ทริปวันว่าง : กางเต้นท์บนต้นไม้ที่เนินมะปราง • ปั่นจักรยานเล่นที่ทุ่งแสลงหลวง

ทริปนี้อารมณ์อยากกางเต้นท์นอน เอาที่ไหนดีใกล้ๆ..? “เนินมะปราง"แล้วกัน

จากนั้นก็ไปนอนเล่นถ่ายดาวที่“ทุ่งแสลงหลวง"ต่อ ทริปนี้ผมออกเดินทางวันที่ 24 - 27 ก.พ. 59

ฝากทริปวันว่างด้วยนะครับ

ทริปวันว่าง : ไหว้พระที่“สังขละ" วกไปเล่นน้ำที่“บ้านอีต่อง" นอนแพที่“เขื่อนศรีนครินทร์" ปิดท้ายทริปที่“บ้านกกกอด"

http://pantip.com/topic/34586179

ทริปวันว่าง : เที่ยวใต้ 10 วัน ดูหมอก นอนแพ เที่ยวทะเล เคาท์ดาวน์บนเกาะ

http://pantip.com/topic/34680810

ทริปวันว่าง : จาก “ภูลมโล" ไปต่อ “ภูกระดึง" เจอทั้งฝนทั้งหนาว แต่ก็ยังรักภู

http://pantip.com/topic/34864286

Day 1

ผมออกเดินทางจากกทม.ประมาณเที่ยงกว่าๆ ขับรถยาวๆสู่จังหวัดพิษณุโลก จุดหมายแรกคือ บ้านมุง อ.เนินมะปราง
เวลาประมาณบ่ายสี่โมงกว่าผมก็ถึงที่นั่น ที่ต.บ้านมุงช่วงเย็นๆจะมีค้างคาวบินออกมาจากถ้ำ ซึ่งยังพอมีเวลาเหลือให้ผมถ่ายรูปเล่นบริเวณนั้น

ประมาณเกือบหกโมงเย็นฝูงค้างคาวจำนวนมากก็บินออกจากถ้ำเป็นทางยาวเต็มท้องฟ้าไปหมด

จากนั้นผมก็ขับรถขึ้นดอยไปทางบ้านรักไทย ระยะทางจากบ้านมุงถึงบ้านรักไทยประมาณ 30 กม. เส้นทางบางช่วงค่อนข้างชันนะครับ

และที่พักคืนแรกที่ผมจะกางเต้นท์นอนชื่อ บ้านสวนชมวิว https://www.facebook.com/pages/บ้านสวนชมวิว-โฮมเสตย์/1485166101787995 (เบอร์ติดต่อ 087-2075736, 061-3681180 พี่หญิง) ผมเอาเต้นท์มาเองเลยขอพี่หญิงกางเต้นท์นอนบนต้นไม้ 2 คืน พี่เค้าคิดค่ากางเต้นท์คืนละ 150 บาท(2 คืน จ่ายไป 300 บาท) ราคาหลักร้อยวิวหลักล้านมากๆครับ

บนต้นไม้มีไฟแสงสว่างและปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย ส่วนห้องน้ำก็ไม่ไกลเดินไม่ถึง 30 ก้าวก็ถึง คืนนั้นผมนั่งเล่นชมบรรยากาศอยู่ข้างนอกสักพักรู้สึกหนาวๆ ก็เลยเข้าเต้นท์พักผ่อน(ดึกๆลมแรงและหนาวมากๆดีที่ติดผ้านวมไปด้วย)

Day 2

เช้านี้อากาศค่อนข้างเย็น ผมนอนเล่นอยู่ในเต้นท์สักพักก็ลุกออกมาถ่ายรูปเล่น และก็เก็บเต้นท์ลงมาข้างล่างเพราะระหว่างวันจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวถ่ายรูปบนนั้น

ช่วงสายๆผมตั้งใจจะไปถ่ายรูปเล่นที่เนินมะปรางอีกรอบ พี่หญิงเลยฝากน้องผู้หญิง 2 คนติดรถผมไปด้วย เพราะน้อง 2 คนโบกรถกันขึ้นมา เก่งเนอะปรบมือให้เลย (น้อง 2 คน นอนบ้านพักแบบเป็นหลัง จะมีเต้นท์มุ้งให้กับเครื่องนอน คิดราคา 200 บาท./คน)

จากนั้นผมและ 2 สาว ก็ไปถ่ายรูปเล่นกันที่บ้านมุง อ.เนินมะปราง นอกจากที่นี่จะมีภูเขาหินปูนรูปทรงต่างๆแล้ว สอบถามจากชาวบ้านแถวนั้นในวัดบ้านมุงจะมีถ้ำและมีองค์พระอยู่ด้วย

ถ้ำนางสิบสอง

ถ้ำหลวงพ่อบุญมี

เที่ยวกันจนเพลินรู้ตัวอีกที 2 สาวเหลือเวลาอีก 1 ชม.ต้องขึ้นรถกลับกทม.ที่ตัวเมืองพิษณุโลก ระยะทางประมาณ 70 กม. ถ้าปล่อยให้นั่งรถไปกันเองคงตกรถกันแน่ๆ ผมเลยขับไปส่งให้ที่ขนส่ง

มาถึงตัวเมืองผมเลยแวะไหว้พระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

บ่ายโมงกว่าเริ่มหิวเลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาแถวๆหน้าวัด

จากนั้นก็ขับรถกลับมาที่ อ.เนินมะปราง ก่อนจะเข้าที่พักผมแวะไหว้พระที่ วัดทุ่งพระ ต.บ้านมุง

และผมก็กลับเข้าที่พักที่บ้านสวนชมวิว คืนที่ 2 ที่ อ.เนินมะปราง

Day 3

เช้านี้อากาศยังคงหนาวเหมือนเดิม ผมนอนเล่นอยู่ในเต้นท์จนสายๆถึงเก็บเต้นท์และออกเดินทางไปที่
ทุ่งแสลงหลวง จุดหมายที่ 2 ที่ผมจะกางเต้นท์นอน

ประมาณเที่ยงกว่าๆผมก็มาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.ทุ่งแสลงหลวง จากนั้นก็ทำการติดต่อพื้นที่สำหรับกางเต้นท์
มีค่าบริการสถานที่ 30 บาท. ผมเช่าแผ่นรองนอน 1 ชุด 20 บาท. รวมเป็น 50 บาท.

จากนั้นก็จับจองเลือกทำเลจุดกางเต้นท์กันเลยครับ

ช่วงบ่ายแก่ๆผมเช่ารถจักรยาน ปั่นไปสำรวจเส้นทางที่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าว่ารถเก๋งจะเข้าไปได้รึเปล่า ระยะทางไปศาลาดุสิตาจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 4 กม. (ค่าเช่าจักรยาน เต็มวัน 200 บาท. ครึ่งวัน 100 บาท.)

จากการสำรวจถนนบางช่วงเป็นร่องกว้าง รถผมไปไม่ได้แน่นอน คงต้องเปลี่ยนแผนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดอื่นแทน จากนั้นก็ปั่นจักรยานกลับมาชมพระอาทิตย์ตกแถวๆจุดที่ผมกางเต้นท์

บริเวณที่ผมกางเต้นท์จะมีห้องน้ำ ร้านอาหารไว้บริการ หลังจากผมกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็มาถ่ายดาวเล่น ที่นี่ค่อนข้างมืดทำให้เห็นดาวชัดมากๆ

อากาศเริ่มเย็นผมก็กลับเข้าเต้นท์นอนเล่นหาข้อมูลใน internet ว่าแถวนี้มีที่ไหนที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบ้าง สรุปคือพรุ่งนี้เช้าผมจะไปที่เขาตะเคียนโงะ ขับรถไปประมาณ 7 กม.

Day 4

เช้านี้ผมตื่นประมาณตี 4 ครึ่ง หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ขับรถไปที่เขาตะเคียนโงะ พอไปถึงแสงพระจันทร์ค่อนข้างสว่างแต่ก็พอให้มองเห็นทางช้างเผือกลางๆ ผมเลยลองถ่ายดู