หยุดยาว 3 วัน ที่ผ่านมา เลยชวนเพื่อนออกมาหาที่เก๋ ๆ ถ่ายรูปกัน ถือว่าเป็นวันหยุดที่ชิคมากพอสมควรเนื่องจากหยุดยาวแบบนี้กรุงเทพก็จะโล่ง ๆ หน่อย เราจึงปักหมุดไปสามที่ด้วยกันคือ ถนนข้าวสาร วังหลัง และก็เจริญกรุง เรานัดรวมตัวกันที่ BTS พญาไท จากนั้นโบกแท็กซี่เพื่อไปที่แรก นั้นก็คือข้าวสาร (จริง ๆ จะเรียก One Day Trip ได้รึเปล่าเพราะนัดกันก็เที่ยงแล้ว 55555)


ที่แรก ที่เราจะมาชิค เติมพลังกันก่อนที่คาเฟ่ย่านข้าวสาร
Arelomdee Cafe' อาลมดี คาเฟ่
คาเฟ่นีออน ตั้งอยู่ที่ถนนตะนาว ย่านข้าวสาร
OPEN 10.00-23.00
FACEBOOK : https://www.facebook.com/arelomdeecafe/


ชิคมากแค่ไหนถามใจเธอดู เป็นคาเฟ่ที่มีความเป็นกึ่งบาร์ มีความเก๋ชิคมากเว่อร์ๆๆๆๆๆๆ ไปเลย การตกแต่งภายในร้านมีความวินเทจนิด ๆ ให้บรรยากาศที่ดูทันสมัยด้วยไฟแต่ก็ยังแฝงความวินเทจจากการตกแต่ง เพื่อให้ดูเข้ากับย่านนี้

ร้าน Arelomdee Cafe' อาลมดี คาเฟ่ มีทั้งหมด 2 ชั้น ตั้งแต่เข้าร้านมาจนมาถึงชั้น 2 มีที่ถ่ายรูปเยอะมากกกกกกกกกก.ก ตอนนี้ IG เต็มไปด้วยรูปจากร้านนี้ทั้งสิ้น อย่างที่บอกไปว่าวันหยุดยาวคนเลยน้อยวันที่ไปถึงร้านประมาณเที่ยง คนยังไม่ค่อยมี เลยได้ถ่ายรูปแบบไม่ติดคนเลย โชคดีมาก แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ใช่วันหยุดยาว จากความชิคความเก๋ของร้านแล้วคาดว่าคนต้องเยอะแน่ ๆ เลย

มาถึงเมนูกันบ้างพวกเรามาทั้งหมด 4 คน สั่งมากินด้วยกัน มีทั้งของคาวและของหวาน

เริ่มจากนํ้า Sparkling Mango x Mango Icecrean 95฿ อร่อยมากกกกกกกก ชอบมาก ชอบสุด สมชื่อร้าน อาลมดี กินแล้วอารมณ์ดีจริง ๆ เหมาะกับอากาศประเทศไทยมาก สดชื่นเวอร์ และมันมีเม็ดอะไรไม่รู้อะในนํ้าด้วย ลืมถามที่ร้านเลย แต่อร่อยสุด แนะนำว่าควรสั่ง

Black Cocoa x Hokkaido Icecream 95฿ สำหรับนํ้าอันนี้จะมีความเข้มของโกโก้ แต่ก็ไม่ได้เข้มมากยังมีรสหวานหน่อย อร่อยเข้มข้นตามแบบฉบับของโกโก้ แต่ความชอบส่วนตัวคือถูกจริตกับนํ้ามะม่วงมากกว่า ชอบกินอะไรซ่า ๆ เปรี้ยว ๆ

เมนูของคาว Korean BBQ 🍗 Chicken Cheese 145฿ อร่อยมากกกกอีกแล้วตามวิถีเด็กอ้วน แนะนำว่าต้องสั่งอีกเหมือนกัน สวมถุงมือแล้วฉีกไก่อย่างเอร็ดอร่อย 5 นิ้วเลย 5555555 ชีสไม่เลี่ยนเลย รสชาติไม่เผ็ดมากกำลังดี จานนึงกินสี่คนก็อิ่มพอดี

Long Pizza lava egg 245฿ พิซซ่ายาวสมชื่อ ข้างในเป็นลาวา มีไส้กรอกอยู่ข้างใน อร่อยไม่เลี่ยน น่าแปลกที่ร้านนี้เค้าทำออกมาแต่ละอย่างไม่เลี่ยนเลย กินสี่คนก็พอดีอีกเช่นกัน

ตบท้ายด้วยของหวาน Bomb Berry cheese Pie 95฿ ตัวขอบชมพูด้านนอกจะหวานนิดนึงแต่ข้างในอร่อย เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ถือว่าเป็นการล้างปากจากไก่และพิซซ่าได้ดี ฟินเลย >//<

และนี้ก็คือที่แรกของเรา ถือว่า mission complete สำหรับร้านแรก ได้ทั้งรูปสวย ๆ อัพ IG เพียบ แถมของคาวของหวานอร่อย มาตามกันได้เลยค่ะ จะมาช่วงสายหรือเย็นก็ได้ เพราะร้านอาลมดีเป็นร้านคาเฟ่ที่ปิดดึก จะเที่ยวก่อนแล้วค่อยมา หรือมาเติมพลังละค่อยเที่ยวก็ได้เลย

ไปกันต่อค่ะ ที่ที่สองที่เราจะไปนั้นก็คือ วังหลังนั้นเอง เราโบกแท็กซี่จากร้านอาลมดีข้าวสาร เพื่อที่จะไปวังหลัง ขึ้นรถปุ๊บ ลุงแท็กซี่ก็ถามว่าพวกนู๋ออกมาเที่ยวกันเพื่ออะไร 55555555 อ้าวลุง !!!!! ละลุงก็พยายามคุยกับพวกเรามีส่วนร่วมในการเลือกโทนสีแต่งรูปอีก และแล้วมาครึ่งทาง ลุงไม่ได้กดมิเตอร์ พวกเราก็ลืมดู ก็เลยดูระยะทางละจ่ายตามระยะทาง เป็นเรื่องราวฮา ๆ เลยทิ้งท้ายกับลุงว่า ผู้โดยสารคนถัดไปกดมิเตอร์ด้วยนะคะลุง 5555555


มาร้านแรก ซูชิอรทัย วังหลัง

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 น.- 19.00 น.

เข้ามาในซอยก็จะเจอร้านซูชิอรทัยเลย แต่เราจะไปกินสาขาที่อยู่กลาง ๆ ซอย อยู่แถวประตูเขียว หาง่ายมาก เพราะร้านคนต่อคิวเยอะมาก สังเกตุได้จากผู้คนเลยค่ะ ที่ร้านมี 2 ชั้น ร้านใหญ่มากเหมือนกัน ติดแอร์ด้วย ถึงแม้คนจะเยอะมากจนน่ากลัว 555 แต่รอไม่นานเพราะว่าโต๊ะเยอะมาก

ซูชิราคาไม่แพง ราคาก็จะเหมือนตามตลาดนัดทั่วไป แต่กินแล้วดูดีกว่าด้วยร้านด้วยบรรยากาศด้วย 55555555 ราคาก็สมกับคุณภาพค่ะ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยในราคาไม่แพง มีเมนูให้เลือกเยอะ จะสั่งเป็นชิ้นหรือเป็นเซ็ตก็ได้ หารกันแล้วก็ตกคนละร้อย กินเยอะมากเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสมาแถวนี้อีกก็คงมากินอีก ยังไงใครมาแนวนี้ต้องมาลอง ไม่งั้นมาไม่ถึงวังหลังแน่ ๆ ยํ้าอีกครั้งว่าราคาตามคุณภาพ ซึ่งราคานี้ได้คุณภาพนี้โอเคมาก ถ้าอยากกินแบบพรีเมียมดี ๆ เหมือนอยู่ญี่ปุ่นก็คงไม่ใช่ อันนี้เค้าขายราคาย่อมเยาว์เนอะ

กินเสร็จก็มีของกินให้ได้กินอีกเพียบ โดยเฉพาะร้านขนมปังวังหลัง เป็นร้านดังมาก ๆ ลองชิมจากพี่ที่ซื้อมาอร่อยดี ขนมปังนุ่มมาก ไส้ลูกเกดก็ลูกเกดเน้น ๆ 50 บาทเท่านั้น

นอกจากของกินแล้วก็ยังมีของขายเยอะแยะเต็มไปหมด ของมือสองก็มี ถือว่าเป็นตลาดที่ชอบมาก ๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาสักที จนวันนี้ได้มาก็ได้ทั้งของ ได้ทั้งความฟินของอาหารและขนมเต็มไปหมด ถือว่าเป็นที่ท่องเที่ยวที่วันหยุดแบบนี้ควรมา เบื่อเดินห้างก็มาเดินตลาดวังหลังกันได้นะคะ

กินเสร็จแล้วไปต่อค่ะ.. วังหลังอยู่ตรงท่าเรือพรานนก เราเห็นท่าเรือก็เลยมีความคิดกันว่าอยากนั่งเรือชิว ๆ จัง ตอนแรกก็จะไปท่ามหาราชซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้เอง แต่น้องที่มาด้วยยังไม่เคยไปเอเชียทีคเลยเปลี่ยนแพลนไปเอเชียทีค

จากท่าเรือพรานนก ให้นั่งเรือไปจนสุดสาย 15 บาท เรือธงสีส้ม

หากจะไปเอเชียทีคแนะนำว่าให้นั่งไปลงป้ายสุดท้ายไม่ใช่ลงตรงสาธรนะคะ เพราะถ้าลงตรงนั้นเราจะต้องไปต่อคิวอีกยาวเหยียดเพื่อนั่งเรือไปเอเขียทีค แต่ถ้าลงท่าเรือสุดท้ายเราเดินผ่านเข้าไปในวัด (จำชื่อวัดไม่ได้) แล้วเลี้ยวขวาเดินนิดเดียวก็ถึงดีกว่าไปเสียเวลาต่อคิว อันนี้พี่คนขับเรือเค้าแนะนำตอนเราถาม

นั่งไปก็ชิวมั้ง เมาเรือมั้ง 555555555 แต่บรรยากาศดีจริง ๆ ชอบเวลาเรือผ่านไปแต่ละจุดเราก็จะเห็นวัดวาอาราม เห็นบ้านเรือน หรือแม้กระทั่งตึกคอนโด สวยงามแตกต่างกันไป

และแล้วก็มาถึงแล้วเอเชียทีค มืดพอดีเลย ใช้เวลารอเรือและอยู่บนเรือนานไปนิด 555 วันมา ทัวร์ลงเยอะมาก แต่ก่อนเปิดใหม่ ๆ จำได้ว่ายังไม่ค่อยมีทัวร์เท่าไหร่เลย ครั้งนี้ทัวร์ทั้งนั้นเลย แต่ด้วยความที่พื้นที่มันใหญ่เลยทำให้เดินได้ชิว ๆ

แต่ไม่แนะนำให้กินอาหารอะไรในนี้เท่าไหร่ เพราะมันแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน และพวกเราก็ยังไม่ได้หิวมาก แต่มึนหัวกับการนั่งเรือเลยซื้อนํ้ากินและก็เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆ ยิ่งกลางคืนลมเย็นชิวมาก ถ้ามากับแฟนโรแมนติกน่าดู นี้มากับเพื่อนก็เฮฮาตามภาษาแก๊งค์สาวไป 5555

เดินได้สักพักตัดสินใจว่ากินอะไรดี ตัดสินใจไม่ได้เลยนั่งแท็กซี่กลับมากินที่สยามกัน 55555555555 ซึ่งถ้าไม่ใช่วันหยุดยาวนั่งแท็กซี่ย่านนี้ไม่ไปแน่ ๆ ก็ถือว่าจบทริปหนึ่งวันได้อย่างสมบูรณ์ได้ภาพมาเพียบ แถมได้กินของอร่อยทั้งวัน ยังไงวันหยุดยาวหรือเสาร์อาทิตย์ปกติไม่รู้จะไปไหนเบื่อห้างแล้วก็มาเที่ยวตามพวกเราได้เลยนะคะ รับรองฟินตัวแตกแน่นอน


https://www.facebook.com/puifaikamonblog

Puifaikamon

 วันพฤหัสที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09.05 น.

ความคิดเห็น