ip0uj972hvnt
ตะลอนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเราทั้งคู่ จุดหมายหลักของเราในทริปนี้คือ "หมู่บ้าน Shirakawa-go" เห็นจากภาพตามโซเชียลแล้วสวยมาก เลยอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง และอย่างที่บอกว่าพวกเราไม่เคยไปญี่ปุ่นกันเลย ตอนแรกคิดว่าเราซื้อทัวร์ไปกันดีมั้ย พวกเราก็ไปดูทัวร์กันตามงานท่องเที่ยวญี่ปุ่น แต่ตารางการเที่ยวก็ยังไม่ถูกใจเท่าไร เราเลยมาคิดกันว่าหรือพวกเราจะหาข้อมูลแล้วไปกันเอง หลังจากนั้นเราก็เข้าไปหาข้อมูลต่างๆ จึงได้มาเป็นแผนที่ลงตัวของเราทริปนี้
  1. ตั๋วเครื่องบิน Japan Airline (BKK - KIX)
    เราได้ตั๋วในงานเที่ยวญี่ปุ่นที่พารากอน จองไปกลับ (17 -23 Jan 24 คนละ 19,900 บาท)
    ** Full sevice รวมน้ำหนักกระเป๋า 2 ใบ ใบละ 23 กิโลกรัม
  2. Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass
    ตั๋วรถไฟที่เราใช้ในทริปนี้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass เป็นตั๋วรถไฟที่ครอบคลุมเมืองหลักอย่าง Osaka Kyoto Kanazawa Takayama Nagoya สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 วันติดโดยไม่จำกัดเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงบัสที่เข้าไปหมู่บ้าน Shirakawa-go บัตรนี้สามารถใช้เดินทางได้ตั้งแต่สนามบินด้วยนะ (ใบละ 4,762 บาท ซื้อจาก Klook)
  3. บัตร Osaka Metro
    บัตร Metro ใช้เดินทางใน Osaka เราซื้อเป็น 2 วัน (ใบละ 289 บาท ซื้อจาก Klook)
  4. บัตรโดยสารรถไฟ Nankai Rapi:t Kansai Airport Express
    บัตรรถไฟเดินทางจาก Osaka เข้าสนามบิน KIX (ใบละ 325 บาท ซื้อจาก Klook)
  5. โรงแรม
    เราจองที่พักทั้งหมดผ่าน Agoda โดยเลือกแบบที่ไปจ่ายวันที่เช็คอิน ส่วนการเลือกทำเลเราจะพยายามเลือกโรงแรมที่ใกล้สถานีรถไฟ หรือเดินออกไปจากสถานีรถไฟไม่ไกลเท่าไร เพราะเราย้ายโรงแรมกันเกือบทุกวัน (ราคาที่พักก็ประมาณไม่เกิน คืนละ 2,000 บาท)
  6. รถบัสเข้าหมู่บ้าน Shirakawa-go
    เราได้จองรถบัสเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้าน โดยการโทรไปจองกับ Nohi bus Reservation Center สำหรับเราที่ใช้พาสต้องโทรไปจองเท่านั้น สามารถจองล่วงหน้าได้ 30 วัน (9:00am~5:00pm) ตามเวลาญี่ปุ่น
    - กดรหัสโทรต่างประเทศ > Ais 003, Dtac 004, Ture 006
    - ตามด้วยรหัสประเทศญี่ปุ่น > 81
    - ตามด้วยเบอร์ Nohi bus > 577321688
    เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ ฟังเข้าในง่าย ก่อนโทรแนะนำเตรียมข้อมูลการวันที่จอง รอบเวลารถ ชื่อ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้หมายเลขการจอง 11 หลักมาให้เรา แล้วก็นำไปออกตั๋วจริงที่เค้าเตอร์ Nohi bus ในเมือง Kanazawa หรือ Takayama

Day 5 🚈 Kyoto

เช้าวันที่ 5 ตื่นกันแต่เช้า ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็ลงไป check-out และทำการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน ที่โรงแรมนี้มีที่ฝากกระเป๋าแบบเป็นกิจลักษณะเลย มีตัวล็อคอย่างดี

844i4bcbjhpc

จุดหมายแรกของวันนี้อยู่ที่ " วัดน้ำใส " เราใช้วิธีเดินจากที่พักระยะทาง 2.5 km. ใจมันสู้จริงๆ แต่ก็ชอบนะ เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศระหว่างทางไปเรื่อยๆ อีกอย่างอากาศก็ดีเย็นสบาย แต่เดี๋ยวมาดูกันว่าจะไหวมั้ย เช้านี้มีฝนปรอยๆ

bj45ndhcprpv
y0r4201c9vsr
e12t2gie4mov
o896nf25alvs
j59hbe8ma0u0
psf40ncx75b1
3vt4lfep1d4h
86hjmy9izc5f
t1e9pziqicm3
ajqkv3cvbki4
9bcv48r6whkl
tsb7dxpakdu9
i7r6tjraze6v

เดินมาเรื่อยๆ ชิวๆ จนกระทั่งใกล้ถึงวัด จากทางราบเดินสบายๆ เริ่มต้องเดินขึ้นเนินแล้ว เริ่มหายใจถี่ขึ้น ตานี่มองหาแท็กซี่กันละ แต่มันไปอีกไม่ไกลก็จะถึงแล้ว ดีนะที่มีเพื่อนเดินเห็นคนญี่ปุ่นเดินกันเพียบเลย เอาวะสู้ดิสอง...ฮึบแล้วก็เดินกันต่อ

ad1kcwbjfjgn
tk7pxbcvs4sq
neonjtac551a

วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) หรืออีกชื่อ วัดน้ำใส สำหรับวัดนี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยวแบเรา มีสถาปัตยกรรมโบราณ เป็นวัดที่ใหญ่โตอลังการมาก ไฮไลท์ของที่นี่ก็น่าจะเป็นอาคารไม้ที่สร้างโดยที่ไม่มีการใช้ตะปู ถือว่าเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ จนได้ขึ้นเป็นมรดกโลก ที่มาของชื่อวัดน้ำใสมาจากที่มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านตัววัดนั่นเอง แล้วก็ยังมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นเมืองเกียวโต และเป็นจุดชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโตอีกด้วย

9r8zl6nev85m
ufxz7jj0gcq4
pe5d5jystpqb
wht6mp3t7aon
e2hd6a2yjz0g

ที่นี่มีเก็บค่าเข้าด้วยนะ ขึ้นมาแล้วก็ไปซื้อบัตรกันก่อน ราคาก็คนละ 400¥

0vy60ek3hncj
81n8q41cwtkq

เข้ามาด้านในก็เจอกับคนเยอะมาก เราเดินเข้าไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการไหว้ใดๆ พวกเราขอข้ามเลยนะไม่ถนัดเลย พวกเราเข้าไปก็เน้นถ่ายรูปกันซะส่วนใหญ่ 

4zg6n9jpkp97
9p8pljw73b1w
3x7qyllv9rsr
18krov4pp5ew
8l1u45r07lb6
dn78arsr7n7f
sjsyx2tpboe5
ejkmhaf52olu

ทางเดินตรงนี้ถ้ามาช่วงที่ดอกซากุระบานคงจะฟินไม่น้อย เพราะตลอดทางมีแต่ต้นซากุระ เราคุยกันว่ายังอยากมาอีกรอบนึงเลย

i0rtniel5j98
ltdc5zx435w9

ตรงจุดนี้เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะมีป้ายบอกมีจุดที่สามารถถ่ายรูปวัดน้ำใสแบบพาโนรามาได้ แล้วก็ได้มาเป็นภาพนี้ บรรยากาศตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว มีหมอกบางๆ อยู่ด้านหลังตรงภูเขา

r80xu8u6ufop
18ccdxyqq47a
zz590v62kdus
ey7rwadg08du
mtohoc60qvvz

เดินไปเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดที่เป็นน้ำตก

u8mygrh5z0me
qug8oq3fczeq
hdufqa2jfo9o
c9dh55bezk1j
xmyg68lws8un

ทางเดินกลับมองเห็นวิวเมืองเกียวโตด้วยนะ แล้วฟ้าก็เปิดตอนที่เรากลับ มีหมอกบนยอดเขาด้วย

km5bboclkcie
y4hknyrk2ulz

ออกจากวัดน้ำใส เราก็เดินกลับไปทางเดิมแต่จะเลี้ยวไปกิน Starbucks กันสักหน่อย ซึ่งสาขานี้มีการนำโรงน้ำชามาบูรณะใหม่ให้กลมกลืนกับย่านเมืองเก่า ที่เรียกว่า Ninenzaka ในย่านนี้ก็จะมีทั้งอาหาร ของหวาน เครื่องประดับ เข้าของเครื่องใช้ขายตลอดทางเดิน

6monupj1h7uo
v9oakjh8fqzk
5qnn9j354on3
p7y7y67jqyn5
tajxqa9ssk6r
j6xipgj4a59u
whr8aj1f9qri
syyoxlgnm559
7g7ganysnlwu
yzdnmbxvj7l6
uo2am21ffxwa
b5wbtk72lk4y
g6xr4btnu94k
1956hdwatloc
w3troudocmbc

เดินต่อมาเรื่อยๆ เราก็มาเจอร้านกาแฟ ร้านน่ารักมาก The Unir coffee senes เข้ามาในร้านมีพี่บาริสต้าอยู่ 2 คนเฟลนลี่มากๆ บรรยากาศในร้านดีมาก

391hcksfi5au
7vbz15m2b6bs
lt6xn4wxvjr9
1406ft6uc4ko
tb4i0hq49gt0
r680bc7qz98l
iyyj0cnp8hm4
vfjt8y26eztb

ออกจากร้านกาแฟก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนมาเจอกับ "วัดคงโกจิ" เป็นวัดเล็กๆ ที่เข้ามาจะเจอกับลูกบอลผ้าหลากหลายสีสัน ใกล้ๆ กันจะเป็น "วัดโฮคันจิ" สามารถมองเห็นเจดีย์ยาซากะ จุดนี้นักท่องเที่ยวก็นิยมมาถ่ายรูปกันเยอะ

vwmi1qqc20vw
xieqo28g1xd9
b0okc9xvs8sp
1e0l5wloghxc

เราเดินกลับไปเดินสำรวจของกินตลาดใกล้ๆ โรงแรมกันดีกว่า ในตลาดมีของกินเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นปลา เนื้อ อาหารทะเล ขนมก็มี แล้วเค้าจัดของหน้าร้านได้แบบน่ากินมาก อยากจะกินทุกร้านเลย

tx5hn2m5ofoo
1e65yzzjm5aj
2u2nx9nr7wnw
1mm68ua3gk2q
3tjfzwz56qc4
0bv4kq2691io
u3ctu0s6143m
nb5vfzucb8pz
lnxvdeawywuw

ได้เวลาบอกลาเมืองเกียวโตแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือ เดินทางไปยังโอซาก้า Osaka เรานอนที่โอซาก้ากันทั้งหมด 2 คืน แต่ก่อนจากเกียวโต ขอแวะเซลฟี่กับ Kyoto tower สักหน่อย

o16w2kexwa39

กว่าจะได้เซลฟี่กับ Kyoto tower เดินวนอยู่นั่นแหละ 

🚃 Kyoto > Osaka

หลังจากนั้นเราก็นั่ง JR Thunderbird ไปยัง Osaka แล้วก็นั่งใต้ดินไปลงที่โรงแรม เราเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่โรงแรมกันก่อนเลย โรงแรมของเราวันนี้ "Ark Hotel Osaka Shinsaibashi" ทำการเช็คอินเสร็จสรรพ ก็ขึ้นห้องไปนั่งพักขาให้หายเมื่อยกันสักแปป

มื้อเย็นวันนี้เราออกไปหาเนื้อ หาโปรตีนเข้าสู่ร่างกายกันสักหน่อยด้วย "Shabutei Shinsaibashi"  ชาบูหม้อเดี่ยว เราทานแบบบุฟเฟต์เลือกเป็นเนื้อ (ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อ ก็มีหมูให้เลือกนะ) เนื้อสั่งได้เรื่อยๆ เลย แล้วที่นี่เค้าจะสไลด์เนื้อกันสดๆ จานต่อจาน เนื้อที่ได้มาแผ่นใหญ่มาก จริงๆ จานเดียวก็อิ่มแล้วแต่เดี๋ยวไม่คุ้มสั่งเพิ่มอีกสักจาน 55 ส่วนราคาเราเลือกเป็นราคา 4,980¥ ในเซตก็จะมีเนื้อ ผัก อุด้ง แล้วก็ไอศครีม มีเวลาทาน 1.30 ชั่วโมง

จุ่มเนื้อ จิ้มซอสเซซามิ อร่อยมากกกกก (น้ำจิ้มงาสูตรพิเศษของทานร้าน พิเศษจนมีเครื่องนวดงาอยู่ตรงทางเข้าร้าน)

g2sptl10w3r1
xpytar1jmy3n

อิ่มแล้วก็กลับไปนอนพักร่างกันก่อน เก็บแรงไว้เดินลุยโอซาก้าในวันพรุ่งนี้


#สรุปค่าใช้จ่าย day 5

  • ค่าเข้าวัดน้ำใส = 800¥ (คนละ 400¥)
  • Starbucks = 1,600¥
  • The Unir coffee senes = 3,100¥
  • เทมปุระ = 1,100¥
  • รถไฟใต้ดินไปโรงแรม = 480¥ (คนละ 240¥)
  • โรงแรม Ark Hotel Osaka Shinsaibashi = 11,520¥ (พัก 2 คืน)
  • มื้อเย็น Shabutei Shinsaibashi = 9,960¥ (คนละ 4,980¥)
ความคิดเห็น