การได้ออกไปสัมผัมอะไรใหม่ๆ เป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเอง........อยากสงบ ตัดขาดจากโลกภายนอกต้องเอาตัวเองออกไปสัมผัสที่.... River Kwai Jungle Raft (ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์)

การเดินทาง  ออกจากบางนา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง และนั่งเรือเข้าไปที่แพประมาณ 10-15 นาที ท่าเรือที่จะไปขึ้นนั่งไปที่พักชื่อ "ท่าเรือพุตะเคียน" ขับรถออกจากทางเส้นหลักประมาณ 2 กิโล

ถึงที่พักเงียบสงบมาก แพพึ่งเริ่มเปิดให้เข้าพัก แต่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นักท่องเที่ยวได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีการตรวจอุณหภูมิ และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์

รับกุญแจห้อง ทางที่พักได้เตรียมน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆไว้รอ สอบถามเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลมีกิจกรรมอะไรบ้าง ช่วงนี้ก็มีแค่กระโดดน้ำเล่นที่หน้าบ้านตัวเองแล้วลอยตามแพ สามารถขึ้นได้ที่หน้าแพทุกหลังที่มีบันได กิจกรรมตอนเย็นของชาวมอญก็งดด้วยสถานการณ์โควิด-19 

หน้าห้องพักจะมีเปลแขวนไว้ พร้อมตะเกียงนั่งชิวๆคงฟินน่าดู555555+

ห้องพักมี 2 เตียง นอนได้ 3 คน คุ้มกับราคามากๆๆๆๆ คืนนี้เราก็จะใช้ชีวิตที่ไม่มีไฟฟ้า มีแต่แสงจากตะเกียง ตัดโลกภายนอกคลื่นโทรศัพท์ก็ไม่มี ถ้าใครจะฟังเพลงโหลดเป็นออฟไลน์ไป

มุมหน้าบ้านชิวมากๆๆๆๆๆ เอาเท้าลงไปเล่นน้ำเย็นสบายผ่อนคลายมาก 

ค่ำแล้วเตรียมไปทานอาหารกัน ดินเนอร์ใต้แสงตะเกียงกันฟินสุดๆ อาหารมื้อนี้ทางที่พักเตรียมไว้ให้เรียบร้อยอยู่ในโปรแกรมที่จองไว้

มีบาร์เล็กๆอยู่ที่แพ เปิดถึง 22.00 น.

ถึงเวลานอนดูดาวกันแล้ว คืนที่ไปพระจันทร์สว่างมาก มองไม่ค่อยเห็นดาว อากาศเย็นสบายพัดที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ไม่ต้องใช้เลย

ช่วงที่ไปอากาศกำลังดี เปิดหน้าต่างนอน ลมผัดโชยมาดึกๆหน่อยเริ่มหนาว หน้าต่างทุกบานปิดไว้ หลับตาพร้อมกับฟังเสียงน้ำไหล แพกระทบกัน

เช้าวันใหม่ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้า พร้อมกับหมอกไม่เยอะแต่สวยงาม ฟังเสียงนกร้อง ธรรมชาติที่ยังคงเหลือไว้ให้เราได้ไปสัมผัส

ยังอยากนอนต่ออยู่เลย แต่ต้องมาดูด้วยตาเพราะสวยงามมากๆๆๆๆ รีบแต่งตัวเดียวเราจะไม่ทันพี่ช้าง ที่พักช่วงเวลา 07.00 น. จะมีพี่ช้างลงมาให้ทางลูกค้าที่มาพักให้อาหาร พี่ช้างมีอายุค่อนข้างมากแล้ว

อาหารเช้าจัดเต็มมากๆ หลังจากอิ่มเราก็จะไปเที่ยวหมู่บ้านมอญกัน เดินไปแค่ 500 เมตร ไปสัมผัสวัฒนธรรมการเป็นอยู่ และวิถีของชาวมอญ

เส้นทางที่เดินไปหมู่บ้านมอญกอไผ่เยอะมาก ร่มรื่น บ้านของชาวมอญส่วนมากสร้างจากไม้ไผ่ ระยะทางที่เดินไปในหมู่บ้าน โรงเรียน มีซุ้มให้เดิน และมีร้านขายของชาวมอญ

โรงเรียนวันที่ไปเด็กๆน่าจะหยุด เพราะตอนที่เดินมาในหมู่บ้านเห็นเด็กๆรวมกลุ่มกันเล่นลูกแก้ว คิดถึงตัวเองสมัยเด็กเลย ใครเคยเล่นบ้าง.... บนกระดาษมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ มอญ 

ออกจากโรงเรียนเราก็เดินไปจุดชมวิว ที่นั้นจะมีพระพุทธรูปให้กราบ เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมอญ ช่วงที่เดินไปตลอดเส้นทางจะมีที่ให้แวะถ่ายภาพแชะสักภาพกัน

หลังจากไปจุดชมวิวเราก็ไปต่อที่วัดของชาวมอญ มีพระธาตุเจดีย์เหมือนที่พม่าเลย

หมูบ้านเงียบสงบ มีแต่เสียงเด็กๆเล่นกัน เสียงนกที่ร้องประสาน คงธรรมชาติไว้ มีโอกาสไปเที่ยวกันใหม่ เดียวกลับมาหาใหม่นะ

การที่ได้ไปใช้ชีวิตที่ตัดออกจากโลกภายนอก มันก็ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้อยู่กับธรรมชาติ การที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ สมัยก่อนอาจจะอยู่ได้ แต่สมัยนี้คงยากเพราะทุกอย่างได้พัฒนา เดินหน้าไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่สิ่งที่ไม่อยากให้เปลี่ยนคือธรรมชาติ อยากให้มีนก มีสัตว์ต่างๆได้มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ให้เขาได้อาศัยอยู่ นี้ก็เป็นอีกที่อยากให้ไปพักผ่อนกันแล้วยังได้ให้ความสำคัญกับคนข้างๆเรามากขึ้นหลังจากที่เราเจอกันจับแต่มือถือ แล้วพบกันใหม่.... River Kwai Jungle Raft (ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์) 

ค่าใช้จ่าย

- ค่าที่พัก 2,750 บาท/ห้อง (2 คน)

- ค่าอาหารเย็นและเช้ารวมในค่าที่พัก

- ค่าเรือรับ-ส่ง รวมในค่าที่พัก

ทุกอย่างคุ้มมาก ออกไปสัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์กันนะคะ

คู่เที่ยวIndy

 วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.25 น.

ความคิดเห็น