เดินทาง 26-28 ตุลาคม 2561
มิติใหม่อีกครั้งในการเดินทางไปเที่ยวภาคใต้ "จังหวัดสุราษฎร์ธานี"
“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ”
เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย
เชี่ยวหลาน เป็นชื่อแก่งน้ำแห่งหนึ่งในบริเวณคลองแสง ซึ่งเป็นคลองที่มีน้ำเชี่ยวมากที่สุดในฤดูน้ำหลาก สองฟากฝั่งคลองคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงและอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งจัดเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี อยู่บริเวณรอยต่อสามจังหวัดของภาคใต้ คือ ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี บนยอดทิวเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,000 เมตร ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ป่ากลายเป็น ทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากโครงการของ การไฟฟ้าเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เพื่อใช้สำหรับผลิตกระแสไฟ
ออกเดินทางโดยเครื่องบิน ดอนเมือง-สุราษฎร์ธานี
ต่อรถบัสเข้าในเมือง แล้วนั่งตุ๊กๆ เข้าโรงแรมกว่าจะถึงก็ดึกเราและเพื่อนร่วมทริปขอแวะเติมพลังก่อนนะจ้าที่นี้เลย "ตลาดศาลเจ้า สุราษฎร์ธานี"
ดูจากหน้าตาแต่ละคนหิวจริงไหมละ555+ อิ่มแล้วพักผ่อนกันนะพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าจ้า
ตี 5 ของวันที่ 2 ของการเดินทาง แต่งตัวเก็บของออกจากที่พักเดินทางไปยังเขื่อนเชี่ยวหลาน ถึงหน้าเขื่อนเวลา 08:00 น. มีเจ้าของแพ (แพวังมัจฉา) ที่จองไว้มารอรับ ทริปนี้มี 18 ชีวิตที่ร่วมเดินทาง
พร้อมออกเดินทาง นั่งเรือ 25-30 นาที ถึงแพที่จองไว้ "แพวังมัจฉา สะดวกสบาย มีห้องน้ำ 6 ห้อง มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกค่าย"
ถึงที่พักเก็บของเตรียมออกเดินทางไปดูวิวภายในเขื่อนจุดนี้ต้องไปให้ได้ "เขาสามเกลอ"
“เขาสามเกลอ” แห่งนี้เป็นภูเขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำ เป็นเอกลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ เป็นสถานที่ ที่ผู้คนต้องแวะเข้ามาชม และเก็บภาพที่ระลึก เพื่อบันทึกว่าครั้งหนึ่งได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้ ดินแดนที่ได้รับขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”
ใช้เวลานั่งเรือ 25-30 นาที ถึง "เขาสามเกลอ"
สามเกลอ เจอ สี่เกลอ เป็นไงละ มีหนาว55+
นั่งเรือกลับไปเล่นน้ำข้างหน้าแพ พร้อมมีเรือคายัคพายเล่นชิวๆชมพระอาทิตย์ตกดิน
นางสาวไทย
ที่แพมีอาหารเลี้ยงตอนเย็น เล่นน้ำเสร็จ เตรียมตัวกินข้าวเย็นกันจ้า บอกเลยห้องเราอยู่ด้านหน้าเหมาะกับการนั่งเม้ามอยหอยสังข์กันมากๆและดูดาวฟินสุดๆ
ไฟฟ้าที่แพมีเวลาเปิดเปิดนะคะ ใครที่จะไปเตรียมอุปกรณ์ชาร์ตแบตไปให้พอนะ
เช้าวันที่ 3 จะออกจากแพประมาณ 07:30 น. พักผ่อนเต็มที่ ตื่นเช้าแปรงฟันหน้าห้องเลยจ้า
ถ่ายรูปเพื่อนร่วมทริปเก็บไว้บ้างก่อนออกจากแพร
ออกจากเขื่อนแล้วนะแล้วเจอกันใหม่น๊า
ก่อนไปเที่ยวที่อื่นขอถ่ายรูปกับป้ายหน่อยนะบอกเลย คนที่มาไม่มีคู่ตายจ้าเพราะทริปนี้หวานเกิน55+
สะพานแขวนเขาพัง ภูเขาเขารูปหัวใจ ชมความสวยแปลกตาของเขาเทพพิทักษ์
สะพานแขวนเขาพัง (สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์) เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่หลังวัดเขาพัง หมู่ 1 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ใกล้ ๆ กันกับทางเข้าเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตัวสะพานใช้ลวดสลิงขนาดใหญ่ขึงยึดกับเสาคอนกรีต พื้นปูด้วยแผ่นไม้กระดานบนโครงเหล็ก ซึ่งตัวสะพานสามารถรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 -30 คน ที่จอดรถภายในวัดคันละ 10 บาท ทำบุญจ้า
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด บ่อน้ำผุดใสที่สุดในประเทศไทย สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ จ.สุราษฏร์ธานี
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก โดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีกิจกรรมพายเรือด้วยนะ 40 บาท/คน
ถึงการเดินทางทริปนี้จะจบลงแต่ความรู้สึกที่ดีและความทรงจำไม่เคยหายไปจากใจเรา ทริปนี้อาจจะดูวุ้นวายไปนิดๆแต่ดีใจที่ได้เจอพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ทั้ง 18 คน บ๊ายๆฝากรีวิวด้วยนะจ้า เจอกันทริปหน้าน๊า
กลับแล้วนะ "สุราษฎร์ธานี ไปเที่ยวกี่ทีก็มีแต่ความสุข "
ค่าใช้จ่ายทั้งทริป
-ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 565+510 =1,075 บาท
-ค่าแพวังมัจฉา + อาหาร 3 มื้อ 1,500 บาท/คน
วันที่ 1
-นั่งรถบัส 100 บาท
-ตุ๊กๆ 30 บาท
-ที่พัก Royal Place 165 บาท
ข้าวเย็น + ขนมซื้อไปแพ 220 บาท
วันที่ 2
-ค่ารถตู้ 3,000บาท/2 คัน /16คน
=188 บาท/คน
-ค่าเข้าอุทยานฯ 40 บาท/คน
วันที่ 3
-ค่ารถตู้ 1 วัน 2คัน
1,800x2 คัน + ค่าน้ำมัน 1,400
=5,000/16 คน = 313 บาท/คน
รวมทั้งสิ้น 3,588 บาท
คู่เที่ยวIndy
วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.26 น.