ทัวร์ดำน้ำที่ซื้อมา และท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง

ซื้อแพ็คเก็จทัวร์ดำน้ำดูปะการัง จากชีวาปุรี บีช รีสอร์ท เกาะช้างเอาไว้กับเพื่อนนานนม จากงานท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิตติ์ ยังไม่มีเวลาได้ไปเสียที จนมาเคลียร์คิวได้ก็เลยออกเดินทางกันเสียที จากกรุงเทพฯ เดินทางไปเกาะช้างนี้ไม่ยากนะคะ จะนั่งรถตู้ หรือรถประจำทางก็ได้ สำหรับรถตู้เราสามารถขึ้นรถได้ทั้งหมอชิต และเอกมัย ส่วนรถตู้สามารถซื้อเพิ่มได้ที่ ถนนข้าวสารอีกทีหนี่ง

จากนั้น ก็มาลงเรือเฟอร์รี่ที่อ่าวสัปรดค่ะ ใช่เวลานั่งอยู่บนเรือประมาณ 30-40 นาที เราก็เดินทางมาถึงเกาะช้างกันแล้ว จากนั้นก็ไม่ยากแล้วค่ะ หารถสองแถวมาส่งที่ ชีวา ปุรี รีสอร์ท หาดคลองกอย

จุดชมวิวเกาะช้าง และชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท

ระหว่างทางหากเราเหมาสองแถวมา ถึงแม้นว่าจะไกลไปหน่อย แต่ก็อาจจะขอให้เขาแวะสถานที่ท่องเที่ยวรายทางได้ อย่างจุดชุมวิว หรือสถานีเรดาห์ที่มีวิวที่สวยมาก สามารถมองเห็นเกาะมัน ได้อีกด้วย

ชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท

ชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นไทย ห้องพักมีหลากหลายประเภทให้เลือก ทั้งวิวทะเล และวิวสวน ร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ปลูกและจัดแต่งไว้เยอะมาก และด้วยความที่เป็นหาดส่วนบุคคล จึงค่อนข้างเงียบ และไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การมาพักผ่อน มีสระว่ายน้ำเก๋ ๆ สวย ๆ อยู่เรียบหาดทรายเนียนนิ่ม

เหมาะกับการพาครอบครัว และเพื่อนฝูงมาเที่ยว เพราะมีพื้นที่จัดให้ไว้สำหรับเด็ก ๆ และกิจกรรมเท่ ๆ อย่างการพายเรือคายัค น่าเสียดายที่วันที่เรามาฝนตก เลยไม่สามารถจะเอาเรือออกไปพายเล่นได้

รีเชฟชั่น และห้องอาหารของ ชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท

เช็คอินที่เคาเตอร์ ซึ่งอยู่ในส่วนหนึ่งของห้องอาหารของรีสอร์ท ที่ถูกตกแต่งด้วยไม้ไผ่และไม้เป็นส่วนใหญ่ เปิดโล่ง รับลมทะเล เดินออกไปหน่อยก็จะเจอชายหาดยาว ๆ มีบาร์เล็ก ๆ อยู่ริมหาด นักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 -5 คนกำลังนอนเล่น อ่านหนังสือ และเด็ก ๆ กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุก

ห้องดีลักซ์ การ์เด้นท์วิว

หลังจากรับน้ำฝรั่ง เวลคัมดริ๊งค์เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาเรามาที่ห้องพักตามแพ็คเก็จของเรา คือ ห้องดีลักซ์ การ์เด้นท์วิว เป็นห้องชั้นล่างของเรือนหมู่สองชั้น เพื่อพักผ่อนและเก็บข้าวของ ก่อนจะออกไปกินข้าวเย็นตามแพ็คเก็จที่ซื้อมาในเวลา 19.00 น. ตามที่ได้นัดหมายกันไว้

ภายใน ห้องดีลักซ์ การ์เด้นท์วิว

สระว่ายน้ำที่ออกแบบมาอย่างเก๋ไก่ สวยทั้งกลางวัน และกลางคืน

และแล้วก็มาถึงเวลาอาหารเย็นของเรา ในแพ็คเก็จเราจะได้ค๊อกเท็ลคนละแก้ว ชื่นใจเรียกน้ำย่อยขึ้นมาทันที ของเราคือ ชีวา ปุรี ซัมเมอร์ โรส ให้รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ชื่นใจ ในส่วนผสมของเหล้ารัม และ Peach Schnapps ที่ช่วยเรียกน้ำย่อย และขับรสชาติของน้ำผลไม้ต่าง ๆ ตัดรสด้วยเชอร์รี่หวาน ๆ ที่ทำให้เราต้องมาแย่งกันกินลูกเชอร์รี่

อาหารเย็นมื้อนี้ ตามแพ็คเก็จที่ทางโรงแรมจัดให้

เมื่ออาหารออกมาเสิร์ฟยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ เริ่มจาก ต้มกระดูกอ่อนหมูกับรากบัว น้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูก กลมกล่อม กระดูกอ่อนหมูตัดมาพอคำ กรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน รากบัวที่ไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไป เคี้ยวมัน ๆ มีฤทธิ์เย็นแก้ร้อนใน แก้ไขตัวร้อน

ยำนพเก้า จานนี้เหมือนสลัดผลไม้กับกุ้งทอดกรอบ ให้รสชาติ เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ของสลัดผลไม้ ช่วยแก้เลี่ยนของกุ้งและหอมทอดได้เป็นอย่างดี เคี้ยวเพลินกันไปค่ะจานนี้ กรุบ ๆ กรอบ ๆ

ไอ้คลั่งทะเลโหด มันคือการเอาอาหารทะเลมาผัดในน้ำซอสสุดแซบสูตรพิเศษของทางเชฟ ใส่เครืองแกงแบบแกงป่า มะเขือเปาะ พริก มะกรูด มากันคบ กินไปซับน้ำตาไป เผ็ดแต่อร่อย ยิ่งได้กุ้ง ได้หอย ปลาหมึกสด ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว ไปเอาน้ำมากลั่วคอโถนึง นอกจากนี้ยังมีข้าวผัด กับไข่เจียวที่ขอเขาพิเศษที่นึง (เด็กบางคนไม่กินเผ็ด) พร้อมทั้งผลไม้ตามฤดูกาล

บรรยากาศดี ๆ กินข้าวเย็นริมชายหาด

ห้องอาหารชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท

ช่วงเช้าเราค่อนข้างรีบจัดของ และออกมาทานอาหารเช้า เพราะวันนี้เราจะไปดำน้ำดูปะการังกันค่ะ โดยจะมีเรือของทางทัวร์มารับที่หน้าหาด เพื่อไปขึ้นเรือใหญ่ที่คลองบางเบ้า

บุฟเฟ่ห์อาหารเช้า

ลงเรือทัวร์ไปเที่ยวดำน้ำ 5 เกาะ

เรานั่งรออยู่บริเวณชายหาดของรีสอร์ทไม่นานเรือเล็กก็มารับเราเพื่อไปขึ้นเรือใหญ่ ซึ่งขณะนี้ผู้โดยสารเต็มลำเรือพร้อมออกเดินทางแล้ว ทัวร์ดำน้ำดูปะการังของเราวันนี้ เป็นเรือขนาดใหญ่ 2 ชั้น จะพาเราไปดำน้ำดูปะการังในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ทั้งหมด 5 เกาะ และขึ้นเกาะเพื่อไปชมความงามของอุทยานฯ อีก 1 เกาะ เราเริ่มออกทะเล ในช่วงเช้า

บนเรือมีบริการน้ำ และกาแฟให้บริการตนเองตลอดรายการ รวมถึงมีการจัดอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์เอาไว้ให้บริการด้วย แถมด้วย บาบีคิวไก่ และผลไม้ชุ่มคอให้เป็นของว่าง เกาะที่เราจะลงไปดำน้ำดูปะการังทั้ง 5 เกาะนั้น ได้แก่ เกาะยักษ์เล็ก เกาะมะปลิง เกาะรังใหญ่ เกาะยักษ์ใหญ่ และเกาะรัง ซึ่งเกาะสุดท้ายนี้ เราจะขึ้นเกาะไปชมความงามของชายหาด และทะเลสวย ๆ กัน

ปะการังสวย ๆ ที่เกาะช้าง

เมื่อใกล้ถึงเกาะที่เราจะลงดำน้ำเกาะแรก คือ เกาะยักษ์เล็กเจ้าหน้าที่ปรจำเรือก็แจกอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำน้ำ นั่นคือ ชูชีพ สน๊อกเกิ้ล การลงดำน้ำในแต่ละครั้งนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ของทางเรือ ลงไปดำดูแลความสะดวก และความปลอดภัยด้วยทุกครั้ง หลาย ๆ ครั้ง จะพานักดำน้ำสมัครเล่นอย่างพวกเราไปดูจุดที่มีปะการังสวย ๆ เพื่อให้ประหยัดเวลามากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีบริการกล้องถ่ายภาพใต้น้ำให้เช่า แต่ภาพปะการังที่เราเอามาให้ชมนี้เราไม่ได้ถ่ายเอง แต่ขอมาจากเจ้าหน้าที่ของทางทัวร์

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ เกาะรัง

เรือพาเรามาถึงเกาะที่ 5 นั่นก็คือ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ทช. 5 (เกาะรัง) ก็เทียบท่ากับสะพานที่มีลักษณะเป็นโป๊ะลม ทำให้เวลาขึ้นมันเลยเด้งดึ๋งดั๋งตลอดเวลา เด็ก ๆ จึงสนุกกันมาก ที่นี่พิเศษ เพราะเฉพาะทัวร์ของที่นี่เท่านั้น ถึงจะได้เล่น ไม้ลื่นเป่าลม หรือ สไลเดอร์ เป่าลม ซึ่งทางบริษัทฯ ทัวร์แห่งนี้ลงทุนซื้อมาลอยรอนักท่องเที่ยวมาเล่นที่เกาะรัง เกาะรังมีชายฝั่งที่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ หรือนั่งพักชมวิว ที่มีทิวไม้สวย ๆ ที่นี่เราเลยขึ้นฝั่งไปนั่งพักเล่นน้ำทะเลกัน

ท่าเรือและประภาคารบางเบ้า

ออกจากเกาะรัง เรือก็วิ่งตรงสู่ท่าเรือบางเบ้า ซึ่งเป็นท่า่เทียบเรือใหญ่ และจะมีเรือเล็กไปส่งเรากลับ ชีวา ปุรี บีซ รีสอร์ท ต่อไป แต่ก่อนเรือจะไปส่งเราที่รีสอร์ท เราก็ขอเป็นคิวสุดท้าย เพื่อจะได้มีเวลาเดินเที่ยวและซื้อของที่บริเวณท่าเรือบางเบ้าเสียก่อน

ร้านขายของบริเวณตลาดประชารัฐ ท่าเรือบางเบ้า

กลับจากไปออกทัวร์ดำน้ำดูปะการังมาถึง ชีวา ปุรี บีช รีสอร์ท ก็เย็นย่ำ นั่งพักกันสักพักก็ไปอาบน้ำอาบท่า เตรียมตัวไปกินข้าวเย็น ซึ่งยังอยู่ในแพ็กเก็จดำน้ำดูประการังของเรา

อาหารเย็นมื้อนี้

แน่นอน กลับมาจากทะเลร้อน ๆ เค็ม ๆ ก็อยากได้เครื่องดื่มที่ชุ่มคอ เราเลยสั่งน้ำผลไม้ปั่นมากินกัน (นอกแพ็คเก็จ) สามคน สามอย่าง นั่นคือ น้ำมะม่วงปั่น น้ำสัปรดปั่น และน้ำแตงโมปั่น มื้อนี้เรามีเมนูปีกไก่ทอดน้ำปลา ที่กรอบนอกนุ่มใน เค็ม ๆ มัน ทำให้คิดถึงเบียร์เลยทีเดียว

เมื่อวานเรากินไอ้คลั่งทะเลโหด ซึ่งเป็นการนำเอาอาหารทะเลต่าง ๆ มาผัดฉ่าแซบ ๆ กันแล้ว วันนี้เลยลองไอ้คลั่งทะเลเดือดกันบ้าง ซึ่งก็อร่อยแซบไม่แพ้กัน และดีที่มีน้ำซุปร้อน ๆ มากลั่วคอ ความสดของอาหารทะเล และเครื่องปรุงต่าง ๆ ทำให้รสชาติที่ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม เข้ากันได้อย่างกลมกล่อม อย่างที่บอก ถึงแม้นจะเผ็ด แต่ก็เด็ดไม่เบา

ไก่ผัดฉ่าแก่นกระวาน เป็นอีกเมนูหนึ่งที่หากินได้ยาก เพราะแก่นกระวานนั้นเป็นพืชสมุนไพรของย่านนี้ และได้นำมาดัดแปลงทำเป็นอาหาร เพื่อรสสัมผัสกรุบกรอบ ทำให้ไก่ผัดฉ่าที่อร่อยอยู่แล้วอร่อยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีผัดผักอีกจาน และเหมือนเดิมค่ะ ขาดไม่ได้เราขอพิเศษเป็นไข่เจียวมาอีกหนึ่งจาน

กินอิ่ม ก็นอนหลับ เอาแรงจากที่ได้ไปทัวร์ดำน้ำมาทั้งวัน เช้านี้ถึงอากาศจะขมุกขมัวไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่า สงบและสดชื่นพร้อมรับวันใหม่ ไปห้องอาหารกันค่ะ เช้านี้เป็นบุฟเฟ่ต์อีกเหมือนเดิม อาหารค่อนข้างหลากหลาย และเปลี่ยนทุกวัน วันนี้ก็ไม่ซ้ำกับเมื่อวาน

บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ชีวา ปุรี รีสอร์ท

อิ่มอร่อยกันไป

กินข้าวอิ่มแล้วก็เดินมานั่งเล่น ถ่ายรูปที่ชายหาด ทีแรกว่าจะออกไปพายเรือคายัค แต่ดูท้องฟ้า และเวลาแล้ว นอนเล่นริมหาดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะได้มีเวลาไปเก็บกระเป๋าที่ห้องเพื่อเตรียมเดินทางกลับด้วย

พอถึงเวลาเดินทาง รถสองแถวที่ทางโรงแรมโทรนัดไว้ให้ก็มารับ เรายังได้แวะตลาดซื้อผลไม้สด ๆ จากตราดกลับบ้านและกินระหว่างทาง เรือเฟอร์รี่นั่นออกตามเวลา เช่นเดียวกับเวลานัดกับรถที่ทำให้ไม่ต้องนั่งรอเรือนาน ไม่นานเรือก็ขับเคลื่อนตัวเองไปบนผืนน้ำเพื่อขึ้นฝั่ง ฝ่าเมฆฝนก้อนย่อย ๆ ไปอย่างไม่ยี่หละ พาพวกเรากลับเข้าฝั่งได้อย่างสวัสดิภาพ

สายลม ที่ผ่านมา

 วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.34 น.

ความคิดเห็น