ภาพถ่ายใบหนึ่งเมื่อเราได้เปิดดูอีกครั้ง ความรู้สึก ณ จุดนั้นไม่เคยห่างหายในความทรงจำ

หลากหลายเรื่องราวที่เราประทับใจ คงจะดีไม่น้อยถ้าได้แบ่งปัน

หนึ่งภาพถ่ายที่อาจส่งต่อซึ่งแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆ คน

ได้ซึมซับความรู้สึกไม่ต่างจากผม...ความรู้สึกที่ว่า “เมืองไทยของเรางดงามเพียงใด"

อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงหากาฬ LIFE FOR TRAVEL

https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP

ดอกทิวลิปบานสะพรั่งสีสวยสดละลานตา หนึ่งในงานเทศกาลประจำปี

“เชียงรายดอกไม้งาม"ที่จะจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปี

ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น ทิวทัศน์ที่งดงามล้อมรอบไปด้วยทิวเขา

“ไร่ชาฉุยฟง" อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย

บรรยากาศยามค่ำคืนของ “วัดร่องขุ่น" จ.เชียงราย ยามเมื่อเปิดแสงไฟ

ดูงดงามตระการตาไม่แพ้ช่วงเวลากลางวัน

“ดอยแม่สลอง" อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย การเข้าไปเยี่ยมชมไร่ชา

คือหนึ่งในไฮไลท์ของการมาเยือน นอกเหนือไปจากการสัมผัสบรรยากาศบนดอยสูง

“บ้านปางขอน" จ.เชียงราย หมู่บ้านเล็กๆ ที่อาศัยอยู่บนดอยสูง เพราะปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก

รวมไปถึงยังเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีอย่างมากมายอีกที่หนึ่งของเชียงราย

บรรยากาศที่โรแมนติกไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนๆ

“ภูชี้ฟ้า" ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอมตะยอดฮิตของ จ. เชียงรายอยู่เสมอ

“ดอยผาตั้ง" ห่างจากภูชี้ฟ้าออกไปราว 20 กิโลเมตร บนเส้นทางที่สวยงามอีกเส้นทางหนึ่ง

บนดอยผาตั้งยังเป็นแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่งดงามอีกแห่งหนึ่งในฤดูหนาว

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี จากดอยเขียวจะแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามของดอกบัวตอง

“ดอยหัวแม่คำ" จ.เชียงราย แหล่งชมทุ่งดอกบัวตองที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง

เสน่ห์ของที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ดอกบัวตอง

หากแต่ยังมีทะเลหมอกที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวเขาที่เรียบง่ายให้ได้สัมผัสกันอีกด้วย

“น้ำตกม่านฟ้า" น้ำตกที่สวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

หากแต่พักหลังสายน้ำกลับเหือดแห้งลงกว่าแต่ก่อนมาก

ฤดูฝนคือฤดูกาลที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวสำหรับที่นี่

“ทะเลหมอกผาเก็บตะวัน" อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หนึ่งในทะเลหมอกที่สวยงาม

ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวของที่นี่คือช่วงฤดูฝนไปจนย่างเข้าสู่ฤดูหนาว

ถ้าโชคดีอาจได้ชมความงามของทะเลหมอก

“สะพานมอญ" อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

สะพานไม้ที่เชื่อมความผูกพันของชุมชนชาวมอญ พม่า และไทยให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

“เนินช้างศึก" บ้านอิต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

สุดเขตชายแดนไทยพม่า หากแต่ความงดงามของภูผาไม่มีวันสิ้นสุด

ในฤดูฝนตามผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เรามักพบเห็น “เห็ดแชมเปญ" สีสวยสดผุดขึ้นอย่างมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นที่เขาใหญ่ อ่างฤาไน เจ็ดคต หรือตามป่าดิบชื้น ริมลำธาร ริมน้ำตก เป็นต้น

“วัดโสธร" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา

กับพระอุโบสถที่วิจิตรงดงามเป็นสง่าริมแม่น้ำบางปะกง

“วัดพระเหลือง" เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

องค์พระสีเหลืองสดมองเห็นได้จากระยะไกลอย่างโดดเด่น

บริเวณวัดพระเหลืองยังมีถ้ำน้อยใหญ่ให้ได้เดินเที่ยวชมกันอีกด้วย

สุดเขตชายแดนภาคตะวันตกยังมีจุดชมวิวที่สวยงามไม่ต่างจากเขากระโจม

“ห้วยคอกหมู" อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอกบนความสูงของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน

เส้นทางขึ้นมาด้านบนยังค่อนข้างลำบากซักนิด เหมาะกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ

“บึงบัว อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด" จ.ประจวบคีรีขันธ์

อดีตความงดงามของบึงบัวขนาดใหญ่ที่เบ่งบานไปด้วยดอกบัวและนกน้ำ

แม้ปัจจุบันกลิ่นไอของความงดงามจะลดน้อยลงไปบ้าง

หากแต่ยังคงไว้ซึ่งความประทับใจเมื่อได้มาเยี่ยมเยือน

“อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง" จ.สุราษฎร์ธานี

ผืนน้ำสีเขียวมรกตจรดผืนฟ้าท่ามกลางความงามของหมู่เกาะน้อยใหญ่

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างหลงใหล

หากกล่าวถึง จ.กระบี่ ผมก็มักจะนึกถึงที่นี่นอกเหนือไปจากเกาะพีพี

“เกาะปอดะ" เกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบและไม่ไกลจากฝั่งมากนัก

เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของการมาทัวร์ทะเลกระบี่

ดวงตะวันลับขอบฟ้าที่ไหนสวยที่สุด หนึ่งในหลายๆ คำตอบก็คงต้องเป็นที่นี่

“แหลมพรหมเทพ" จ.ภูเก็ต ที่ซึ่งรวมผู้คนจากหลายๆ ชาติ หลายๆ ภาษาให้มาอยู่รวมกัน

เพื่อชมความงดงามในช่วงเวลาของแสงสุดท้าย

“จุดชมวิวกังหันลม" อยู่ติดๆ กับแหลมพรหมเทพ

มุมมองที่กว้างไกลสุดสายตาและมีกังหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่เบื้องหลัง

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะเยี่ยมเยือนเมื่อมาภูเก็ต

ยามเย็นที่แหลมพรหมเทพ ดวงตะวันสาดส่องแสงสีทองกระทบผืนน้ำในช่วงเวลาแสงสุดท้ายของวัน

บรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก มีความรู้สึกว่าดวงตะวันยิ่งคล้อยต่ำลงความงดงามยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“เกาะราชา" เกาะที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของ จ.ภูเก็ต

จุดเด่นคงเป็นชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลที่ใสสะอาด

แม้ข้าวของจะราคาค่อนข้างแพงก็ตาม

เคยคิดว่าตรังมีแค่ทะเลที่สวยงาม แต่เมื่อได้มาเยือนที่นี่ความคิดของผมก็ต้องเปลี่ยนไป

“วังผาเมฆ" อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ทะเลหมอกภาคใต้หนึ่งในอันซีนที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก

“ภูเขาหญ้า" จ.ระนอง อีกหนึ่งสถานที่อันซีนเมื่อมาเยือนระนอง

ความแปลกอยู่ที่ภูเขาทั้งลูกที่มีแต่หญ้าโดยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

และจะแปรเปลี่ยนเป็นสีทองเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง

“วิหารแก้ว วัดท่าซุง" จ.อุทัยธานี

ภายในวิหารที่ทำด้วยแก้วดูวิจิตรงดงามตระการตา

สัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์และพลังศรัทธาตั้งแต่ก้าวแรกของการสัมผัส

ถ้ากล่าวถึงอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ก็ต้องนึกถึงหมู่บ้านตะเพินคี่

หมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และประเพณีที่งดงามเอาไว้

“ถ้ำตะเพินเงิน-ทอง" ซ่อนตัวอยู่ท้ายหมู่บ้าน กับความงดงามของหินงอกหินย้อย

แต่มักไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก

ใกล้เมืองกรุงก็มีความงามของสายหมอกและสายน้ำไม่ต่างจากปางอุ๋ง โดยไม่ต้องเดินทางไกล

“อุทยานแห่งชาติสามหลั่น" จ.สระบุรี กับความเงียบสงบในยามเช้า

ที่นี่ยังสามารถเที่ยวชมพระพุทธฉายและเรื่องราวของประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกได้อีกด้วย

แสงแรกบนยอดดอย “ภูลมโล" จ.เลย ก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เหมือนกัน

มุมมองบนจุดสูงสุดยอดดอยภูลมโลกับทิวเขาสลับซับซ้อน

ที่นี่คือเมืองไทยของเรา

นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของ ภูลมโล จ.เลย

ที่นี่ยังเป็นแหล่งชม “ดอกนางพญาเสือโคร่ง" ที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง

ว่ากันว่าที่ภูลมโล จ.เลย จะมีต้นนางพญาเสือโคร่งนับหมื่นๆ ต้น

ดอกของที่นี่จะเป็นดอกเล็กๆ ซึ่งต่างจากทางภาคเหนือ

แต่ถ้าบานพร้อมๆ กัน ดอยทั้งดอยก็จะเป็นสีชมพูสวยงามไม่แพ้กัน

ขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงใหม่กันบ้าง สถานที่ยอดฮิตเมื่อมาเชียงใหม่ก็ต้องเป็นที่นี่

“ม่อนแจ่ม" อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กับช่วงเวลาที่ดอกเวอร์บีน่าสีม่วงสดเบ่งบานเต็มดอย

“แม่กลางหลวง" อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เส้นทางสู่ดอยอินทนนท์

ที่นี่เข้าถึงได้ง่ายอยู่ชิดติดริมทางหลักกับบรรยากาศแห่งท้องทุ่งที่เรียบง่ายและสดชื่น

“บ้านระเบียงดาว" อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

บ้านพักในแบบเรียบง่ายท่ามกลางขุนเขาดอยหลวงเชียงดาว

ที่นี่ไม่มีแอร์ ไม่มีน้ำอุ่น ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีสัญญาณเน็ต

มีระเบียงไม้ในแบบธรรมดา มีมุ้งไว้กางกันยุง มีอาหารเช้าและเย็นในแบบง่ายๆ แต่รสชาติดี

ในราคาหัวละ 500 บาทเท่านั้น

“ดอยผ้าห่มปก" อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

เส้นทางขึ้นมาด้านบนที่ยังไม่ดีนักเหมาะกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ

“ดอยอ่างขาง" อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ สถานที่แห่งขุนเขา ดอกไม้และสายหมอกอย่างแท้จริง

ด้วยความงดงามของวิวทิวทัศน์ ดอกไม้นานาพันธุ์ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเขา

ในฤดูหนาวลานกางเต็นท์บนดอยอ่างขางจึงคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล

แสงแรกของที่ดอยอ่างขาง ก็งดงามไม่แพ้ที่ไหนๆ

กับบรรยากาศที่หนาวเย็นสุดขั้วในฤดูหนาว

“กิ่วแม่ปาน" ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง

ฉายาทะเลหมอก 365 วันคงไม่ผิดไปนักสำหรับที่นี่

“พะเนินทุ่ง" อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

อลังการทะเลหมอกที่มีให้เห็นทุกวัน แม้จะเป็นเวลากลางวัน สายหมอกก็ยังไม่จางหายไปไหน

เส้นทางขึ้นมาชมทะเลหมอกพะเนินทุ่งค่อนข้างจะลำบากซักนิด

เหมาะกับรถขับเลื่อน 4 ล้อ หรือจะเช่ารถจากที่ทำการอุทยานฯ ก็ได้

ด้านบนมีลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำ และร้านค้าสวัสดิการที่ค่อนข้างสะดวกสบาย

ถ้ากล่าวถึงจังหวัดน่าน ผมก็จะนึกถึงที่นี่เป็นที่แรก

“พระธาตุเขาน้อย" จุดไฮไลท์ที่มาเยือนน่านต้องแวะขึ้นมานมัสการกราบไหว้

“โฮมสเตย์แห่งหนึ่งใน อ.ปัว" จ.น่าน ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ

ห้องพักในแบบเรียบง่ายอยู่ชิดติดทุ่งนาโดยมีทิวเขาเป็นกำแพงฉากหลัง

สร้างความรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขในราคาเพียง 400 บาทต่อวัน

เส้นทางจาก อ.ปัว ไปยัง อ.บ่อเกลือ ระยทางราว 50 กิโลเมตร

เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยที่สุดในความทรงจำ

บนเส้นทางที่ไต่ระดับความสูง ลัดเลาะไปตามซอกเขา และวิ่งบนสันเขา

สร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจตลอดระยะทาง 50 กิโลเมตร

“อุทยานแห่งชาติขุนน่าน" อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

เป็นอุทยานฯ ที่ไม่ใหญ่นักและเงียบสงบ จุดเด่นคงเป็นการท่องเที่ยวน้ำตกต่างๆ

รวมไปถึงจุดชมวิวที่มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน

มา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ถ้าไม่อยากกลับเส้นทางเดิม

ผมอยากให้ลองดูเส้นทางนี้ครับ เป็น เส้นทางไปยัง อ.สันติสุข จ.น่าน แล้วค่อยวกเข้าตัวเมืองน่านได้

ระหว่างทางที่สวยงามและอาจพบเจอทะเลหมอกริมทางในฤดูหนาวได้อีกด้วย

แสงแรกที่ หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสะแตง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน

กำแพงภูเขาที่คอยกำบังดวงตะวัน พลันหลุดพ้นจากกำแพง

แสงสีทองสาดส่องเพิ่มความอบอุ่นและความสวยงาม

แท่งเขาหินปูนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครได้อยากมาสัมผัส

“ภูลังกา" อ.ปง จ.พะเยา เป็นชื่อของ วนอุทยานภูลังกา

แต่ไฮไลท์ของการมาที่นี่กลับเป็นวิวด้านหน้าที่พักของภูลังการีสอร์ท

ฤดูฝนราชินีแห่งดอกไม้เบ่งบานเต็มท้องทุ่ง

ดอกกระเจียวบานที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ"

ถ้าต้องการความเงียบสงบก็คงต้องเป็นที่นี่

แต่ถ้าเป็นการเดินทางที่ไม่ลำบาก รถเข้าถึง

ก็ต้องที่นี่ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ"

อลังการพลังศรัทธาเหนือขุนเขาล้อมรอบไปด้วยวิถีชีวิตของชุมชน

เมื่อมาเขาค้อก็ต้องแวะมาชมความงามของ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว"

“ถนนเลียบชายทะเล จ.ชลบุรี" เป็นถนนที่บรรยากาศดีอีกเส้นทางหนึ่ง

ยามเย็นจะมีผู้คนแวะมานั่งรับลมชมวิว หาซื้ออาหารทะเลราคาย่อมเยาที่ท่าเรือพลี

“ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี" ก็มีทะเลที่สวยและเงียบสงบซ่อนตัวอยู่

แสงสุดท้ายของที่นี่ดูงดงามไม่แพ้ที่ไหนๆ อยู่เหมือนกัน

“น้ำตกเหวนรก" เขาใหญ่ ปราจีนบุรี

ถ้ามาเขาใหญ่ก็ต้องแวะมาเที่ยวที่นี่ กับทางเดินที่ร่มรื่นและสดชื่น

ในเดือนพฤศจิกายนถ้าผ่านไปทางสระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์

เราจะเห็นดอกทานตะวันสีเหลืองสดเต็มท้องทุ่ง

แต่ก่อนปลูกกันเพื่อทำการเกษตรกรรมเก็บผลผลิตขาย

พักหลังกลายเป็นการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย

สุดเขตประจิมที่ริมเมย หนึ่งในอลังการทะเลหมอกที่สวยที่สุดก็คงต้องเป็นที่นี่ “อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ.ตาก"

แม้เส้นทางจะดูไกลซักนิด แต่ที่นี่มีครบรสชาติให้ได้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ทะเลหมอก ตลาดมูเซอ ไร่สตรอเบอรี่

“ไร่จิมทอมสันฟาร์ม" ปีหนึ่งจะเปิดให้เข้าชมเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม

ดอกไม้นานาชนิดเบ่งบาน กับอากาศที่เย็นสบาย โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือ

“ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต หาดคุ้งวิมาน จ.จันทบุรี"

ว่ากันว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศ

บริเวณโดยรอบเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ นั่งชมวิวชิมอาหารทะเลสด

บ้างก็มาถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง รูปรับปริญญา

หมู่เกาะทะเลตราด สุดเขตบูรพา ที่นี่ประเทศไทยที่ชาวต่างชาติหลงใหล

“จุดชมวิว บนเกาะช้าง จ.ตราด" กับมุมมองที่มองออกไปเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่ดูสวยงาม

ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งจากการเดินทางของผม ที่รู้สึกประทับใจและหลงรักประเทศไทย

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ

อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงหากาฬ LIFE FOR TRAVEL

https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP