ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทย คงต้องมี ฮาโกเน่และทะเลสาบคาวากูจิโก๊ะ ติดโพสแน่นอนครับ การเดินทางครั้งนี้ผมเริ่มที่ ชินจุกุ ครับ โดยทั้งทริปผมจะใช้ ฟูจิ-ฮาโกเน่ พาสครับ

น่าตื่นเต้นจริงๆนะครับ

เส้นทางที่พาสสามารถใช้ได้ครับ

เส้นทางรถบัส ในฮาโกเน่ ใช้ได้หมดเลยครับ

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรสบัส พาส ฟูจิ-ฮาโกเน่ ใช้ได้หมดเลย ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

พื้นที่ครอบคลุมที่สามารถใช้ Fuji Hakone Pass ได้

[ บริเวณฮาโกเนะ ]

  1. รถไฟสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Railway)
  2. รถประจำทางสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Bus) (เฉพาะเส้นทางที่กำหนด)
  3. รถรางสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Cable Car)
  4. กระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเนะ (Hakone Ropeway)
  5. เรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเนะ (Hakone Sightseeing Cruise)
  6. รถไฮเวย์บัสสายโอดะคิวฮาโกเนะ (Odakyu Hakone Highway Bus) (เฉพาะเส้นทางที่กำหนด)
  7. รถประจำทาง “คังโคชิเซ็ทสึเมกุริ” สายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan “Kanko Shisetsu Meguri” Bus)
  8. Tokai Bus Orange Shuttle (เฉพาะเส้นทางที่กำหนด)

[ บริเวณภูเขาฟูจิ ]

  1. รถไฟสายฟูจิคิวโค (Fujikyuko) (สถานี Kawaguchiko – สถานี Shimoyoshida)
  2. รถประจำทางสายฟูจิคิว (Fujikyu Bus) (สถานี Gotemba – สถานี Kawaguchiko)

และรถประจำทางทุกสายที่วิ่งบริเวณรอบทะเลสาบทั้งห้า, รถบัสนำเที่ยวรอบทะเลสาบคาวางุจิ/นิชิ, รถประจำทางสายฟูจิกโกะ (Fujikko-go), รถบัสวนรอบภูเขาฟูจิมรดกโลก (Mt. Fuji-World Heritage Loop Bus)

สิทธิประโยชน์พิเศษ

ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหาร มากกว่า 90 แห่งในบริเวณรอบฟูจิและฮาโกเนะ


เนื่องจากผมได้มีเวลา 1 วัน ในโตเกียวเลยซึ้อตั๋ว ฟูจิ-ฮาโกเน่ ล่วงหน้าเลยครับ อย่างแรกสุดเราก็เดินทางไปที่ สถานีรถไฟชินจุกุ เดินตามป้ายไปที่ ห้องจำหน่ายตั๋วของบริษัท Odakyu ครับ อยู่ชั้น สอง ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลยครับ

สถานที่จัดจำหน่ายตั๋ว Fuji Hakone Pass

  1. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติโอดะคิว สาขาชินจุกุ (Odakyu Sightseeing Service Center – Shinjuku)
  2. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ โอดะคิว สาขาโอดาวาระ (Odakyu Sightseeing Service Center – Odawara)

หมายเหตุ :
– ตั๋วท่องเที่ยวนี้ไม่สามารถซื้อได้จากสถานีอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมา
– ไม่สามารถซื้อตั๋วที่ออกเดินทางจากชินจุกุได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติโอดะคิว สาขาโอดาวาระ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.odakyu.jp/english/center/



จากแผ่นเอกสารข้างบนจะเห็นเลยว่ามีตั๋ว 2 ประเภทครับ ใช้ 3 วันติด คือ

ออกจาก ชินจุกุ 8,000 เยน - เลือกไปรถไฟ/กลับรถ 1 ขา หรือเลือกสลับกันได้ครับ ใช้ตั้งแต่ ชินจุกุ ถึง ทะเลสาบโมซูโกะ

ออกจาก โอดาวาระ 5,650 เยน - ใช้ตั้งแต่สถานีรถไฟ โอดาวระ ถึง ทะเลสาบโมซูโกะ

ผมเลิกออกจากโอดาวาระครับ เพราะหลังจาก ทะเลสาบคาวากูจิโก๊ะ ผมยังจะไปอีก 2 เมือง ก่อนกลับ โตเกียว

เมืองอาตามิ https://th.readme.me/p/18204

เมือง อิโตะ https://th.readme.me/p/18175

ตั๋วผมจะระบุใว้ชัดเจนครับว่า ใช้ได้ที่ สถานีรถไฟ โอดาวาระ เป็นต้นไป

จากสถานีรถไฟชินจุกุ ไป สถานีรถไฟโอดาวาระ ผมใช้บัตร Suica จะเสียถูกว่านิดหน่อย

สามารถหาซื้อบัตร Suica ได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป 7-11 / Lawson /FamilyMart ที่สถานีรถไฟก็หาซื้อได้ตามตู้ บัตรนี้สามารถใช้ได้ทุกๆที่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

การเดินทางที่เราจะต้องใช้ในทริปนี้ครับ

ขึ้นกระเช้าครับ ไม่จำกัดจำนวนรอบ

ล่องเรือโจรสลัด ไม่จำกัดจำนวนรอบ

ขอเรียกว่ารถรางนะครับ มันดูสวยและมีมนต์ขลังจริงๆ ไม่จำกัดจำนวนรอบ

รถบัสในเขตฮาโกเน่ครับ ไม่จำกัดจำนวนรอบ


รถไฟ โทซาน เคเบิ้ลคาร์ครับ ไม่จำกัดจำนวนรอบ

                    เว็บสำคัญที่ใช้เช็คตารางรถ ตารางเรือ รถไฟ ครับ


ตารางรถบัส ฟูจิโก๊ะ

http://bus-en.fujikyu.co.jp/route/detail/id/1/#tim...

ตารางเวลาเรือ ฮาโกเน่

https://www.hakone-kankosen.co.jp/foreign/thai/tim...

ตารางรถ โทซาน ที่ ฮาโกเน่

https://www.hakone-tozanbus.co.jp/english/

รูปป้ายจอดของรถบัส

https://www.hakone-tozanbus.co.jp/english/station/...

เช็คตั๋วรถไฟได้ที่เว็บไซต์นี้ครับ

http://www.hyperdia.com/en/

ป้ายหยุดรถสำคัญครับ

Bus Stop Hakone machi

Bus Stop Gotemba Station

Bus Stop Hakone

Bus Stop Sengoku


Bus Stop Togendai Station


การเริ่มต้นของผมเริ่มต้นที่สถานีรถไฟชินจุกุ - โอดาวาระ

บนสถานีรถไฟชินจุกุ ครับ เตรียมตัวขึ้นรถไฟไปเมืองโอดาวาระกันครับ ผมใช้บัตร Suica ผ่านมาเลยครับ

ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆครับ ก็มาถึง สถานีรถไฟโอดาวาระครับ

ใครพอมีเวลาแวะไปเที่ยว ปราสาทโอดาวาระได้ครับ

Odawara-seibatsu(小田原征伐)" หนึ่งในปราสาทที่เป็นตำนานเล่าขานถึงความยิ่งใหญ่ในยุคสมัยโฮโจ ผู้ซึ่งปกครองบ้านเมืองในแถบคันโตในสมัยอดีตกาลได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1447 อีกทั้งยังเป็นที่พำนักบนฐานที่มั่นอันสูงตระหง่านซึ่งสามารถสังเกตการณ์ได้อย่างกว้างไกล แต่ใครไหนเลยจะล่วงรู้ว่า สถานที่แห่งนี้จักเป็นดั่งอนุสรณ์สถานสุดท้ายแห่งตระกูลโฮโจ อุจิมาสะและจบสิ้นยุคสมัยโฮโจนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

Hōjō Ujimasa (โฮโจ อุจิมาสะ ) หนึ่งในโฮโจผู้ทรงอำนาจแห่ง Odawara Castle แต่กลับต้องพ่ายแพ้สงครามและปลิดชีวิตตนเองด้วยการคว้านท้อง (เซ็ปปุกุหรือฮาราคีรี) ในปี ค.ศ.1590 เพื่อปกป้องวงศ์ตระกูลและปราสาทโอดาวาระจากการปิดล้อมพื้นที่รอบปราสาทนานหลายเดือนโดยกองทัพของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นักรบผู้ทะเยอทะยานที่สามารถรวบรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงได้สำเร็จและปราศจากผู้ท้าทายอำนาจอีกต่อไป

ปัจจุบันปราสาทโอดาวาระ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.ปี 1860 เพื่อให้เป็นโบราณสถานของชาติและบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 1960 เนื่องจากที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเขตคันโต ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้เปิดให้เข้าชมโดยภายในเป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่สำคัญในอดีต มีทั้งหมด 3 ส่วนแบ่งเป็น 5 ชั้นและชั้นบนสุดเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวได้รอบ 360 องศาและยังจำหน่ายของที่ระลึกอีกด้วย ซึ่งข้อห้ามที่สำคัญคือห้ามถ่ายรูปภายในปราสาท อัตราค่าเยี่ยมชมนั้นอยู่ที่ 400円 และหากใครที่ได้ขึ้นไปชมวิวยังชั้นบนสุดของปราสาท จะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ครองเมืองต่างเลือกที่จะพำนักอยู่บนปราสาทที่สามารถมองเห็นเมืองได้จากทั่วทุกสารทิศ ทั้งผืนน้ำ ทิวเขาและตัวเมือง นับเป็นสถานที่มั่นที่เหมาะสำหรับทั้งการปกครองและยามศึกสงครามอย่างหาที่ใดเปรียบมิได้


เดินออกจากสถานี โอดาวาระมานิดเดียวครับ

หลังจากที่เรามาถึงสถานี โอดาวาระ นั้นก็มองป้ายเพื่อไปนั่งรถไฟต่อไปที่ สถานีรถไฟ ฮาโกเน่ - ยูโมโต๊ะ


หน้าตารถไฟประมาณนี้นะครับ

จากนั้นก็ต่อรถไฟไปสถานี Gora ครับ

ใครมีเวลาสามารถเข้ าHakone Gora Park ได้ Free ครับ

จากสถานี Gora เดินเท้าประมาณ 5 นาที มาถึงสุดท้ายของ Tozan Train แล้วก็เปลื่ยนมานั่ง เคเบิลคาร์ Hakone Tozan Cablecar

บรรยากาศในรถไฟครับดูมีมนต์ขลังจริงๆครับ


ผู้คนไม่เยอะมากครับ มาเที่ยวหน้าร้อนก็ดีแบบนี้

และเราก็มาถึงสถานี Sounzan เพื่อเตรียมเปลื่ยนมานั่งกระเช้า Hakone RopeWAY

เดินไปขึ้น กระเช้า Hakone RopeWAY กันเลยครับ

เวลาทำการครับ

นั่งกระเช้าชมวิวกันครับ ซึ่งครั้งนี้ผมโชคร้ายครับ เจอฝน เซ็งเลยครับ วิวอะไรก็แทบไม่เห็น

ทริปนี้ก็มากับพี่สาวคนสนิทด้วยครับ

อึดใจเดียวครับมาถึง สถานี Owakudani ครับ

ยืนถ่ายกับป้ายให้รู้ว่ามาจริงๆนะเธอ

หุบเขาโอวาคุดานิ(Owakudani) ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกเน่ในจังหวัดคานากาว่า นักท่องเที่ยวส่วนมากจะต้องมาลิ้มรสไข่ดำแห่งหุบเขาโอวาคุดานิกันให้ได้แต่วันที่ผมไปถึง มันฝนตกและหนาวมากครับ ไม่อยากกินอะไรเลย เสียดายไม่ได้ชิมไข่ดำที่มาจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ โดยด้านนอกของเปลือกไข่จะเป็นสีดำเนื่องจากถูกแร่กำมะถัน มีความเชื่อว่าเมื่อทานไข่ดำ 1 ลูก จะมีอายุยืนขึ้น 7 ปี ยิ่งกินยิ่งดีเค้าว่ากันว่าอย่างนั้น คงต้องลองมาครั้งหน้าครับ

หุบเขาโอวาคุดานินั้นเกิดขึ้นมาจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อประมาณ 3000 ที่แล้ว โดยที่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งภูเขาไฟที่ยังไม่ดับอยู่นั่นเอง จึงทำให้มีบ่อน้ำร้อนและถ้ากำมะถันหลงเหลืออยู่ ตรงนี้เป็นจุดชมวิวฟูจิที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องมาจากหุบเขานี้ยังมองเห็นภูเขาไฟฟูจิในวันฟ้าโปร่งๆอีกด้วย แต่วันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจเลยครับ

ต้องขอยืมรูปจากอินเตอร์เน็ตมาให้เพื่อนๆได้ดูกันนะครับ

หน้าตาของไข่ดำ

วิวบนกระเช้าครับ

บริเวณลานจอดรถครับ

จากรูปข้างบนครับ เราสามารถนั่งกระเช้าต่อไปที่ สถานี Togendai หรือจะนั่งบัสจาก หน้าสถานี Owakudani ก็ได้ครับ เพื่อไป Hakone Sightseeing Cruise ถ้าใครสงสัยใดๆ มี พนักงานให้คำปรึกษาได้ครับ พูดภาษาอังกฤษได้ครับ


เนื่องจากผมใช้เวลาไปเยอะมาในวันแรก ก็เลยจะต่อรถยาวจากสถานี Togendai ไป สถานี Gotemba เพื่อไปที่พักที่ได้จองใว้ ณ ทะเลสาบคาวากูจิโก๊ะ ครับ ขึ้นรถได้ทีบริเวณหน้า ประชาสัมพันธ์ ตามรูปด้านบนเลยครับ

ตารางรถครับ วิ่งจาก Togendai - Gotemba

รถไฟจะมาจอดที่สถานี Gotemba สำหรับคนที่ใช้บัตร JR และรถบัส เช่นเดียวกัน

เมื่อมาถึงแล้วให้ข้ามไปอีกฝั่งรถสถานี Gotemba เพื่อจะไปสถานีรถไฟ Kawaguchiko โดยรถบัสเพราะเราซื้อตั๋วใว้ โชว์บัตรแล้วนั่งยาวไปสุดสายเลยครับ

หน้าป้ายรถเมล์จ้า

ใครมีเวลาจะไป Gotemba Premium outlets ก็ขึ้นจากที่นี้ได้ครับ

หลังจากนั้นก็มาถึง สถานีรถไฟ Kawaguchiko ใช้เวลา 40 นาที ได้ครับ

ผมพักที่ทะเลสาบ คาวากูจิโก๊ะ 2 วัน ครับ ช่วงเดือน มิถุนายน ที่ผมได้เดินทางนั้น มีฝนตกบ่อยและไม่มียอดภูเขาหิมะฟูจิ ให้ได้เห็นแล้ว ถือว่าปีนี้ไปเร็วมากๆครับ

โปรแกรมที่ผมได้ท่องเที่ยวในเขตนี้ครับ

Oshino Hakkai 忍野八海 หมู่บ้านน้ำใสhttps://th.readme.me/p/19124

พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ (Iyashi no Sato いやしの里 ) https://th.readme.me/p/19092

ใครอยากตามรอยได้เลยนะครับ

สถานีท่องเที่ยวน่าสนใจครับ




หลังจากนั้น วันสุดท้าย ผมเลือกเดินทางจาก สถานีรถไฟ Kawaguchiko ไป สถานี Mishima นั่งรถกลับไปที่สถานี Gotemba ครับมานั่งรถที่หน้าป้ายเบอร์ 6 ได้เลยครับ

มาก่อนคนแรกๆเลยครับ

จากนั้นก็ข้ามฝั่งที่สถานี Gotemba อีกรอบ เพื่อนั่งรถบัสต่อไปที่ สถานี Togendai เราจะไปลงเรือโจรสลัดกันครับ จากนั้นจะนั่งไปที่ MotoHakone - ko เพื่อไปเยี่ยมชมศาลเจ้า โอโทริแดงกันครับ

ตารางเรือครับ



เตรียมตัวขึ้นเรือครับ

เตรียมออกเดินทางครับ

บรรยากาศดีจริงๆ

ทะเลสาบอะชิ

เป็นทะเลสาบที่เกิดจากซากประหลังหักพังซึ่งกันแม่น้ำHakene หลังจากภูเขาไฟในHakoneระเบิดเมือ3,000ปีก่อน ทุกวันนี้แหล่งกำเนิดของน้ำในทะเลสาบมาจากน้ำพุใต้ทะเลสาบ โดยเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ20กิโลเมตร รอบๆทะเลสาบมีสถานที่ท่องเที่ยวและรีสอร์ท/โรงแรมตั้งอยู่ ซึ่งรู้กันว่าเป็นสถานที่ชมวิวของภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดที่ลึกที่สุดของบริเวณHakone มันจึงเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวHakone ถ้าคุณต้องการสนุกสนานกับทัศนียภาพจากทะเลสาบ มันเป็นความคิดที่ดีในการล่องเรือที่มีให้บริการจากท่าเรือ4แห่งของทะเลสาบ ในฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์ของทะเลสาบน่าตื่นตาตื่นใจมากด้วยต้นไม้มีเต็มไปด้วยใบไม้สีแดงและเหลือง นอกจากนี้บริเวณข้างทะเลสาบยังที่สถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ทำให้ทะเลสาบอะชิเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีคุณค่าต่อการเดินทางมาHakone

สถานที่ท่องเที่ยว

  1. *บริเวณHakonemachi: Hakone Sekisho, สวนOnshi-Hakone-Koen, พิพิธภัณฑ์Hakone Ekiden
  2. บริเวณMoto-Hakone: ศาลเจ้าHakone-jinja, พิพิธภัณฑ์ศิลปะNarukawa, โรงแรมHôtel de Yama "Salon de Thé Rosage"
  3. บริเวณHakone-en/Togendai: กระเช้าHakone-Komagatake, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำOwakudani, Hakone-en, ศาลเจ้าKuzuryu-jinja
  4. บริเวณAsino-yu/Oshiba: รูปปั้นพระพุทธรูปหินMoto-Hakone, น้ำตกHiryu-no-taki, บ้านชาAmazake-chaya http://www.hakone-ashinoko.net/

นั่งเรือเพลินๆ แป๊บเดียวก็มาถึงท่าเรือ Motohakone - ko แล้วครับ

เดินต่อไปอีก 10 นาที ครับเพื่อไป

ศาลเจ้าฮาโกเน่(Hakone Jinja, 箱根神社) ตั้งอยู่ด้านล่างของภูเขาฮาโกเน่บริเวณชายฝั่งของทะเลสาบอาชิ สังเกตง่ายๆคือจะมีเสาร์โทริอิสีแดงตั้งเด่นอยู่ในทะเลสาบ เป็นศาลเจ้าในศาศนาชินโตที่เป็นศาลเจ้าสำคัญของเมือง ตัวศาลเจ้าสร้างเมื่อปี 757 โดยศาลเจ้าดั้งเดิมนั้นตั้งอยู่บนเขาโคมางะทาเกะแต่ได้ย้ายมาตรงแนวชายฝั่งอย่างในปัจจุบัน

ใครมีเวลาลองแวะไปศาลเจ้าด้านบนได้ครับ


ในที่สุดก็มาถึงแล้วนะครับ


เสาอีกต้นหนึ่งก็อยู่ในเมืองครับ


หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้า ขอพรแล้วก็เดินทางกลับมาที่สถานีครับ


ผมได้เดินทางต่อไปเมือง Mishima ครับ ด้วยรถ Tokai Bus สีส้ม


นั่งมาประมาณ 1 ชั่วโมงได้ครับมาจอดที่สถานี Mishima เลย


จบการ รีวิว แล้วครับ สำหรับเมือง มิชิม่า ผมไม่ได้อยู่เที่ยวต่อ รีบต่อรถไฟ ไปเมือง อาตามิ และ อิโตะ ครับ

เมืองอาตามิ https://th.readme.me/p/18204

เมือง อิโตhttps://th.readme.me/p/18175

ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ กด like share Comment ด้านล่างได้เลยครับ

กดติดตามต่อได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/GolfytheJourney/

Instagram : https://www.instagram.com/golfythejourney/

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCnqCI_fF3OPdFUSLR...

Readme : https://th.readme.me/id/Golfythejourney

Golfy The Journey

 วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.20 น.

ความคิดเห็น