ถึงเวลา กันยา...หน้าฝน แพลนคนโสด คนเหงา คนมีคู่ คงเดินเล่นจับมือกัน ไปดูหนัง เดินเล่นShopping แต่งตัวเกร๋ๆ เดินห้าง หรือคนโสดบางคนก็คงอยากนอนเล่นเหงาๆ อยู่บ้าน หยิบหนังสือซักเล่มนอนอ่านบนโซฟานุ่มๆ ... หันกลับมามองตัวเอง หน้าฝนทีไร หาที่เดินเหงาๆ เล่นกับหมอกทุกที แพลนรอบนี้เดือนหาข้อมูลไว้แบบ คร่าวๆ แบบคร่าวมากจริงๆ พอตัดสินใจได้ว่าจะไป สิ่งที่ต้องทำคือ จัดแจงลางาน -> จองตั๋วรถไป -> ติดต่อเหมารถไปจุดหมาย -> จองตั๋วเครื่องบินขากลับ… พูดมาขนาดนี้แล้ว บอกเลยละกันว่าไปไหน

“ภูสอยดาว” ตามเก็บเทศกาล “ดอกหงอนนาค” จ.อุตรดิตถ์ เทศกาลดอกไม้ที่ต้องใช้เวลาเดินไปชม นานกว่า 4 ชม.

เดือนเชื่อว่าหลายคนสาย Trekking ต้องเคยได้ยิน ชื่อ ภูสอยดาว แน่นอน ข้อมูลภูสอยดาว หรือรีวิว ต่างๆ เส้นทางการเดินทางมีให้ค้นหาเยอะแยะมากมายการเดินทางไม่ยากมากมายถ้าเทียบกับบางที่ที่เดือนเคยไป....อย่างที่เดือนบอกว่าเดือนมีติดต่อรถเพื่อมารับและไปส่งที่อุทยานภูสอยดาว เป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ พี่จ่าเอ๋ 083-5998826 ไม่ผิดหวัง ขับรถดี คุยสนุก ตรงเวลา แถมหาคนมาหารค่ารถกับเราอีก


เริ่มเส้นทางการเดินทางที่ สถานีรถไฟดอนเมือง – สถานีพิษณุโลกอ่ะไม่งงนะว่าไป จ.อุตรดิตถ์ ไปลงพิษณุโลกทำไม เพราะลงทางนี้มันใกล้กว่า....ระยะเวลาการเดินทางจากต้นทาง – ปลายทางที่เราจะลงใช้เวลา ประมาณ 6 ชม. (บวกเวลารถไฟไทยเลทไปแล้ว เพื่อนๆ จะถึงปลายทางไม่เกินตี 3 แน่นอน ขบวน 107) อย่างที่บอกว่าพี่เค้าจะคนหารค่ารถให้เราด้วยทีม Join รถ รอบนี้ได้ 6 คน เป็นรถแวน นั่งสบายๆ หลับเพลินพี่เค้ารับเราจากสถานีรถไฟก่อน แล้วสมาชิกคนอื่นไปรถทัวร์ พอครบคน ล้อก็หมุนมุ่งหน้า อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ระหว่างพี่เค้าพาแวะตลาดชาติตระการ เดือนต้องสารภาพตามตรงว่า ช่วงเดินทางตอนเช้า ไม่มีรูปใดๆ เลยจริงๆ แม่งโค-ตร ง่วง สติ จิตหลุดหมดเอาเป็นว่าที่ตลาดชาติตระการมีทั้ง ตลาดสด ทั้ง7-11 , lotus express เลือกเข้าตามใจชอบ ซื้อน้ำ-เสบียงเตรียมไปให้พร้อม ของเดือนซื้ออาหารกลางวันที่ต้องกินระหว่างเดินขึ้นภูเป็น ไก่ย่าง+ข้าวเหนียว ที่เหลือเป็นน้ำตามจำนวนที่คิดว่าเพียงพอกับตัวเอง ขนมให้ความหวานระหว่างTrek สุดท้ายเป็นมาม่า + ปลากระป๋อง (อาหารเช้าของวันจะกลับ) ส่วนอาหารเย็นที่จะกินบนภูเดือนแพลนไว้ว่าจะสั่ง ชาบูดอยขึ้นไปกิน (399 บาท) ส่วนอาหารเช้าก่อนเดินทางขึ้น พี่จ่าเอ๋เราพาไปกินข้าวรถอาหารตามสั่ง แถวจุดปล่อยตัวเดินขึ้นภู พูดเลยว่า อาหารรถชาติดี (รูปช้าวที่ร้านป้า) หลังทีมเราอิ่มท้องเรียบร้อยพี่จ่าเอ๋ ก็พาเราไปที่อุทยานเพื่อทำเรื่อง

  • ลงทะเบียนเพื่อขึ้นบนลานสน พวกเรามาด้วยกัน 6 คน ก็ลงทะเบียนด้วยกันเลย แลกบัตรประชาชนแค่คนเดียว ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท /คน หลังลงทะเบียนเราจะได้ No. ของเรามา ของเราขนาดมาไว ยังได้ 109 เลย
  • เช่าเต้นท์ พวกเราเช่าเป็นราคาเหมากันหมดเลย ของเรา นอน 1 คืน / 1 คน 700 บาท
  • จัดเตรียมของที่จะให้ลูกหาบ หาบขึ้น กิโลละ 25 บาท รอชั่งน้ำหนักพี่เจ้าหน้าที่จะชั่งสัมภาระเรา จากนั้นเราจะได้การ์ดบอกจำนวนหนัก แล้วก็ไปจ่ายตังค์ ใครจะสั่งชาบู ก็แจ้งพี่เค้าได้เลยจ่ายเงินเรียบร้อย ก็เตรียมไปขึ้นรถ เพื่อไปจุดปล่อยตัว ดูเป็นนักกีฬาไปอีกกกก

หลังจากรถของเจ้าหน้าส่งเราที่ทางขึ้นเรียบร้อยแล้วใครใคร่ถ่ายรูปน้ำตก ภูสอยดาวก่อน ก็ถ่ายได้เลย เรา ไม่มัวรีรอ เพราะด้วยความที่กลัวถึงลานสนช้า รู้ตัวเลยว่าร่างกายไม่ได้ฟิต คงใช้เวลาพอสมควรในการเดินขึ้น

อย่างที่พอจะรู้กันดีว่าเส้นทางเดินขึ้นลานสน เค้าก็มีเนินให้เดินผ่านทั้งหมด 5 เนิน ฟังดูมันเหมือนไม่ไกลเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ร่างแทบแหลก

ระยะทางจากจุดเริ่มต้นไป ถึงลานกางเต็นท์ อยู่ที่ประมาณ 6,500 เมตรถ้าพร้อมแล้วไปกันเล้ยยยยย

>> ทำธุระเรื่อง สัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถเจ้าหน้าที่ไปที่ทางขึ้นแรกกันเลยจ้า <<

ระยะทางเริ่มต้นที่มุ่งหน้าสู่ 'เนินส่งญาติ' เป็นทางราบ สลับเนิน น้อยๆ มีลำธาร เดินผ่านน้ำเล็กน้อยยยย แป๊บๆจะถึงเนิน 'เนินส่งญาติ' เนินที่ 1 ที่สร้างความพองโตของใจให้เรามาระดับนึง

:


ถ่ายเสร็จ เดินต่อสิฮ๊ะ รออะไร

แต่งตัวให้มิดชิดจะดีมาก ทั้งไม้เกี่ยว ทั้งแมลง เราจะสู้มันได้

ต่ออีกพัก จะเจอ 'เนินปราบเซียน' บอกเลย แม่งไม่ธรรมดา ปราบซะราบคาบ

นี่คือเดินมาตั้งนาน เพิ่งอยู่ที่ความสูง 780 เมตร

พักแป๊บ ละไปต่อ

:

เนินต่อไปเป็นเนิน 'เนินป่ากอ'

แป๊บๆ คิดดูนี่เนินที่ 3 แล้ว ให้ทายว่าเหนื่อยมั้ย

เนินนี้ที่ระดับความสูง 850 เมตร

คิดว่าภาพน่าจะฟ้อง ความเหนื่อย ได้เป้นอย่างดี

บางกลุ่มเลือกที่จะนั่งที่เนินนี้เพื่อ รัปทานอาหารกลางวันที่เตรียมกันมา แต่เราหรอ ยังพอมีแรงไหวก็เดินต่อไป เดี่ยวมันจะช้า เหนื่อยละค่อยพัก

:

เนินต่อมา เนินที่ 4 'เนินเสือโคร่ง' ที่ความสูง 1,150 เมตร

เนินนี้เป็นอีกเนินที่แม่งทำเอาใจจะขาดดดดด

คือไม่ได้เดินรวดเดียวถึงแน่บอกเลย แต่เอาเป็นว่ามันเหนื่อยมากจนไม่อยากหยิบไรออกมาถ่าย อยากจิบแค่น้ำ แทบบ้า ช่วงเวลาที่เดินขึ้นเนินนี้ คิดในใจ เมื่อไหร่แม่งจะถึง นี่ตรูมาทำไรของตรูเนี่ยยยยย.... แต่สุดท้ายเราก็ถึงจร้าาา

บอกเลยว่าเนินนี้ไม่มีแรงจะถ่ายรูปจริงๆ แม่ง เหนื่อยแบบไม่รู้จะเอาคำว่าอะไรมาเทียบ ขอพักอย่างยาวๆ ที่เนินนี้

พี่ลูกหาบเค้ายังนั่งพัก อย่างเราอย่าเพิ่งห้าวเดิน เดี่ยวใจมันจะเต้นรัวเกินไป

พักให้หายใจหายคอให้คล่องด้วย วิว สวยๆ ละป่ะ!! เดินต่อ

มีกำลังใจละ ไปเดินต่อกันโลดดดดด

ระยะทางมันยังอีกไม่ได้น้อยเลย

เนินต่อไปก็ไม่ใช่ธรรมดา

ความคิดในหัว พร้อมพูดความคิดที่อยู่ในใจออกมาดังว่า

'เนี่ยยย ตรูมาทำมั้ยยยยย ทำไมไม่นอนโง่ๆ อยู่บนเตียงที่บ้าน เหนื่อยก็เหนื่อย เดินกลับก็ไม่ได้'

ก็บอกได้ตรงๆ ว่า เดินป่าทีรัยเป็นแบบนี้ทุกที หลังบ่นออกมาดังๆ ละหายก็มีแรงเดินต่อ

ตลกตัวเอง จริงๆ แล้วเพราะเรารู้ว่า 'เส้นทางข้างหน้าของเรานี่แหละที่จะพาเราไปเป้าหมาย'

ในที่สุด เราก็ถึง 'เนินมรณะ' เกือบตายค่ะคุณๆ ขา

นี่มันที่ความสูง 1,410 เมตรแล้ว

เริ่มมีแรง หยิบนั่นี่มาถ่ายรูป

หารู้ไม่ว่า เส้นทางมันยังอีกไกล

เครื่องดื่มนี่เราหยิบมาเป็นพร็อพถ่ายรูปเฉยๆเน๊าะ เดี่ยวกินไปใจจะรัวเร็ว กว่านี้

หลังจากเนินมรณะ แล้วจะเป้นเส้นทางสู่ลานสน ซึ่งยังไม่ถึงง่ายๆ แต่พอได้ขึ้นไปแล้วหันหลังกลับมา โอโห้ มันสวยได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ยยยย

สวยมากกก เดินต่อมาอีกนิด จะเป็นหินขนาดใหญ่ที่เป้นมุมฮิต ไม่ฮิตได้งั้ยสวยขนาดนี้

ลมเย็น และแรงมาก สวยมากจริงๆ

นี่พี่ที่เราไปเจอระหว่างเดิน พี่แกเก่งอ่ะ แบกเป้ขึ้น นี่แค่ ใบเล็กยังอยากจะโยนลงข้างๆ

ขอเอารูปพี่มาลงหน่อยนะคะ พี่เจ๋ง หนูชอบ

ไปค่ะ ถ่ายเสร็จละไปต่อ

อยากจะบอกว่าเส้นทางต่อจากตรงนี้ โค-ตร ชัน

ไม่มีนะจ๊ะภาพนิ่ง หมดแรงจ่ะพี่จ๋า

ตัดภาพเรามาที่นี่เล้ยยยยย

คือขึ้นมาถึงละหน้ามันยิ้มของมันเองเลย งง ป่ะ อย่างกะคนไม่เหนื่อย


ถ่ายตรงนี้พอหอมปากหอมคอ แล้วเราก็เดินย่ำ ดินปนทราย เละๆ จากน้ำฝนของคืนวันก่อน ไปที่ ลานกางเต้นท์ เพื่อไปเช่า อุปกรณ์ นั่นนี่โน่น แล้วด้วยความคืนที่เรานอนพัก นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เราก็เลยได้ไปนอน นู่นนนน เต้นท์ ด้านหลังนู่นเลย ต้องเดินข้าม น้ำ และทางเละๆ ไปก่อนจะถึงเต้นท์ แต่เราหรอ สบายมากกก

แก็งค์เราที่มารถด้วยกัน เช่าทุกอย่าง เต้นท์ ที่รองนอน หมอน ถุงนอน ถังอาบน้ำ ขันตักนัำ แต่มันอาจจะชื้นๆ ไปนิด แต่เราไม่ซีเรียสกันอยู่แล้ว เข้าใจได้ เพราะคืนก่อนเรามา ฝนลงหนักมาก ละสภาพอากาศแบบนี้จะไปเอา แดด มาจากไหน

หบังจาก เช่า สิ่งของเพิ่มเติมแล้วเราก็ไปเดินเล่น ถ่ายรูปรอ ลูกหาบที่จะหาบของเรามา ซึ่งเค้าต้องใช้เวลามากกว่าเราแน่นอน ซึ่งเป็นการฆ่าเวลาที่คุ้มค่ามวากกกกก

เพราะจุดเด่นที่เรามาตามดูอีกอย่างของที่ ภูสอยดาว คือ 'ดอกหงอนนาค'

รูปรัวๆ เลยแล้วกันเน๊าะ

ใคร ใคร่ มุม ไหนก็จัดไปเลย

เราก็เดินไปรอบๆ แต่คือ หนาววว ไม่อยากจะเดินไปไหนมาก

มันค่อนข้างจะมีหลายมุมมาก เดินเลยเอาเลยเน๊าะ

แต่ก็อย่าถึงขึ้นไป เด็ด หรือ เหยียบ น้องหงอนนาค นะจ๊ะพี่จ๋า

สีสัน เวอร์วัง

ท่านี้ซักหน่อยเดี่ยวจะผิดคอนเซ็ป เพจเรา

เราก็เดินกันจนใกล้พระอาทตย์ตกดิน

ภาพที่ได้ก็จะอีกอารมณ์

หลังถายรูปหนำใจแล้วเราก้กลับไปที่ลานกางเตนท์ ดูเรื่องสัมภาระอีกที

มาละจ้า ที่นี้ก็เอาข้องไปเต้นท์ แล้วก็ไปอาบน้ำ ให้สบายตัว รอลูกหาบอีกกลุ่มเอา ชาบูดอยขึ้นมาให้เรา บอกตามตรงว่าตอนนั้นหิวมาก กว่าเราจะได้ชาบูก้อตกมึด กว่าจะทำกว่าจะได้กิน ภาพที่ได้มันก็เลย งง ๆ

รัปทานอาหารเสร็จ แปรงฟันเฟืองให้เรียบร้อยแล้วเข้านอน พร้อมตื่นแต่เช้ามาถ่ายหมอกอีกครั้ง

ลืมโชว์ว่าเต้นเราเปิดหน้าต่างออกมา มันเป็นวิวที่ฟินเวอร์ ดงดอกหงอนนาค กับต้นสน ดี๊ดีย์!!!

และนี่คือ ดอกหงอนนาค ยามเช้าปนหมอก กัยน้ำค้างเม็ดโต

บอกเลยใครไม่ฟิน แต่เราฟินมาก มาก แบบ มากจริงๆ

เดินถ่ายรูปจนหนำใจ แล้วเราก็กลับมาทำอาหารเช้า

มื้อนี้อาเช้าเป็น ต้มมาม่า ปลากระป๋อง

เนี่ย รัปทานข้าวเช้าไป แหงนมองต้นสนไป จะไม่ฟินได้งัย

หมดเวลาของมื้อเช้า เราก็ขอนั่งย่อยแพร็พ

ดีจะตายยยย

แต่อย่าลืมนั่งเล่น ชมวิวเพลิน

เพราะถ้าค้างคืนเดียวแบบเรา เราได้คำแนะนำมาจากพี่เอ๋ที่ขับรถว่า เช้ามาให้รีบเอาสัมภาระรวมกัน แล้วไปให้ลูกหาบให้เร็ว แก็งค์เรา เอาไปให้เค้าตั้วแต่ประมาณ 8.30 น. ขยะอะไรก็เก็บให้เรียบร้อย แบบก ลงไปไมใ่ไหว กลัวแตกก็จากลูกหาบลงไปได้ อย่าทิ้งขยะ หรืออะไรไว้เลอะเทอะนะจ๊ะพี่จ๋า

หลังเก้บข้าวของ เอาของคืนเจ้าหน้าที่เรียบร้อยเราก็จะไปถ่ายรูปที่น้ำตกสายทิพย์ต่ออีกหน่อย

เกริ่นก่อนเลยว่า ข้างล่าง สวย เราชอบ เดินลง ระวัง ลื่น!!! เดินขึ้นอะหรอ โคตรจตัดกำลัง ตอนเดินกลับมาก เพราะ ระยะทางสั้นๆ แต่อย่างเหนื่อย

ถ่ายรูปที่น้ำตกเสร็จก็กลับขึ้นข้างบนเพื่อเดินทางกลับกัน

ระหว่างที่เราเดินกลับ ก็เริ่มมี กลุ่มอื่นๆ เริ่มเดินกลับกันเหมือนเรา

ขากลับอย่าลิมเตรียมเครื่องอาบน้ำ และเสื้อผ้ามาอาบน้ำที่อุทยาน ระหว่างรอลูกหาบนะจ๊ะพี่จ๋า

เราลงมา พี่เอ๋ นี่คือก็มารอที่อุทยานเรียบร้อยแล้วด้วย ประทับจับไปทุกอย่างเลยทริปนี้

พอคณะเราพร้อมพี่เอ๋ก็ล้อหมุนส่งแต่ละคนลงตามที่ต่างๆ ไอ่เราเนี่ยนั่งเครื่องกลับ ไม่งั้นประเดี๋ยวจะไปทำงานวันรุ่งขึ้นไม่ไหว ยังไงพี่จ๋าลองบริหารเวลากันดูนะจ๊ะ

ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง

ขอบคุณมิตรภาพระหว่างเดินทาง


ขอบคุณพี่เอ่ ที่ส่งพวกเราถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ พร้อมราคา น่ารักๆ

สำหรับทริปนี้เราก็จบลงด้วยความประทับใจกับทุกอย่างที่พบเจอ

การเดินทางแต่ละครั้งมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทุกครั้งสำหรับเดือน แะละทุกครั้งมักจะเป็นความประทับใจที่น่าจดจำทั้งสิ้น

และการเดินทางครั้งนี้ทำให้รู้ว่า เดือน ร่างกายเมริงไม่ฟิตตตตต เลย รอบหน้าก่อนมาไปฟิตมาโดยยย

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าจ๊ะพี่จ๋า

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ Adventure Awaits (ใน Adventure Awaits มีรีวิวอย่างอื่นด้วยนะจ๊ะนอกจากเที่ยว ร้านอาหาร ห้องอาหาร ที่พัก เราก็มีจ้าาาา....)








:



เที่ยว กับ เธอ

 วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 02.32 น.

ความคิดเห็น