เรื่องมีอยู่ว่า มันใกล้เวลาที่จะจบการศึกษาแล้วก็เลยคุยกับเพื่อน ๆ กันว่าอยากไปเที่ยวด้วยกันสักที่ ทริปที่จะไปกันคือ ฟะกาปาป้า Wakapapa ที่ NewZealand เขาออกเสียงว่าฟะ แบบนี้ครับ มันค่อนข้างเป็นทริปที่ฉุกระหุก ไม่ค่อยได้เตรียมอะไรมากนัก แต่ที่เราต้องการคือไปเล่นสกีและเล่นหิมะ
และมันมีตัวเลือกคือ เช่าหรือซื้อ สำหรับผมเลือกที่จะซื้อ เพราะคิดว่ามันต้องได้ไปอีกแน่ ๆ หมายถึงหิมะที่อื่นนะ ก็เลยไปซื้อ แต่เนื่องจากเบี้ยน้อยหอยน้อยก็เลยซื้อมือ 2 ครับ ผ่าน Facebook market ก็ได้แว่นหิมะมาอันละไม่กี่ร้อยบาท ส่วนเสื้อนั้นก็ซื้อจากร้านในห้างครับ ก็ไม่กี่ร้อยบาทเช่นกัน ( มันเป็นร้านคล้าย ๆ เสื้อผ้า Outlet)
เอาละชุดพร้อมแล้ว เตรียมออกเดินทางพรุ่งนี้ เราใช้วิธีการเดินทางด้วยตัวเอง เช่ารถไป โดยสลับกันขับ นี่ โชเฟอร์มือแรกของเรา นี่เป็นการเช่ารถขับครั้งแรกของผมในประเทศนี้
ก่อนเดินทางเราเพิ่งทราบว่าบริเวณตอนกลางของเกาะเกิดพายุหิมะรุนแรง ครูของเรารู้ว่าเราจะเดินทางไป รีบวิ่งมาบอกว่า มันอันตรายมากนะการขับรถกับหิมะ เธอไม่เคยขับเธอจะไม่รู้ เธอต้องเตรียมเสบียงอาหารให้พร้อม เขาจับมือแล้วขอพรพระเจ้าคุ้มครองเรา ( ตอนนั้นจากไม่กลัว ผมนี่เริ่มกลัวนิด ๆ ) แล้วครูอีกคนก็มาบอกว่า คุณควรเปลี่ยนรถเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะเส้นทางนั้นอาจจะปิด เธอจะไปไม่ได้ ) ครูอีกคนบอกว่า ไปไม่ได้แน่เลย เส้นทางมันปิด เธอต้องเปลี่ยนวันหรือยกเลิก
ผมเองก็ถามในทีมว่าจะไปไหมทุกคนก็ยอมเสี่ยงว่าจะไป ตอนนั้นผมก็ภาวนาในใจว่าขอให้ทุกอย่างราบรื่น มันคงโชคไม่ดีขนาดนั้นมั้ง
ถนนออกจากเมืองที่เป็น ไฮเวย์นั้นมีขนาดใหญ่อยู่ แต่ถ้าออกนอกเมืองไปแล้วค่อนข้างแคบครับ ถนนหลวงคือ 2 เลน สวนกันไปกลับ และต้องไม่ลืมว่าที่นี้ซีเรียสเรื่องการจำกัดความเร็วมาก ๆ ครับ เพื่อนผมบางคนโดนมาแล้ว คิดว่าขับ 80 ได้ สรุปโดนปรับไป หลายร้อย เหรียญเลยครับ สำหรับรถเช่าที่นี่ราคาพอ ๆ กับไทยครับ ไม่เกินพันบาท แต่จะมีวิธีเช่าแบบวันละ 25 บาทก็มี แล้วค่อยติดตามผมเดี๋ยวจะบอกวิธีครับ
จุดแรกที่เราแวะพักกันก็ห้างครับ อยู่แถว ๆ Waitomo ก็ซื้อเสบียงอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางไปที่พัก การเดินทางจาก Auckland ไป Wakapapa ประมาณ 4-5 ชั่วโมงในเวลาปกติ แต่เนื่องจากเรา ก๊ากั่นมา เลิกเรียนตอนบ่าย แล้วเดินทาง คนปกติเขาคงออกเช้า ๆ กัน ระหว่างนั้น
เราก็พยายามเช็คกับโรงแรมว่าทางมันเปิดไหม ถ้าทางไม่เปิดเราจะขอเปลี่ยนที่พัก สำหรับที่ประเทศนี้ มี app บอกด้วยครับว่าถนนไหนปิดไหนเปิด เราเกือบจะถึงแล้ว เดินทางอีกสัก 1 ชั่วโมงก็น่าจะถึง ก็ได้ทำการเช็คอีกรอบเพื่อว่าถนนจะเปิด ปรากฏว่าถนนเปิดครับ เรารีบบึ่งไปทันที
แต่ทางช่วงสุดท้ายนี้สุดโหด มันเป็นทางเลาะเขา และมืดมาาาาาก ที่นิวซีแลนด์ ถ้นนอกเมืองการจะเห็นแสงจากเสาไฟเป็นเรื่องยากมาก และรถก็ขับไล่บี่มา ผมพยายามหาทางเบี่ยงเพื่อพักรถยังยากเลย และตอนนั้นหิมะก็ตกด้วย ที่ผมกลัวคือถ้ามันตกแรงกว่านี้จะทำยังไงดี แต่มันก็ใกล้จะถึงแล้ว ไม่ว่ายังไง ผมคิดว่า มันต้องสวยแน่ ๆ
เราถึงที่พักพร้อมกับเห็นหิมะรอบที่พัก มันเป็นหิมะใหม่ ๆ สวยเชียว แต่ก็หนาวมากทริปนี้มี 3 คนไทย 1 คนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นก็คงจะเบื่อหิมะเป็นแน่ 55 สำหรับคืนนี้เราก็ผิงไฟอุ่น ๆ เล่นปิงปอง นั่งคุยกัน และออกไปถ่ายรูปหิมะ
ขอรีวิวโรงแรมนี้นิดนึงครับ โรงแรมนี้ชื่อว่า The Crossing Backpackers เป็นโรงแรมแบบไม้ ๆชั้นเดียว เหมือนสกีรีสอร์ท น่าอยู่มากครับ ห้องที่ผมพักเป็นห้องแบบ 4 เตียง อบอุ่นเชียวละ ห้องน้ำก็ ok เป็นห้องน้ำรวมที่สะอาด มีห้องครัวให้ทำอาหารด้วย และบริเวณรอบ ๆ สวยมาก และราคาไม่แพงด้วย https://goo.gl/maps/jXEyXJHJ6GA2
ในตอนเช้าก่อนที่จะขึ้นภูเขาไปเล่นสกี เราก็ออกมาดูบรรยากาศหิมะรอบที่พัก สวยใช่ไหมละ เปิดห้องมาก็เจอแบบนี้ เนื่องจากสภาพรถไม่สามารถขับขึ้นเขาเองได้ ผมกลัวจะตกเขาเสียก่อน ก็เลยไปจอดรถในที่ ๆเขาจัดให้ แล้วนั่งรบัสขึ้นไป สำหรับค่ารถจะฟรี ถ้าหากเล่นสกีบนนั้น เราเอารถไปจอดที่ National Park ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพักโซนนี้กัน เหมือนเป็นชุมชนโรงแรมจะอยู่ที่นี่กันเยอะ ส่วนที่ผมพักเป็นรีสอร์ท มันจะอยู่ใกล้ออกไปหน่อย แต่ก็ไม่มาก ดูตามแผนที่ได้เลยครับ https://goo.gl/maps/gSmoxiJHE1U2
ท่ารถจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ National Park ครับก่อนขึ้นถามเขาก่อนนะ บางคันเขายังไม่ออกเดี๋ยวจะรอเงิบ
ระหว่างทางวิวสวยมาก ๆ ที่เราจะไป มันชื่อ อุทยาน ตองการิโร โดยรถคันนี้จะไปจอดพักที่เชิงทางขึ้นเขา เราต้องเปลี่ยนรถไปยังรถอีกคัน ซึ่งวันนี้คิวยาาาาาาาาาาวมาก ความจริงมันมีรถบัสที่ยิงยาวขึ้นเขาเลย แต่เราคงนั่งผิดคัน แต่จุดนี้มันก็น่าเล่นแล้ว ผมเลยบอกว่า พรุ่งนี้เราจะมาเล่นหิมะตรงนี้กัน
กว่าเราจะได้ขึ้นรถร่วมชั่วโมง ซึ่งถ้าในเวลาปกติ ขับรถขึ้นมาเองกันได้นะครับ แต่ผมเห็นข้างทาง ก็จะมีรถลงไปเล่นหิมะ เอิ่มม หมายถึงหัวทิ้มลงไปที่หิมะ นั้นก็ทำให้ผมคิดว่า นั่งรถเขาแล้วกัน ไม่อยากจะมีประสบการณ์แบบนั้น
ถึงแล้วสกีรีสอร์ท มันมีหลายแพคให้เลือกสำหรับพวกเราเลือก First Timer ราคา 120 $ คิดเป็นเงินไทย ประมาณไม่เกิน 3000 บาท ราคานี้รวมอุปกรณ์สกี ไม้สกี รองเท้า สกี แต่สิ่งที่ไม่อยู่ก็คือพวกชุดเสื้อผ้าต่างๆอันนี้ตอนเช่าแยกนะครับ สำหรับผมมีแล้วรอดไป อ่อ ราคานี้รอบค่าครูฝึกสอนแล้วด้วย แต่ถ้าเล่นเป็นแล้วเลือกถูกกว่านี้ได้ครับ สำหรับคน NewZealand เขาจะมีส่วนตัวกันก็เลยไม่ค้องเช่า ก็จะประหยัดไปอีก
บรรยากาศที่เช่าอุปกรณ์ สำหรับที่นี้มีสนามให้เล่นหลากหลายตามความยากง่ายระดับของเราเอง ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีภาพตอนเล่น เพราะแค่เอาชีวิตรอดจากการเล่นก็ยากแล้ว แต่ต้องบอกว่าที่นี่สอนดีสอนละเอียดมากครับ สิ่งที่ผมเรียนวันนั้นคือ การขึ้นสกีลงสกี การเดินด้วยสกี การเร่งลดสปีด การเลี้ยวการทรงตัว สนุกและฮามาก ถ้าไปกับเพื่อน ๆ นี่มันส์แน่นอน ผมยังมีช๊อตที่ขำตัวเองมาคือดันไปยืนใกล้ ๆเนินไหล แล้วระหว่างฟังครูสอนมันลื่อนแล้วสกีก็ไหลถอนหลัง คือตอนนั้นคิดว่าเพื่อนจะช่วยยันไว้ให้ ปรากฏว่าเพื่อนหลบ สรุปว่าตกขอบทางลงไปนอนกองกับพื้น มันเป็นขอบทางสูงสักราว ๆ 1 ข้อศอก แต่ไม่เจ็บอะไรมากเพราะหิมะนุ่มมาก ๆ มันเป็นหิมะใหม่ ผมไปเล่นที่อื่นบางทีเจอแต่พื้นน้ำแข็งที่มันแข็ง ๆ อันนี้เล่นยากมาก ลื่นง่ายมาก ผมก็ได้ถึงขั้น เล่นไหลเลี้ยวมาตามคุณครู ไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่เรากำลังเรียนอยู่นั้นเพื่อนญี่ปุ่นที่เขาแยกไปเล่น เสก็ตบอร์ดบอกว่า โทรศัพท์เขาหาย พวกเราจึงหยุดเรียนและออกตามหาโทรศัพท์กัน แต่ปัญหาใหญ่คือ โทรศํพท์สีเงิน ท่ามกลางหิมะ สรุปเราหากันไม่เจอ แต่ไม่เป็นไรนะ ตอนนั้นมันเย็นมากแล้ว และยังไงเราก็ต้องเลิก เดี๋ยวไปคืนอุปกรณ์ไม่ทันเวลาที่เช่าไว้ เท่าที่ผมเคยเรียนมา ที่นี่สอนละเอียดที่สุดครับ ถ้าอยากฝึกสกี แนะนำที่นี่เลย
สำหรับขาลงจากเขาไม่ต้องรอคิวนาน รอไม่นานก็ได้ลงเขากันเลย คืนนี้เราก็ทำอาหารกินกันเมนูง่าย ๆ เอามาอบ เอามาต้มแค่นั้นเอง ก็อิ่มแล้ว
วันสุดท้ายของทริปเราตื่นมาพบว่าหิมะรอบ ๆที่พักเริ่มละลายแล้ว เราถือว่าโชคดีจริง ๆ ได้เห็นภาพในวันแรก เช่านี้ผมก็ทำอาหารง่าย ๆ ให้ทุกคนทานกัน
สำหรับขากลับก็ยังพอมีหิมะข้างทางให้เห็นอยู่ และตามสัญญาผมก็เลยพาไปเล่นหิมะตรงทางขึ้นภูเขา ตรงนี้ไม่ต้องใส่สกี หรือเดินให้เหนื่อย จอดรถก็เล่นได้ทันทีมาดูผลงานปั้นของพวกเรากัน พอจะไปแข่งได้มะ พอเล่นจนเต็มอิ่มแล้วก็เตรียมออกรถ แต่ว่า ไปไม่ได้ครับ ติดน้ำแข็งมันลื่นมาก แล้วก็จอดกันชิดมา ต้องช่วยกันเข็นกันดันออกมา เวลาไปจอดรถข้างทางระวังตรงนี้ด้วยนะครับ จอดอะได้ แต่ออกไม่ได้ 555
เราเตรียมเดินทางกลับกัน โดยผ่าน Tauranga Taupo ทะเลสาบให้ยักษ์กลางเกาะเหนือ ที่ตรงนี้มีสถานที่ท่องเที่รอบ ๆ มากมายเช่นกัน แต่เราไม่มีเวลาแล้วก็ได้แต่ถ่ายรูปนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะสถานที่ที่เราจะไปก็คือ Hyka falls ซึ่งแถว ๆ นี้แหละที่มาถ่ายเรื่อง Lord of the ring กัน https://goo.gl/maps/trhJmvLJxtq
ตัว huka falls เป็นนำตกที่ดูได้แต่ตา ลงไปว่ายไม่ได้นะคัร บแต่นั่งรถชมได้มันมีทริปล่องเรืออยู่ ผมไม่ได้ไปล่องเรือ เพราะหมดเงินไปกับสกีแล้ว ใช้วิธีเดินชมแม่น้ำจากด้านบนนี้แหละ สีน้ำสวยฟ้า ขาวได้ใจมาก ๆ จากนั้นเราก็แวะไปนั่งเล่นที่ตัวเมือง Taupo มีสวนสาธารณะเล็ก ๆ มีรถไฟเด็กเล่นวนรอบสวนสาธารณะ แลดูชาวเมืองนี้จะมีความสุขกันเสียจริง https://goo.gl/maps/MLexEGxxun62
เมืองมันติดกับทะเลสาบขนาดใหญ่ แน่นอนมันมีท่าเรือสวย ๆ ผมก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป น้ำที่นี่ใส ๆ มีเป็ดลอยไปมา ตรงนี้ก็มีทริปสำหรับเที่ยวล่องเรือด้วย ราคา 35$ ราว ๆ 875บาทไทย https://goo.gl/maps/JpFQjiSPF5P2
จากนั้นก็ขับรถยิงยาวกลับเข้าเมือง ถึงเกือบ 2 ทุ่ม สำหรับการเช่ารถร้านนี้ เราคืนรถโดยการ เอารถไปจอดแล้วก็หยอดกุญแจใส่กล่องโดยไม่ได้ตรวจเช็คใด ๆเพราะทำประกันมาเรียบร้อยแล้ว
จบสำหรับทริป 3 วัน 2 คืนที่ Wakapapa หวังว่าพอเป็นไอเดียให้ทุกคนที่อยากไปเห็นหิมะที่เกาะเหนือของนิวซีแลนด์นะครับ
กินเที่ยว360
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.10 น.