ความทรงจำ ณ ดอยหลวงเชียงดาว มีความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้นที่ "ดอยหลวงเชียงดาว" จนทำให้เราต้องอยากกลับไปอีก

วิธีจองwww.chiangdao-wildlife.com ครั้งนี้จองไม่ทันรอบที่เพื่อนไป เลยจอง 2 คน เฉลี่ยคนละ 1,538 บาท ขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ลงวันที่ 1 มกราคม 2562 มีค่ามัดจำขยะ 500 บาท(ได้คืนเมื่อนำขยะลงมาด้วย) ราคานี้ไม่ร่วมค่าลูกหาบ ลูกหาบ 500บาท/วัน (หาบได้ 20 กิโลกรัม)

เวลาเปิด-ปิด ดอยหลวงเชียงดาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เดือนมีนาคม ของทุกปี แต่ทุกวันพุธจะไม่ให้ขึ้นไปหรืออาจขึ้นได้แต่เป็นวันเดย์ทริป เพราะจะให้สัตว์ได้ลงมาหากินบ้าง แต่ละวันกำหนดให้ขึ้นไม่เกิน 150 คน/วัน

ดอยเชียงดาว หรือ ดอยหลวงเชียงดาว เป็นดอยหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขต อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชื่อในสมัยก่อนเรียกว่า "ดอยอ่างสลุง" ชื่อกันตามตำนานพื้นเมืองว่าเป็นสถานที่ที่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จมาพร้อมพระอรหันต์ 8 รูป ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุง จึงเรียกดอยแห่งนี้ว่า "ดอยหลวง" เนื่องจากเป็นดอยที่มีขนาดสูงใหญ่ ("หลวง" ในภาษาเหนือหมายถึง "ใหญ่" ) เพี้ยนเป็น "ดอยหลวงเพียงดาว" จนกลายมาเป็น "ดอยหลวงเชียงดาว" หรือ "ดอยเชียงดาว" ในปัจจุบัน

เราและเพื่อนๆ 5 คนได้มาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว 07.30 น. เพื่อรอลงทะเบียนและเตรียมของไว้ให้ลูกหาบ 08.00 น. เริ่มลงทะเบียนแล้วเข้าไปอบรมฟังกฎระเบียบต่างๆเนื่องจากที่นี้ไม่ใช้อุทยาน เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเลยมีกฎระเบียบเยอะ ต้องทำความเข้าใจกันเพื่อที่จะไม่ทำลายธรรมชาติและรบกวนสัตว์ป่า

ก่อนเข้าไปฟังเราก็ไปลงทะเบียนรับกระเป๋า ในกระเป๋าจะมีถุงไว้ฉี่ และมีถุงดำอีก 4 ใบไว้ใส่อุจจาระ อาจจะลำบากหน่อยสำหรับผู้หญิงแต่เชื่อเหอะใครที่ตัดสินใจมาขึ้นดอยหลวงเชียงดาวต้องรับได้แน่ๆ55+

ออกจากห้องอบรมเราและเพื่อนๆเตรียมของชั่งน้ำหนักของที่จะขึ้นไป กรุ๊ปเรา 5 คน ใช้ลูกหาบ 2 คนๆละ 20 กิโลกรัม ช่วงที่เตรียมของก็มีเจ้าหน้าทีมาคุยและช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ รีบเตรียมให้เสร็จรีบออกเดินทางเนื่องจากเราต้องนั่งรถต่อไปอีก 1- 1.30 ชั่วโมง และอีกอย่างเรามีเพื่อนที่รออยู่บนดอยหลวงเชียงดาวอีก 5 คน ตอนนี้ทุกคนส่งไลน์มาบอกน้ำขาด555+จะสงสารเพื่อนดีไหม

นี่ไงพี่โจ้คนที่จะนำทางเราพาขึ้นไปบนดอยหลวงเชียงดาว พร้อมลุยเลยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รถเราซิ่งมากมากใช้เวลาแค่ 30 นาที ถึงป้อมทางที่จะไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เอาเอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้มาไปยื่นเพื่อที่จะแสดงตัวในการขึ้นครั้งนี้ ลุงข้างหลังเราไงที่ใส่เสื้อเหลือเป็นพลขับให้ทีมเราจ๊วดๆเลยลุง55+

ประทับใจแต่หน้าป้อมยามเลยพี่เขาคุยดียิ้มแย้มและบอกเดินทางปลอดภัยกันทุกคนนะครับ ยิ้มเลยเรา

หลังจากเอกสารยื่นเรียบร้อยลุงพาเราซิ่งต่อยาวไปเลยลุงจ๊วดๆๆๆๆๆๆๆ

ในที่สุดเรามาถึงจุดที่จะเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาวแล้วจ้า จากป้อมมาถึงทางขึ้นใช้เวลาเกือบ 40 นาที แต่บอกเลยโคดมัน55+ กรุ๊ปเรามี 5 คน พร้อมเดินโดยเราคุยกันว่าจะเดินแค่ 4 ชั่วโมงกันห้ามเกินนี้ เดียวสุท้ายมาเฉลยว่าเราเดินกี่ชั่วโมงกัน ก่อนเดินเรามีเติมพลังด้วยกล้วยหอม ขอบคุณลูกหาบนะคะที่แบ่งกล้วยหอมให้(ประทับใจอีกแล้ว)

ทำไมเรายิ่งเดินไปยิ่งขนลุกไม่ใช่หนาวนะคือนี้เหรอประเทศไทย ยังมีอะไรให้เราดูอีกเยอะ ภาพที่มองเห็นทุกอย่างสมบูรณ์มากๆและช่วงที่เดินได้ยินเสียงนกร้อง สัตว์ต่างๆร้องคือธรรมชาติสุดๆคือใครที่ชอบศึกษาธรรมชาติอยากให้ไปเลยละสักครั้งในชีวิตสุดจริง

เดินไปสักพักฟ้าเปิดเรามองไปเห็นภูเขาเรียงกันสวยงามมากๆ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าเขาเรียกยอดดอยสามพี่น้อง และเขาลูกข้างๆกันจะมีโพรง เขาเรียกว่าโพรงแมงมุม

ช่วงที่เดินอากาศดีมากๆคิดเหมือนตัวเองอยู่ในป่าดงดิบเพราะความรู้สึกที่ก้าวเข้าไปเหมือนมีอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นและอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยไปได้ไปสัมผัสกันนะ

ยิ่งเดินระยะทางไกลเท่าไรยิ่งเห็นความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงอยู่กับประเทศเรา "ฉันรักประทศไทย"

เย้ๆในที่สุดเราก็มาถึงแล้วที่ให้กางเต้นนอนคืนนี้ ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 30 นาที เป๊ะ เราทำได้แล้วเย้ๆๆๆ55+ดีใจเวอร์ หลังจากที่พักผ่อนได้สักพักได้ชวนเพื่อนๆขึ้นไปดูประอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาว แต่ขอเปลี่ยนชุดหน่อยนะจ้า อยากสวยๆบนดอยสวยๆจ้า55+ รู้ไหมห้องน้ำที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้น่าเข้าสุดๆ

ระยะทางที่เดินไปจุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาว ประมาณ 1.2 กิโลเมตร ทางเดินจะลำบากนิดๆเพราะมีหินแล้วเวลาเดินแอบลื่นนิดๆ ช่วงที่เดิน 2 ข้างทางเดินมีดอกไม้สวยงาม และต้นไม้ที่เขียวขจีสุดๆๆ

พอมาถึงจุดชมวิวอ้าวเพื่อนเราอยู่ข้างบ่นแล้วนางบ่นๆกันว่าหิว55+ นางบอกมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่ 10 โมงเช้าแล้ว จนจะดูพระอาทิตย์ตกแทนแล้ว เพราะฟ้าไม่ค่อยเปิด

นี้ไงกรุ๊ปเรา หากันจนเจอฉากขาวๆไม่ได้ถ่ายที่บ้านนะ ถ่ายที่จุดชมวิวค่ะ รีวิวเราจะต่างกับคนอื่นหน่อยนะเจอแต่ฉากขาวๆส่วนใหญ่55+

แต่รอไปรอมาก็มีแสงพระอาทิตย์นะจ้า ทุกคนต้องทำเวลาในการถ่ายช้าแค่วิเดียวฟ้าเปลี่ยนเลยจ้า55+

จะร้องให้ไม่ทันช๊อตเด็ด55+

อายคนไม่มีคู่ก็เหงาต่อไปนะจ้า55+ ดูแต่ละคนรีบเปลี่ยนกันถ่ายเพราะแสงสุดท้ายของปี 2561 กำลังจะผ่านเราไป

หลบเราหน่อยคู่เราจะถ่ายแล้วนะ55+ทุกคนต่างมองชุดเราแล้วถามเราไม่หนาวเหรอ อยากบอกหนาวนะแต่อดทนเพราะอยากสวย55+

อ้าวมาคู่นี้ได้ไง เลิกคบกับเพื่อนคนนี้จะทันไหม55+ เจ้าของเพจเสพติดเหา อ้าวไม่ไช่ เสพติดเห็บ โอ้ย #เสพติดเขา ตัวติดกันเจอกันเยอะกว่าแฟนอีก55+

ได้รูปภาสมใจละกลับได้บอกแล้วรีวิวนี้เราจะรีวิวต่างจากคนอื่นเพราะเรามีฉากสีขาวมากกว่าสีฟ้าและมีแสงผ่าน55+

ลงมาเตรียมอาหารเย็นกันคืนนี้เรามีปาร์ตี้จับของขวัญกันนะแต่ห้ามเสียงดังเกิน 3 ทุ่มนะจ้า

บอกเลยมื้อนี้อร่อยมากๆยิ่งก๋วยเตี๋ยวนะใครได้ลองแล้วจะถามหา55+ ทำไมเค็มจัง!! 55+ และทีเด็ดเลยทริปนี้เรามีตำไทยด้วยนี้เด็ดจริงอร่อยมากๆๆ ตำไทยใส่หมูยอ และอีกเมนูทีเด็ดหมูมะนาวจ๊า

จะถึงเวลาจับของขวัญแล้วนะ55+บอกเลยโคดเก็บกดเลยตอนลุ้นว่าของใครได้อยากจะหัวเหราะดังๆก็ไม่ได้เพราะเริ่มจะงดใช้เสียงแล้วโอ๊ยๆเก็บกดโว้ย55+ ให้ภาเล่าเรื่องดีกว่า

สนุกสุดๆอยากลงจากเขาแล้วมากรี๊ดดังๆๆโอ้ยทำไมเวลาเดินเร็วจังพอ 3 ทุ่มแล้วทุกคนต้องแยกย้ายไปนอนเคาท์ดาวน์เต็นท์ใครเต็นท์มันจ๊า พรุ่งนี้ ตี 5 ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน คืนนี้ฝันดีจ๊า

อายแสงแรงวันปีใหม่ 1 มกราคม 2562 นี้ไง (ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ๋วลมเหนือ)

สุดยอดเปล่าละเอ้ามีอีก

กอดขอเศร้าแสงแรกของเรา555+(บอกแล้วรีวิวที่คนอื่นไม่เคยเห็นกัน)

ทุกคนต่างรอจนถึง 07.00 น. พระอาทิตย์ก็ยังไม่มา โอเครู้เลยเราบอกตัวเองจะกลับมาใหม่นะ ป๊ะลงไปเก็บของกลับกัน

ลงถึงเก็บสิ่งของ 09.00 น. ทุกคนต้องเริ่มเดินลงจากดอยหลวงเชียงดาวแล้วบ๊ายๆล่าก่อนนะจ๊าเดียวเจอกันใหม่กลับไปอีกแน่นอน เราใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงจุดที่เริ่มเดิน

ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาที่รักษาธรรมชาติให้เราได้เห็นและได้สัมผัส

เดินทางกลับมาจุดที่เราลงทะเบียนเอาขยะลงมาคืนเพื่อรับเงิน 500 บาท เอาจริงๆถึงจะไม่ได้เงินเราก็ต้องเอาลงมาด้วยถ้าไม่อยากให้ธรรมชาติถูกทำลายเพราะมือเรานะ

สุดท้าย "ฉันก็รักเขา" เหมือนเดิม ฉันหลงไหลในความสวยงามของ "ดอยหลวงเชียงดาว" จนฉันอยากกลับไปอีก ประทับใจตั้งแต่เจ้าหน้าที คนนำทาง ลูกหาบ เพื่อนร่วมทริป คือขอบคุณจริงๆที่โลกเหวี่ยงมาให้เจอในทุกๆอย่างของทริปนี้และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแล "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว" ใหดูแลและรักษาธรรมชาติให้เราศึกษาต่อไปนะคะ

ขอบคุณภาพจาก

1. Mint #เสพติดเขา

2. Gigs #สวัสดีคนหนีเที่ยว

3. Pai #คู่เที่ยวIndy

4. แฟง พ่อครัวประจำทริป

5. พี่เอกสุดหล่อ

6. แสนหนุ่มน้อยหน้าตาดี

7. ท๊อปเถื่อน

ค่าใช้จ่ายตลอดทริป

1. ค่าน้ำมันรถยนต์ ไป-กลับ บางนา-ดอยหลวงเชียงดาว 600 บาท

2. ค่าอาหาร ค่าลูกหาบ 743 บาท/คน (ทริปนี้มี 10 คน)

3. ค่าจองครั้งแรก 1,538 บาท ลบค่าขยะ 500 บาท 1,538-500 = 1,038

รวมทั้งทริป 2,381 บาท