ต อ น ที่ 2 : KYOTO..ไปวัด ช้อป ชิล

จะมีทั้งหมด 3 ตอน 4 เมือง | กระทู้นี้เป็นตอนที่ 2 นะคะ


ต อ น ที่ 1 : นอนสนามบิน ช้อปปิ้ง เล่นกับกวาง | http://pantip.com/topic/33634452

ต อ น ที่ 2 : KYOTO..ไปวัด ช้อป ชิล | http://pantip.com/topic/33652030

ต อ น ที่ 3 : ฮิปไปเรื่อยที่โตเกียว | http://pantip.com/topic/33754864



*ขอชี้แจงอีกครั้งนะคะ*

กระทู้นี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่รวยมากๆนะคะ ข้ามไปได้เลยค่ะ

ราคาที่หัวข้อ รวมค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ค่ากินตามมื้อ ค่ารถทุกอย่างที่จ่ายไป ทุกบาททุกสตางค์

แต่! ไม่รวมค่าขนมที่นอกเหนือจากอาหารในแต่ละมื้อ ประมาณพันนิดๆ ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง ซึ่งก็บาดเจ็บกันพอสมควร

โรงแรมที่นอนสนามบิน 2 คืน เพราะเที่ยวบินที่ได้ถึงดึก และออกเช้า กลัวไม่ทันเลยนอน หากใครจะจองโรงแรมก็เพิ่มอีกคืนละพันเอง ถ้าถึงเร็วและออกไม่เช้าก็นอนโรงแรมได้ค่ะ



วันที่ 4 KYOTO

ตื่นสาย ชีวิตเปลี่ยน น้ำไม่ได้อาบ แก๊งส์รออยู่ รีบ CHECK-OUT ออกจากโรงแรม แวะซื้อข้าวปั้น ขนม กินรองท้องด่วนๆ

เราจะเข้าไปฝากกระเป๋าที่ OKI'S INN ก่อนแล้วไปเที่ยวต่อ



ก า ร เ ดิ น ท า ง

วันนี้ยังใช้บัตร KTP อยู่นะ ส่วนแผนที่ก็เปลี่ยนมาดูเส้นของเกียวโต

บัตรนี้ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน (ไม่รวม JR ค่ะ) รถบัสที่มีรูปแม่มดเหมือนบนบัตรก็ใช้ได้เช่นกัน


นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี DOBUTSUEN-MAE (K19) ไปที่สถานี KITAHAMA (K14) แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟบนดินสาย KEIHAN MAIN LINE LTD. EXP. ไปลงสถานี SANJO จากสถานี SANJO จะเดินไปที่พักเลยก็ได้ ประมาณ 10 นาที หรือถ้าไม่อยากเดิน สามารถเดินทะลุไปสถานีรถไฟใต้ดินของเกียวโต จะมีป้ายบอกทาง หาไม่ยากค่ะ


เดินทะลุมาขึ้นที่สถานี SANJOKEIHAN จากนั้นนั่งไปลงสถานี HIGASHIYAMA ออก EXIT 2 ขึ้นมาปุ๊บเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆซอยแรกเลย เดินเข้าไปนิดเดียวถึงค่ะ


หลังจาก TAKA & YUKA มอบแผนที่อันเป็นประโยชน์แก่เรา พร้อมทั้งบอกทางแบบเข้าใจง่ายๆแล้ว ก็ออกเดินทางสิคะ จะรออะไร สายแล้วๆ


จุดหมายแรก วัด TOFUKUJI


ค่าเข้า 400YEN เปิดเวลา 9:00-16:30 น.



ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากสถานี HIGASHIYAMA (T10) ไปที่สถานี SANJOKEIHAN (T11) เดินทะลุไปขึ้นรถไฟสาย KEIHAN MAIN/NAKANOSHIMA LINE LOCAL ที่จากสถานี SANJO แล้วไปลงสถานี TOFUKUJI เวลาดูว่าต้องขึ้นฝั่งไหน ให้ดูทางที่ไม่ใช่ทางที่จะไป DEMACHIYANAGI สถานี TOFUKUJI ออกทาง EAST แล้วเดินไปทางขวา ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาทีก็ถึงค่ะ

ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป จะได้หายเหนื่อย


เจอดอกไม้สวยด้วย


ถ้าไม่หยุดถ่ายรูปอาจจะเร็วกว่านี้


แฟนโดนบังคับเป็นแบบ


ถึงแล้วค่า


กับเสาก็จะเอา


ประตูก็ไม่เว้น


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


อัพเดทก่อนใครที่เพจค่ะ

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> http://on.fb.me/1AulUyy

Blog จ้า

http://kusjiontour.wordpress.com/ซื้อตั๋วกันเถอะ

ทางเดินเป็นไม้

ต้นเมเปิ้ลเยอะมาก วัดนี้มีประมาณ 2,000 ต้น (ข้อมูลจาก INTERNET)


ถ้ามาตอนฤดูใบไม่เปลี่ยนสีคงสวยน่าดู เห็นสีแดงๆแบบนี้เต็มไปหมดงี้


เข้าไปแล้วจะเจอแบบนี้


มุมอื่นๆบ้าง


ซะหน่อย ก่อนออกจากวัด


ต่อไปจะเป็น ศาลเจ้า FUSHIMIINARI


ค่าเข้า ฟรี เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตอนเช้าคนจะน้อยหน่อย



ก า ร เ ดิ น ท า ง

สถานีห่างจากสถานี TOFUKUJI เพียง 2 สถานี แต่จะเดินกลับไปมั้ย คิดไปคิดมา เราเลือกที่จะเดินต่อค่ะ เดินไปอีกประมาณ 20 นาที ชิลๆ ไม่เหนื่อย...เหรอ???? (เสียงแฟนแว่วมาแต่ไม่สนใจ)

หรือ

อีก OPTION คือเดินไปอีกนิดแล้วขึ้นที่สถานี TOBAKAIDO นั่งสถานีเดียวก็จะถึงสถานี FUSHIMIINARI แต่ต้องรอรถไฟอีก เป็นเหตุผลที่สนับสนุนการอยากเดินของเรา



ถึงวัดล้าวววว คนเยอะมากๆ จะถ่ายเดี่ยวก็ยังโดนแย่งซีนสิน้าา

เดินมาไกล เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน หิวก็หิว...อย่าพูดมากเลย อยากกินก็กินเหอะ


ร้านนี้อยู่ร้านแรกเลย ทางขวามือ

โดนไปคนละ 1 อัน กินเยอะๆ มันเลี่ยนๆ อันเดียวกำลังอร่อย อันนี้อร่อยละ 120 YEN


สองข้างทางของกินเพียบ โอ้ยๆ ผิดวัตถุประสงค์ เข้าไปดูเสาแดงๆ ก่อนเถอะค่าา


เจอเสาแดง เดี่ยวๆ ตัดกับฟ้าแล้วสวยมากๆ

ภาพหมู่หน่อยเร้ววว


ภาพคู่ก็มา


แดงตัดกับฟ้าสวย


ล้างมือก่อน


ก่อนถึงเสาแดง


เสาแดงที่ต้องมาเก็บรูป คนเยอะมาก


ได้ถ่ายกับเสาแดง เป็นอันจบภารกิจวัด กลับกันเถอะ แต่เมื่อนึกถึงตอนเดินกลับ แวะกินซักนิดดีกว่า


ร้อนๆแบบนี้ ต้องอร่อยแบบนี้

โดนไป 350 YEN ถ้าจำไม่ผิด น้องอีกคนซื้อ


หิวนิดๆ แต่เล่นกินทอดเลยค่ะ


อร่อยต้องบบอกต่อ คนขายไม่อยู่ก็ต้องยืนรอนะ


คิดว่าจะหยุดแค่นี้มั้ยคะ เมื่อของหวาน ของคาวมา ก็หิวน้ำ ร้านนี้เดินลงไปเรื่อยๆ จะอยู่ขวามือ ร้านนั่งชิลๆ สูบบุหรี่ในร้านได้


ราคาไม่แรงมากชาเขียวถูกกว่าโค้ก ชาเขียวมีแบบใส่นมกับไม่ใส่นม ไม่ใส่นม 360 YEN ใส่นมจำราคาไม่ได้ค่ะแพงขึ้นมาอีกนิดนึง


ตามแพลนคือจะไปกินข้าวที่ NISHIKI MARKET ตอนเที่ยง แต่ตอนนี้มันเที่ยงกว่าแล้ว ไปกันเถอะพวกเรา


ปิดทุกวันวันพุธ วันอาทิตย์ เปิดเวลา 9.00-18.00 น.



ก า ร เ ดิ น ท า ง

เราเดินไปขึ้นที่สถานี TOBAKAIDO เพราะตอนผ่านมาก็รู้สึกว่าเดินไม่ไกล ถ้าจะขึ้นสถานีเดียวกับเรา ออกจากศาลเจ้าให้เลี้ยวขวา เจอทางรถไฟก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย เดินนิดเดียวค่ะ นั่งไปลงสถานี GION-SHIJO ไปทางสายที่จะไป DEMACHIYANAGI แล้วเดินไปทางที่จะไปสถานี KAWARAMACHI

ผ่าน PONTOCHO ที่ที่ตั้งใจจะมาตอนค่ำๆ เพราะจะสวยมาก มีร้านอาหารริมน้ำ ตรงหญ้าจะหนุ่มสาวญี่ปุ่นจะมานั่งจีบกัน

โอ้ย เอาไว้ก่อนคืนนี้สิ คืนนี้


จาก สถานี KAWARAMACHI คือจะอยู่ใกล้มากๆ จะเดินเลี้ยวขวาเข้าถนน SHINKYOGOKU เลยก็ได้เข้าไปซักพักจะเจอตลาด แต่เรามองไม่เห็นทางเข้าถนน เลยไปเข้าอีกซอย ที่ทะลุถึงตลาดเหมือนกัน


เลยได้ซื้อตั๋ว KYOTO CITY BUS สำหรับวันพรุ่งนี้ ได้ในราคา 500 YEN ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อที่สถานีเกียวโต เราซื้อกันที่ร้านนี้ อย่าลืมขอแผนที่การเดินรถนะ

หลายคนคงเริ่มงงละ แปะแผนที่ให้ดู เอามาจากอินเตอร์เน็ตนี่แหละค่ะ


คนเยอะมาก


ของกินก็เยอะ แต่น่าจะเป็นแบบซื้อกลับไปทำที่บ้าน


แวะกินอะไรอร่อยๆที่ร้านนี้ คนเยอะๆ ต้องรอๆ มี ENGLISH MENU


อาหารมาแล้ว จานนี้ 1,080 YEN เรียกว่า Noodle Spicy Curry อร่อยมาก น้ำนี่ซดเกือบหมด


อันนี้ของคนอื่นด้วย


กินเสร็จเดินเล่นอีกนิด


เนื่องจากตื่นสาย แวะถ่ายรูปนาน กินนาน เลยขอตัด NIJO CASTLE ออกจากแพลนนะคะ เพราะอยากกินเค้กมากกว่า แป่วว


เราจะไปกินเค้กกันที่ร้าน LIPTON สาขา ถนน TERAMACHI ถามว่าอร่อยกว่าสาขาอื่นเหรอ? ป่าวเลยค่ะ แค่จะไปเดินเล่นและที่นั่นมี งงกับตัวเองเหมือนกัน



กา ร เ ดิ น ท า ง

เดินทะลุตลาดไปออกข้างห้าง DAIMARU เลี้ยวขวาออกถนนใหญ่ แล้วไปลงรถไฟใต้ดินที่สถานี KARASUMA เดินข้างล่างไปสถานี SHIJO จากสถานี SHIJO นั่งไปลงสถานี KYOTOSHIYAKUSHOMAE ออก EXIT 11 (อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะลืมจดไว้ ขอโทษทีนะคะ ดูจากป้ายตอนถึงสถานีนะคะ หาไม่ยากค่ะ) แต่ต้องไป TRANSFER ที่สถานี KARASUMAOIKE แล้วไปทางสายที่จะไป ROKUJIZO (ไปสถานี KARASUMAOIKE ทางสาย KOKUSAIKAIKAN)

ขึ้นมาจากตรงนี้

โผล่ตรงนี้


ร้านหนังสือเก่า


สตูดิโอเล็กๆ แต่ดูดีมาก


เดินตรงไป จะมีทางแยกไปแยกซ้าย


ไม่ไปทางนี้


กินเค้กที่ร้าน LIPTON ไม่ได้ถ่ายหน้าร้านแต่จะเหมือนกับสาขาอื่นๆค่ะ ร้านใหญ่ๆ คนเยอะๆ เค้กน่ากินมากๆ ใครไม่กินเค้าไม่ให้นั่งนะคะ เราว่าก็โหดไป แต่อร่อย อภัยให้ก็ได้ โดนกันไปคนละ 1 ชิ้น 620 YEN + ชาอีก 400 YEN


กินเค้กเสร็จเดินช้อปต่ออีกนิด มีแต่ร้านน่ารัก เลือกของจนลืมหยิบกล้องเลย


เดินกันทั้งวันมาหลายวันละ แก๊งส์เริ่มล้า กลับที่พักกันเถอะ ไปนั่งพัก นอนพักเอาแรงกันก่อน คืนนี้ชุดใหญ่เมื่อพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว ก็ออกหากิน มื้อนี้หิวหนัก ขอจัดหนักด้วยบุฟเฟ่ต์เนื้อญี่ปุ่น ที่แนะนำโดยคนพื้นที่ TAKA เจ้าของที่พักแนะนำเลยว่าร้านนี้แหละ โดนใจสุดๆ

ชื่อร้าน GION GYUZEN

พิกัด : ตรงข้ามศาลเจ้า YASAKA เยื้องมาทางซ้าย ถ้าหันหน้าเข้าศาลเจ้า จะมีตึกใหญ่ๆ ตึกนั้นเลยค่ะ

เดินเข้าไปเลยค่ะ แล้วขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4


จะมี 3 ร้านนะคะ อย่าเข้าร้านผิดล่ะ


ไปถึงทางร้านจะมีเมนูมาให้เลือก เลือกตามชอบเลยค่ะว่าจะเนื้อแบบไหนมีหลายราคา ตั้งแต่ 1,980 YEN ไปจนถึงหลักหมื่น เราเลือกที่รองท็อปลงมา ตกคนละ 4,300 YEN ในเมนูภาษาอังกฤษเขียนว่า “JAPANESE BEEF" กินได้ 2 ชั่วโมง นอกจากเนื้อไม่อั้นแล้ว ยังได้ผักไม่อั้นด้วย ถ้าอยากสั่งเพิ่มก็กดกระดิ่งเรียกพนักงานได้เลยค่ะ


และเนื้อที่ได้หน้าตาเป็นแบบนี้ ชิ้นใหญ่มาก นุ่มมาก ละลายในปากเลยขอบอก

ฟินสิคะ


เราเลือก 2 น้ำ คือ ชาบู กับ สุกี้ยากี้ น้ำสุกี้คือสุดยอดแห่งความฟิน


น้ำสุกี้ยากี้ ขายดีสุดๆ


กินอิ่มก็ไปเดินเล่นต่อที่ย่าน GION จากร้านเดินย้อนไปทางศาลเจ้า แล้วเลี้ยวขวาที่แยกใหญ่ เดินไปซักพัก ถึงแยกก็ข้ามถนน เดินเข้าไปเลยค่ะ แต่เราไปถึงดึกแล้ว เงียบๆหน่อย มืดด้วย


ขากลับแวะที่ศาลเจ้า YASAKA เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กลางคืนแอบหลอน แต่ก็มีคนเดินเข้าออกตลอด


ไม่วายเถียงกันเรื่องแผนของวันพรุ่งนี้


แล้วเดินกลับที่พักแบบหนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน


กลับมาถึงที่พัก NOTE จาก TAKA&YUKA น่ารักที่สุดอะ


ที่ พั ก | OKI'S INN


ห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่น ไม่แคบนะ สะอาดมาก มีแค่ไม่กี่ห้อง มี 2 ชั้น ห้องอาบน้ำห้องเดียว แต่ว่างตลอด คงเพราะห้องพักน้อย มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้า ไดร์ผมของผู้หญิง มีไดร์เป่าผมให้ มีผ้าขนหนู สบู่ แชมพู มีห้องนั่งเล่น

ห้องครัว กาแฟฟรี


มีจักรยานให้เช่า


มุมอื่นๆ


ชอบมากตรงใกล้รถไฟใต้ดินและป้ายรถเมล์สุดๆ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง ที่สำคัญ คือความเป็นมิตรและดูแลเอาใจใส่ลูกค้าของทั้งคู่ บอกทางจนกว่าจะแน่ใจว่าเราเข้าใจ อาริงาโตะ มากๆค่ะ


วันที่ 5 KYOTO - NIGHT BUS TO TOKYO



ตื่นตามที่ไหว อีกล้าวว แพลนวันนี้วัดๆๆ ซึ่งก็ค่อนข้างแน่น เอาเป็นว่าพวกเราไม่เน้นวัดกันอยู่แล้ว ได้เท่าที่ได้ละกันนะ

วันนี้พวกเราจะใช้บัตรนี้ KYOTO CITY BUS ได้มาในราคา 495 YEN จากราคาปกติ 500 YEN ได้ลดนิดๆหน่อยๆก็จะอวดเนอะคนเรา

พร้อมแล้วจ้า


เดินเท้าออกจากโรงแรมออกซอยด้านหลัง เพื่อชมความงามของลำธารที่เดินผ่านเมื่อคืน แล้วเห็นคู่หนุ่มสาวนั่งจีบกัน ...เกี่ยวมั้ย จริงๆเดินออกจากซอยข้างหน้าก็ได้ ป้ายรถเมล์ใกล้นิดเดียว


เดินข้ามไปคนเดียวก็เลยต้องเดินกลับไปมาคนเดียว


และได้รูปมุมนี้คนเดียว กิกิ


บังคับแฟนถ่าย


อีกรูปแล้วกัน


แต่รูปนี้พี่เค้าขอ


ถึงป้ายรถเมล์แล้ว หลังจากหยุดถ่ายรูปกันไปเกือบครึ่งชั่วโมง


วัดแรก คือ วัดทอง หรือ KINKAKUJI TEMPLE


ค่าเข้า 400 YEN เปิดเวลา 9.00-17.00 น.



ก า ร เ ดิ น ท า ง

ขึ้นฝั่งเดียวกับที่พัก นั่งสาย 12 ไปลงหน้าวัดเลย ไม่ต้องกลัวลงผิด จะมีป้ายบอกว่า สถานีต่อไปสถานีอะไร อีกอย่างป้ายนี้คนลงเกือบทั้งคันนั่นแหละ

มีออดให้กดทุกจุด


บรรยากาศภายในรถ


ถึงวัดคนค่อนข้างเยอะ


ส่งตัวแทนไปซื้อตั๋วกันดีกว่า


บริเวณวัด


ระหว่างรอคนเดินเข้า หามุมถ่ายไปเรื่อย


และนี่ที่เค้าว่ากันว่าสวยงาม ของจริงสวยกว่าในรูปนะขอบอก


คนเยอะจริงจัง


เปลี่ยนเป็นถ่ายกำแพงแทน


อีกมุมที่คิดว่าสวย งิงิ


ซูมๆ


มุมอื่นบ้าง


ภาพคู่ตามธีม


แวะซื้อสาเกฝากผองเพื่อน มีทองข้างในเข้าธีมวัดทองสุดๆ


ขอพร


จุดเทียน เลือกจากอันที่ความหมายดีๆ ไปจุด ถามว่าแปลออกมั้ย งือออ


ส่วนอันนี้ ฮิตมากในหมู่คนไทย ดูจากข้างหลังภาษาไทยเพียบค่ะ


ทำบุญแบบหยอดตู้


เสร็จละกลับๆ เหลืออีกหลายวัด


วัดต่อไป คือ วัดเงิน หรือ GINKAKUJI TEMPLE


ค่าเข้า 500 YEN เปิดเวลา 8.30-17.00 น.



ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากประตูวัดเดินไปถนนใหญ่ที่ผ่านมาตอนขามา แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายนิดเดียว จะเจอป้ายรถเมล์ ขึ้นสาย 204 ไปลงป้าย GINKAKUJI ซึ่งจะอยู่ปากซอยของวัด ก็เดินย้อนกลับมาแล้วเดินเข้าซอยวัดได้เลยค่ะ ไม่ไกลๆเดินได้ๆ



เดินเข้าๆ

ได้ตั๋วมาแล้วก็เริ่มค่ะ (ขโมยรูปกล้องส้ม)


และนี่สวนที่เค้าว่าจัดศิลปินชื่อดังค่ะ


น้ำตกเล็กๆ คู่รักกำลังจะโยนเหรีญลงไป แต่แอบเห็นว่าขอพรอะไรบางอย่าง อาจขอลูกก็เป็นได้..อันนี้คิดเอง


ภาพจากจุดชมวิว มองเห็นตัวเมืองเกียวโตเลยนะ


จุดนี้ที่ต้องถ่ายมา


ซูมใกล้ๆ


รูปคู่


เป็นอันจบภารกิจวัดที่ 2 ระหว่างรอทีม ขอถ่ายภาพแนวที่ชอบนิดนึง STREET


จากเส้นที่เดินขึ้นวัด จะมีซอยเล็กๆ เรียกว่า THE PHILOSOPHER'S PATH หรือที่คนไทยเรียกว่าถนนนักปราชญ์ เค้าว่ากันว่า ถนนนี้มีคาเฟ่น่ารักๆ เพียบเลย จากการหาข้อมูลมาก็ไปตกลงปลงใจกันที่ร้าน POMME CAFÉ


เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ ของคุณลุงกับคุณป้า


BG น่ารักมุ้งมิ้ง


ขายเค้ก และพวกชา กาแฟต่างๆ


ทั้งหมดนี้ 750 YEN น้ำเต้าหู้สูตรเฉพาะของร้านกับเค้ก


ของแฟน 650 YEN กาแฟดำกับเค้ก


กินขนมแล้ว เรียกน้ำย่อย กินข้าวกันเถอะ ร้านอาหารจะอยู่ระหว่างทางจากถนนไปจนถึงวัด ชอบร้านไหนก็เข้าไปลองได้เลยนะคะ เราลองร้านนี้ เห็นว่าคนญี่ปุ่นเยอะดีเลยลองดู แต่ลืมถ่ายหน้าร้านมา


อาหารดันไม่ลืม นี่ค่ะ ข้าวหน้ากระหรี่เนื้อ 800 YEN ชุดข้าวปลาซาบะย่างซีอิ๊ว 880 YEN ขอบอกว่าเยอะมาก อิ่มมาก อร่อยด้วย กินหมดเกลี้ยง

น้องอีกสองคนไปลองร้านติดๆ กันด้วยเหตุผลว่ามันน่ารัก ซึ่งราคาพอๆ กัน


นี่หน้าร้าน

นี่อาหาร


ร้านนี้อยู่ก่อนถึงวัด คนต่อคิวเยอะเลยไม่ได้กิน ใครลองแล้วเป็นไงบอกกันบ้างน้า


จุดหมายต่อไป คือ วัดน้ำใส หรือ KIYOMUZU TEMPLE


(ขออนุญาตตัดศาลเจ้าเฮอัน หรือ HEIAN SHRINE นะคะ กลัวเวลาไม่ทัน)

ค่าเข้า 300 YEN เปิดเวลา 6.00-18.00 น.



ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากวัดเงิน เดินออกไปถนนใหญ่เดินเลี้ยวซ้ายไปที่ป้ายรถเมล์ที่เราลงตอนมา แล้วนั่งสาย 100 ไปลงหน้าทางเข้าวัดเลยค่ะ คนลงเยอะมากถึงมากที่สุด (ตรงนี้ถ้าใครพอมีเวลาจะลงศาลเจ้าเฮอันก็ได้นะคะสายนี้ผ่านค่ะ จุดสังเกตุ คือจะเห็นเสาแดงใหญ่ๆ ค่ะ)

ระหว่างทางขึ้นและลง คนเยอะมาก


จากถนนเดินขึ้นไปไกลพอสมควร และด้วยขาที่ล้าเพราะการเดินๆๆ ทั้งวันมาหลายวันแล้ว เราเดินขึ้นไปจนถึงจุดนี้


และถ่ายรูป จบ เพราะแต่ละคนไม่ไหวแล้วอยากนั่งมาก


จริงๆระหว่างทางเดินขึ้นไปมีร้านน่ารักๆ เยอะมาก ถ้าแวะทุกร้านมีหวังหมดตัวกลับมาแน่ๆ


ดูสิน่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง


ต่อจากนี้จะเป็นอะไรที่ ตื่นเต้น หวาดเสียว ขนลุกมากๆ อ่านวิธีดีๆ นะ


คือ คืนนี้เราต้องนั่ง NIGHT BUS ไปโตเกียว แล้วเราก็ CHECK-OUT กันมาแล้ว จะอาบน้ำที่ไหนล่ะ หลังจากเมื่อคืนก่อนเดินดุ่มๆ เข้าซอยแถวที่พัก แล้วไปเจอโรงอาบน้ำ เลยคิดว่าต้องลองกันหน่อยล่ะพวกเรา

เอาล่ะ รวบรวมความกล้า จริงๆ ไม่ได้เขินคนในนั้นหรอกนะ เขินคนที่ไปด้วยกันเองนี่แหละ กว่าจะยอมไปกัน

นี่ภาพตอนกลางวัน

ไปถึงก็ถอดรองเท้าเก็บเข้า LOCKER แล้วไปจ่ายตังค์ค่าอาบกับคุณป้าที่นั่งตรงเค้าท์เตอร์


ค่าอาบคนละ 430 YEN

ผ้าขนหนูผืนเล็กมาก ย้ำว่าเล็กมาก แทบจะปิดอะไรไม่ได้เลย ผืนละ 30 YEN ผืนใหญ่ ผืนละ 100 YEN ซึ่งก็เอาเข้าไปข้างในไม่ได้ แต่เพื่อความอุ่นใจตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า ได้ปิดนิดนึงก็ยังดี

ค่าสบู่แชมพูอีก 200 YEN สำหรับผู้หญิง 3 คน ถ้ามีของตัวเองเอาเข้าไปได้ค่ะ

เรียบร้อย สะอาดแล้ว ไปต่อได้

วิ ธี ก า ร อา บ


1. เข้าห้องชายหญิงแยกกัน

2. ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นใส่ในตะกร้าของใครของมัน

3. เก็บของมีค่าไว้ใน LOCKER เอากุญแจคล้องข้อมือไว้

4. ผ้าขนหนูผืนใหญ่ทิ้งไว้ในตะกร้านั่นแหละ เอาเข้าไปไม่ได้จ้า สิ่งที่เอาเข้าไปได้มีแค่ผืนเล็กจิ๋วๆ ผืนเดียวนั่นแหละ

5. เข้าไปแล้วก็หาทำเลเหมาะๆ นั่งอาบน้ำร้อนๆ สระผม ขัดสีฉวีวันให้สะอาด แต่ด้วยความเงอะงะของพวกเรา เลยเป็นที่จับตามองของเหล่าบรรดาป้าๆ ถึงขั้นมีป้าคนนึงเดินมาบอกวิธีการล้างล้วงช่วงล่างด้วยผ้าขนหนูจิ๋วผืนนั้น เอิ่ม คุณป้าคะ ขอบคุณค่ะ แต่หนูอายมากกกก

6. หลังจากสะอาดแล้วก็ลงแช่น้ำร้อนๆ ขอบอกมันดีมาก เลือดสูบฉีด รู้สึกสบายตัว หายเมื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย ลืมบอกค่ะ ห้ามเอาผ้าผืนเล็กลงจุ่มน้ำนะคะ ไม่เหมาะไม่ควร เพราะตะกี้เราเอาไว้อาบมาแล้ว เอาไว้บนหัวเราเองนี่แหละค่ะ

7. นั่งจนสบายใจ ใครจะต่อด้วยซาวน่าก็มีนะคะ แล้วแต่ชอบเลย แต่พวกเรา ด้วยความเขินอาย ไม่อยากจะขึ้นมาเดินโชว์หุ่นอัน SEXY เร่าร้อนบ่อย เลยแช่ จนคนเริ่มน้อย แล้วรีบวิ่งออกไปแต่งตัวโดยเร็ว

นั่นแหละค่ะ ช่างเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงจริงๆ แต่ถามว่าถ้ามาอีกจะอาบอีกมั้ย ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย...แน่นอนค่ะ พอได้ลองซักทีนะ เลิกอายกันไปเลย



ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากวัดน้ำใส เดินลงมาถึงป้ายรถเมล์ ข้ามถนนไปป้ายฝั่งตรงข้าม นั่งสาย 206 ไปลง GION ลงตอนรถข้ามแยกไฟแดงตรงศาลเจ้า YAKASA แล้วนะ แล้วก็เดินผ่านร้านเนื้อที่กินเมื่อคืน ไปอีก 2 ซอย เดินเข้าไปเลยค่ะ โรงอาบน้ำอยู่ขวามือ



เสร็จแล้วก็เดินกลับเอาสัมภาระที่ที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลเลย เปลี่ยนเสื้อผ้า ชาร์จแบต แล้วออกเดินทางไปรอขึ้น NIGHT BUS ที่สถานีเกียวโต



ก า ร เ ดิ น ท า ง

นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี HIGASHIYAMA สาย TOZAI ที่อยู่ปากซอยของที่พัก ไปลงสถานี KYOTO โดยต้องไป TRANSFER ที่สถานี KARASUMAOIKE สาย KARASUMA ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่ารถ 260 YEN



ถึงแล้วสถานีใหญ่ ทีนี้เสาเยอะไง เริ่มงงละ ต้องดูดีๆว่าทางออกที่เราต้องไปออกทางไหน เพราะถ้าออกผิดนี่เดินกันยาว

เราต้องไปขึ้นรถที่หน้าโรงแรม IBIS เพราะฉะนั้นเราต้องออกทางออก HACHIJO ส่วนใครต้องไปขึ้นรถที่ป้ายไหน ต้องดูรายละเอียดของรถ NIGHT BUS ที่จองค่ะ



เรามาถึงก่อนเวลากันพอสมควร ก็หาอะไรกินกันตามอัธยาศัย เราลงเอยที่ข้าวหน้าปลาไหล ราคา 1,980 YEN

อิ่มแล้วเดินเล่นจนใกล้เวลาแล้วไปรอที่ป้าย รถที่นี่ตรงเวลามาก เช็คชื่อตามเมล์ที่เค้าส่งมาตอนจอง แล้วเดินขึ้นรถไปเลย เสียขึ้นไปถึงลืมถ่ายรูปเก็บไว้ เลยไปเอาจากเวบที่จองมาให้ เป็นตามรูปเลยค่ะ หลับสบายมาก ส่วนตัวมาก เราไม่ตื่นเลยจนถึงโตเกียว


มีแวะเข้าห้องน้ำ 3 ครั้ง เราก็ไม่ได้ลงไปเลย แฟนบอกห้องน้ำดีมาก อารมณ์พารากอน แต่ดันไม่ยอมถ่ายรูปมาซะนี่


สามารถเข้าไปดูรูปรถแบบอื่นๆ รถเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เวบนะคะ มีภาษาอังกฤษค่ะ http://willerexpress.com/en/

ในส่วนของตอนที่ 2 จบแล้วค่า เจอกันตอนที่ 3 ที่โตเกียวนะคะ จะรีบปั่น

ขอบคุณที่ติดตามและติชมเสมอมาค่าา



อัพเดทก่อนใครที่เพจค่ะ

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> http://on.fb.me/1AulUyy

Blog จ้า

http://kusjiontour.wordpress.com/ตอนจบมาแล้วน้าา

มีทั้งหมด 3 ตอน 4 เมือง

ต อ น ที่ 1 : นอนสนามบิน ช้อปปิ้ง เล่นกับกวาง | http://pantip.com/topic/33634452

ต อ น ที่ 2 : KYOTO..ไปวัด ช้อป ชิล | http://pantip.com/topic/33652030

ต อ น ที่ 3 : ฮิปไปเรื่อยที่โตเกียว | http://pantip.com/topic/33754864

Kus Yatiga

 วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 12.00 น.

ความคิดเห็น