ฮ่องกงแหล่งขึ้นชื่อเรื่องของกิน มากมายที่ช้อปปิ้ง เดินทางก็สะดวก เราใช้เวลากับฮ่องกงทริปนี้เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน

แบบตั้งใจมาเพื่อหาจุดถ่ายรูป จึงไม่เน้นช้อปปิ้ง แต่ของกินก็ไม่ขาด

มาดูกันว่าทริปฮ่องกงสั้นๆ ของเรามีอะไรกันบ้างค่ะ



เริ่มจากการเดินทาง เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวเย็น ไปถึงฮ่องกงตอนหัวค่ำ กะเพื่อนอนให้เต็มอิ่มซัก 1 คืนก่อนออกเดินเที่ยว

ต่อมาก็ถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ค่ะ มาตามหางาน HKWalls ประจำปี 2016 เป็นงานของกลุ่มองค์กร HKwalls ที่จะหาย่านที่เหมาะๆ และสร้างศิลปะบนฝากผนัง


OKUDA



รวมภาพสตรีทอาร์ตคร่าวๆ

ภาพทั้งหมดสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของ HKWalls http://hkwalls.org/festivals/2016-sham-shui-po



ย่านนี้จะคล้ายๆ สำเพ็งบ้านเรา


เนื่องจากอย่างที่รู้กันว่าตอนเย็นๆ รถรางขึ้น The Peak จะมีคนเยอะมาก เราเลยเลือกไปโดยวิธีง่ายๆ คือรถเมล์ วิธีเดินทางด้วยรถเมล์สาย 15 สามารถขึ้นได้จากท่ารถบัสใต้ตึก Exchange Square



โดยนั่งรถ MRT มายังสถานี Central

ออกทาง Exit A ข้ามสะพานลอยก็จะถึง Exchange Square แล้วค่ะ

รอต่อคิวขึ้นรถบัสสาย 15 The Peak ใครชอบชมวิวแนะนำชั้น 2 นะคะ ส่วนคนกลัวความสูงแนะนำชั้นล่างค่ะ

วิวจากการนั่งรถบัสชั้นสอง มันก็จะสวยๆ เสียวๆ กันหน่อย



เมื่อมาถึงท่ารถบัสบน The Peak ซึ่งจะอยู่ข้างๆ ห้าง The Peak Galleria นะคะ ถ้าใครอยากชมวิวแบบสวยๆ สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปชมบน The Peak Tower ได้นะคะ

ส่วนเราลองเดินไปจุดที่ชมฟรีกันดู เดินไปตามถนน Lugard ซึ่งเป็นทางสำหรับนักเดินสำรวจชมธรรมชาติ ตามเส้นทางนี้

จนถึงจุดที่มาร์คไว้ จะได้มุมประมาณนี้ค่ะ

มุมอื่นๆ บน The Peak

ก่อนลงจาก The Peak จัดของหวานกัน 1 อย่าง

ไอติมคู่กับวาฟเฟิลฮ่องกง

ขากลับลงมาจาก The Peak ตอนแรกเราก็ตั้งใจจะนั่งรถราง แต่จากจำนวนคนและความขี้เกียจเดินไป MTR ต่อ เลยเลือกกลับด้วยรถบัสเหมือนเดิม โดยขึ้นรถที่ท่ารถตอนที่เราลง ต่อแถวขึ้นรถสาย 15 รถจะไปสุดสายที่ Exchange Square เดินข้ามสะพานลอยก็กลับเข้า MTR ไปเที่ยวกันต่อได้ค่ะ



สองทุ่มคืนนี้เรามีนัดกันที่ A Symphony of Lights ที่อ่าว Victoria

นั่ง MTR ไปลงที่สถานี Tsim Sha Tsui

ออกทาง Exit L6 แล้วเดินผ่านอาคาร Hong Kong Cultural Centre

ตึกสวยๆ แบบนี้

และก็ออกไปเลือกมุมริมน้ำได้ตามใจชอบเลยค่ะ



2 ทุ่มปุ๊ปก็เริ่มการแสดง ใช้เวลาแสดง 10 นาที

การแสดงจบขนมบน The Peak ก็ย่อยพอดี เราไปต่อกันที่ย่าน Mongkok ยามค่ำคืนค่ะ

มื้อนี้มาชิมติ่มซำร้าน Yum Cha ที่ห้าง Langham Place จากสถานี Mongkok ออกทางออก C3 จะเป็นทางเข้าห้างค่ะ

ขึ้นไปชั้น 4 ตอนไปกำลังจัดงานปีใหม่ในตีม Line Friends อยู่พอดี

มาถึงร้านจะมีชาให้เลือก 3 แบบนะคะ ติ๊กเลือกชา 1 อย่าง และก็เลือกอาหาร เลือกเสร็จโบกใบสั่งอาหารให้พนักงานเช่นเคย

อาหารของเรามีดังนี้

ซาลาเปาคัสตาร์ดไส้ไหลทั้งน่ารักทั้งอร่อย

truffle e-fu noodle รสชาติคล้ายๆ มาม่าผัดแต่อร่อยใช้ได้เลย

อันสุดท้ายปีกไก่น้ำผึ้ง ทานคู่กับสับปะรด อร่อยไม่แพ้กัน

ค่าเสียหาย 287.10HKD ราคาสูงหน่อยแต่อร่อยถือว่าคุ้ม คิดถึงเส้นผัดเห็ดมากๆ



กว่าจะกินเสร็จก็มืดทีเดียว เดินเล่นมงก๊ก ซื้อของฝาก แวะ Sasa เดินชมตลาด ถนนช่วงที่ปิดไม่ให้รถวิ่งจะมีกิจการร้านถ่ายภาพตามข้างทางตลอดเส้นเลย ไปชมหรือลองอุดหนุนกันได้

มาฮ่องกงต้องกินชานมซะหน่อย



ทิ้งท้ายบรรยากาศคืนแรก

วันที่สองเราจะออกเดินเที่ยวย่าน Shueng Wan และ Central ค่ะ

เริ่มจากมื้อเช้ากันก่อน Sang Kee Congee Shop ร้านโจ๊กที่คนนิยมมาแวะกินกันแต่เช้า

จากที่พัก (หรือจาก Shueng Wan Exit A2) เดินมาประมาณนี้



เราสั่งโจ๊กปลาถ้วยเล็กราคา 24HKD ค่ะ



เมื่ออิ่มท้องก็ออกเดินทางโดยเราเลือกเดินเส้น Hollywood เป็นหลักเดินเลาะยาวตามนี้เลยค่ะ แวะซอยซ้ายขวาไปตามทาง

ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นเก่าแก่ของฮ่องกง มีอาคารเก่าๆ สถานที่สำคัญ รวมถึงเป็นย่านฮิปๆ ที่มีงานศิลปะของ Hkwalls ประจำปี 2015 รวมถึงยังเป็นย่านที่มีชาวต่างชาติอยู่มากด้วย

ร้านค้า ร้านคาเฟ่ในเส้นนี้จะเรียบๆ แต่โดดเด่น ถือเป็นย่านคาเฟ่น่านั่ง

และเนื่องจากเป็นถนนเส้นเก่าแก่ของฮ่องกงก็จะมีอาคารเก่าๆ แทรกตัวอยู่

มีวัดหม่านโหมว วัดเก่าแก่ของฮ่องกง เป็นแหล่งที่นักเรียนนักศึกษานิยมมาสักการะ

มีแฟลตตำรวจเก่าที่ตอนนี้ดัดแปลงเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าไอเดีย PMQ

และที่โดดเด่นของถนนเส้นนี้ก็ไม่พ้นงานสตรีทอาร์ต

เพิ่มเติม http://hkwalls.org/festivals/2015-sheung-wan-stanley-market/



เดินไปจนถึงอีกมุมที่นักถ่ายภาพนิยมมาถ่ายภาพค่ะ Duddell Street Steps and Gas Lamps

ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Starbucks สาขาที่ตกแต่งคอนเซปต์สไตล์วินเทจ เหมือนมานั่งร้านกาแฟเโบราณ

จุดนั่งพักขาของเรา

ย่านต่อมาแวะไป Causeway Bay ซึ่งจุดประสงค์หลักคือมีงานปีใหม่คอนเซปต์ Snoopy อยู่ที่นี่

จัดอยู่บริเวณหน้าห้าง Time Square

ย่านนี้เป็นย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างจำนวนมาก ผู้คนก็มากมาย แต่ของให้เลือกช้อปครบครันนะคะ สายช้อปมาที่นี่ได้



เดินเล่นต่ออีกนิดหน่อย

จาก Causeway Bay ไปย่าน Wan Chai ต่อ เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการนั่งรถราง ตอนกลางวันรถรางจะคนเยอะนะคะ แนะนำอย่างนั่งชมวิวให้ลองนั่งตอนกลางคืน รถรางวิ่งจนถึงเที่ยงคืนค่ะ



ที่ย่าน Wan Chai ที่หลักๆ คือมาแวะไปรษณีย์เก่าค่ะ

ถ้ามาทาง MTR ออก Exit A3 หรือถ้ามารถรางลงป้ายที่วงไว้ได้เลยค่ะ



เดินมาจะผ่าน Blue House แต่เราไม่ได้แวะเข้าไป

ตึกใกล้เคียงมาครบทุกสี



Wan Chai Environmental Resource Centre หรือตึกไปรษณีย์เก่าที่ตอนนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ชมฟรี เปิด 10:00-17:00 น. ปิดวันอังคาร

แสตมป์ที่ระลึก



จำลองอาคารในปัจจุบัน

มีโซนให้อ่านหนังสือ

ติดกันคืออาคารไปรษณีย์ปัจจุบัน

เดินทางกลับมายังสถานี Shueng Wan เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ ก่อนกลับต้องเติมพลังกันซักหน่อย

Dim Sum Square

ติ่มซำร้านแนะนำค่ะ



ทั้งหมดนี้รวมน้ำชา ราคา 119 HKD



เรียบร้อยแล้วกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ตั้งแต่เช้า แล้วเดินทางไปยังสนามบินค่ะ เราใช้วิธีกลับด้วย Airport Express เหมือนเดิม โดยเติมตังค์เข้าบัตร การเติมเงินจะเติมได้ทีละ 50 หรือ 100 HKD

สรุปแล้วคือเราซื้อบัตร 250 เติมเงินไปอีก 150 สำหรับนั่งรถเมล์ รถราง แล้วก็ Airport Express ขากลับ เราว่าพอกับซื้อ Travel Pass แบบ 2 ขา 350 แล้วต้องเติมเงิน 50 เพื่อขึ้นรถเมล์หรืออื่นๆ ดังนั้นเลยจะซื้อแบบไหนก็ได้ตามสะดวก ยกเว้นว่าเดินทางด้วย MTR ล้วนซื้อแบบไป-กลับคุ้มกว่า

การ Refund ต้องลงไปที่ชั้นขาเข้า ที่เคาท์เตอร์ Airport Express นะคะ จะได้เงินคืน 50+ที่เหลือเศษใช้ไม่หมดอีกนิดหน่อย



สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้แบบคร่าวๆ

ค่าเครื่องบิน : 4,359 บาท

ค่าที่พัก : 2,900 บาท

เช่า wifi+ประกันการเดินทาง : 870 บาท

แลกเงิน : 1,500 HKD ประมาณ 6300 บาท

whenigo

 วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 01.19 น.

ความคิดเห็น