รวม 10 ประเทศ ไปไม่ง้อวีซ่า ( ก็เที่ยวได้ )


10 ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุด ไปแบบไม่ต้องมีวีซ่าก็ไปได้ ไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก มีแค่พาสปอร์ตก็สามารถไปเที่ยวแบบชิลๆได้เลย คนไทยอย่างเราชอบอยู่แล้วความสบาย

ประเทศญี่ปุ่น ( เที่ยวได้ : 15 วัน )เป็นประเทศที่กำลังอยู่ในความสนใจเป็นอันดับต้นๆของคนไทย เป็นแดนปลาดิบสุดฮิตที่ใครหลายๆคนสามารถไปได้แบบไม่ต้องคิดอะไร ด้วยความที่เป็นประเทศที่ไกล้ประเทศไทยและเป็นประเทศที่ไม่ต้องง้อวีซ่า มีแค่พาสปอร์ตก็สามารถไปได้เลย อีกอย่างเดียวนี้มีทัวร์ราคาถูกไปเที่ยวเยอะมาก แหละที่นั้นแหละช็อปปิ้งและร้านอาหารเยอะมาก ที่นี้เที่ยวได้ถึง 15 วันกันเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วรีบจองตั๋วไปกันเลย

เวียดนาม ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

นาขั้นบันได ลองเรือไม้ที่ฮาลองเบย์ เดินเล่นชิลๆในเมืองมรดกโลกฮอยอัน จะมีอะไรสมบูรณ์แบบไปมากกว่านี้อีก ที่นี่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เอกของตัวเอง ผู้คนที่เป็นมิตรและยิ้มแย้มตลอดเวลา อีกทั้งมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกับทางบ้านเราอย่างประเทศไทยเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นที่นิยมของคนไทยเป็นอย่างมาก ใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวที่ๆมีความอบอุ่นที่นี่เหมาะมากที่จะแบกเป้มาเที่ยว

บลาซิล ( เที่ยวได้ : 90 วัน )

บลาซิลเป็นสถานที่ที่เป็นที่น่าจับตามองมาก ที่สำคัญมาแบบไม่ต้องใช้วีซ่าด้วย ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น เมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดยเป็นเมืองที่กล่าวขานกันว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นที่รู้จักในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะชายหาดกอปากาบานา รู้แบบนี้แล้วรีบตีตั๋วกันไปเลย

มาเก๊า ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

มาเก๊า เป็นประเทสที่มีความผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรป เป็นอีกประเทศที่น่าท่องเที่ยวมาก ทั้งด้านสถาปัตยกรรมที่สุดคลาสสิคและคงความเป็นยุโรปไว้อย่างดี และรวมไปถึงเรื่องอาหารการกินที่มีความอร่อยถูกปากคนไทย ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมเยือนกันอย่างมาก อีกทั้งมีสถานที่ที่น่าสนใจอย่าง โบสถ์เซนต์ปอล เชนาโด้ สแควร์ วัดอาม่า และอื่นๆ

มัลดีฟส์ ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

ทะเลที่ขึ้นชื่อและมีนักท่องเที่ยวไปกันเยอะที่สุด คือ ทะเลมัลดีฟส์ มัลดีฟส์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวทะเล เป็นสวรรค์ของคนที่รักทะเลเลยจริงๆมีบ้านวพักที่อยู่ใจกลางทะเล และน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก หาดทรายสีขาว และโลกท้องทะเลอันสวยงาม อย่าพลาดที่จะมาเที่ยวกันเด็ด

ฮ่องกง ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

ถ้าต้องพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และแหล่งซื้อสินค้าราคาเบาๆ สถานที่แรกที่คิดถึงคือ ฮ่องกง ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์รวมของแบรนด์เนม เสื้อ กระเป๋า รองเท้า และอื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลก และยังมีร้านอาหารเด็ด ร้านอาหารดัง อีกมากมาย ใครที่กำลังหาที่กินที่เที่ยวราคาเบาๆแนะนำให้มาฮ่องกงเลยย

ใต้หวัน ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ไกลจากบ้านเราเลย มีที่เที่ยวที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างไทเป ที่เป็นศูนย์รวมของกินของใช้และมีแหล่งช็อปปิ้งศูนย์การค้าหลากหลายที่เลย ที่เที่ยวในเมืองหลวงอีกหลายๆที่ก็เริ่มเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ทั้งวัด ธรรมชาติต่างๆ รวมไปถึงแหล่งสถานที่เมืองโบราณอย่างจิ่วเฟินที่มีจุดเด่นคือตั้งอยู่บนเขา เมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวออกมาว่าตั้งเป็นประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเข้ามาประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวต่างพากันหลั่งไหลกันไปเที่ยวเรื่อยๆ

สิงคโปร์ ( เที่ยวได้ : 30 วัน )แลนมาร์คของประเทศสิงคโปร์ที่ขึ้นชื่อก็ต้องยกให้ เจ้าสิงโตพ่นน้ำ ที่ใครหลายๆคนต้องแวะไปเก็บรูปมาอวดกันอย่่างมากมาย รวมไปถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย และเรื่องความสะดวกสบายในเมืองสิงคโปรบอกได้คำเดียวมามีความสะดวกสบายและไฮเทคอย่างมาก นักท่องเที่ยวจึงหลั่งไหลมากันอย่างมาก และเป็นแหละรวบรวมภาษา และวัฒนธรรมที่หลากหลาย รู้อย่างนี้แล้วรีบมากันเลยย

มาเลเซีย ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

เป็นประเทศที่ติดกับทางบ้านเรา เป็นประเทศเพื่อนบ้านชายแดนใต้ที่นักท่องเที่ยวชอบมาเที่ยวไทยกันแบบชิล์ๆ มาเลเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชือชาติเป็นอย่างมากและมีความผสมผสานกับความเป็นจีน เพราะคนที่นั้น สามารถพูดภาษา มาลายู อังกฤษ อินเดีย และ ภาษาจีน และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และวัฒนธรรมที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ อาหารการกินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่น ข้าวยำ และข้าวหมกไก่ ทุกๆอย่างหลอมเข้าด้วยกันเป็นอย่างดีเลย

ลาว ( เที่ยวได้ : 30 วัน )

ສະບາຍດີ…ลาว เพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวนั้น ไปง่ายมากๆ นั่งรถ นั่งเครื่องก็สามารถไปได้แบบง่ายๆ หลักจากที่มีประกาศเปิด AEC ประเทศไทย-ประเทศลาว ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทสก็กลมเกลียวกันอย่างมาก ทำให้นักท่องเทียวไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น อีกอย่างประเทศเพื่อนบ้านมีธรรมชาติและภูเขาที่สวยงามอย่างมากให้ความรู้สึกแบบบ้านเมืองคนไทย


ติดตามแอดมินได้ทาง LOOKCHANGTOUR

LC Travel

 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 13.20 น.

ความคิดเห็น