สวัสดีค่าา ヾ(>∀<☆ヾ)

หลังจากส่องกระทู้รีวิวของคนอื่นในพันทิปมานาน ก็มีโอกาสจะมาตั้งกระทู้เองซะที
เป็นการรีวิวพันทิปครั้งแรก และเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกด้วยค่า
ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยน้าา



ก่อนออกเดินทาง
อย่างที่ทราบกันว่า เด็กที่เพิ่งจบม.6 ใหม่ๆ จะปิดเทอมกันยาว(มาก) ถึงเกือบ 6 เดือน
หลังจากนอนอืดดูซีรีส์จนหมดสต็อก อ่านการ์ตูนก็แล้ว ตะลอนกินก็แล้ว
ก็ถึงเวลาที่จะขยับแข้งขยับขาออกจากบ้านซะที

จุดเริ่มต้นของทริปนี้ สั้นๆ เลยคือคุณแม่เป็นคนชวนค่ะ
อีกเหตุผลคือเป็นประเทศในฝันด้วย อยากไปตั้งแต่เด็กๆ
เป็นติ่งอนิเมะอีก เลยตกลงอย่างไม่รีรอ 55555

________________

การเดินทางครั้งนี้ไปกับทัวร์ค่ะ เดินทางวันที่ 22-26 เมษายน 58
เส้นทางคือ Gifu - Takayama - Nagano - Tokyo

เราจะได้เห็นทั้งมุมของเมืองเล็กๆ ไปจนถึงบรรยากาศของเมืองหลวง
จขกท. เองก็ได้หัดถ่ายรูปไปด้วย (เป็นมือใหม่ค่ะ แหะๆ)

สำหรับกล้องที่พาไปเที่ยวในทริปนี้คือ Fujifilm X-E2 ค่ะ / มี iphone 6 แจมด้วยเล็กน้อย
ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลยยย!



________________

ติดตามภาพเพิ่มเติมและมาพูดคุยกันได้ที่นี่เลยค่า (・◡・)
Facebook: http://www.facebook.com/plaintography
IG: bebeebies

ออกเดินทาง

ไฟลท์บินตอนเที่ยงคืนค่ะ ใช้บริการของการบินไทย


มีอาหารเสิร์ฟตลอดเลย อิ่มก่อนลงเครื่องอีก

เป็น 4 ชั่วโมงกว่าๆ ที่ จขกท. นอนไม่หลับเลย

ตื่นเต้น 555555 เลยนั่งดูหนังบนเครื่องไปเรื่อยๆ



...



รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว



ถึงแล้ววว.. ญี่ปุ่น!


ลงจอดที่สนามบินชูบุค่ะ

แดนอาทิตย์อุทัยนี้อากาศเย็นสบาย

คนละขั้วกับไทยแลนด์แดน 40 องศาเลยค่ะ (´;ω;`)



ระหว่างนั่งรถไปสถานที่แรก ก็ถ่ายรูปข้างทางไปเรื่อยๆ


เสน่ห์ของญี่ปุ่นอยู่ตรงที่



' ความเป็นระเบียบที่ไม่แข็งกระด้าง '



- DAY 1 -


"หมู่บ้านมรดกโลก"



เป็นหมู่บ้านเล็กๆ โอบล้อมด้วยภูเขา

กลิ่นอายความเก่าทำให้ดูอบอุ่น

เดินชมวิถีชีวิตของที่นี่เพลินๆ อยากจะอยู่ทั้งวันเลย



หลังคาแบบกัสโซ่ / ทรงพนมมือ



อาหารกลางวันค่าาา โฮบะมิโซะ เป็นอาหารท้องถิ่น


หมูย่างบนใบโฮบะ มีซอสเต้าเจี้ยวราด ให้เยอะมากค่ะ ทานแทบไม่หมด 555



ทานเสร็จแล้วก็มีเวลาเต็มที่ในการเดินชมหมู่บ้าน


ลั่นชัตเตอร์กันรัวๆ เลย



แวะพักทานซอฟท์ครีมกันหน่อยย


สภาพไม่ค่อยซอฟท์เลยเนอะ แต่อร่อยมาก

โคนละ 200 เยนค่าา



...



ภายในบ้านจะแบ่งเป็นหลายชั้นค่ะ


ชั้นล่างใช้อยู่อาศัย ชั้นบนสุดใช้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม

บางหลังกลายเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์หรือร้านขายของที่ระลึกไปแล้ว



ที่เซอร์ไพรส์มากๆ คือมาทันซากุระบานด้วย นึกว่าจะไม่ได้เห็นซะแล้ว



มุมมองจากจุดชมวิวข้างบน


มาช่วงที่หิมะละลายพอดี



สวยมากกก เหมือนหมู่บ้านในนิทานเลย





"Little Kyoto"



เมืองเล็กๆ ที่สงบและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะย่านเมืองเก่า (ซันมาชิซูจิ: 三町筋)

ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะไว้

มีร้านของที่ระลึกเรียงรายเป็นแถว จขกท. ได้โปสการ์ดแฮนด์เมดมาหลายใบเลย

ที่ขาดไม่ได้คือโรงกลั่นสาเกค่ะ เพราะสาเกเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่



...



ถ่ายจากสะพาน Nakabashi (คนเยอะมากจนถ่ายไม่เห็นสะพานแดงเลย ㅠㅠ)


+ สภาพตอนนั้นคือ.. กล้องแบตหมด หมดช่วงที่มีแต่บรรยากาศสวยๆ ซะด้วย

บางรูป จขกท. ใช้ไอโฟนถ่ายเก็บแทนค่ะ



จบแล้วค่ะวันแรก เดินกันจนขาลากเลยทีเดียว



ที่พักคืนแรกคือ Hida Plaza Hotel ค่ะ ห้องใหญ่มากกกก เป็นที่นอนแบบ Futon ด้วย อุ่นๆ ดี

หลังจากกลับเข้าที่พักแล้วก็มีข่าวดี เพราะที่โรงแรมมีออนเซ็น เย้!



ออนเซ็น 1st time

เข้าไปตอนแรกนี่ตะลึงเล็กน้อย

คือเขินจ้าา เดินกันตัวเปล่าขนาดนี้เลยหรอ 5555555

สุดท้ายก็กระมิดกระเมี้ยนเอาผ้าปิดและวิ่งเข้าไปแช่จนได้

สบายตัวมากก ความปวดเมื่อยทั้งหลายมลายหายไปทันที




- DAY 2 -



เช้าวันที่สองเราจะเดินชิลล์ๆ จากโรงแรม

ไปตลาดเช้ามิยากาว่าค่ะ



..และแล้วสายตาก็บังเอิญไปเจอ

กลุ่มเด็กประถมที่กำลังไปที่เดียวกับเรา

(บูรณาการนอกสถานที่ ประมาณนั้น)



...



ระหว่างที่น้องๆ หมวกเหลืองกำลังเดิน

เค้าก็จะหันไปทักทาย “おはようございます!" ใส่ทุกคนที่เดินผ่าน

แถมหันมายิ้ม ชูสองนิ้วให้กล้องอีก คาวาอี้~



(รูปเด็กๆ ขออนุญาตก่อนถ่ายแล้วนะคะ)



บรรยากาศตลาดเช้า


มีอาหารและของที่ระลึกแบบแฮนด์เมดขายเต็มเลย



เมืองนี้เป็นฉากในเรื่อง Hyouka ด้วยค่ะ


เพิ่งรู้ตัวตอนกลับมาแล้วว่าเดินผ่านหลายฉากมากแต่ไม่ได้ถ่ายมา 55555



แว้บเข้าร้านเล็กๆ เลยได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อย


มีเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก 1 ราย เป็นกล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้ง (ฟังดูโหดร้ายจังเนอะ)



...



บรรยากาศจากโรงเรียนที่เดินผ่าน

น้องอนุบาลกำลังทำกิจกรรมนอกห้องเรียนอย่างขมักเขม้น



ระหว่างทางเดินกลับจะเห็นว่าหลายๆ บ้านปลูกดอกทิวลิป


สีสวยจังง



...



หลังจากนี้เราจะไปขึ้น Japan Alps กันน





หลังจากเดินตลาดเช้าเสร็จ ก็นั่งรถยาวๆ มุ่งไปที่เทือกเขาทาเทยาม่า หรือเจแปน แอลป์


บรรยากาศข้างทางขาวโพลนไปด้วยหิมะ หนาวสุดไส้ไขกระดูกไปเลยจ้า!

อากาศประมาณ -7 อย่าลืมเตรียมเสื้อโค้ทให้พร้อมด้วยนะคะ



...



ตอนขึ้นรถนี่โดนคุณแก๊งทัวร์จีนเบียดกระจาย


ด้วยสปีดและสกิลของป้าแกทำให้แย่งที่นั่งไปอย่างรวดเร็ว



...



แต่ในที่สุดเราก็ขึ้นมาตรงนี้ได้

รอต่อรถไฮบริดจ์ขึ้นไปค่า



ระหว่างทางก็จะมีบรรยายจุดที่น่าสนใจ


ในภาพคือน้ำตก Shomyo ค่ะ



ถึงข้างบนแล้ววว


ตรง Snow Wall คนเยอะมากค่ะ เลยเลี่ยงไปถ่ายรูปที่ Panorama Road ก่อน

เห็นวิวและภูเขาหิมะสุดลูกหูลูกตาเลย



เสียดายที่เวลาน้อย (แถมคนเยอะมาก)


เลยได้รูปกำแพงหิมะมานิดเดียว



...



กำแพงหิมะนึ้สูงถึง 19 เมตรและใหญ่มากก

ตามผนังกำแพงมีรอยจารึกเต็มไปหมดเลย

หมายถึงคนไปเขียนเล่นน่ะค่ะ... ต้องถ่ายออกไปฝั่งตรงข้ามแทน




หลังจากไปที่กำแพงหิมะแล้ว


เราก็นั่งรถรางไฟฟ้าและกระเช้าลงมาที่เขื่อนคุโรเบะ



วิวจากบนกระเช้า


โดนเบียดจนถ่ายอะไรไม่ได้เลย TT



นั่งรถรางไฟฟ้ากันอีกรอบ


อุโมงค์นี้ยาวกว่าอุโมงค์แรก (แอบถ่าย time-lapse มาด้วย)



ถึงแล้วจ้าา!


แอบฝันสลายนิดๆ เพราะน้ำเป็นน้ำแข็งหมดเลย

แต่ก็สวยไปอีกแบบ



วันที่สองหมดไปอย่างรวดเร็ว เย็นนี้คุณไกด์พาไปทานเนื้อย่างญี่ปุ่น


ที่สนุกคือการสั่งแบบจิ้มๆ ที่จอ แล้วรอให้พนักงานมาเสิร์ฟค่ะ

อาศัยดูรูปเอาเพราะอ่านไม่ออก 5555555



...



ตอนแรกๆ คนในโต๊ะทานแต่หมูค่ะ

แต่พอได้ลองเนื้อเท่านั้นล่ะ.. อร่อยลื้มมมม

หลังๆ จิ้มสั่งแต่เนื้อ ทานกันจนจุก





- DAY 3 -

เช้าวันที่สาม


เราจะเดินทางไปไร่วาซาบิกัน

ระหว่างทางก็ถ่ายวิวเมืองไปเรื่อยๆ ค่ะ น่ารักทุกระเบียบนิ้วจริงๆ



ถึงแล้ววว ไดโอะวาซาบิฟาร์ม


ไปพิสูจน์ความจี๊ดกัน



ในภาพคือต้นวาซาบิค่ะ นางหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เองงง



...



มาดูโซนร้านค้ากันบ้าง



นี่คือแง่งวาซาบิสดค่ะ ต้องเอามาฝนๆ



ส่วนร้านนี้เป็นขนมสอดไส้วาซาบิค่ะ



และที่ขาดไม่ได้สำหรับแฟนคลับของหวาน



...



แท่นแท๊นน!

ซอฟท์ครีมวาซาบิค่าา

ไม่เผ็ด ไม่จี๊ด มีแต่กลิ่นเขียวๆ (แปลกดี)

อร่อยยย





หลังจากชิมวาซาบิเสร็จ


ก็เดินทางไปต่อปราสาทมัตสึโมโต้ค่ะ อยู่ไม่ไกลกันมาก



คุณลุงคนนี้มาขอคุณแม่กับเพื่อนคุณแม่ถ่ายรูปค่ะ 55555



ผู้คนที่มาเยี่ยมชมปราสาทค่ะ



...



มีคุณลุงขายมันเผาอยู่ข้างหน้าปราสาทด้วยค่ะ

เขียนเป็นภาษาไทยด้วยนะ เลยอุดหนุนแกซะหน่อย

หวานเจี๊ยบเลย



...



ต่อไปเราจะไปช็อปปิ้งกันน




หลังจากนั้นก็นั่งรถกันยาวๆ อีกครั้ง


ไปช็อปปิ้งต่อที่โกเทมบะเอาท์เล็ต


...



ระหว่างทางเห็นฟูจิซังด้วย เต็มๆ เลยยย



ระหว่างช็อปปิ้งก็ถ่ายวิวฟูจิซังไปเพลินๆ


นี่คุณแม่ของ จขกท. เองค่ะ 55555



เดินข้ามกลับมาฝั่ง East


มีร้านเครปญี่ปุ่นอยู่แถวนั้นด้วย เลยขอลองซะหน่อย



...



เครปเย็น อร่อยมาก (*^ワ^*)

หลังจากนั้นในทริปนี้กินเครปไปหลายรอบเลย ติดใจ



...



คืนนี้ที่พักคือโรงแรม Fujinobo Kaen

เย็นนี้เราจะไปทานบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์กัน (ในโรงแรมนี่แหละ!)



...



ยักษ์จริง!

นั่งดูวิธีแกะไป ทดลองแกะไป สนุกแถมอร่อย

อาหารที่นี่หลากหลายดีค่ะ



วันนี้ที่โรงแรมก็มีออนเซ็นค่ะ เลยขอไปแช่อีกรอบ


หลังๆ นี่เริ่มเฉยๆ กับการเดินตัวเปล่าแล้ว



...



ทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง!




- DAY 4 -



“พิชิตแลนด์มาร์ค!"



วันที่สี่เราตื่นแต่เช้า

เพราะเราจะไปขึ้นภูเขาไฟฟูจิกัน



...



วิวฟูจิซังจากโรงแรม

ตื่นเต้นๆ



ลงมาทานข้าวแปปเดียว


สายนิดหน่อยก็โดนเมฆบังไปหมดซะแล้ว



โชคดีที่วันนี้ออกเร็วค่ะ


ตรงทางเข้าได้เปิดให้ขึ้นไปก่อน ประมาณ 8:30 น.

แถมอากาศเป็นใจด้วย เลยได้ขึ้นไปถึงบริเวณชั้น 5 เลย



แต่.. ข้างบนหมอกหนามากค่ะ


มองไม่เห็นอะไรเลย ถ่ายลงมาข้างล่างไม่ได้ด้วย

T___T



ไปไหว้ศาลเจ้ากัน


โค้งสองครั้ง ปรบมือสองครั้ง แล้วอธิษฐาน

(โทโมเอะจะโผล่มามั้ยน้าา~)



ไปหยอดตู้ Paper Fortune มาค่ะ ประมาณ 100-200 เยน


ไม่ต้องห่วงค่ะ มีซับอังกฤษอยู่ข้างหลัง



...



เมล่อนปังรูปภูเขาไฟฟูจิ โรยด้วยผงโกโก้ค่ะ

น่ารักและอร่อยในราคา 260 เยน

ถ้าซื้อเป็นกล่องก็ 3 ชิ้น 780 เยนค่ะ หยอดตู้แล้วพนักงานจะแพคมาให้

(สรุปนี่มารีวิวของกินในทริปด้วยใช่มั้ย..)



แล้ว จขกท. ก็อดไม่ได้ที่จะส่งโปสการ์ด


ส่งตรงจากบนภูเขาไฟฟูจิ ติดแสตมป์ให้พร้อมมม



ยอดฟูจิซังที่โดนหมอกกลืนกิน





พอลงจากฟูจิก็ตรงเข้าโตเกียวเลย


เราจะไปช็อปกับชมแฟชั่นวัยรุ่นญี่ปุ่นกันที่ฮาราจุกุ!



นั่งรถกันเมื่อยมาก หลับแล้วหลับอีก


ด้วยความหวังว่าอีกครึ่งวันจะได้ช็อปกันเต็มเหนี่ยว



แต่...



เกิดอุบัติเหตุที่ถนนข้างหน้าค่ะ..

ทำให้เวลาช็อปปิ้งหายไปชั่วโมงครึ่ง

(-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩___-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩)



ไม่เป็นไร เราจะช็อปกันด้วยความเร็วแสง!



มาถึงแล้ว ฮาราจุกุ

ย่านวัยรุ่นที่แฟชั่นเก๋กู้ดสมูทตี้สุดๆ



มวลมหาประชาวัยรุ่น คนเยอะมากกกก


(มีหลุดโฟกัสเป็นระยะ ถ่ายไม่ทันจริงๆ ค่ะ 5555)



จขกท. แอบแว้บเข้าไปร้านนี้แปปนึง


สแตนดี้ข้างหน้าร้านล่อตาล่อใจจจ



สาวมัธยมญี่ปุ่น




หลังจากตกตะลึงกับแฟชั่นฮาราจุกุไป


ก็จะไปช็อปอย่างต่อเนื่องที่ชินจูกุเลยค่ะ วันช็อปจริงๆ

นั่งรถไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงแล้ว



...



เหล่าคุณแม่ก็เรียกร้องจะไปซื้อกระเป๋า Issey Miyake กัน

จขกท. ก็เลยปลึกตัวมาเดินเล่น ชมบรรยากาศความวุ่นวายของเมืองหลวงซะหน่อย



ชอบตอนข้ามถนนจริงๆ ไฟแดงปุ้บเดินปั้บ ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะไม่หยุด (เหมือนบ้านเรา)



เดินไปก็แว้บเข้าร้าน Muji ไปซื้อเครื่องเขียนเล็กๆ น้อยๆ


เสร็จแล้วก็เดินไปดูใน Bic Camera เช็คราคาเลนส์ซะหน่อย

ร้านค้าเยอะมากค่ะ เยอะจนลายตา เดินไม่ถูก

ถ้าไม่มีลายแทงของคุณไกด์ จขกท. อาจหลงทางได้ 55555



...



แล้ว จขกท. ก็เดินมาเจอดินแดนของโอตาคุค่ะ

ร้าน Animate ค่ะ รีบพุ่งไปอย่างไว

ทำให้กระเป๋าสตางค์แบนลงอย่างรวดเร็ว



(มีน้องโฮะกับสเลนอยู่บนตึกด้วย)



...



จริงๆ แล้ว อีกเป้าหมายของ จขกท. คือมาตามรอย Lost in Translation

แต่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ทำให้แค่เกือบจะหาเจอ

เดินวนจนปวดขา ไว้รอบหน้าจะมาตามหาใหม่นะะ





คืนนี้พักที่โรงแรม APA Tokyo Bay Makuhari ค่ะ

คนเยอะมากๆ หันไปก็มีแต่ทัวร์ไทยทัวร์จีนนี่ล่ะ 555555



ที่นี่มีออนเซ็น outdoor ด้วยค่ะ แช่กันฟินๆ ลมข้างนอกเย็นดี

แช่เสร็จก็ซื้อเสบียงจาก Lawson ขึ้นไปตุนไว้เผื่อวันต่อไป




- DAY 5 -

วันสุดท้ายแล้ว
เร็วอย่างน่าใจหาย

...

ตอนเช้าๆ ตรงข้ามโรงแรมมีอีเวนท์ Nico Nico Chokaigi ค่ะ
เด็กๆ ลงทุนมานอนโรงแรมนี้เพื่อไปต่อแถวเลย
คนคอสเพลย์เต็มไปหมดดด

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เราก็จะออกเดินทางไปโอไดบะไดเวอร์ซิตี้


หรือห้างที่มีกันดั้มตั้งอยู่ข้างหน้านั่นเองงง



ถึงแล้วว DiverCity


เหมือนจะมีอีเวนท์อะไรด้วย โอตาคุหนุ่มๆ พรึ่บบ



กำลังจินตนาการว่า ถ้าตัวเองเป็นแฟนกันดั้มแล้วมาดูจะฟินขนาดไหน


มีกันดัมคาเฟ่อีก แต่ไม่ได้เข้าค่ะ เวลาน้อย y_y



หน้าห้างมีดอก Azalea ปลูกยาวเป็นแถบเลย



อันนี้ที่ร้าน Hello Kitty Japan ในห้างค่ะ


เป็นซอฟท์ครีมวานิลลา + ชาเขียว

แถมคิตตี้มาให้ด้วย อร่อยยย หอมชาเขียวมาก



ทานเสร็จเก็บถ้วยกับช้อนกลับไปได้ค่ะ เค้าให้เป็นที่ระลึก



รถอันปังแมน


ในลานจอดรถนี่มีรถแปลกๆ เต็มไปหมดเลย





สุดท้ายแล้ว

ที่สนามบินนาริตะ



เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกที่ประทับใจมาก


ตั้งแต่บ้านเมือง บรรยากาศ วัฒนธรรม ระเบียบ และผู้คน

ตอนนี้ต้องบอกลาซะแล้ว เข้าใจคำว่าไม่อยากกลับเลย ㅠㅠ



ถึงจะไปกับทัวร์ แต่ว่าไม่น่าเบื่อเลยค่ะ

โปรแกรมดีมากๆ เก็บทั้งนอกเมืองและในเมืองเลย

เวลาในบางสถานที่อาจจะน้อยบ้าง แต่ไม่ถึงกับชะโงกทัวร์

ประทับใจมากค่ะ



...



さよなら!

ไว้เจอกันอีกครั้งนะญี่ปุ่น

จะต้องมาอีกให้ได้เลย



________________________________________



ขอจบการรีวิวตรงนี้นะคะ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านจนจบ

เจอกันอีกทีทริปหน้าค่าาา (✿◖◡◗)



A girl goes there.

 วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.34 น.

ความคิดเห็น