ไป-กลับ ราคา 66 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 26,139 บาท

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ติดตามเราได้ที่ #ให้รู้ว่ามาแล้ว

📌ฝากกดติดตามกันด้วยครับ

Instagram : instagram.com/hairoowamalaew
Facebook : facebook.com/hiroowamalaew
Youtube : youtube.com/c/hairoowamalaew
Twitter : twitter.com/hairoowamalaew

#ให้รู้ว่ามาแล้ว #Hairoowamalaew


ความคิดเห็น