วันนี้เรา Getout Thailand จะพาไปเที่ยว 3 สถานที่สุดฮิตของเมือง Aizu Wakamatsu

ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Fukushima กันครับ กับบรรยากาศหิมะแรกแบบเต็มๆ หนาวขั้นสุดกายแต่ประทับใจสุดๆ

ช่วงที่ผมไปช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2017 ครับ ตามกันมาเลยจ้า



3 ที่เที่ยวที่วันนี้เราจะพาไปก็คือ

-หมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku Village (โออุจิ จูกุ)

-แล้วก็ไปต่อที่ปราสาทซามูไรประจำเมือง Aizu อย่าง Tsuruga Castle

-ปิดท้ายด้วยไปฟินกับเป็ดหงส์ที่ทะเลสาบ Inawashiro



..................................................................................................................



ฝากเพจท่องเที่ยวของผมไว้ด้วยนะครับ ยังไงตามไปคุยกันต่อที่เพจได้เลยนะครับ

>>>>>>>>> https://www.facebook.com/getoutTH/ <<<<<<<<<<<<



#GetoutThailand

#JAPAN #AIZU WAKAMATSU #FUKUSHIMA

วันนี้เรา Getout Thailand จะพาไปเที่ยว 3 สถานที่สุดฮิตของเมือง Aizu Wakamatsu

ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Fukushima กันครับ กับบรรยากาศหิมะแรกแบบเต็มๆ หนาวขั้นสุดกายแต่ประทับใจสุดๆ

ช่วงที่ผมไปช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2017 ครับ ตามกันมาเลยจ้า



วิวแรกของเช้าวันที่หิมะตกมาทั้งคืน



3 ที่เที่ยวที่วันนี้เราจะพาไปก็คือ

-หมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku Village (โออุจิ จูกุ)

-แล้วก็ไปต่อที่ปราสาทซามูไรประจำเมือง Aizu อย่าง Tsuruga Castle

-ปิดท้ายด้วยไปฟินกับเป็ดหงส์ที่ทะเลสาบ Inawashiro



ฝากเพจท่องเที่ยวของผมไว้ด้วยนะครับ ยังไงตามไปคุยกันต่อที่เพจได้เลยนะครับ

>>>>>>>>> https://www.facebook.com/getoutTH/ <<<<<<<<<<<<



#GetoutThailand

#JAPAN #AIZU WAKAMATSU #FUKUSHIMA

ที่เที่ยวที่วันนี้เราจะพาไปก็คือ หมู่บ้านโบราณ Ouchi Juku Village (โออุจิ จูกุ) แล้วก็ไปต่อที่ปราสาทซามูไรประจำเมือง Aizu อย่าง Tsuruga Castle ปิดท้ายด้วยไปฟินกับเป็ดหงส์ที่ทะเลสาบ Inawashiro



ขอเริ่มต้นด้วยการแนะนำบัตร เมื่อมาเยือน Aizu Wakamatsu นั้นก็คือเจ้าบัตร Aizu Gurutto Card ควรซื้อ!!!

• ราคา 2,670 เยน (ผู้ใหญ่)

• ราคา 1340 เยน (เด็ก)

สามารถใช้บัตรนี้เดินทาง นั่งรถไฟในเขตเมือง Aizu-Wakamatsu รวมถึงนั่งรถ Aizu Loop Bus ได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว เป็นเวลา 2 วันด้วยกัน ดังนั้นบัตรนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีแผนท่องเที่ยวเมือง Aizu-wakamatsu 2 วันเต็มๆ ถึงบางคนใช้วันเดียวก็คุ้มนะ บางที่ไม่รวมบริการบัตร JR ที่เรามีๆ กัน

หน้าตาบัตรก็จะประมาณนี้นะครับ โดยสามารถซื้อบัตรเแบบนี้ได้ตามรูปภาพด้านล่างได้เลยจ้า


สถานที่จำหน่ายบัตร Aizu Gurutto Cards
พื้นที่ให้บริการของบัตรนี้ก็จะตามแนวเส้นแดงรูปข้างล่างนี้นะครับ


ผมใช้บัตรแบบนี้ในการเที่ยวเขต Aizu Wakatmatsu เป็นหลักครับ
และแน่นอนว่าสถานที่ทั้ง 3 ที่เราจะไปส่วนใหญ่ครอบคลุมกับบัตรนี้เช่นกัน ^__^



การเดินทาง 3 สถานที่นี้เราจะขอตั้งต้นจากตัวสถานี Aizu Wakatmatsu โดยจะบอกว่าการเดินทางรถไฟ จาก Tokyo ไปสถานี Aizu Wakamatsu ค่อนข้างใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. เริ่มจากสถานี Ueno นั่ง Shinkansen Tohoku ไปลงสถานี Koriyama จากสถานี Koriyama นั่งรถไฟสาย JR Ban-etsu-Saisen ไปสถานี Aizu-wakamatsu ก้เป็นอันว่าถึง อยากให้มานอนพักแล้วเริ่มเที่ยวแต่เช้าน่าจะคุ้มกับการเที่ยวเขตนี้นะครับ



วิวแรกของเช้าวันที่หิมะตกมาทั้งคืน

Let’s Go



1.Ouchi Juku Village โออุจิ จูกุ)

หมู่บ้านโบราณโออูจิ จูกุ ย้อนยุคสู่สมัยเอโดะที่หมู่บ้านโบราณ ouchijuku ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติเมื่อ พ.ศ.2524 ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูกุ ได้รับการบูรณะใหม่จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่น เพราะเช่นนั้นควรค่าแก่การมาเยือนแน่นอนครับ



การเดินทาง :

จากสถานี Aizu-wakamatsu นั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen รอบนี้พอถึงสถานนี Yunokami ผมนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที ค่าใช้จ่ายต่อขาประมาณ 1800 เยน เนื่องจากมันเข้าหน้าหนาวแล้วหิมะตกแล้ว ไม่มีบัสให้บริการแล้ว หรือใครใคร่เดินก็จะประมาณ 25 นาทีนะจ๊ะ ถึงจะถึงหมู่บ้านโออุจิ จูกุ แต่ช่วงหิมะไม่แนะนำ ส่วนช่วงอื่นก็จะมีรถบัสบริการครับ

ปล.*รถบัสจากสถานี Yunokami Onsen ไปยังหมู่บ้าน Ouchi Juku นั้น จะมีให้บริการเฉพาะวันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 พ.ย. เท่านั้น ส่วนในช่วงวันที่ 1 ธ.ค. ถึง 31 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวจะไม่มีรถให้บริการ หากใครอยากจะไปที่หมู่บ้านก็ต้องขับรถไปเองหรือไม่ก็ต้องนั่ง Taxi ครับ

รอบรถไฟขาไป Aizu Wakamatsu – Yunokami onsen

ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

6.58-7.33

7.52-8.30

9.19-9.58

10.16-10.55

11.17-11.56

13.53-14.28

เช็ครอบรถไฟได้จากที่นี่จ้า http://www.hyperdia.com/en



รอบนี้หิมะตกหนักมาก แต่แพลนไว้แล้ว ไปเจอนักท่องเที่ยวจากไต้หวันสองคนนี้ เลยไปเที่ยวพร้อมกันเลย



หนาวขนาดนี้ใครเค้ามาเที่ยวกัน ฮ่าๆ ฉันเองแหละ



เดินมาสุดทางก็จะพบกับศาลเจ้า แล้วก็จุดชมวิวหมู่บ้านก็สามารถดูได้จากตรงนี้นาจา



วิวจากจุดชมวิวด้านบนจ้า



และที่สำคัญของที่นี่คือราเมงต้นหอม คือต้องไปลอง รสชาติก็ให้ 7/10 ครับ สำหรับร้านนี้ เพราะเปิดร้านเดียวตอนผมไป

หน้าตามันก็จะประมาณนี้ ราคาถ้าจำไม่ผิดประมาณ 880 เยนนะจ้า



ผมใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ชม. ครับ เพราะหนาวมากร้านไม่ค่อยเปิดด้วย ไม่มีไรให้ทำ 55



แล้วก็ได้เวลากลับกันละจ้า

กลับมาสถานี Yonokamionsen station เพื่อมาแช่ onsen เท้า มีบริการฟรีให้กับผู้มาใช้บริการสถานีทุกคนครับ ^^

บรรยากาศออนเซนเท้าก็จะประมาณนี้นะครับ ไม่เล็กไม่ใหญ่กำลังดี ฟินๆ กันไปกับหิมะ 55



รอบรถไฟ Yunokami onsen – Aizu Wakamatsu Staion

5.53-6.31

6.45-7.30

8.02-8.40

9.29-10.07

10.25-11.04

11.28-12.02

13.03-13.41

14.57-15.31

สามารถเชครอบรถไฟได้อีกครั้งที่เว็ป http://www.hyperdia.com/en/

มาต่อกันกับสถานที่ที่สองนั้นก็คือ Tsuruga Castle หรือภาษาไทยก็คือ ปราสาทนกกระเรียน ครับ

ตั้งอยู่ในตัวเมือง Aizu Wakamatsu โดยเรายังใช้บัตรเบ่งเช่นเดิมในการเดินทางรถบัสในตัวเมือง นั้นก็คือบัตร Aizu Gurutto Card เก็บไว้ดีๆ ละ

ร่องรอยประวัติศาสตร์ยังคงไม่จางหายจากปราสาทหลังนี้ นักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่นเลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้ ปราสาทนกกระเรียน ปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสึวาคามัทสึ”

ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสึวาคามัทสึ Aizu Wakamutsu ปราสาทแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ (Kurokawa Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1384 โดยตระกูลอะชินะ (Ashina Clan) แต่น่าเสียดายที่จริงๆ ค่ะ ที่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนัก จึงได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้นครับ



ข้อมูลเบื้องต้น

วันเวลาทำการ 8.30-17.00 น.เปิดทุกวัน

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 410 เยน เด็ก 150 เยน

ค่าเข้า 510 yen (ถ้าจะเข้า Tea house ด้วย)

บัตรเบ่งเหมือนจะใช้เป็นส่วนลดได้เช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งนะครับ ผมไปหิมะตกหนักมา ได้แค่อยู่ข้างนอกครับฃ



การเดินทาง

ครั้งนี้เลือกใช้บริการ รถบัสประจำเมือง คือจะมีสีเขียวและสีแดง วิ่งตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา

จุดขึ้นรถ : ป้ายหมายเลข 6 หน้าสถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu หรือสอบถามได้จาก Bus office เดินตรงออกมาด้านหน้าสถานีจะเจอเลยครับ

ป้ายที่ต้องลงTown Bus คือ ป้าย H14/A27 แล้วก็เดินต่ออีกนิดหน่อยครับจะถึงตัวปราสาท

ลงป้ายแล้วก็มองหาป้ายนี้นะ ช่วงที่ผมไปก็ถามคนตรงนั้นเค้าก็ชี้เป้ามาให้ เดินเข้าไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงตัวปราสาทครับ



สภาพวันที่ผมไป ผมค่อนข้างสับสนว่าทำไมผมไม่นอนอยู่ห้อง ฮ่าๆ



และแล้วก็เดินมาถึงตัวปราสาทที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ขาวโพลนนนนนนนนนน สวยงามมากกกก หนาวมากกกเช่นกัน



วันที่ไปเจอนักท่องเที่ยวอยู่ 2 คนถ้วนอีกแล้ว ฮ่าๆ คือไม่ใช่ไม่สวยมันหนาว หิมะตกตลอดเวลา ใครเค้ามากันละ ฮ่าๆ



เดินเล่นถ่ายรูปแป๊บๆ ก็กลับแล้วครับวันนั้น ไม่ไหวจริงๆ

ขากลับก็เดินออกมาขึ้นรถจุดเดิมหรือฝั่งตรงข้ามก็ได้ รถเขียวแดงจะวิ่งวนอยู่แล้ว เพื่อกลับสถานี Aizu Wakamatsu ต้นทางที่เราขึ้นรถบัสมาครับ เช็คเวลารอบรถหมดดีๆ นะครับ ^^

และก็มาถึงสถานที่สุดท้ายที่ Getout Thailand จะพาไปเที่ยวกัน นั้นก็คือ คือ คือ

ทะเลสาบ Inawashiro นั้นเอง



ภาพที่วางทริปไว้ก่อนไปว่าจะได้เจอก็คือช่วงหน้าหนาวเนี่ย ประมาณ ธันวาคม ถึง มีนาคมเนี่ย

เค้าบอกว่าจะมีฝูงเป็ด ฝูงหงส์มาอยู่ที่ท่าเรือจำนวนมากกกกก ก ล้านตัว แล้ววิวที่รูปไปเจอก็วิวด้านหลังจะเป็นภูเขาหิมะ Bandai สวยงามมาก

แล้ววันที่แพลนไว้ หิมะดันตกหนัก แต่ก็แพลนมาแล้ว ทำไงได้ละ ลุยสิครับผม ตามมาๆๆๆ



Lake Inawashiro หรือ ทะเลสาบอินะวะชิโระ


ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Inawashiro Lake) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นทะเลสาบอีกหนึ่งแห่งที่มีน้ำใสสะอาดที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาบันไดเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ก็เลยทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีความเป็นกรดอ่อนๆ และคือมันก็เลยทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้น้ำเลย ได้ฉายาว่าเป็น “ทะเลสาบกระจกสวรรค์” เพราะในวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะสะท้อนภาพภูเขาบันไดที่อยู่ด้านหลังได้เด่นชัดและตัดกับเส้นขอฟ้าสวยมากครับ ถ้าอยากได้พีคๆ ผมว่า เดือน มีนาคม น่าจะเหมาะสมในการได้วิวแบบนี้นะครับ

การเดินทาง

• โดยรถยนต์ ใช้เส้นทางแยก Inawashirobandaikogen IC บนทางด่วนบาเนะทึซ์ Banetsu Expressway

• โดยรถไฟ จาก Aizu Wakamatsu ใช้บัตรเบ่งมาลง สถานี Inawashiro นั่งสาย Banetsu West Line เส้นที่เชื่อม Koriyama กับ Aizu Wakamatsu สถานี Inawashiro จะอยู่กลางๆ สายครับ

• มาถึงสถานี เอาประหยัดก็ใช้บัตรเบ่งนั่งบัส เอาสบายก็ Taxi ครับ ตามงบประมาณครับ

พิกัด : https://goo.gl/maps/oRYos6Ub5Du



คือทะเลสาบมันใหญ่มากๆ นะครับ เอารูปนี้ให้เค้าดูเลยว่าเราอยากไปหาดตรงนี้ เรียกว่า หาด nagahama (มีรถบัสจากสถานีครับ แต่รอบต้องเชคกับเจ้าหน้าที่ตรงสถานีอีกครั้ง ขึ้นรถหน้าสถานีเลยครับ ถ้ามีบัตรเบ่งใช้ขึ้นฟรีได้เลย (ค่ารถบัสจากสถานี Inawashiro 450 เยน/คน/เที่ยว)



ส่วนวิธีผมคือนั่ง Taxi ไปและกลับเลย เพราะมีเวลาไม่มาก ไม่อยากรอนานด้วยรอบรถบัสไม่ค่อยเยอะ หนาวววว ค่าเสียหายเอาเรื่องอยู่ครับ ต่อขา ประมาณ 3000 เยน ฮ่าๆ จุกๆกันไป อีแทกซี่ก็ถามว่าคุณจะไปทำไม มันไม่มีอะไรนะ หนาวมาก อันตรายด้วย ทำไมมาคนเดียว 55

คือแบบก็กุจะไปค่ะลุง ไปส่งเถอะ ให้มันรู้แล้วจะได้กลับๆ ฮ่าๆ



มาถึงก็จะพบกับฝูงเป็ด ฝูงหงส์กันประมาณนี้ครับ เยอะไหมละ



ท่าเรือเอาไว้ล่องเรือชมทะเลสาปได้ช่วงที่ไม่หนาวแบบนี้



วันที่ผมไปรอบตัวผมไม่มีคนอื่นเลยครับ เพราะมันหนาวมาก แล้วก็ผมอยู่ตรงนั้นแค่ 10 นาที ฮ่าๆ



ท่าเรือไร้ซึ่งผู้คน เหงาๆ คนเดียวๆ เปลี่ยวๆ



ขาวโพลนนนนนนของจริง เสียดายหิมะตกหนัก งั้นคงได้เห็นภูเขาบันได ด้านหลังแล้ว ^^



เดินไปใกล้ๆ มันก็ไม่หนีไปไหนนะ ได้บรรยากาศมาก โคตรคูล

เป็นไงกันบ้างกับ 3 สถานที่ที่เรามาแนะนำ
ใครมีโอกาสไป Fukushima
บอกเลยว่าควรไป Aizu Wakamatsu นะครับ
แล้วคุณจะตกหลุมรัก ^__^



ส่วนบรรยากาศของเมืองและเส้นทางการเดินทางเป็นยังไง วันนี้เลยเอารูปมาฝากไว้ให้ไปฟินๆ กันต่อนะครับ



พบกับพวกเราได้ที่เพจ Facebook https://www.facebook.com/getoutTH/
ฝาก Like เพจด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ หวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเยือน Fukushima อีกครั้ง
ฝากรีวิวของพวกเรา Getout Thailand ที่ผ่านมาด้วยนะครับ บาย บายยยยยยย

Getout Thailand

 วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.37 น.

ความคิดเห็น