The Death Railway - วันเหงาๆ กับ รถไฟสายมรณะ

การเขียนรีวิว ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึงในการทำงานนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเมืองกาญจนบุรี หลายครั้ง วันนี้ผมจะมาแชร์ความประทับใจ ณ เส้นทางสายมรณะ / ถ้ำกระแซ กันนะครับ

การเดินทาง

รถไฟ ถือเป็นอีกนึงช่องทางที่เดินทางไป จังหวัดกาญจนบุรี ที่สะดวกมากครับ ผ่านจุดสำคัญในเมืองอีกด้วย โดยเราสามารถจะหยุดเที่ยวในตัวเมืองเป็นสถานที่สุดท้ายก็จะสะดวกในการเดินทางกลับ กรุงเทพครับ

ธนบุรี - น้ำตก

น้ำตก - ธนบุรี

ถ้าใครมีเวลามากหน่อย อาจจะแวะชม น้ำตก ไทรโยคน้อยได้ครับ ที่สถานีสุดท้าย เลยครับ สำหรับใครที่ต้องการชมบรรยากาศสะพานมรณะ ถ้าขึ้นรถไฟจาก กทม 7.50 น .จะมาถึง สถานีถ้ำกระแซ ประมาณ 12.00 น. อาจจะมีช้าบ้างครับในบางวัน

ณ ถ้ำกระแซ นั้น ไม่มีรถสองแถวหรือ รถบริการใดๆเลยครับ ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ต้องมาทางรถไฟได้อย่างเดียวครับ ฉะนั้นพลาดจากรถไฟไม่ได้จริงๆครับ

การเดินทางครั้งนี้ ผมเลือก เดินทางโดยรถไฟครับ จากสถานีน้ำตก ครับ

ผมเลือกเดินทางรถไฟ ขบวน สุดท้ายของวันนั้นครับ รถไฟจะมาจอดรับผู้โดยสาย เวลา 15.15 นาที ครับ ขบวนที่ผมนั่งไปสิ้นสุดที่ สถานีรถไฟ หนองปลาดุก ครับ

ได้ตั๋วแล้วครับ เตรียมตัวขึ้นรถไฟกัน

ที่นั่งจะเป็นชั้น 3 ทั้งหมดครับ อยากนั่งตรงไหนเลือกได้เลยครับ

ผมเลือกตู้ขวบนรถไฟที่ทำจากไม้ครับ มันสวยงามมากครับ

ขบวนอื่นๆจะเป็นแบบนี้ครับ ใหม่ขึ้นมาหน่อย วันนั้น คนเดินทางกันน้อยครับ มี นักท่องเที่ยวต่างชาติซะมากกว่าคนไทยครับ

วิ่งมาได้สักพัก คนก็เริ่มเต็มขึ้นครับ แต่จะเป็นนักท่องเที่ยวฝรั่งซะมากกว่า

ดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆครับ

นั่งมาซัก 20 นาที รถไฟจะเริ่มขึ้นเขาครับ ได้เห็นวิวแม่น้ำแควน้อย อันสวยงามครับ

ผมอยู่ใกล้ตู้สุดท้ายเลยได้วิวสวยๆเยอะเลยครับ

มาจอดที่สถานีรถไฟ วังโพ สถานีรถไฟสุดท้ายก่อนถึง ถ้ำกระแซ ครับ

หลังจากนั่งรถไฟมาประมาณ 30 นาที เราจะมาถึง สถานีรถไฟถ้ำกระแซ แล้วครับ

จุดที่นักท่องเทียวชอบไปคือแวะเที่ยวข้างในถ้ำกระแซครับ

ถ้ำกระแซ

ตั้งอยู่ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร บริเวณที่หยุดรถไฟถ้ำกระแซ เป็นที่หยุดรถของทางรถไฟสายมรณะ บริเวณสะพานถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นสะพานไม้เลียบหน้าผาที่มีความยาวกว่า 450 เมตร เนื่องจากเป็นถ้ำที่อยู่ติดกับบริเวณการสร้างเส้นทางรถไฟที่เป็นช่วงหน้าผาพอดี ซึ่งเป็นจุดที่สร้างยากและยังเชื่อกันว่าจุดนี้ เป็นจุดที่อันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟ เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขาและด้านล่างเป็นแม่น้ำลึกจึงได้สมยานามว่าโค้งมรณะ ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟ มองจากปากถ้ำไปบริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง ในอดีตเชื่อกันว่าเคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า

ถ้ำกระแซ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ๆ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศักดิ์สิทธิ์ เราสามารถเข้าไปไหว้ขอพรหลวงพ่อถ้ำกระแซ พระพุทธรุปองค์ใหญ่ที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่ใกล้เคียงให้ความนับถือ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาที่นี่ต่างก็ไม่พลาดที่จะขอพรกัน

หลังจากผมได้ไหว้พระขอพรกันไปแล้วนั้น เราก็จะเดินไปสำรวจสะพานกันนะครับ

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักใบนะครับ

ทางรถไฟสายมรณะ /ทางรถไฟสายพม่า หรือ ทางรถไฟสายกาญจนบุรี

สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นขอยืมเงินจากรัฐบาลไทย จำนวน 4 ล้านบาท การก่อสร้างใช้เวลาในการสร้างเสร็จเพียง 1 ปี ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ไปจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อให้ถึงปลายทางที่เมืองทันบูซายัด ประเทศพม่าทางรถไฟสายมรณะมีความยาวจากหนองปลาดุกถึงสถานีทันบูซายัดรวม 415 กิโลเมตร เป็นทางรถไฟอยู่ในเขตประเทศไทยประมาณ 303.95 กิโลเมตร และอยู่ในเขตพม่า 111.05 กิโลเมตร มีสถานีจำนวน 37 สถานี ทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวชาวจีน ญวน ชวา มลายู พม่า อินเดีย ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้าง เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล เพื่อจะไปโจมตีพม่าและอินเดียต่อไป ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก ของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนาม ว่า "เส้นทางรถไฟสายมรณะ" ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน

"หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น"

หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลไทยได้จ่ายเงินจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อซื้อทางรถไฟสายนี้ จากอังกฤษ และทำการซ่อมบำรุงบางส่วนของเส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดการเดินรถตั้งแต่สถานีหนองปลาดุกจนถึงสถานีน้ำตกระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร โดยอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน

ไฮไลท์อีกจุดคือการเดินบนเส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่มีความยาว 400 เมตร บนหน้าผาเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในลำน้ำแควน้อย และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เรียกว่าใครมาเที่ยวเส้นทางรถไฟสายน้ำตกแล้วไม่ผ่านมาที่จุดนี้ ถือว่ามาไม่ถึงก็ว่าได้