แค่คิดว่าอยากพาร่างกายไปที่ไหนสักที่ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เลยเริ่มหาข้อมูลจนไปสะดุดตากับสถานที่แห่งนี้ ซึ่งก็คือ " เ ขื่ อ น ขุ น ด่ า น ป ร า ก า ร ช ล " นั่นเอง
การเดินทางของเราในทริปนี้เราใช้บริการ 🚌รถตู้สาธารณะ สายกรุงเทพฯ-ขุนด่านปราการชล โดยเราขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามกับฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต รถตู้จะไปส่งเราถึงบนเขื่อนเลย ค่ารถก็ 130฿
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงเขื่อนแล้ว ตอนเราไปถึงฝนกำลังตกเลย แต่โชคดีตกไม่หนักและก็ไม่นาน
ทริปเราตั้งใจจะนั่งเรือเพื่อไปเที่ยวน้ำตกที่อยู่หลังเขื่อน แต่ด้วยความที่ทริปนี้เราไปเที่ยวในวันธรรมดานั้นคนน้อย จึงไม่ค่อยมีคนหารค่าเรือ ลุงที่จุดบริการเรือจึงบอกให้พวกเราไปเดินเล่นกันก่อน ถ้ามีคนมาเดี๋ยวลุงจะโทรบอก เราเลยไปเดินเล่นถ่ายรูป
ค่าบริการเรือ แบบเหมา ก็อยู่ที่ลำละ 1000฿ นั่งได้ 5 คน แต่ถ้าไปวันหยุดก็มีแบบแชร์ร่วมกับคนอื่นก็คนละ 200฿
เรือจะพาเราไปเที่ยว 3 จุดด้วยกัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
เดินถ่ายไปเพลินๆ เกือบชั่วโมงได้ ลุงก็โทรมาบอกว่ามีคนมาเพิ่ม 2 คน จะไปเลยไหม นี่ก็รีบตอบกลับไปว่าไปค่ะ
เรือเราเป็นลำแรกที่ออกของวันนี้เลย ทั้งลำมีกันแค่ 4 คนเอง คือเรา เพื่อนเรา และอีก 2 คน ที่มาร่วมแชร์กัน เวลาถ่ายภาพก็จะไม่ค่อยติดคนเท่าไร ดีเลย ชอบๆ
ก่อนลงเรือ ขอถ่ายมุมนี้อีกรอบ
เย้ๆ ได้ขึ้นเรือแล้ว มาไม่เสียเที่ยวแล้วเรา นั่งเรือไปก็รับลมเย็นๆไป ฟินไปอีก
มาถึงจุดแรกแล้ว เอ่อ! ลืมบอกไปว่าหลังเขื่อนนี้ไม่ค่อยมีสัญณาญโทรศัพท์นะ
กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอ
อย่าเพิ่งหนีเราหล่ะ ขอเราถ่ายรูปนายก่อนนะ 555+
เจออีกตัวแล้ว
มันคือดอกอะไรหรอ ไม่เคยเห็น
แค่เห็นน้ำตก ก็รู้สึกเย็นหล่ะ อยากเอาตัวลงไปแช่จัง
ถ่ายไปสักพักก็ลงมาจะขึ้นเรือ แต่ไม่เจอเรือแล้ว อ้าววว ลุงเทเราแล้วหรอ
รอไปสักพักลุงก็มา
ระหว่างทาง เขียวจริงๆ ดูแล้วรู้สึกเย็นสบาย อากาศก็ดี
และแล้วก็มาถึงจุดที่สอง
ระหว่างทางอีกครั้ง มันสวยจริงๆนะ
และแล้วก็มาถึงจุดสุดท้าย
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องโบกมือลา
ขากลับ เราก็โทรหาลุงขับรถตู้ บอกกับลุงว่าจะกลับแล้วค่ะ รอสักพักก็มีรถตู้ขึ้นมารับบนเขื่อน ค่ารถก็ 130฿ นั่งรถไม่นานก็ถึงรังสิต จบทริป
มีเวลาแค่หนึ่งวัน มีเงินไม่ถึงพัน ก็ออกไปเที่ยวได้แล้ว ออกไปเที่ยวกันเยอะๆนะคะ แล้วคุณจะหลงรักการท่องเที่ยว
PaiGabTang
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.55 น.