มาแล้ว มาแล้ว

ต อ น ที่ 3 : ฮิปไปเรื่อยที่โตเกียว

จะมีทั้งหมด 3 ตอน 4 เมือง | กระทู้นี้เป็นตอนที่ 3 นะคะ


ต อ น ที่ 1 : นอนสนามบิน ช้อปปิ้ง เล่นกับกวาง | http://pantip.com/topic/33634452

ต อ น ที่ 2 : KYOTO..ไปวัด ช้อป ชิล | http://pantip.com/topic/33652030

ต อ น ที่ 3 : ฮิปไปเรื่อยที่โตเกียว | http://pantip.com/topic/33754864



*ขอชี้แจงอีกครั้งนะคะ*

กระทู้นี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่รวยมากๆ นะคะ ข้ามไปได้เลยค่ะ

ราคาที่แจ้งในหัวข้อกระทู้ รวมค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ค่ากินตามมื้อ ค่ารถทุกอย่างที่จ่ายไป ทุกบาททุกสตางค์

แต่! ไม่รวมค่าขนมที่นอกเหนือจากอาหารในแต่ละมื้อ ประมาณพันนิดๆ ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง ซึ่งก็บาดเจ็บกันพอสมควร

โรงแรมที่นอนสนามบิน 2 คืน เพราะเที่ยวบินที่ได้ถึงดึก และออกเช้า กลัวไม่ทันเลยนอน หากใครจะจองโรงแรมก็เพิ่มอีกคืนละพันเอง ถ้าถึงเร็วและออกไม่เช้านอนโรงแรมก็ได้ค่ะ



วันที่ 6 TOKYO

หลังจากนั่งรถบัสมาทั้งคืนจากเมืองหลวงเก่า ในที่สุดเราก็ถึงเมืองหลวงใหม่กันซักที

รถบัส พาเราไปจอดที่ตึก SUNSHINE CITY ย่าน IKEBUKURO ตอน 7 โมงเช้า ตรงเวลาเป๊ะ



ต่อจากนี้พวกเราต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ว่าด้วย เส้นทาง เส้นทาง และเส้นทางที่จะพาเราไปยัง KIMI RYOKAN ที่พักของเรานั่นเอง ซึ่งก็อยู่ในย่านนี้แหละค่ะ

จากแผนที่ที่เตรียมไป ดูแล้วเกิดความงง ไม่รู้จะหันไปเริ่มต้นทางไหน แต่ดีนะที่เราลงทุนเช่า WIFI POCKET ไปด้วย ก็เลยเปิด GOOGLE MAP ช่วย สบายใจหายห่วง เดินลากกระเป๋าถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แม้จะมีการโต้แย้งกันเรื่องเส้นทางกันเป็นระยะ เพราะแต่ละคนเลือกกันคนละเส้นทาง แต่สนุกดี

ถึงที่พัก ยัง CHECK-IN ไม่ได้...เช่นเคย เราฝากกระเป๋า ล้างหน้าแปรงฟัน แต่งหน้ากรีดตากันตามเรื่อง แล้วออกเดินทาง


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


อัพเดทก่อนใครที่เพจค่ะ

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> http://on.fb.me/1AulUyy

Blog จ้า

http://kusjiontour.wordpress.com/จุดหมายวันนี้ SHOPPING รัวๆ ไปมันทั้ง 3 ที่เลยนะ NAKAMEGURO – DAIKANYAMA – SHIMOKITAZAWA



เริ่มที่ย่าน NAKAMEGURO ย่านน่ารัก ชิกๆ ชิลๆ มีลำโพงเปิดเพลงคลอตลอดการเดิน เพลินจริงเชียว

ที่นี่เปิด 11 โมง มาเช้าไม่เช็คเวลาอย่างเราก็เดินถ่ายรูปไปก่อน เวลาปิดประมาณ 5 โมงเย็นนะคะ

คลาสสิก


ร้านดอกไม้ น่ารัก


ดูร้านนี้สิ


ก า ร เ ดิ น ท า ง


วันนี้เราจะใช้ TOKYO METRO PASS นั่งไปได้ทุกสถานีที่มีสัญลักษณ์รูปตัว M ราคา 600 YEN ปกติราคา 710 YEN ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงลดราคา อาจเป็นเพราะช่วง GOLDEN WEEK รึเปล่า

ซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ วิธีคร่าวๆ คือ


1. เปลี่ยนเป็นภาษา ENGLISH อยู่ตรงขวาบนของจอ

2. กด ONE DAY PASS ซ้ายมือ


3. เลือก PASS ที่จะใช้


4. กดรูปคน แทนจำนวนคน ซึ่งสามารถซื้อได้หลายใบ


5. เครื่องจะคำนวณให้ว่าคนละเท่าไหร่ รวมเป็นเท่าไหร่ แล้วก็หยอดเหรีญ หรือสอดแบงค์เข้าไป ถ้าเกิน เดี่ยวเครื่องจะทอนออกมาให้เอง ฉลาดมาก


**จริงๆ การใช้ PASS อะไร ขึ้นอยู่กับแพลนของแต่ละคน ว่าสถานที่ที่เราจะไปรถอะไรผ่านบ้าง เราลองคำนวณดูค่าโดยสารแต่ละเที่ยวแล้ว คิดว่า PASS นี้เหมาะกับแพลนวันนี้ของเรา เลยเลือกให้ในวันนี้



เอาล่ะ เริ่มจากสถานี IKEBUKURO (M25) ซึ่งเดินจากที่พักไม่ไกลๆ ขออวด

ขึ้นสาย MARUNOUCHI ไป TRANSFER ที่สถานี KASUMIGASEKI (M15/H06) ประมาณ 20 นาที แล้วเปลี่ยนเป็นสาย HIBIYA นั่งไปลงที่สถานี NAKAMEGURO (H01)


เราจำทางออกไม่ ถ้าหาที่จดไว้ได้เดี๋ยวมาบอกอีกทีนะคะ เบื้องต้นให้ดูทางออกที่จะไป MAIN STREET แล้วเลี้ยวซ้าย ก่อนเจอธนาคารเลี้ยวซ้ายอีกที แล้วเลี้ยวขวาที่ SUPER MARKET แล้วก็จะเป็นเส้นยาวทั้งเส้นเลยค่ะ หาไม่ยากเดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว



เดินผ่านร้านราเมนหยอดเหรียญแล้วหิวขึ้นมาซะงั้น แวะสิคะ

มือนี้หมดไป 580 YEN

วิธีการคือ เลือกเมนูที่โดนใจ กดปุ่ม แล้วก็หยอดเหรียญ จากนั้นก็เอาคูปองไปให้เจ้าของร้าน เค้าจะเรียกให้ไปหยิบเมื่อทำเสร็จ น้ำเปล่าฟรีนะคะ


นอกจากจะชิกๆ ชิลๆ แล้ว ที่นี่ยังไม่ร้านขาย TOKYO BIKE ที่คนขายหล่อมาก แต่ไม่กล้าถ่ายมา เอารูปเราไปแทนนะ


ไปกับน้องอีกสองคน ไม่ต้องห่วงเรื่องของกิน และงานเค้กต้องมา ร้านนี้ดังเลยนะ ชื่อร้าน PATISSERIE POTAGER รูปหน้าร้านเบลอไปหน่อยนะคะ


แต่รูปเค้กชัดเจน เค้กอร่อย ทำจากผัก แต่กินแล้วไม่รู้สึกถึงผักเลย


ถ่ายรูปก็แล้ว กินก็แล้ว แต่ไม่ได้ช้อปเลย ร้านเพิ่งทยอยเปิด ไม่อยากรอแล้ว ไปต่อกันที่ DAIKANYAMA กันดีกว่าย่าน DAIKANYAMA เรียกได้ว่าเป็นย่านสยามบ้านเรา วัยรุ่นจะแต่งตัวดีๆ อย่างกับออกมาจากนิตยสาร


ห้างนี้เป็นแหล่งรวมเสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์ต่างๆ ของเด็กล้วนๆ


มีแต่ร้านน่ารักๆ


แต่งตัวคุมโทนกันมาก


นายแบบเราก็คุมกับเค้าด้วยสิ


พูดไปก็จะหาว่าคุย ทันทีที่เดินออกจากสถานีรถไฟ ก็มีแมวมองมาขอถ่ายรูปคุณต้น แฟนสุดหล่อของเรา เพื่อไปลงนิตยสาร อารมณ์ประมาณ CHEEZE MAGAZINE บ้านเรานั่นแหละค่ะ เค้านึกว่าคุณต้นเป็นคนญี่ปุ่นงี้ ไอ้เราก็ไม่อยากจะขัดโอกาสโด่งดังในแดนปลาดิบของแฟน ก็เลยยอมๆ ให้ถ่ายไป แฟนบอกเผื่อปูทางเข้าวงการ เอากับเค้าสิคะ


ถ่ายเสร็จก็มีสัมภาษณ์นิดหน่อย เกี่ยวกับการแต่งตัว เสื้อ กางเกง กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ยี่ห้ออะไรบ้างงี้ ภูมิใจที่บางชิ้นบอกว่าเป็น THAI BRAND


เอาล่ะ หลังจากผ่านช่วง คนอวดแฟนไปแล้ว นึกขึ้นได้ ยังไม่ได้บอกวิธีการเดินทางเลย มาๆๆ


ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากสถานี NAKA-MEGURO เราจะนั่งรถไฟสาย TOKYU TOYOKO/MINATOMIRAI LINE LOCAL ประมาณ 1 นาที ก็ไปถึงสถานี DAIKAN-YAMA ค่าตั๋ว 130 YEN หรือใครจะเดินไปก็ไปก็ได้นะคะประมาณ 10 นาทีค่ะ

พอออกจากสถานีก็เดินตามๆ เค้าไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง สถานีเล็กๆ ร้านค้ามากมาย มีทั้งแบรนด์ตัวเอง และแบรนด์นำเข้า ที่คัดดีไซน์มาโดยเฉพาะ อย่างรองเท้าบางรุ่นหาจากไทยไม่ได้ จากที่อื่นไม่มี ก็มาเจอที่นี่ แบบเฮ้ย รุ่นนี้ไงๆ เอาดิๆ ราคาเลยไม่ค่อยจะธรรมดา เป็นอันเจ็บตัวกันถ้วนหน้า จากภาพแค่ครึ่งทางของย่านนี้ เป็นไงล่ะนายแบบของเรา


เดินกันจนเมื่อยมาก เมื่อยจริงๆ เพราะเดินกันมาหลายวันแล้ว เงินที่เตรียมมาช้อปก็เริ่มร่อยหรอ เราคงต้องไปต่อย่านอื่นก่อนจะล้มละลายกันจุดหมายต่อไป ก็คือ ย่าน SHIMOKITAZAWA


ย่านนี้ขอเรียกว่าเป็นย่านเด็กแนว อารมณ์จตุจักรบ้านเรา ลงจากสถานีปุ๊บก็เจอวงดนตรีเปิดหมวกปั๊บ

ของมือสองเก๋ๆ ก็มีขายมากมาย ข้างในมือสองล้วนๆ


ของมือสอง ก็คัดกันมาแล้ว บางชิ้นนะ เคยผ่านมือคนอื่นมาแล้วจริงๆเหรอเนี่ย


แต่งร้านกันเก๋ๆ


ขอบอก MUJI สาขานี้ของเยอะมากก


และที่สำคัญ ราเมนร้านนี้ อร่อยขนาดที่ป้าข้างๆ สั่งเส้นมาเพิ่มเลย

เรานี่ซดจนเกลี้ยงไม่เหลือน้ำ ราคา 620 YEN


หน้าร้าน..พิกัดอยู่ซอยเดียวกับ MUJI เลยนะ


คุณพี่สุดหล่อ


ขอถ่ายร้านเค้าอีก


ก า ร เ ดิ น ท า ง


จากสถานี DAIKAN-YAMA นั่งรถไฟสาย TOKYU TOYOKO/MINATOMIRAI LINE LOCAL ไป TRANSFER ที่ SHIBUYA ประมาณ 3 นาที แล้วเดินในสถานีค่อนข้างไกลหน่อย (เพราะเป็นคนละค่าย) เพื่อออกไปขึ้นรถไฟจากสถานี SHIBUYA สาย KEIO INOKASHIRA LINE EXP. ไปลงสถานี SHIMO-KITAZAWA ค่าตั๋ว 260 YEN

ออกทางออก South


ต่อจากที่นี่ตามแพลนเดิมกะว่าจะไป SHINJUKU แต่ด้วยสภาพร่างกายไม่ไหว และของเต็มมือจนช้อปไม่สะดวก เลยขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้แทน ขอไปนอนเอาแรงที่ KIMI RYOKAN แป๊บนึง เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินย่าน IKEBUKURO


ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากสถานีรถไฟ SHIMO-KITAZAWA เราจะนั่งสาย KEIO INOKASHIRA LINE LOCAL กลับไป SHIBUYA เพื่อนั่งรถไฟใต้ดินกลับไปยังที่พัก ค่าตั๋ว 130 YEN ถึงสถานีรถไฟ SHIBUYA เดินลงรถไฟใต้ดินจากสถานี SHIBUYA (F16) ขึ้นสาย FUKUTOSHIN ทางที่จะไป KOTAKE-MUKAIHARA ไปลงที่สถานี IKEBUKURO (F09) ทางออก C6 เพื่อเดินเข้าที่พัก
หลังจากนอนพักเอาแรงกันแล้ว ก็ได้เวลาตระเวนราตรี ไม่ใช่ๆ ตระเวนหาของอร่อยๆกินเซ่

เดินข้ามถนนจากที่พักก็เจอย่านแสงสีแล้ว ดีจริงๆ เราเดินหาของกินแบบเดินไปเรื่อย แล้วก็มาสะดุดที่ร้านนี้ ด้วยความหิว และรูปหน้าร้านช่างน่ากินซะเหลือเกิน ก็เดินเข้าไปสิคะ จะรออะไร

เข้าไปปุ๊บ ตกใจค่ะ หน้าร้านเหมือนจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นธรรมดา แต่พอเข้าไปปุ๊บ หัวเหม็นทันที ข้าวหน้าปลาดิบใสๆ กลายเป็นปิ้งย่างซะอย่างงั้น


แต่ไม่เป็นไร เข้ามาแล้วก็ชนแก้ว


ทุกโต๊ะที่เข้ามา ทางร้านจะเสิร์ฟออร์เดิฟให้ อย่าคิดว่าฟรีค่ะ ปฏิเสธไม่ได้ ตังค์ก็ต้องจ่าย อร่อยเลยอภัยให้ มื้อนี้หมดไป 1,690 YEN รวมเบียร์นะจ๊ะ


แต่ความอยากข้าวหน้าปลาดิบยังคงอยู่ ก็จัดไปเซตเล็ก เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดอีกทีที่ตลาดปลา TSUKIJI


กินเสร็จเดินย่อย หากิจกรรมเสียเงินจามตู้เกมส์


อุ้ย นี่อะไร


จบค่ำคืนแรกที่มหานครโตเกียวแบบหัวเหม็นกันถ้วนหน้า กลับไปนอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปเดินละลายเงินเยนกันอีกหลายที่ นอนๆๆ


ที่ พั ก

KIMI RYOKAN เจอจาก WWW.BOOKING.COM แต่จองได้แค่ห้องเดียว เลยเมล์ส่วนตัวไปหาโรงแรมว่าอยากได้ 2 ห้อง เพราะมากัน 4 คน อยากพักที่เดียวกัน แล้วก็ได้มาค่ะ เย้

ราคาตกคืนละ 7,020 YEN ต่อห้อง ห้องนึงกว้างประมาณ 2 เสื่อ กับวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้อีก 2 ใบ

มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่ากระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวเอาอยู่


ความสะอาดเราให้เยี่ยมเลยนะ ที่สำคัญ..ใกล้รถไฟใต้ดิน..อีกแล้ว ที่นี่ฝากกระเป๋าไว้ได้นะคะ ถ้ามาก่อนเวลา CHECK-IN หรือกระทั่ง CHECK-OUT ไปแล้ว

วันที่ 7


เป้าหมายในวันนี้ คือ กินปลาดิบที่ตลาดปลา TSUKIJI, เก็บ LANDMARK ซักที่นึง แล้วก็ละลายเงินเยนกันต่อที่ SHINJUKU และ SHIBIYA



เริ่มที่เป้าหมายที่ 1 หนีไม่พ้นเรื่องกิน จริงๆ ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่ด้วยความเร่งรีบ ทำให้ได้กินปลาดิบน้อยมาก ทั้งที่ความตั้งใจคือจะกินทุกมื้อ เลยต้องมาจัดให้ถึงที่ แบบสดๆ กันไปเลย

ตลาดปลา TSUKIJI เป็นตลาดค้าส่งปลาที่เป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งเป็น 2 โซน คือส่วนภายนอกซึ่งมีร้านค้าปลีกและร้านอาหาร และส่วนภายในซึ่งเป็นบริเวณที่ร้านค้าส่งและประมูลปลา วันที่เราไปโซนข้างในปิด เราเลยหากินเอาโซนนอก

แผนที่จาก google ค่ะ

ก า ร เ ดิ น ท า ง


วันนี้เราจะใช้ PASS : ONE-DAY TICKET FOR TOKYO METRO & TOEI SUBWAY ราคา 1,000 YEN เนื่องจากตามแพลนต้องไปสาย TOEI ด้วยและบวกลบคูณหารแล้วซื้อพาสคุ้มกว่าซื้อเป็นเที่ยวๆ วิธีการซื้อก็เหมือนกันเลยค่ะ เลื่อนขึ้นไปดูข้างบนนะคะ

จากสถานนี IKEBUKURO (Y09) นั่งสาย YURAKUCHO ขึ้นฝั่งที่จะไป SHIN-KIBA ไป TRANSFER ที่สถานี TSUKISHIMA (Y21/E16) ประมาณ 24 นาที แล้วเปลี่ยนเป็นสาย OEDO


ไปลงสถานี TSUKIJISHIJO (E18)


ดูป้ายที่บอกว่าไปตลาดปลาได้เลยค่ะ


ถึงแล้ว เย้


ข้างหลังคุณต้น จะเป็นโซนร้านอาหารค่ะ


มีทั้งแล่กันตรงนั้น ยืนกินกันตรงนั้น


และเป็นร้านนั่ง ซึ่งก็มีให้เลือกมากมาย


ร้านนี้คนเยอะมาก ต่อแถวยาวไม่ขาดตอน

เรารอไม่ไหว เลยลองร้านนี้ อยู่ฝั่งตรงข้ามในซอกนี้ค่ะ เดินเข้าไปเลย


นี่คือหน้าร้าน มีสองฝั่งค่ะ


เรานั่งฝั่งซ้าย


และนี่ก็เมนูจ้า รู้นะว่ารอคอย ถ่ายมาได้ 3 หน้า ดูกันเอาเองนะ


และนี่จานของเรา 1,985 YEN สดๆ แน่นๆ นุ่มลิ้น ละลายในปาก


จานเพื่อนๆ บ้าง


กินอิ่มก็เดินช้อปปิ้งต่อสิคะ ข้างทางก็มีเรื่องให้เสียเงินอีก น้องส้มก็โดนไปจ้า


เป้าหมายแรก >> GOAL


เป้าหมายต่อไปวัด Sensoji หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าวัด Asakusa เป็น LANDMARK ที่ไม่ได้อยู่ในแพลนเล้ย แล้วมันก็เช้าอยู่ ไม่รู้จะไปไหน ก็เอาซะหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้ามาช่วง GOLDEN WEEK คนจะเยอะซักแค่ไหน



ก า ร เ ดิ น ท า ง

ใช้ PASS เดิมที่ซื้อเมื่อเช้านะคะ จากสถานี TSUKIJISHIJO (E18)

นั่งสาย OEDO ไป TRANSFER ที่สถานี DAIMON (E20/A09) ใช้เวลา 4 นาที สังเกตุป้ายนะคะ เราจะไปสายที่ 2 กัน


แล้วเปลี่ยนสายเป็นสาย ASAKUSA ขึ้นทางที่จะไป OSHIAGE'SKYTREE' ไปลงสถานี ASAKUSA (A18)


ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ ในรถไฟก็มีป้ายบอกสถานีต่อไปเป็นภาษาอังกฤษ

ออกจากสถานีจะเป็นซอยแบบนี้


แล้วก็เดินออกไปเพื่อข้ามถนนไปยังวัด ซึ่งอยู๋ฝั่งตรมข้าม


มองไปทางขวาจะเจอ TOKYO TOWER ด้วยนะคะ


ถึงแล้วคนหนาแน่นจริงๆ


เข้าไปอีกนิด


ถ่ายกับ LANDMARK ซักหน่อย


มุมข้างก็สวยกี ... ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ><


ใครใคร่ช้อปปิ้งเชิญซอยด้านหลังค่า


เดินเล่นถ่ายรูปแถวๆนั้น ก็ได้มุมแปลกๆมาเช่นเคย


รูปนี้ไม่แปลกแต่เสียวมาก


ใครอยากให้หนุ่มหล่อล่ำพาเที่ยวก็ไปขึ้นที่ซอยข้างๆวัดเลยน้า


รถเมล์น่ารัก


เห็นสตรอเบอรี่แล้วเกิดแรงดึงดูดน่า 7 ร้อยกว่า จำราคาไม่ได้ค่ะ แต่รสชาติจำไม่รู้ลืม


ขอจบกับภารกิจ LANDMARK แต่เพียงเท่านี้ ไปช้อปปิ้งต่อกันเถ๊อะSHINJUKU กันเถอะ



ก า ร เ ดิ น ท า ง

ใช้ PASS เดิมที่ซื้อเมื่อเช้าเลยค่ะ อ๋อยย มันคุ้มมากๆ

จากสถานี ASAKUSA (A18) ขึ้นสาย ASAKUSA ไปทางที่จะไป NISHI-MAGOME แล้วไปลงที่สถานี HIGASHI-NIHOMBASHI (A15) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ถึงแล้วก็ต้องเดินอีกนิดหน่อย ไปเปลี่ยนเป็นสาย SHINJUKU โดยต้องเปลี่ยนเป็นสถานี BAKURO-YOKOYAMA (S09) ขึ้นทางที่จะไป SHINJUKU เรานั่งไปลง SHINJUKU-SANCHOME (S02) จะอยู่ใกล้ๆ ห้าง ISETAN เราออกทางออก B3

ถ่ายรูปเล่นตามสถานี คืองานของเรา

อย่าลืมประทับตราล่ะ


ถึงแล้วก็ทางใครทางมันนะคะ


แต่ไม่กี่วันก่อนเพิ่งไปเจอกระทู้นึง เสียใจที่ไม่เจอกันเร็วกว่านี้ เป็นแผนที่เดินช้อปปิ้ง ลองเข้าไปดูกันนะ

http://pantip.com/topic/32596129

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มา ณ ที่นี้ค่ะเค้าว่าไป SHINJUKU ต้องกินเครป ชมพู่กับส้ม เจ้าเดิม ไม่มีพลาด เอารูปมาฝากกันด้วยค่า

หน้าร้าน


เยอะแยะๆ


ส่วนใครชอบแบรนด์เนมมือสอง ลองร้านนี้ดูนะคะ


แล้วก็ร้านนี้ บอกพิกัดไม่ถูก เดินวนไปมาก็เจอครบทุกร้านตามลายแทงพี่ม้าฮี่ๆ เลยค่ะ


พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน เงินยังไม่หมด เราต้องไปต่อกันใช่มั้ย


จุดหมายต่อไป SHIBUYA นะคะ



ก า ร เ ดิ น ท า ง

จากสถานี SHINJUKU-SANCHOME (F13) ขึ้นสาย FUKUTOSHIN ไปลงสถานี SHIBUYA (F16) แป๊บเดียวถึงเลย ออกทาง HACHIKO EXIT จะเจอรูปปั้น HACHIKO หมาน้อยในตำนาน

และต้องเจอคลื่นมหาชนที่ SCRAMBLE CROSSING


ซักหน่อยสิเรา


เบื้องหลังภาพที่ได้มา


ข้ามแยกได้ก็เริ่มกันเลยค่ะ


ไหวมั้ย


สู้ตายค่ะ


เย็นแล้ว เหนื่อยด้วย แก่แล้ว ไม่ฟิตเลย กลับเถอะๆ


กลับที่พักไปเก็บของยัดใส่กระเป๋ากันดีกว่า



ก า ร เดิ น ท า ง

จากสถานี SHIBUYA (F12) ขึ้นสาย FUKUTOSHIN ไปทางที่จะไป KOTAKE-MUKAIHARA ไปลงที่สถานี IKEBUKURO (F09) EXIT C3 ใช้เวลา 14 นาที ใช้ PASS ใบเดิมจ้า

ระหว่างที่รอรถไฟ

ถ่ายภาพนี้มา แล้วมารู้ทีหลังว่า เค้ากันคนกระโดดฆ่าตัวตาย เพราะกระโดดกันเป็นว่าเล่นเลย ฮือออ หลอน


มีตู้สำหรับสาวน้อยน่ารักด้วยน้า


ก่อนออกจากสถานี ก็จะกิน ร้านนี้คุ้นๆ ใช่มั้ยล่ะ


ถึง IKEBUKURO แล้ว เจอห้างแถวที่พัก ก็จัดกันต่อ


รูปนี้ถ่ายตั้งแต่เช้า มาถึงจริงคือมืดแล้ว

ชอบห้างนี้มาก มีของที่ตามหามาหลายวันด้วย..ติดตรงห้องส้วมห้องนี้แหละ จะให้พี่กดปุ่มไหนดีคะ ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ มึนกันเลยทีเดียว


เดินกันจนขาเปลี้ย ย้ำว่าเปลี้ยกันมาก หาอะไรกินง่ายๆ กันเถอะ เงินหมด รีบด้วย เดี๋ยวจะตกรถไฟไปสนามบิน


เดินไปเดินมาเจอร้านหยอดเหรียญอีกแล้ว เยอะจริงเชียว

จานนี้ของเรา 580 YEN

นี่ของน้องอีกคน ส่วนคนอื่นๆ ถ่ายไม่ทัน หิวกันเกิ๊น


กินเสร็จกลับไปเก็บของ ร่ำลาที่พักแล้วออกเดินทาง..ต่อจุดหมายต่อไป..NARITA INTERNATIONAL AIRPORT


ที่รีบนี่ไม่ได้กลัวตกเครื่องนะคะ กลัวตกรถไฟเพื่อที่จะไปนอนสนามบินนี่แหละ

หลายคนยังไม่เคยอ่านตอนแรก คืนนี้เราจะนอนสนามบินกันนะคะ เพราะพรุ่งนี้เราออก 9 โมง เผื่อเวลา CHECK-IN เวลาเดินทาง ก็กลัวจะไม่ทัน ก็เลยตกลงใจกันตั้งแต่กรุงเทพนี่แหละค่ะว่านอนสนามบินเถอะถ้างั้น



ก า ร เ ดิ น ท าง

ใช้ PASS เดิมนั้นแหละ คุ้มจนหยดสุดท้ายจริงๆ PASS เดิม เพิ่มเติมแค่สัมภาระ คิดหนัดว่าจะทำยังไงกับบางอย่างที่ยัดกระเป๋าไม่ไหวแล้วจริงๆ

จากสถานี IKEBUKURO (M25) ขึ้นสาย MARUNOUCHI ไปทางที่จะไป OGIKUBO ไป TRANSFER ที่สถานี OTEMACHI (M18/Z08) ใช้เวลา 14 นาที แล้วเปลี่ยนเป็นสาย HANZOMON ไปลงสถานี OSHIAGE'SKYTREE' (Z14) อีก 14 นาที


จาก สถานี OSHIAGE'SKYTREE' เดินในสถานีนั่นแหละค่ะ ไปเปลี่ยนเป็นรถไฟเพื่อจะไปสนามบิน รอบรถที่ดูมาจาก HYPERDIA คือรอบ 21.10 น. ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 15 นาที วิ่งสิคะวิ่ง



ซื้อตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ราคา 980 YEN

แล้วรีบไปรอรถที่ชานชลาโดยเร็ว


จากสถานี OSHIAGE นั่งสาย KEISEI OSHIAGE LINE RAPID ไปลง NARITA AIRPORT TERMINAL 2 เลยค่ะ


ถึงแล้วจะมีรถเข็นให้ ไม่ต้องลากให้เหนื่อย

หลังจากนั้นก็ลงลิฟท์ไปหาที่นอน ซึ่งก็คือเก้าอี้เบาะยาวๆ สีฟ้านั่นแหละค่ะ เหมือนที่สนามบินคันไซ เอามาต่อกันก็จะกว้างและนอนยืดเหยียดยาวได้สบายเลยค่ะ มีห้องน้ำ ที่ชาร์จแบต ฟรี



ชั้น 4 มี 7-11 เผื่อใครหิว กินได้ทั้งคืนเลยค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมาวันนี้หมดแรงกันแล้วจริงๆ นอนกันเถอะแก๊งส์



ตื่นเช้ามาเป็นแสงสุดท้ายที่ญี่ปุ่นแล้ว ล้างหน้าแปลงฟันแล้วไป CHECK-IN กัน

AIR ASIA X จะมีห้องของตัวเอง เดินลากกระเป๋าเข้าไปเลยค่ะ ห้ามเอารถเข็นเข้าไปนะคะ



เรื่องน้ำหนักกระเป๋า เจ้าหน้าที่ที่นี่เข้มงวดมากเลยนะคะ เกินนิดเดียวก็ไม่ได้ เราก็เอามาใส่ๆไว้ที่ตัวจนพองเลยค่ะ แล้วก็ผ่านได้แบบพอดีเป๊ะ



เสร็จแล้วก็ไปเข้าแถวผู้โดยสารขาออก ช่วงที่เราไป คนค่อนข้างเยอะ แถวจะยาวหน่อย เข้าไปแล้วก็เจอคนไทยจำนวนมากซื้อของฝากกันอย่างบ้าคลั่ง จริงๆ นะ ไม่ได้พูดเกินความจริงเลย เพราะพวกเราก็เป็น ขนมฮิตๆ นี่ มือใครยาวสาวได้สาวเอานะ ไม่งั้นหมดแผงจ้า



หมดภารกิจของฝากและละลายเงินเยน ก็เตรียมตัว บินลัดฟ้า กลับแผ่นดินแม่

มีวิวฟ้าใสๆมาฝาก แค่นั้นแหละ นอนละนะ เจอกันประเทศไทย

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวในครั้งนี้ จะพอมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ บ้าง ซักนิดก็ดีใจแล้ว


แล้วพบกันใหม่เมื่อทริปใหม่เกิด



สามารถอัพเดทก่อนใครที่เพจค่ะ

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> http://on.fb.me/1AulUyy

Blog จ้า

http://kusjiontour.wordpress.com/

Kus Yatiga

 วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 12.00 น.

ความคิดเห็น