🍽Le Du ( ฤดู ) ร้านที่ได้รับรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants อันดับที่ 14 ( 2018)👍

จุดเริ่มต้นของการไปกินร้าน ต้นเรื่องเกิดมาจากผมเคยดูรายการ Top Chef Thailand มาตั้งแต่ซีซั่น 1 🤔แล้วก็เริ่มหาข้อมูลของกรรมการแต่ละคน แล้วยิ่งดูรายการจบไปก็ยังไม่ได้กลับมาไทย จนกลับมาก็เห็นว่าร้านของ เชฟต้น chef tonn คือร้านนี้อับดับร้านพึ่งขึ้นมาเป็นอันดับที่ 14 ของเอเชีย เลยเก็บตังไปกินดูสักครั้งละกัน ร้านนี้ก็จะเป็นการทำอาหารไทยมาในแบบใหม่ใช้กรรมวิธีนำเสนอให้น่าสนใจ 😊ใครที่ชอบอาหารแนว สวยๆต้องชอบร้านนี้แน่

💫ก่อนจะไปก็ต้องทำการจองร้านก่อนนะ จะอีเมล์ไปหรือ📞โทรไปก็ได้ 092 919-9969 or email [email protected]. ไม่มีให้กดจองผ่านเวปนะ☎️

เอาละมาเริ่มกันเลยดีกว่า ของผมจองในช่วงเวลา 1 ทุ่ม ซึ่งมืดแล้วภาพก็จะมืดๆหน่อยนะใครอยากถ่ายรูปสวยๆก็ไปเร็วหน่อย ซึ่งร้านเปิด 6 โมงเย็น ต้องไปลุ้นแสงเอาเองนะ แอบเสียดายเหมือนกันอยากไปกินตอนสว่างๆจะได้ถ่ายรูปมาได้สวยๆ📸

🕯เข้าร้านมาก็จะออกมืดหน่อยดูเหมาะกับการพาคนพิเศษมากินดีนะ แต่ละโต๊ะจะจัดไฟให้ลงมากลางโต๊ะพอดีเพื่อให้เราสนใจที่ตัวอาหารเวลามาเสริฟ ซึ่งบอกเลยว่าถ่ายรูปคู่กับอาหารไม่ได้แน่นอนเพราะหน้าเราจะมืดมากๆ

บนโต๊ะจะวางจานเป็นรูปท่อนไม้พร้อมผ้ากันเปื้อน ส้อมและมีด ไว้ต้อนรับ

ในร้านจะมีครัวด้านใน กับส่วนด้านนอกที่เราเห็นได้ดูเหมือนด้านจะเน้นในส่วนของการจัดจาน

📜โดยเมนูจะมีแค่สองแบบให้เลือกเท่านั้นคือ แบบ 4 คอร์ส กับ Testing Menu ซึ่งแน่นอนเราเลือกแบบหลัง

จะมีให้เลือกจานหลักว่าอยากได้อะไรซึ่งช่วงนี้มี ข้าวมันไก่, เนื้อ, คอหมู พอเลือกเสร็จก็รอเวลา (ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มนะ น้ำก็มี still water (ไม่ซ่า)/ sparking water (ซ่า))

👏เริ่มต้นที่ อาหารทานเล่น (Amuse Bouche) ม้าฮ่อ จะเป็นสัปปะรด ท๊อปด้วย คอมเพรส มะขาม มาแบบพอดีคำ รสชาติ จะออกเปรี้ยวหวานกินละสดชื่น อันนี้คือดีจริงๆ (ต้องกินอันแรก)👍👍

ส่วนอีกตัวคือ กระทงทอง บีทรูทด้านในมีมูสไก่อยู่ กินเข้าไปจะมีหลายมิติ texture มันแบบสนุกมาก กรอบหอมอบอวนอยู่ในปาก กลิ่นนี่ขึ้นมาถึงจมูก อันนี้ชอบมาก👍👍👍

🐟เริ่มที่ Sea Bass มาในรูปแบบพล่าปลากะพง โรยด้วยตัวสโนว์เฟรคทำมาจากรากผักชีและกะทิ ตอนเสริฟ์ ซึ่งตัวสโนว์เฟรคจะทำหน้าที่แทนซอสในจานนี้ จะเย็นๆ รสชาติจะเหมือนน้ำจิ้มซีฟู๊ดเวลาทานให้ทานควบคู่กันไป จานนี้ต้องรีบกินนะอย่ามัวถ่ายรูปเพลิน เดี๋ยวซอสละลายหมดก่อน สีแดงด้านบนคือดอกดาหลา จะเป็นเนื้อปลาด้านใต้ใส่มันแกวดอง ด้านบนเป็นผักชีฝรั่ง จานนี้ใครไม่ชอบผักชีฝรั่งแบบผมก็ขอไม่กินตัวปักละกันกลื่นนี่คนไม่ชอบคือทนกลิ่นไม่ได้แน่นอน จานนี้ส่วนตัวผมเฉยๆ แต่ถ้าคนชอบกลิ่นผักก็คือจะชอบไปเลย🤢

🦐🐚เครฟิช (Crayfish)เป็นกุ้งน้ำจืดกับมูสหอยนางรม เสริฟ์มาพร้อมกับสาหร่ายพวกองุ่นใต้มูสจะมีหอยนางรมสุกและมันแกว (Jicama) ดองน้ำยำ(หั่นเต๋าลูกเล็ก) ในซอสเย็น จานนี้ทานละจะสดชื่นมาก

😇Grouper จานนี้เป็นเมนูใหม่พึ่งเปลี่ยนมาเมื่อวาน เป็นคะน้าปลาเค็ม ตัวปลาเป็นปลาเก๋านำไปนิ่ง แล้วก็ตัวหนังเรานำไปแยกทอดกรอบ ทานได้พร้อมเกร็ด สีเขียวๆเป็นครีมคะน้าปลาเค็ม มีคำน้าผัดน้ำมันหอย แล้วก็ก้อนๆด้านบนเป็นทอดมันกุ้งกับปลาเค็ม ด้านบนฝอยๆคือคะน้าทอด

😇จะเสริฟ์คู่กับซอสฉู่ฉี่ เค้าจะราดให้ตอนเสริฟ์ จานนี้คือตายไปเลย ดีมาก ถ้าใครที่ไม่เคยกินอาหารที่สุกพอดีต้องมาลองจะรู้ว่ามันสุกพอดีจริงๆไม่แห้งไป ไม่ฉ่ำไปแบบปลาคือดีมาก ยิ่งตัวหนังที่เอาไปสะดุ้งก่อนเอาไปทอดคือกรอบ ทานกับซอสทั้งสองตัวพร้อมกันยิ่งดี ตัวคะน้าก็ดีไม่แพงปลา ทานรวมๆทุกอย่างพร้อมกันคือแบบกรอบนุ่มละมุนไปหมดเลยไม่มีคำไหนที่จะมีความรู้สึกเดียว นุ่มและกรอบไปพร้อมกัน คือดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกก พอทานจานนี้เสร็จนะ พอไปทานฉู่ฉี่ปลาที่ไหนก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว มันจะต้องทำให้นึกถึงจานนี้แน่นอน😁😁

🦐กุ้งแม่น้ำ เป็น Signature ของทางร้าน เป็นข้าวคลุกกะปิ เสริฟ์คู่กับกุ้งแม่น้ำย่าง ตัวข้าวใช้ข้าวออแกนิคจากอำเภอปาย ด้านบนเป็นเครื่องของข้าวคลุกกะปิ ข้างล่างสุดคือหมูหวานเวลาทานให้นำเอามะนาวบีบใส่ขาวแล้วคลุกให้เข้ากันก่อน ตัวกุ้งซอสที่ราดเป็นซอสต้มยำกับมันหัวกุ้งแล้วก็ด้านบนเป็นไข่ทอดกรอบ จานนี้ตอนแรกฟังเค้าอธิบายแล้วก็สำอึกเลยเพราะไม่ชอบข้าวคลุกกะปิเลย แต่ไหนของลองหน่อย คือกลิ่นไม่แรงรสชาติดี คือกินคู่กันยิ่งดีมาก สรุปเรียบไม่เหลือเลยยิ่งกุ้งคือแบบสุกแบบพอดีอีกแล้วไม่มีพลาดเลยจริงๆ เวลาจะเลาะเนื้อให้เลาะจากหางนะจะได้กินง่ายๆ ส่วนหัวกุ้งก็ดีคลุกกับข้าวยิ่งอร่อย🙌🙌👍

ต่อมาจานหลักคือเลือกเนื้อกับคอหมูมา

🐷จานแรกคอหมูย่าง ตัวหมูทำการซูวี (Sous Vide) มา 1 คืน แช่ในน้ำที่อุณหภูมิ 72 องศา ทำให้เนื้อสุกอย่างช้าๆ ทำให้เนื้อมีความนุ่ม แล้วจึงนำไปย่างด้วยเตาถ่าน ด้านซ้ายมือสีขาวคือครีมสมองหมูกับขิงแล้วก็สีแดงเป็นยำมะเขือเทศ ข้างบนเป็นตำขนุนอ่อนใส่ปลาร้า เสริฟ์คู่กับซอสแกงฮังเล จะราดตอนเสริฟ์ จานนี้เริ่มจากเอามีดหั่นเนื้อคอหมูคือนุ่มแบบไม่มีทางนุ่มกว่านี้ละ นุ่มซะจนคอยมีเครื่องซูวีไว้ที่บ้าน นุ่มแบบลืมชีวิต นุ่มเหลือเกิน กินกับอะไรก็อร่อย ยิ่งตัวยำมะเขือเทศคือหวานเปรี้ยวแล้วมีเผ็ดร้อนปลายๆกับโดนเนื้อมะเขือเทศคือกรึบๆโคตรดี ซอสสมองหมูคือไม่บอกก็ไม่รู้อะไรไม่ได้ทำให้ไม่อยากกินแต่อย่างใด

🐮อีกจานเมนูใหม่เช่นกันเนื้อ ดรายเอจ (Dry aged) 30 วัน เสริฟคู่กับเจลลำไย สีเขียวเป็นเจลกระเพราะ ข้างล่างเป็นเฟนเนล (Fennel) ตุ่นเนย ด้านเป็นเฟนเนลตุ่นยำ เสริฟ์คู่กับซอสพริกไทยดำ ตอนเสริฟ์จะราดซอสเช่นกัน เนื้อมีมาให้สองชิ้นคือยังกินสะใจเลยเพราะมันนุ่มและดีมากชูรสชาติของเนื้อมาดีมาก ซอสหยดๆมาแบบพอดีผักตัวยำรสชาติจะชัดกว่าตัวดองนุ่มกรึบเท่าๆกัน เสียตรงผักด้านบนมาบังเนื้อเลยเห็นครั้งแรกละงงๆ อาจจะสวยของเค้ามั่ง

เมนูล้างปาก ไอศรีมซอเบมะนาว ด้านล่างมีเม็ดๆกรุบๆกรอบน่าจะน้ำตาลและแป้งด้านข้างมาพร้อมเจลมะเขือเทศ อันนี้ไม่หวานมากไปชอบเวลากินคู่กับด้านล่างที่กรอบๆ

มาถึงจานของหวานสุดท้าย ขนมหม้อแกง กับไอศรีม ด้านล่างมีมะพร้าวกรอบ อันนี้คือแอบผิดหวังหน่อยๆเพราะถ้าเทียบร้านอื่นเมนูนี้ถือว่าโอเคแค่หวานไป การนำเสนอสวยมาก แต่พอเจอมาตราฐานของจานก่อนๆมันเลยจบไม่ฟินเท่าไร😶

จานต่อมาตบท้ายด้วยผลไม้ มีฝรั่ง แตงโม แคตาลูป มะม่วง ขนมที่ให้มาก็ออกหวานไปหน่อย แต่ตัวขนมสีฟ้าที่อยู่ในกล่องทำมาแบบหนึบๆอร่อยดี😶

เชฟต้นจะคอยเดินมาถามรสชาติและทักทายลูกค้าทุกโต๊ะอยากถ่ายรูปก็ขอเค้าได้กันเองสุด

🚗🏎การไปร้านมาจากบีทีเอสช่องนนทรี ทางออก 4 สะดวกกว่าเอารถมา เพราะถ้าจอดต้องเอาไปจอดที่ trinity complex แม้ว่าจะปั้มบัตรจอดรถก็ยังเสียเงิน 30บาทต่อชั่วโมง

โดยรวมถือว่าดีมากในราคานี้ถือว่าคุ้มค่าสุดๆค่าอาหารจะมีเซอรวิสชาทอีก 10% ราคาน้ำขวดละ 150

#Ledu #whereveego

https://www.facebook.com/Whereveego/

whereveego

 วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.24 น.

ความคิดเห็น