ทริปนี้เที่ยวยาวเลยครับ เริ่มจากแวะดูหมอกที่หินพัด นอนแพที่เขาสก เที่ยวชมเมืองเก่าที่ภูเก็ต เล่นน้ำที่เกาะตาชัย แวะเยี่ยมบ้านรุ่นพี่ที่พัทลุง เคาท์ดาวน์บนเกาะไหง ปิดท้ายทริปที่แพเขาสกอีกครั้ง ทริปนี้เดินทางวันที่ 24 ธ.ค. 58 – 2 ม.ค. 59


Day 1

วันแรกผมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากกทม.มุ่งหน้าสู่ จ.สุราษฎร์ธานี จุดหมายแรกคือ “หินพัด" อ.คีรีรัฐนิคม ผมมาถึงก็ช่วงเย็นพอดีเลยรีบติดต่อหารถ4x4 เพื่อขึ้นไปถ่ายรูปบนหินพัด เส้นทางขึ้นหินพัดต้องใช้รถ4x4ขับขึ้นไปครับ ซึ่งแถวนั้นก็จะมีรถของชาวบ้านไว้ให้บริการ ค่ารถ4x4 ไป-กลับคิด 200 บาท./10คน ตอนนั้นมีผมอยู่คนเดียวก็ต้องจ่าย 200 บาท. เศร้าเลยไม่มีคนหารด้วย

ถ่ายรูปเล่นสักพักก็ค่ำพอดี คิดในใจลืมเลยยังไม่ได้หาที่พัก

ตอนเช้าผมว่าจะขึ้นไปถ่ายรูปทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้นต่อ เลยถามพี่ผุดคนขับรถว่า แถวนี้มีที่ให้ผมกางเต้นท์บ้างไหม พี่เค้าก็ตอบมาว่าจะกางทำไมนอนบ้านพี่ก็ได้เพราะตอนเช้าจะขึ้นไปถ่ายรูปอีกไม่ใช่หรอ ผมนี่ยิ้มเลยครับแค่กะจะถามที่สำหรับกางเต้นท์เท่านั้น แถมพี่เค้ายังชวนผมกินข้าวเย็นด้วยอีก “บางทีน้ำใจที่พี่เค้ามีให้ก็ไม่ได้หวังเงินเป็นค่าตอบแทน" ขอบคุณมากๆครับ


Day 2

ผมตื่นนอนประมาณตี 4 กว่า คนที่นี่ตื่นกันค่อนข้างเช้า พี่ผุดเห็นผมตื่นก็บอกว่าเช้านี้ได้เจอหมอกแน่ๆเพราะเมื่อคืนฝนตก หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็คว้ากล้องเตรียมขึ้นไปถ่ายรูปบนหินพัดเช้านี้

บรรยากาศตั้งแต่เช้ามืดจนถึงพระอาทิตย์ขึ้นมันสวยมากๆครับ และทะเลหมอกก็มีอย่างที่พี่เค้าบอกไว้จริงๆ


เส้นทางขากลับลงมาจากหินพัด

จากนั้นผมก็บอกลาหินพัดแล้วขับรถมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติเขาสก ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ผมก็ถึงเขื่อนรัชชประภา

ผมหาที่จอดและก็ทำการฝากรถไว้ที่ท่าเรือ(ค่าบริการ 80 บาท./คืน) จากนั้นก็ไปติดต่อหาเรือที่จะไปส่งที่ที่พัก จุดหมายของผมวันนี้คือ“แพคลองคะ" ค่าเรือรับ-ส่ง คิดค่าบริการเหมาลำ 2,500 บาท. เนื่องจากผมมาคนเดียวเลยคิดว่าหาแจมเรือดีกว่าจะได้ถูกลงหน่อย ซึ่งผมก็โชคดีได้คุณต้นกับแฟนที่ไปแพเดียวกันให้ร่วมแจมไปด้วย หาร3 แล้วคุณต้นคิดผมที่ 800 บาท. ขอบคุณครับที่ให้ติดเรือไปด้วย


ใช้เวลานั่งเรือประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงก็ถึงแพคลองคะ (ที่นี่สัญญาณมือถือมีแต่ AIS นะครับ)

ที่พักของผมเป็นบ้านกระท่อมหลังที่ 3 ห้องน้ำรวม ราคา 700 บาท./คน/คืน (ติดต่อที่พัก พี่หญิง เบอร์ 081-0777271)

ระหว่างนั้นผมก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยแล้วก็ให้อาหารปลา ที่นี่ใช้เมล็ดข้าวโพดเป็นอาหารปลาครับ กระบอกละ 20 บาท.


ช่วงเย็นๆผมออกไปพายเรือเล่นแถวๆแพ อยู่ดีๆฝนก็ตกเลยได้บรรยากาศไปอีกแบบ


หลังจากนั้นช่วงเย็นผมก็เตรียมตัวไปทานข้าว กับข้าวที่ทางที่พักจัดไว้ให้มี แกงเหลือง ปลาทอด ไข่เจียว ผัดผัก ด้วยความหิวผมลืมถ่ายรูปหน้าตากับข้าวมาให้ชมเลยครับ พอทานข้าวเสร็จผมก็กลับเข้าที่พัก ในห้องมีพัดลมให้ 1 ตัว ส่วนถ้าจะชาร์จอะไรต้องไปใช้ปลั๊กที่ส่วนกลางครับในห้องพักใช้ไม่ได้ และพัดลมกับไฟแสงสว่างก็ใช้ได้ช่วงเย็นนะครับเพราะเครื่องปั่นไฟจะเปิดใช้ตอนช่วงนั้นไปจนถึงช่วงเช้ามืด แต่ผมนอนเปิดหน้าต่าง ประตูให้ลมผ่าน เย็นสบายไม่ต้องเปิดพัดลมเลยครับ คืนนั้นก็หลับสบายมากๆนอนฟังเสียงน้ำ เสียงลม


Day 3

เมื่อคืนนอนเร็วทำให้ตี 5 กว่าๆผมก็ตื่นแล้ว เลยคว้ากล้องมาถ่ายบรรยากาศช่วงเช้ามืดซะหน่อย

เช้านี้พี่สุทิน จนท.หัวหน้าแพคลองคะ ชวนผมไปนั่งแพกินกาแฟ ดูนก พี่เค้าเห็นผมไปคนเดียวคงกลัวผมเหงา55+ ขอบคุณที่ชวนไปชมบรรยากาศยามเช้าครับ

พี่สุทินกับรอยยิ้มแบบจริงใจ

ประมาณ 09:00 น. ผมก็เก็บของและบอกลาแพคลองคะ ขอบคุณพี่หญิงและพี่สุทินมากๆครับ ดูแลดีมากๆ ระหว่างนั่งเรือกลับคนขับเรือจะแวะให้เราถ่ายรูปเขาสามเกลอ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า กุ้ยหลินเมืองไทย

จากเขื่อนรัชชประภาผมขับรถยาวๆมุ่งหน้าสู่ จ.ภูเก็ต ก่อนถึงภูเก็ตจะต้องข้ามสะพานสารสินผมเห็นว่าวิวสวยดีเลยขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย

ที่ภูเก็ตผมเข้าพักที่ Ai Phuket Hostel https://www.facebook.com/AiPhuketHostel/ Ai Phuket Hostel อยู่ย่าน Old Town ใกล้กับถนนคนเดิน ผมนอนที่นี่ทั้งหมด 3 คืน 2 คืนแรก นอนห้องเดี่ยว(ห้องน้ำรวม) ราคาคืนละ 600 บาท. ส่วนคืนที่ 3 นอนห้องรวม 8 เตียง(ห้องน้ำรวม) ราคาคืนละ 299 บาท. รวมค่าใช้จ่าย 3 คืน 1,499 บาท.

หลังจากCheck-in เรียบร้อย ยังมีเวลาเหลือที่จะดูพระอาทิตย์ตก ผมเลยรีบขับรถไปที่จุดชมวิวแหลมพรหมเทพ

ช่วงหัวคำผมตะเวนหาร้านของกินตามที่ได้ทำการบ้านมา แต่ร้านที่ดูๆมาก็ปิดหมดเลย ร้านโกเบนซ์หยุดช่วงปีใหม่ ร้านสามกองน้ำเต้าหู้ก็ปิด สุดท้ายผมไปจบที่ร้านกุ้งถัง

คืนแรกที่ภูเก็ตผมนอนเร็วหน่อยเพราะเพลียๆจากการเดินทางและพรุ่งนี้กะว่าจะเดินถ่ายรูปเล่นที่ Old Town ครับ


Day 4

เช้าๆวันแรกที่ภูเก็ตผมขอเติมพลังก่อน จากที่พักผมเดินไปตรงสีแยกแถวน้ำซึ่งไม่ไกลมากเท่าไหร่ จะมีร้านโรตีน้ำแกง ร้านนี้ยังคงใช้เตาถ่านอยู่ดูน่ากินดีครับ และคนก็เยอะเต็มร้านตลอด

หลังจากอิ่มเรียบร้อยผมก็เดินถ่ายรูปเล่นแถว Old Town อาคารที่นี่จะเป็นรูปแบบชิโนโปรตุกีส มีทั้งที่ยังคงสภาพเก่าไว้และที่ทาสีใหม่ให้ดูสดใส

ผมเดินเล่นมาจนถึงถนนถลางจะมีร้านน่ารักๆอยู่ร้านนึงชื่อ ร้านหนังสือ & Coffee ผมเลยแวะเข้าไปนั่งเล่นหาไรกิน บรรยากาศในร้านสวยดีครับ

จากนั้นก็แวะไปที่พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ที่นี่เสียค่าเข้าชม 50 บาท.ครับ

เดินเยอะก็เริ่มหิวมื้อเที่ยงนี้ผมเลยเลือกที่จะกินอาหารพื้นเมืองแถวตลาดฉำฉา ที่นี่ของกินเยอะมากๆครับ ส่วนเมนูวันนั้นที่ผมกินมี หมี่หุ้นป้าฉ่าง ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน โลบะ(เครื่องในหมูทอด) และก็โอ๋วเอ๋ว(น้ำแข็งใสน้ำแดง)

หลังจากหาไรทานเสร็จช่วงบ่ายๆผมก็ไปไหว้พระส่งท้ายปีเก่า วัดแรกที่ไปคือ วัดฉลอง

ต่อจากนั้นไปที่วัดพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี(วัดพระใหญ่) องค์พระสีขาวใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ทางขึ้นบางช่วงค่อนข้างชันนะครับ

ช่วงบ่ายแก่ๆผมขับรถขึ้นไปบนจุดชมวิว 3 อ่าว จากตรงนี้จะมองเห็นอ่าวกะตะน้อย กะตะ และกะรนครับ

และช่วงเย็นๆผมก็ขับรถไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่หาดกะหลิม บรรยากาศแสงช่วงเย็นๆสะท้อนผิวน้ำทะเลสวยดีครับ

วันนี้มีถนนคนเดินที่ถนนถลางใกล้ๆที่พัก(ถนนคนเดินมีเฉพาะวันอาทิตย์) ผมเลยไปเดินเล่นหาของกิน และก็ได้เพ้นท์ลายที่แขน เล่นๆมา 1 ลาย ราคา 100 บาท.

หนึ่งวันเต็มๆกับเมืองภูเก็ต เดินเยอะมากๆวันนี้ และยังมาเดินถนนคนเดินต่ออีก กลับเข้าที่พักถึงกับสลบเลยทีเดียว คืนนี้กะว่าจะนอนเร็วหน่อยเพราะพรุ่งนี้วางโปรแกรมว่าจะไปเที่ยวเกาะตาชัย โดยผมให้ทางที่พักซื้อทัวร์แบบ One Day Tip กับทาง ว้าว อันดามัน “WOW Andaman" ไว้ ในราคา 2,500 บาท. รวมรถรับ-ส่งที่พักแล้ว http://www.wowandaman.com/


Day 5

6 โมงเช้ารถตู้มารับที่ที่พัก ไปที่ท่าเรือทับละมุ จ.พังงา ผมไปถึงท่าเรือก็ประมาณ 8 โมงครึ่ง จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนและกรอกรายละเอียดการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทาง(จากในรูปทางซ้ายคือจุดลงทะเบียนไปหมู่เกาะสิมิลัน ทางขวาไปเกาะตาชัย) และเจ้าหน้าที่ของว้าว อันดามัน จะแจกข้อมือแยกตามสีเพื่อระบุว่าใครลงเรือลำไหน

ที่นี่มีบริการอาหารเช้าด้วยนะครับ แนะนำว่าคนเมาเรือไม่ควรทานเยอะ ส่วนยาแก้เมาเรือก็วางไว้อยู่แถวนั้นหยิบเอาได้เลย

จุดรับอุปกรณ์ดำน้ำ ส่วนผมไม่ดำน้ำก็เลยไม่ได้เบิกไป

ก่อนลงเรือทุกคนจะต้องถอดรองเท้าไว้ที่ท่าเรือ

ประมาณ 9 โมง คุณอาร์ตี้ ไกด์ของเราวันนี้ เรียกรวมกลุ่มและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางให้ทราบ จากนั้นก็เตรียมตัวลงเรือ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.ครึ่งก็มาถึงเกาะตาชัย

กิจกรรมแรกไกด์ของเราพาไปเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อดูปูไก่ ค้างคาวแม่ไก่ หอยมรกต ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 20 นาที


ข้าวมื้อเที่ยงทาง ว้าว อันดามัน“WOW Andaman" จัดอาหารเป็นแบบปิ่นโตพร้อมเสริฟให้กับลูกทัวร์ครับ

หลังจากนั้นช่วงบ่ายไกด์จะพาลูกทัวร์ไปดำน้ำ ส่วนผมไม่ได้ไปดำเพราะอยากอยู่บนเกาะถ่ายรูปเล่นน้ำมากกว่า ไกด์เลยบอกว่าบ่าย 3 จะกลับมารับ ช่วงเวลาหลังจากนั้นผมก็เล่นน้ำถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย



“คุณอาร์ตี้"ไกด์ของเราในทริปนี้ ดูแลดีมากๆครับ รู้สึกเป็นกันเองดี ประทับใจการบริการครับ

และเวลาก็ผ่านไปเร็วมาก รู้ตัวอีกทีต้องกลับแล้ว ติดใจที่นี่เลยครับ น้ำทะเลใสๆและทรายละเอียดๆ

กลับถึงท่าเรือ รองเท้าจะถูกวางเรียงรอไว้เรียบร้อย

แถมมีอาหาร ขนม น้ำ รอเสิร์ฟให้กินเพียบก่อนที่จะเดินทางกลับ


จากนั้นผมก็ขึ้นรถตู้เตรียมตัวเดินทางกลับที่พักที่ภูเก็ต

กลับถึงที่พักผมก็รีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถไปบ้านรุ่นพี่ที่พัทลุง ที่พัทลุงเป็นจุดนัดหมายผมกับเพื่อนๆ ที่จะรวมตัวกันไปเที่ยวทะเลตรัง เที่ยวคนเดียวมาหลายวันได้เจอเพื่อนๆซะที


Day 6

ปิดท้ายทริปที่จ.ภูเก็ต ด้วยข้าวต้มมื้อเช้า ติ่มซำ แล้วเตรียมตัวเดินทางสู่ จ.พัทลุง

ถึงพัทลุง ผมก็ได้พบกับเพื่อนๆพี่ๆ จากนั้นก็ไปทานข้าวกันที่ ศรีปากประ รีสอร์ท ที่นี่มีบริการที่พักด้วยครับ วิวที่นี่จุดเด่นคือ ยอยักษ์

คืนแรกที่พัทลุงผมนอนที่โฮมสเตย์ ของรุ่นพี่ ชื่อ ศิลป์-ทำ โฮมสเตย์ https://www.facebook.com/ศิลป์-ทำ-โฮมสเตย์-549233221843160 ตอนดึกรุ่นพี่ผมนำเสนอเมนูเด็ด “ด้วงสาคู" ถึงขนาดนี้ต้องขอลองดูสักหน่อย รสชาติต้องหาลองกันดูครับ55+ และคืนนั้นผมกับเพื่อนๆก็เข้านอนเตรียมตัวพรุ่งนี้เช้าไปเที่ยว “เกาะไหง"


Day 7

ตอนเช้าผมกับเพื่อนๆเดินทางไปท่าเรือปากเมง จ.ตรัง เพื่อรอลงเรือไปที่เกาะไหง

ประมาณ 10 โมงกว่า เริ่มขึ้นเรือออกเดินทาง เรือที่ผมใช้บริการเป็นเรือนำเที่ยวแบบเรือหางยาว ค่าบริการเหมาลำขาไป 3,500 บาท. จะพาเที่ยว เกาะมุก ถ้ำมรกต ดำน้ำเกาะกระดาน แล้วจึงไปส่งที่เกาะไหง ส่วนขากลับ 1,200 บาท. บนเรือจะมีหน้ากากน้ำดำไว้บริการให้นักท่องเที่ยวดำน้ำดูปลา ดูปะการัง ด้วยครับ

ที่เกาะมุกคนขับเรือจะพาเราเกาะกันเป็นกลุ่มว่ายน้ำเข้าไปที่ถ้ำมรกต(ไม่มีรูปนะครับ) ส่วนที่เกาะกระดานจะแวะจอดเรือให้ขึ้นไปบนหาดถ่ายรูปเล่นแล้วก็พาไปดำน้ำบริเวณแถวๆนั้น


บ่าย 2 กว่า เรือก็ส่งพวกผมขึ้นเกาะไหง ผมกับเพื่อนๆเข้าพักที่เกาะไหงแคมป์ปิ้ง 2 คืน ที่พักจะเป็นแบบเต้นท์หลังใหญ่ นอนได้ประมาณ 2-3 คน ราคา 600 บาท./คืน พวกผมจองไป 3 หลัง ส่วนผมเอาเต้นท์ไปเองทางที่พักคิดค่าบริการ 200 บาท. พร้อมอาหารเช้า ส่วนมื้ออื่นๆก็สั่งกับทางที่พักได้เลยครับ ราคาถือว่าไม่แพง ติดต่อที่พัก พี่วิชัย 084-4410361 https://www.facebook.com/เกาะไหงแคมป์ปิ้ง-346695522201534

กินไปชมทะเลไป

บรรยากาศช่วงเย็นๆบนเกาะไหง

ตอนกลางคืนบนเกาะลมแรงดีครับแต่ไม่มากเท่าไหร่ ดาวนี่เต็มท้องฟ้าไปหมด เลยขอเก็บภาพไว้สักหน่อย

คืนแรกบนเกาะหลังจากปาร์ตี้กันเสร็จพวกผมก็เข้านอน เต้นท์ที่ผมกางอยู่ติดริมทะเลทำให้ได้ยินเสียงคลื่นชัดมาก เป็นอีกคืนนึงที่มีความสุขในการนอน


Day 8

เช้าวันสิ้นปี อรุณสวัสดิ์ด้วยแสงวันใหม่

วันนี้เราเล่นน้ำกันทั้งวัน ที่นี่มีแนวปะการังไม่ไกลมาก ถ้าน้ำลงเดินไปก็เห็นแล้วครับ


ช่วงเย็นๆพวกผมก็ปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันบนเกาะ มีเมนูปิ้งย่างนิดหน่อย ของทะเลผมสั่งกับทางที่พักครับ ส่วนพวกเครื่องดื่มผมขนมากันเอง

เที่ยงคืนแล้ว สวัสดีปีใหม่ Happy New Year 2016 ครับ ^^


Day 9

สวัสดีเช้าวันแรกของปี ตอนที่อยู่บนเกาะเพื่อนๆได้ถามผมเรื่องที่ไปพักบนแพคลองคะมาก่อนหน้านี้ ทำให้เพื่อนๆสนใจอยากไปที่นั่นบ้าง สรุปได้ดังนั้นผมก็โทรหาพี่หญิง(จนท.ดูแลแพ)จองที่พักบนแพคลองคะ

ช่วงสายๆเรือรับพวกเราออกจากเกาะกลับไปที่ท่าเรือปากเมง ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40-45 นาที จากนั้นก็กลับไปที่โฮมสเตย์ ของรุ่นพี่ที่พัทลุง เพื่อกลับไปเอารถ หลังจากบอกลาเสร็จตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องพวกผมก็เดินหน้าสู่ เขื่อนรัชชประภา

พวกผมเดินทางมาถึงช่วงๆเย็นๆ ก็ทำการฝากรถไว้ที่ลานจอดรถ ราคา 80 บาท./คืน จากนั้นก็นั่งเรือไปที่แพคลองค่ะ ค่าเรือเหมาลำไป-กลับ 2,500 บาท.เหมือนเดิมแต่เที่ยวนี้มากับเพื่อนหลายคนค่าเรือหารกันแล้วจ่ายไม่กี่บาท

พวกผมถึงแพกันก็กินมื้อเย็นๆพอดี จากนั้นก็แบ่งกันเข้าที่พัก พี่หญิงจัดที่พักไว้ให้ 3 หลัง พวกผมมากันทั้งหมด 9 คน ค่าที่พักราคาเดิม 700 บาท./คน/คืน


Day 10

เช้านี้บนแพคลองค่ะ ผมเองเพิ่งได้มาที่นี่ไม่กี่วันก็ได้กลับมาถ่ายรูปที่นี่อีกครั้ง บรรยากาศดีๆ ล้อมรอบด้วยภูเขา

ตอนเช้าเรือจะพาเราไปดูนกแต่พวกผมเลือกที่จะพายเรือ เล่นน้ำอยู่ที่แพ ครั้งนี้มากับเพื่อนเลยมีคนถ่ายรูปให้ตอนกระโดดน้ำ 55+

ประมาณ 10 โมง พวกผมก็เก็บของเตรียมตัวกลับ ซึ่งขากลับเรือจะแวะกุ้ยหลินเมืองไทยให้ถ่ายรูปครับ

ก่อนเดินทางกลับกทม.พวกเราแวะทานข้าวกันที่ร้านลำพู1 แถวปากน้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี

ทริปนี้ขับรถสนุกดีครับ 2,567 กม. ตลอดทุกเส้นทาง 10 วันที่ผ่านมาผมได้พบเจอสถานที่ต่าง ผู้คนมากมาย มิตรภาพและน้ำใจระหว่างการเดินทาง ขอบคุณทุกเหตุการณ์ที่ทำให้ผมมีเรื่องราวดีๆบันทึกลง “บันทึกการเดินทาง" ครั้งนี้

ทริปวันว่าง

 วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 07.44 น.

ความคิดเห็น