ปล.บทความนี้เหมาะกับ desktop ค่ะ

ที่แต่ละที่ มีเสน่ห์ของที่แห่งนั้น และที่แต่ละที่เป็นปลายทางของนักเดินที่จะออกตามหา ถ้าจะนับฮิดะ ฟุรุคาวะเป็นปลายทางของ จขบ. ๆ ก็ว่ามันใช่แล้วล่ะ เพราะที่แห่งนี้รู้จักพร้อม ๆ กับชิราคาวะโกะที่อ้างว่ารู้จักผ่านรายการ Japan Journal Gentle ท่องเที่ยวกึ่งสาระคดีเมื่อนานนับสิบกว่าที่เคยอ้าง ณ เวลานั้น.. คำว่าฮิดะ... ตรึงใจจนบอกกับตัวเองว่าที่ฮิดะและอะไร ๆ ที่รวมเป็นฮิดะจะถูกออกตามหาโดยตัวของตัวเอง "สักวัน"

และแน่นอนสาวก Your Name ไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่สินะ
ฮิดะฟุรุคาวะ เมืองปลาคาร์ฟ เมืองที่แสนจะสงบแห่งนี้คอยต้อนรับการเยือนของเราในช่วงต้นฤดูร้อน ทีแห่งนี้ผู้คนดำเนินชีวิตร่วมกับปลาคาร์ฟในคลองน้ำใส สายน้ำที่ดูปลอดภัยต่อฝูงปลาน้อยใหญ่ที่ว่ายวนอยู่อย่างนั้น ผู้คนดูเป็นมิตรยิ้มง่ายไม่แพ้คนไทย บ้านเมืองเก่า ๆ ที่ดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหล ร่ายล้อมด้วยกำแพงขาวและเขตของวัด เมืองเขาโอบ และสายน้ำไหลวนอย่างนั้นให้เดินหลงอยู่ทั้งวันก็ทำได้นะ ^^



ฮิดะ ฟูรุคาวะ - Hida Furukawa

เป็นเมืองเล็กๆในหุบเขาของจังหวัดกิฟุ
เป็นศูนย์กลางของเมืองฮิดะ (Hida City)



สามารถเดินทางจากทาคายาม่าไปเมืองฟูรุคาวะโดยรถไฟเพียง 15 นาทีเมืองฟูรุคาวะมีขนาดเล็กและเงียบสงบกว่าเมืองทาคายาม่า แต่ก็มีชื่อเสียงและมั่งคั่ง โดยผลผลิตไม้คุณภาพสูงรวมถึงช่างไม้ท้องถิ่นฝีมือระดับสูง และมีเมืองเก่าที่อนุรักษ์ไว้อย่างดีมีเทศกาลที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดขึ้นหลังจากเทศกาลทาคายาม่า ในฤดูใบไม้ผลิเพียง 1 สัปดาห์ เครดิต : TalonJapan


飛騨古川 瀬戸川と白壁土蔵街
เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าที่ฮิดะฟุรุคะวะนั้นจะมีเมืองเก่าตั้งเรียงรายหลงเหลืออยู่แห่งหนึ่ง

ส่วนที่เป็นสีสันของที่นี่คือแม่น้ำเซโตะที่จะมีปลาคาร์ปมากกว่าพันตัวอาศัยแหวกว่ายอยู่ดูมีสีสัน
ประกอบกับฉากหลังที่เป็นกำแพงโกดังสีขาวและกำแพงหินของวัดทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพถูกฉาบด้วยความสวยงาม

และยังจะได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่อาทิเช่นร้านขายเทียนญี่ปุ่น

(ร้านเทียนมิชิมะ) ที่ดำเนินกิจการต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

.

.

.

จากชิราคาวะโกะ เที่ยงเกือบบ่ายเพราะกินข้าวกันสายเลยยังไม่ค่อยหิว นั่งรถตามจีพีเอสตรงดิ่งเข้าสู่เขตเมืองฮิดะ ฟุรุคาวะทางขึ้นทางเขาลาดชัน สลับกับขาลงลาดชันพอ ๆ กันนั้น ที่ถนนสายนี้ จขบ.แอบประทับใจในความเป็นยุ่นเพราะทางด่วนที่วิ่งมาแทบไม่มีทางชัน เรามาเจอทางชันที่นี่ ความเป็นยุ่นจะมีป้ายกำกับทุกจุดทุกระยะคอยบอกว่า ลาดชัน (เอียง) กี่เปอร์เซนต์ ละเอียดอ่อนอย่างนี้ชอบมากเลย ขอบอก !!

นอกกระจกรถเรานั่งมองป่าเขาสนที่เขียวสดอยู่อย่างนั้นในช่วงฤดูร้อน คิดว่า.. ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคงสวยมาก ๆ นั่งรถสักพัก ฮิดะฟุรุคาวะเมืองผลิตไม้ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เราได้เห็น แน่นอนค่ะ ที่เมืองนี้เราเห็นท่อนไม้และโรงงานผลิตไม้มากมายที่โซนนอกเมืองค่ะ

ปล. แท่งโลหะยาว ๆ ทาสีแดงสดไว้บอกขอบถนนยามหิมะตกก่อตัวสูงค่ะ ไม่งั้นรถตกไหล่ทาง !! ตะแกรงก็คงไว้กันการ erosion ของหิมะด้วยเช่นกันค่ะ ว่าละก็อยากมาหน้าหนาวบ้างเนาะ


ถึงเขตเมืองและ Canal Area แล้วค่ะ จุดจอดรถของเราคือหน้าวัด Enkoji Temple และร้านขายดอกไม้หน้าวัดนั่นเลย ยอมรับว่าเห็นกระบองเพชรแล้วลืมไปหาปลาคาร์ฟค่ะ 555


Enkoji Temple

เราไม่เข้าวัด เราไม่เข้าร้านดอกไม้ แต่ตรงดิ่งตามหาน้องปลาคาร์ฟกัน

ที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่าเมืองแห่งกำแพงโกดังสีขาวและแม่น้ำเซโตะ

ก่อนเก็บรูปปลา
ขอเก็บรูปคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ครอบครัวเราก่อน

ต่อ ๆ



ฮิดะ ฟุระคาวะของกรุ๊ปเรา เริ่มจากซอยเล็ก ๆ ข้างกำแพงวัด Enkoji Templeค่ะ ที่บอกอย่างนี้เพราะตรงกันข้าม หากเดินไปทางโน้นคือเริ่มตรงกำแพง โกดังเก็บของติดกับร้านขายดอกไม้นั่แหล่ะค่ะ

ที่นี่เงียบสงบสิ่งทีไ่ด้ยินชัดเจนเพียงสิ่งเดียวคือ สายน้ำเซโตะเพียงเท่านั้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นแทบไม่ออกมาเดินให้เห็นเท่าไหร่ค่ะ มีเพียงแต่นักท่องเที่ยวที่มีให้เห็นประปราย แต่ไม่ขาดสาย จขบ.เชื่อว่าที่นี่จะสวยทุกฤดูแน่นอนค่ะ


Hida Furukawa - เมืองแห่งกำแพงโกดังสีขาวและแม่น้ำเซโตะ



ปลาคาร์ฟที่นี่แลดูสุขภาพดีค่ะ เพราะน้ำใส ที่เป็นน้ำไหล และน้ำสะอาด มีตู้อาหารปลาให้นักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากเดินชมปลา หรือเก็บภาพ ราคา 100 เยนเด็ก ๆ ก็ได้สนุกกับการให้อาหารปลาคาร์ฟกันล่ะคะ ถือเป็นการช่วยกันดูแลปลาด้วยเนาะ



ตามคลองปลาคาร์ฟใส ๆ ไปจนไปโผล่ที่แยกท้ายซอยวัด Enkijo ค่ะ เป็นสี่แยกให้เลือกเดินหากเลี้ยวซ้ายจะเป็นซอยร้านค้าเล็ก ๆ จนไปโผล่ถนนอีกสายนึงซึ่งไม่ไกล เราเลือกเลี้ยวขวาเพราะตามปลาคาร์ฟไปตามกำแพงด้านหลังของวัดค่ะ และด้านหลังของวัดนั่นเองเป็น Festival Hall ร้านอาหารและโซนหมู่บ้านของคนแถวนั้นแหล่ะค่ะ


"""

ช่วงแนะนำ

(รับรองไม่มีใครจ้าง)
คือจะบอกว่าตอนไปญี่ปุ่น 3 รอบหลังนี้
จขบ.ใช้ samurai wifi ตลอดค่ะ







เพราะเขาอึด สัญญาณดีแชร์ได้หลายเครื่องและเป็น power bank ให้ในตัวค่ะ ใครไปญี่ปุ่นรอบหน้าลองดูนะคะ ส่วน จขบ.รอบหน้าถ้าไม่ติดอะไรคงไม่นอกใจค่ายนี้ค่ะ นอกจากจะมีค่ายอื่นที่สมรรถนะคล้ายกัน แต่ถูกกว่า 555




"


dandelion สัญลักษณ์ของหน้าร้อน ความสนุกสนาน และความร่าเริง

เป่าเลยดีไหม ให้ลอยไปไกล ๆ "หน้าร้อนของฉัน"


"

ตรงแยกนี้... เราสองแม่ลูกดังแล้วแยกวง เพราะชาวบ้านหิว แต่มนุษย์แม่ได้ยัดสัญชาตญาณนักเดินทางไว้ให้โมเสสแล้ว "ไม่" เราจะไม่ยอมเสียเวลาเดินหาของกินในขณะที่เรากำลังเที่ยว ตามหาปลายทางที่รอมานานแน่ ๆ บนรถที่นั่งมานั้น เราจัดการเบ็ดเสร็จอย่างอิ่มแปร้อย่างแน่แท้แล้ว เป็นเหตุผลว่า.. ทำไมเราแยกตัวออกเดินเที่ยวต่อ ปล่อยให้กรุ๊ปใหญ่เดินหาข้าวกินกัน (เอิ่ม ฟังดูดีเหลือเกิน)




ให้อาหารปลากัน


ในขณะที่ชาวบ้านไปหาข้าวกินนั้น เราได้พบกับคำว่า "เฮ้ย !! ส่วนตัว เว้ย" เสียงก็จะแบบกังวาลมาก

และเป็นเวลาที่จะได้สำรวจ Enkoji Temple และ
Matsuri Festival Square ก็คราวนี้แหล่ะหนา



Matsuri Festival Square


...

ฝั่งตรงข้ามนั้น Hida Crafts Culture Museum ไม่ได้แวะค่ะ



ระหว่างวัด Enkoji กับ Matsuri Festival Square ตรงสี่แยกเล็ก ๆ ที่อ้างนั้นมีต้นแปะก๊วยที่อายุยืนอยู่ต้นหนึ่ง หน้าร้อนอย่างนี้ใบเขาจะเขียวสด แต่ที่สังเกตุได้เพราะมีใบแก่ ๆ เขียว ๆ ใหญ่ร่วงลงตรงหน้า หยิบขึ้นมา เอ้า ใบแปะก๊วย นี่คือล่อให้มาช่วงใบไม้ร่วงใช่ไหม ตอบ !!


หลัง maple คือต้นแปะก๊วย สูง ใหญ่



.

.

.

เราไม่รู้ทิศ ไม่รู้ทางหรอก เพราะไม่ได้ทำการบ้านมาว่า ผังเมืองคืออะไร ยังไง

รู้แต่ว่า นาทีนี้ตามสายน้ำเซโตะไปอย่างเดียวเท่านั้นแหล่ะ

อีกนัยกล่าวว่า ตามปลาไปเหอะน่า

ทำให้เราย้อนกลับมาที่ซอยข้างวัด Enkoji เพื่อจะเดินข้ามฟากไปที่ร้านขายดอกไม้ฝั่งโน้น (เหมือนจะไกลเนาะ)



เจอละค่า สะพานแยกหน้าวัด

พบถนนเมน และคลองปลาคาร์ฟด้านโน้น

เหมือนจะดี ... เราแวะเข้าร้านขายดอกไม้ กะจะดูแคคตัสแล้วซื้อกลับบ้านสักหน่อย

อยากรู้แคคตัสที่ญี่ปุ่นมีอะไรต่างจากไทยบ้าง แต่เจ้าของร้านหายต๋อมมมม อดเลย

ออกจากร้านดอกไม้ ตามหาปลาคาร์ฟต่อดีกว่า

กำแพงขาวด้านนี้
ส่วนตัวแล้วไม่ทราบแน่ชัดค่ะว่าเป็นอะไร
เพราะหาป้ายอ่านไม่เจอ
แต่คงไม่ใช่วัดแล้วเนาะ ^^
โซนทางนี้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร
และร้านรวงมากมายต่างจากโซนก่อนที่ไปแวะมา
เพราะโซนก่อนหน้านั้นวัฒนธรรมมาเต็ม
ทำให้การแตกแต่งริมคลองของแต่ละหน้าร้าน
หน้าบ้านต่างกันออกไป


ที่นี่โมเสสได้ใกล้ชิดกับปลาและมือถือตามประสา

ตามวีดีโอนี้สิ


.

.

.

ลาปลาแล้วออกตามหาฝูงกันดีกว่า ได้ข่าวว่า-วนหาร้านข้าวตั้งนาน สองนาน ไม่เจอ

นี่อิชั้นวนเที่ยวจนหน่ายปลาไปแล้วนะคะ ยังไม่ได้ข้าวเที่ยงกิน ไม่ใช่อะไรแบตมือถือจะหมด 555 สายชาร์ตไม่ได้เอามา กรรมเนาะมี power bank แต่ไม่มีสาย T.T

ตามหาจนเจอว่า ความหิวพากรุ๊ปใหญ่ไปนั่งร้านอร่อยประจำถิ่นร้านนี้ค่ะ

จขบ.ไม่ได้ทานด้วย แต่สามีบอกอร่อยมาก อร่อยทุกเมนู ข้อเสียคือจะรอนานหน่อย เพราะร้านนี้มีแค่สองสามี ภรรยาช่วยกันทำ แต่รสชาติไม่เสียใจเลยล่ะค่ะ (ทุกปากบอก)

สรุปคือถ้ามาทางด้านหน้าร้านรวง ร้านอาหารก็จะเยอะหน่อย แต่กรุ๊ปเราเขาไม่รู้ วนหาร้านนั่งทานอยู่หลายร้านโซนหลังวัด ส่วนใหญ่ปิดหมดจะเปิดตอนเย็น ใครหิวก่อนเย็นเชิญโซนด้านหน้านะคะ เดี่ยวได้กินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสองกว่าเหมือนกลุ่มนี้ 555

.........

ส่วนโมเสสอิ่มแปร้ กับปลาคาร์ฟไปล่ะคับ ^^


ลาด้วยภาพนี้นะคะ

ขอบคุณที่แวะมาฮิดะ ฟุรุคาวะ

เมืองปลาคาร์ฟที่แสนสงบด้วยกันค่ะ

Mariabamboo

 วันพฤหัสที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.11 น.

ความคิดเห็น