กระทู้นี้ ขอนำเสนอ ทริปหนีฝนกรุงเทพ ไปกระบี่สัก 2 วัน 1 คืนแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ไม่ต้องลางานเพิ่มนะจ๊ะ และเป็นอีกมุมหนึงของจังหวัดกระบี่ที่มีมากกว่าทะเล

เอ้า…..ไปกันเลยยยย

ทริปครั้งนี้เกิดเนื่องจาก เห็นตั๋วโปรโมชัน สายการบินแอร์เอเชีย กรุงเทพ กระบี่ เที่ยวบินละ 299 บาท เมื่อ 2 เดือนก่อนเดินทาง และเป็นช่วงเวลาเสาร์อาทิตย์ รีบจองสิจ๊ะ รออะไร จองแบบไม่มีแพลนใดๆในหัวเลย 55555

ทริปนี้ เดินทางในวันที่ 29-30 กันยายน 2018

Day 1 เราถึงสนามบินกระบี่เวลา 10:20 เครื่องดี ไม่มีดีเลย์ พร้อมรถเช่าที่จอดรอเราเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากได้รถมาก็มุ่งตรงไปยังร้าน ราชรสติ่มซำ ร้านติ่มซำใกล้ลานปูดำสัก 15 นาที จากสนามบิน

อิ่มท้องแล้ว ก็เดินทางต่อ เราเลือกไปวัดถ้ำเสือ เป็นวัดชื่อดังของกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติรู้จักกันดี กับการพิชิตบันได 1260 ขึ้นไป สักการะพระพุทธรูปด้านบนแต่แอบรู้สึกคิดผิดที่ไปที่นี่ก่อน เพราะสำหรับคนไม่ออกกำลังกายแบบเรา หลังจากลงก็ปวดน่องไปอีก 3 วันเลยอ่อ เราใช้เวลาเดินขึ้น 40 นาที เดินลงเร็วกกว่านิดหน่อย แต่สำหรับวิวด้านบนแล้ว ลมเย็นๆ อากาสดี วิวสวย ก็คุ้มอยู่น้า

หลังจากลงมาจากวัดถ้ำเสือ เราก็ขับรถต่อไปยังที่พักเลย เราเลือก Pooltara resort Krabi ขับรถจากตัวเมืองประมาณ 30 นาที ป้ายรีสอร์ทจะอยู่ทางขวามือ

เป็นที่พักอีกมุมของกระบี่ บริเวณรีสอร์ทอยู่ติดกับคลองสระแก้ว จึงกลายเป็นสระว่ายน้ำธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของกิมมิคในชื่อภาษาอังกฤษของรีสอร์ทคือ Pool+Tara ที่สวยงามและสงบเหมาะกับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนจริงๆ

Check in เรียบร้อย เนื่องจากห้อง Deluxe ที่เราจองเต็ม พนักงานที่น่ารัก จึงอัพเกรดให้เราเป็นห้อง Pool villa ห้องใหญ่ 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และมีห้องนั่งเล่นด้วยยย เก็บของเรียบร้อยถึงเวลาเล่นน้ำ ถ่ายรูป โชคดีที่ฝนไม่ตก น้ำในลำธารจึงใสมาก มีลูกโป่งและเรือคายัคให้พายเล่น กันเพลินๆ

หลังจากเล่นน้ำจนนิ้วเริ่มเหี่ยวว ก็หิวสิคะ เราก็ขับรถเข้าไปในเมือง ดินเล่นแถวถนนคนเดิน หาของกินอร่อยๆ กัน แต่ขากลับอาจจะมืดหน่อยไฟทางไม่ค่อยมี ไม่เหมาะสำหรับผู้เดินทางด้วยมอไซค์สักเท่าไหร่

เขาขนาบน้ำ

Day 2 วันนี้แพลนของเรามี หาดไร่เลย์และร้านกาแฟ Hub Café ก่อนที่จะเดินทางกลับ

เช้านี้อากาศดีจัง

อาหารเช้าของโรงแรมเป็นบุฟเฟต์สไตล์อเมริกัน ผสม อาหารพื้นเมือง อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะ เหนียวใก่

อ่อ รีสอร์ทนี้มีจักรยานและมอเตอร์ไชค์ให้ใช้บริการฟรีด้วยนะ ไหนๆก็จะกลับละ ขอปั่นให้คุ้มหน่อย

สรุปให้คะแนนรีสอร์ท 5 ดาว ห้องสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย พนักงานน่ารักมากๆ

หลังจาก Check out แล้ว เราก็มุ่งหน้าไป อ่าวนาง เพื่อซื้อตั๋วเราหางยาวไป หาดไร่เลย์ ราคาไปกลับ คนละ 200 บาท รอคน 8-10 คนเรือก็จะออก ที่เลือกที่นี่เพราะ ใช้เวลาเดินทางน้อยแค่ 15 นาทีจากชายฝั่ง เหมาะกับคนมีเวลาน้อยแต่อยากเห็นธรรมชาตอและน้ำทะเลสวยๆ

ถึงแล้นนนน หาดนี้ มีโรงแรมหลายแห่งเลย ส่วนใหย๋เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คนไทยน้อยมากๆๆๆ เราเดินแล่นถ่ายรูป อยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชม ก็กลับ

กินโรตีอร่อย

ถึงอ่าวนางขับรถต่ออีก 20 นาที ก็ถึง Hub café คาเฟ่ติดภูเขาชื่อดังของกระบี่ ภายในร้านตกแต่งสวยงาม มีขายทั้งอาหารคาวและหวานเราสั่งชุดเฟรนฟราย ผัดไทกุ้งสด (อันนี้รสชาติแปลกแต่อร่อย) ชาเขียวเย็น และ ชามะนาว ทั้งหมด ประมาณ 400 บาท กินเสร็จก็ถ่ายรูปได้ทุกมุมร้านเลย ก่อนที่จะต้องบ๊ายบายกระบี่

ขอบคุณสภาพอากาศเป็นใจ ที่ไม่มีฝนตกเลย ทำให้เที่ยวได้ทุกที่ที่อยากไป ถึงจะไม่ได้ไปดำน้ำ ก็ได้เห็น ได้เจออีกมุมของจังหวัดที่สวยไม่แพ้กัน แล้วพบกันใหม่ #กระบี่เมืองนี้น่ารัก

สรุปค่าใช้จ่าย

เครื่องบิน ไปกลับ 600 บาท/คน
🚘 รถเช่า 1500+ น้ำมัน 400
🏡 รีสอร์ท 2500
🚤เรือไปหาดไร่เลย์ 200/คน
เฉลี่ยๆ ก็ คนละ 3000 **ไม่รวมค่ากินนะจ๊ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะทำให้ผู้อ่านหรือกำลังจะไปกระบี่ได้เห็นอีกมุมของจังหวัด และมีประโยชน์กับผู้สนใจบ้างนะคะ

ขอบคุณค่ะ (อาจมีรูปตัวเองลงไปบ้าง เพราะบางมุมไม่ได้ถ่ายภาพวิวเอาไว้)