เชื่อว่า.. หลายคนมีปลายทางที่ไฝ่ฝันไว้ว่าต้องมีสักครั้งที่จะต้องไปเยือนให้ได้ จขบ.ก็เช่นกันปลายทางแห่งฝันครั้งนี้เป็นที่รู้จักดีของนักเดินทางหลายคน โดยส่วนตัวแล้ว(เริ่มรื้อฟื้นอดีต) รู้จักที่นี่ผ่านสารคดีทางช่อง NHK เมื่อสิบกว่าปีก่อน สารคดีมันก็ยาวเป็นชั่วโมง ๆ แต่สิ่งที่สะกดให้คนอยู่ไม่นิ่งอย่างจขบ.ดูจนจบได้นั้นคือ ความสามัคคี วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของผู้คนและสถานที่แห่งนี้

มันเหมือนรักแรกฝังใจเปล่าวะ.. คือพอรู้จักแล้วไม่ลืมเลย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปก็ยังไม่ลืม(เริ่มเน่า) แต่ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า ไปญี่ปุ่นกี่ครั้งทำไมไม่ไปที่นี่ตั้งแต่แรก คำตอบวนกลับมาที่เดิมคือไปไม่เป็น 555 จนรอบนี้เรียกว่าออกตามหาปลายทางแห่งนี้จริง ๆ ^^

Shirakawa - go

บ้านในแบบกัสโชสึคุริ
(Gassho-zukuri)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
บนพื้นที่ราบสูงฮิดะ (Hida)

พื้นที่ของหมู่บ้านอยู่ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติ บ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช" ซึ่งแปลว่า “พนมมือ”ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน
ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร ซึ่งโครงสร้างของบ้านสร้างขึ้นโดยไม่ได้ใช้ตะปู อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างต่างๆ ล้วนแต่มาจากวัสดุจากธรรมชาติ อย่างต้นหญ้าที่ปลูกไว้เพื่อนำมาใช้มุงเป็นหลังคาขนาดหนาแต่ยังคงความแข็งแรง จนสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี

หมู่บ้านทางประวัติศาสตร์แห่งชิระคาวะและเมืองโกคายามาเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์แบบดั้งเดิมที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมสังคมและเศรษฐกิจ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพวกเขาก็สามารถปรับตัวได้อย่างประสบความสำเร็จเมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

หมู่บ้านประวัติศาสตร์นี้ประกอบด้วยบ้าน117 หลังและโครงสร้างอื่น ๆ อีก 7 แห่ง ในนี้มีอยู่ 6 หลังที่เป็นบ้านสไตล์ Gassho ที่ส่วนมากสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ตั้งอยู่ในแนวเดียวกันขนานไปกับแม่น้ำโช ทำให้เห็นภูมิทัศน์อันแสนสงบและสวยงามจับใจ บ้าน 7 หลังมีโครงสร้างโดยใช้คาน ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 20 ในหมู่บ้านมีวัดแบบพุทธอยู่ 2 แห่ง คือ วัดเมียวเซนและวัดฮนคาคุ อีกทั้งยังมีเทพผู้ปกครองหมู่บ้านอยู่ในศาลเจ้าฮาชิมัน ซึ่งเป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต ตั้งอยู่ที่ตีนและล้อมรอบไปด้วยป่าสนซีดาร์ เครดิต : japan-expert

แหล่ะนี่ภาพที่อ้าง.. ความสามัคคีที่ดึงจขบ. ให้นิ่งติดจอ เครดิตภาพ google.com

.

.

.

ราว 10 โมงเศษ ๆ เราวิ่งบนถนนที่ไม่คุ้นเคยตาม GPS ไปสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา ถนนวิ่งง่ายค่ะ วิวข้างทางก็ป่าสนสวยงามอะไรเบอร์นั้นตามธรรมชาติของฤดูร้อน



ตามธรรมเนียมแล้วจ่าย ect.ไปไม่มากนัก เพราะไม่ไกลเมืองทาคายะมะเท่าไหร่

และ


จากในเมืองใช้เวลาไม่นานราว ๆ 20 นาทีก็จะเจอทางคดเคี้ยวไม่สูงชันนักก่อนจะเข้าหมู่บ้านชิราคาวะโกะที่ปรากฏตัวให้เห็นในพื้นที่ลุ่มระหว่างหุบด้านขวามือ


เราเลือกที่จะไปที่จุดชมวิวที่อยู่บนภูเขากันก่อนค่ะ

ทางขึ้นเขานี้ก็จะชันอยู่หน่อย ๆ ที่ทางขึ้นเขาเราเจอทั้งรถทัวร์ รถส่วนตัว แม้กระทั้งคนเดินเท้าเดินตามทางขึ้นไป ยังอดแปลกใจว่า.. เดินได้ไง

เหนื่อยแทน T.T





ภาพข้างหน้า

ชิราคาวะโกะท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวสด ทำจขบ.สตั้นไป 5 วิกับภาพข้างหน้า











ที่นี่เจอคนไทยด้วยค่ะ เขามาถามว่าเราทำเลนส์ตกไหมเป็นภาษาอังกฤษ เอิ่ม.. เปล่าจีนนะจร๊ะ อย่า ๆ

......

หลังจอดจุดชมวิวบนเขาสูง เราย้อนลงเส้นทางเดิมเพื่อเข้าหมู่บ้านกันค่ะ ไม่มีที่จอดรถให้ด้านหน้าแต่สามารถอ้อมไปจอดที่จอดรถของหมู่บ้านได้โดยเสียค่าจอด 1000 เยน เราใช้วิธีให้คนขับรถตู้หยอดเราลงตรงทางเข้า ไม่ต้องไปเช่าที่จอดรถเพราะคนขับรถเขามาหลายรอบแล้วเลยขับไปจอดที่เขาลูกเดิม งกเนาะ 555 แต่เข้าท่าใช่ไหมล่ะ


จุดจอดรถหยอดกรุ๊ปเราลง.. หน้าร้านขายผักค่ะ อันนี้ถ่ายติดมา

กับรูปแรกที่เริ่มก้าวเดินตรงทางเข้าหมู่บ้าน

หลังแรกที่ถ่ายมา เพราะอยู่หน้าสุดของหมู่บ้าน "สวย"


ก่อนจะเถลไถลไปกับบ่อบัวหน้าหมู่บ้าน




แดดตอนเกือบเที่ยงที่ไม่น่าล้อเล่นเอาซะเลย

และยิ่งเดินก็ยิ่งแสบหน้า "ร้อน"

เริ่มตามหาหมวกอยู่หลายร้าน






ได้เห็นกับตาละนะ

ชิราคาวะโกะ











白川村, Shirakawa-mura


ร้านรวงมากมาย เรียงรายตามข้างทาง ส่วนใหญ่ของที่ขายที่นี่ก็พวกของฝาก ของที่ระลึก และของพื้นบ้านค่ะ

ส่วนพริกนี้ชอบเป็นการส่วนตัวเนาะ ^^


ที่นี่

จขบ.ลืมเรื่องแผ่นดินไหวที่โอซาก้าไปสนิทเลย

tiny daisy

ครอบครัว กับหมูน้อยที่โชว์สเต็ปกระโดดตบในหุบเขา


................

รู้มาว่า.. ในหมู่บ้านนี้มีสะพานแขวนข้ามแม่น้ำที่สวย ๆ อยู่ด้วยเราไม่รอช้าออกตามหา ละบ้านกัสโซ่หลายหลังที่ไม่ได้ไปซอกแซกดู เพราะคุณแม่เริ่มเดินไม่ค่อยไหวไปหาสะพานกันค่ะ ซึ่งก่อนถึงสะพานจะเจอศาลเจ้าประจำหมู่บ้านไปก่อน (เข้าใจว่างั้นนะคะ)


เจอสะพานแล้ว



โทรเรียกรถให้มารับโดยนัดกันที่ฟากโน้น


ก็ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะทำกันแบบนี้

แต่เด็ก ๆ ก็ตามลงมาสินะ



น้ำเย็นจนอยากลงเล่นเลยใช่ไหมเด็ก ๆ

พีคสุดหลังขึ้นรถก็จุดนี้เชอรี่ญี่ปุ่นแม้ไม่กรุบกรอบเท่าเชอรี่เมกา แต่ก็หวานสู้ได้อยู่นะ ขึ้นรถเหนื่อย ๆ หิว ๆ ก็ได้สิ่งนี้แหล่ะช่วยชีวิต ปล.ไม่ได้ซื้อเองค่ะ


ลาด้วยภาพนี้.. หมู่บ้านกัสโซ่ ปลายทางในฝันที่เป็นจริงแล้ว (1 ฤดู) และไม่เสียใจที่ดั้นด้นมาค่ะ ^^

ขอบคุณที่แวะมาฮิดะ ทาคายะมะ

- ชิราคาวะโกะ -

Mariabamboo

 วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 07.15 น.

ความคิดเห็น