คามาคุระ (Kamakura) เป็นเมืองริมทะเลของจังหวัดคานางาวะประเทศญี่ปุ่น อยู่ตอนใต้โตเกียว มีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี ติดภูเขาและทะเล มีชายหาด มีคนเล่นเซิร์ฟกันอยู่ที่นี่ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และบรรยากาศดีมากๆ
วันนี้เราจะพาไป One Day Trip กับที่นี่กัน
จากโตเกียว:
1.นั่งรถไฟสายรถไฟโอดะคิว จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) ลงสถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa Station) ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปสายเอโนะเด็น (Enoden Line) ลงที่สถานีคามาคุระ (Kamakura Station) ใช้เวลา 35 นาที (ถ้ามีบัตร Enoshima-Kamakura Pass นั่งสายเอโนะเด็นฟรี)
2.นั่งรถสายไฟโยโคสุกะ (Yokosuka Line) จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ลงสถานีคามาคุระ (Kamakura Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เราเลือกเส้นทางที่ 1 ค่ะ เราอยู่แถวชินจูกุ ใกล้มากกว่า
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักรถไฟฟ้าสายเอโนะชิมะ (Enoshima Dentetsu Line) หรืออีกชื่อก็คือ สาย“เอโนะเด็น (Enoden)”กันก่อน
รถไฟสายนี้คือรถไฟสายยอดนิยม ตั้งแต่ในคนท้องถิ่นถึงนักท่องเที่ยว วิ่งจาก Fujisawa Station (01) ผ่านเกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island) ปลายทาง Kamakura Station (15) ทั้งหมด 15 สถานี รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขบวนรถเป็นแบบย้อนยุควิ่งไป-กลับ และวิวข้างทางก็สวยไม่แพ้ใครเลย โดยเฉพาะช่วง Kamakurakokomae station - Inamuragasaki Station จะวิ่งริมทะเล
ข้อมูลอ้างอิง: https://www.odakyu.jp/english/sightseeing/enoshima_kamakura/
ตั๋วโดยสารรถไฟเอโนะเด็น (Enoden)
ประเภท 1 วัน (1-day pass) “โนะริโอะริคุง (Noriorikun)” สามารถขึ้นจากฝั่ง Kamakura Station หรือ Fujisawa Station
จาก Shinjuku Station มาถึง Fujisawa Station ใช้เวลาประมาณ 55 นาที เราต้องเดินไปขึ้นรถไฟสาย Enoden ที่ชั้น 2F ห้างโอดะคิวที่อยู่ข้างๆ เมื่อข้ามสะพานไปทางห้างโอดะคิวแล้วก็เข้าไปในอาคารก็จะเจอที่ขึ้นรถไฟเอโนะเด็นอยู่เยื้องไปทางขวามือ ที่จริงสามารถซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ ได้เหมือนรถไฟทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ใครที่ตั้งใจมาเที่ยวตามเส้นทางของรถไฟโดยเฉพาะ แนะนำซื้อ 1 Day Pass ซึ่งจะขึ้นกี่รอบก็ได้ภายในหนึ่งวัน
ราคา ผู้ใหญ่ 800 เยน และเด็ก 400 เยน
(ทางเดินจาก Fujisawa Station มาห้างโอดะคิว เห็นฟูจิด้วย)
แผนการดินทางของเราในวันนี้ เรามีจุดหมายแค่ 4 สถานี
1.Fujisawa Station (01) สถานีต้นทาง
2.Enoshima Station (06) Enoshima Island
3.Kamakurakokomae station (08) Slamp Dunk
4.Inamuragasaki Station (10) Cape Inamuragasaki
5.Kamakura Station (15) Komachi-dori Street
เราออกเดินทางจากโตเกียวประมาณ 8.40 น. เริ่มใช้บัตรโดยสารรถไฟเอโนะเด็นตอนเกือบ 10.00 น. ก็ออกจาก Fujisawa Station (01) ปลายทางแรกคือ Enoshima Station (06)
เมื่อลง Enoshima Station เดินต่อไปประมาณ 1.5 กม. จะถึงเกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island) เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ของเมืองฟูจิซาวะ (Fujisawa City) มีจุดเด่น คือศาลเจ้าเอโนะชิมะ (Enoshima Shrine) เชื่อกันว่าให้โชคด้านความรัก และยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วย
ระหว่างทางเดินไปก็เอนจอยมากๆค่ะ เพราะวันนั้นอากาศดีมาก แต่ลมก็แรงมากเช่นกัน ทำให้เราตัดสินใจว่า โอเค เราหยุดกลางทางกันดีกว่า 5555 เดินไปไม่ถึงเกาะเลยค่ะ หย่อนตัวเองนั่งมองวิวอยู่ตรงนั้น 15 นาทีแทน มีฟูจิโผล่มาทักทายด้วย!!!!!
สถานีถัดมาคือ Kamakurakokomae station (08) เชื่อว่าหลายคนเคยเห็นภาพระหว่างทางรถไฟกับถนนบริเวณข้างๆ สถานีรถไฟที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและทะเลสีฟ้า จังหวะดีหน่อยก็จะเห็นรถไฟสีเขียวสายเอโนะเด็นผ่าน เนื่องจากตรงนี้ถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์แอนิเมชันอยู่บ่อยครั้ง หนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง แสลมดังก์ นั่นเองค่ะ
ซึ่งคนเยอะมากกกกกกก 5555 ล้านแปด เราก็เลยเดินเล่นมุมอื่นแทน ถ่ายที่มุมอื่นแทน
เราข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม ติดริมทะเล ทะเลสีน้ำเงินเข้ม มีคนเล่นเซิร์ฟอยู่ค่อนข้างเยอะเลย ทั้งที่ตอนนั้นอุณภภูมิอยู่ที่ 17-19 องศา แต่ทุกคนลงทะเลเหมือนมันไม่หนาวเลย จากริมทางเดินตรงนี้คือจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจินิดหน่อยค่ะ
ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เริ่มจะหิวแล้ว เราเลยตรงไปสถานีปลายทาง Kamakura Station (15) เลย เพราะว่ามี Komachi-dori Street คล้ายๆถนนคนเดินของบ้านเรา มีร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้าน Handmade ต่างๆ เดินจากสถานีรถไฟไปประมาณ 5 นาที เราชอบวิวหน้าต่างของรถไฟนี้มาก วิวไดัสุดๆ
พอถึงสถานีก็มีนักท่องเที่ยวประมาณนึง เราจะเจอหอนาฬิกาก่อน บรรยากาศดีมากค่ะ ครึกครื้น ร้านแรกที่เราพุ่งตัวไปเลย "ขนมปังแกงกะหรี่ชีส" คนต่อแถวเยอะมากกก ราคาชิ้นละ 400 เยน เป็นขนมปังทอดกรอบๆสอดไส้แกงกะหรี่ร้อนๆ อร่อยมาก สามารถยืนกินที่ข้างร้านได้เลย
มีอะไรรองท้องแล้วก็มีแรงเดินเล่นต่อ เราแวะร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อย ของน่ารักกระจุกกระจิกเพียบ บางร้านก็ตกแต่งได้น่ารักดี ได้ขนมของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย 2-3 กล่อง
เดินมาจนสุดทางของถนนก็แวะกินขนมปลาไส้ถั่วแดง (Taiyaki) ร้านคุณลุงอีกสักอัน คนต่อคิวเยอะเลย ราคาอันละ 200 เยน ทำสดใหม่ตรงนั้นเลย
บ่ายโมงกว่าแล้ว ได้เวลามูฟไปยังที่สุดท้ายที่เราตั้งใจไปที่สุด เราเลยเดินกลับมาที่ Kamakura Station อีกครั้ง แต่แอบเล็งร้านชาเขียวที่สถานีไว้ เลยไปชิมชาเขียวเย็นสักแก้วก่อนกลับ รสชาติดีทีเดียว ไม่หวานมาก กลิ่นชาเขียวหอม ชอบค่ะ แก้วนี้ 950 เยน
ได้เวลามูฟจากที่นี่จริงๆแล้ว เราก็ใช้ตั๋ว 1 Day Pass เข้ามาที่สถานี รอรถไฟไม่นานค่ะ ขากลับนี้เราได้รถไฟหน้าตาไฮเทคขึ้นหน่อย น้องหล่อเท่ห์มากๆเลย
จุดมุ่งหมายสุดท้ายของ One Day Trip นี้คือ Inamuragasaki Station (10) จุดเด่นคือ "Cape Inamuragasaki" แหลมอินามุรากะซากิ เป็นหนึ่งในมุมภูเขาไฟฟูจิที่สวยมากเหมือนกัน ทำให้เราทึ่งอย่างนึงว่า ฟูจิใหญ่มากๆ สามารถมองเห็นได้จากหลายจังหวัดในญี่ปุ่นจริงๆ เราเดินจากสถานีมาจุดนี้ประมาณ 550 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระหว่างทางก็มีคาเฟ่น่ารักๆ
เราเดินมาถึง Inamuragasaki Park ซึ่งวันนี้อากาศดีมาก ทำให้เรามองเห็น Enoshima Island และภูเขาไฟฟูจิด้วย จุดนี้เป็นจุดยอดนิยมในการถ่ายรูปของภูเขาไปฟูจิเช่นกัน ตอนนั้นบ่าย 2 เราเห็นลางๆ
เรานั่งเล่นอยู่ Inamuragasaki Park ประมาณ 20 นาทีก็เดินย้อนกลับมาที่ Inamuragasaki Station (10) แต่ว่าเราไม่ได้กลับสถานีเดิม เราเดินเลยไปอีกเพื่อกลับที่ Shichirigahama Station (09) อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าสถานีเหล่านี้อยู่ติดริมทะเล เพราะฉะนั้นเราก็เดินเลียบริมทะเลไปได้เลยค่ะ
ระยะห่างของ Inamuragasaki Station (10) กับ Shichirigahama Station (09) ห่างกันประมาณ 1.3 กม. เราเดินประมาณ 20 นาที ใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศตรงนี้นานหน่อย เราเป็นคนชอบมองทะเลค่ะ รู้สึกมันเพลินและก็สงบไปในเวลาเดียวกัน รักเลยอะไรแบบนี้ ^^
แล้วก็ถึงเวลาโบกมือบ๊ายบาย Kamakura ของจริง พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกแล้ว เราเดินทางกลับจาก Fujisawa Station ด้วยรถไฟ Tōkaidō Line: Ueno-Tokyo Line สายสีส้มอ่อน (ไม่ต้องเปลี่ยนสาย) ตอนเกือบๆ 16.00 น. ถึง Tokyo Station ประมาณ 17.00 น.
เต็มอิ่มมาก เป็นอีก 1 สถานที่ที่ไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวได้เลย Vibe ก็ชิลขึ้นจากอยู่ในเมือง แล้ววันที่เราไปอากาศก็สุดแสนจะดี ทุกอย่างลงตัวไปหมด อาจจะมีแวะกลับมาอีกในอนาคตแน่นอนค่ะ
ฝากติดตามที่ Readme #AnywhereIGobyThita #ฐิตา
Twitter: @AnywhereIGo2
ฐิตา
วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 13.00 น.