โอตารุ เป็นเมืองเล็กๆ ติดชายทะเล ไม่ห่างจากซัปโปโร เป็นเมืองที่เกือบทุกคนที่ไปเยือนฮอกไกโดต้องแวะไป

มีทั้งอาหาร และขนมที่อร่อย เมืองสวยๆ สามารถเดินชมได้ภายในหนึ่งวัน รวมถึงวิวสวยๆ ริมคลองโอตารุ


สำหรับเราใช้เวลาที่นี่ประมาณครึ่งวัน เพราะมาถึงที่โอตารุตอนประมาณ 11 โมง แล้วเดินกินและเที่ยวจนค่ำ

ถือเป็นเมืองที่สวยทุกฤดูจริงๆ



แผนการเดินทางของแต่ละวันในฮอกไกโด

วันที่ 1 : Nijo Fish Market / Maruyama Park + ศาลเจ้าฮอกไกโด /

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด / Former Hokkaido Government Office / หอคอยนาฬิกาซัปโปโร / ทีวีทาวเวอร์ / ตรอกทานูคิโคจิ

วันที่ 2 : Jozankei

วันที่ 3 : Hitsujigaoka Observation Hill / Otaru

วันที่ 4 : Hakodate

วันที่ 5 : Aomori และกลับโตเกียว


เราเดินทางจากซัปโปโรด้วย JR Rapid Airport ตอนแรกเลยตั้งใจมาลงสถานี Minami-Otaru เพราะเป็นสถานีเก่าที่ยังสวย โดยว่าจะเดินจากสถานีนี้ชมเมืองย้อนกลับไป แต่ด้วยความหิวอันไม่เข้าใครออกใคร สรุปก็ลงเพื่อถ่ายรูปเฉยๆ แล้วรอรถขบวนถัดไปไปลงสถานี Otaru


เดินทางมาลงสถานีโอตารุมองไปหน้าสถานีเที่ยงซะแล้ว หิวมาก ณ ขณะนี้

แผนที่การเดินทางในโอตารุของเรา

เราเดินไปที่แรกคือหมายเลข 1 ร้านไก่ทอดนะรุโตะ และเดินไปจนหมายเลข 2 คือพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี

ก่อนจะเดินกลับไปคลองโอตารุ


การเดินไปร้านไก่ทอด เดินมาจนถึงแยกถนนช้อปปิ้งมิยาโกะ ซอยมิยาโกะจะอยู่ทางขวามือแต่เราเลี้ยวซ้าย และเดินตรงอย่างเดียวเลย


Miyako Dori ด้านขวามือ *ในแผนที่สะกดผิด - -;


ร้านไก่ทอดนะรุโตะ เป็นไก่ทอดครึ่งตัว มีทั้งแบบเป็นชุดและแบบสั่งเฉพาะไก่ทอด และก็มีอาหารอื่นๆ พวกซูชิ ราเม็ง และของทอดด้วย


ระหว่างทางเดินไปร้านไก่ทอด


ด้วยความหิวมาก เราสั่งทั้งอาหารทานเล่น และจัดไก่แบบชุดคนละชุด สรุปกินไม่หมด แนะนำว่าถ้าไปหลายๆ คน ใช้วิธีสั่งไก่หลายๆ ตัวเป็นส่วนกลางแล้วสั่งข้าวต่างหากน่าจะดีกว่า อย่างไปสี่คนก็ไก่ครึ่งตัว 3 ชิ้นน่าจะกำลังดี แต่ตอนนั้นหิวจัดเต็มที่ไปมาก


พออิ่มท้องก็พร้อมเดินเที่ยวต่อ


บรรยากาศใน Miyako Dori


เดินเข้า Sun Mall โผล่ออกมา ช่วงที่ไปเป็นต้นพฤศจิกายนใบไม้ยังสีเหลืองเต็มต้นอยู่เลย

ระหว่างเดินซอยซูชิ ที่ตอนแรกว่าจะแวะชิมอะไรบ้าง แต่ตามที่บอกไปเรากินไก่กันอิ่มมาก จบกันไม่ได้แวะร้านใดๆ เลยที่ถนนซูชิ



จากถนนซูชิ เลี้ยวเข้าถนนซาไกมาจิ


ที่นี่มีร้านให้แวะมากมาย เราแวะทั้งซื้อขนม ซื้อของฝาก แวะทำกิจกรรมประจำทริปคือหมุนกาชาปอง สนุกสนานเพลิดเพลิน แป๊ปเดียวมือหิ้วของเต็มไปหมด


และแน่นอนถนนนี้ทุกคนต้องแวะร้านขนมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ขนมขึ้นชื่อคือ Cheese cake ณ ร้าน Le TAO

ที่นี่จะมีหลายสาขาเลยทีเดียว เราตั้งแต่ไปสาขาใหญ่ตรงมุมถนน ไปแวะพักขาที่คาเฟ่ชั้นสอง


เสียดายที่ต้องเที่ยวต่ออีก เลยไม่สามารถซื้อชีสเค้กกลับได้ เลยซื้อเป็นคุ้กกี้แทน อร่อยเลยนะคะ ซื้อมาฝากพี่ที่ทำงาน อีกวันถึงกับถามถึงว่าซื้อจากไหนอร่อยดี

ขนมที่เมืองนี้ที่ติดใจอีกอย่างคือเค้กขอนไม้ ร้าน baumkuchen อยู่ก่อนถึงร้าน La TAO

เมื่อมาถึง Marchen Square อีกที่หนึ่งที่พลาดเข้าไปชมไม่ได้คือพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี


Marchen Square ตอนใกล้ค่ำ

และที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะมีนาฬิกาไอน้ำที่เมืองแวนคูเวอร์มอบให้เป็นที่ระลึกแก่เมืองโอตารุ ซึ่งเจ้าหน้านาฬิกานี้จะร้องและพ่นไอน้ำทุกๆ 15 นาที


รอบแรกแทบถ่ายไม่ทัน

เลยนั่งรออีกรอบ

พ่นวู้ดๆ แค่แป๊ปเดียว เกือบถ่ายไม่ทันเช่นเดิม ^^'


ตอนแรกหลังจากนี้ว่าจะแวะกินไอติม หรือถ่ายรูปโน่นนั่นนี่ระหว่างเดินไปคลองโอตารุ แต่สองมือเราเต็มไปหมดแล้ว ไม่สามารถจริงๆ


สุดท้ายก็เดินมาจนถึงคลองโอตารุ เสียดายมืดมากซะแล้ว ปิดท้ายทริปสำหรับเมืองโอตารุที่นี่ ก่อนแบกขนมและของฝากเต็มสองมือกลับไปขึ้นรถสถานีโอตารุกลับซัปโปโร


ติดตามการท่องเที่ยวของเราได้ที่ https://www.facebook.com/whenigoto

และ https://www.whenigoto.com

whenigo

 วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.10 น.

ความคิดเห็น