วันนี้มีโอกาสได้มาลิ้มรสอาหารมื้อกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ โดยเชฟฝีมือเยี่ยมของห้องอาหารเดอะ อาว์รกลาส (The Hourglass) ชั้น บี 1 โรงแรม เอทัส ลุมพินี ที่รังสรรค์อาหารมากมายให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น ประเภท ซุชิ อาหารอิตาเลี่ยน มุมซีฟู๊ดสด ๆ ให้ได้ทานกันทุกวัน
เนื่องจากเรามาค่อนข้างสายแล้ว เลยทำให้เหลือลูกค้าในห้องอาหารน้อยโต๊ะ แต่อย่าได้ตกใจไปค่ะ อาหารยังอยู่ครบถ้วน บริบูรณ์ ไปดูบรรยากาศกันก่อนค่ะ
บรรยากาศภายในห้องอาหาร เดอะ อาว์รกลาส (The Hourglass)
ถึงแล้วค่ะไลน์อาหารบุฟเฟต์ ไลน์อาหารบุฟเฟต์ของที่นี่ จัดเป็นรูปตัวยู โดยจะมีอาหารหลากหลาย จัดวางไว้เป็นหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารหลัก จะอยู่ด้านขวา หากเราหันหน้าเข้าไลน์อาหาร ตามมาด้วยอาหารจีน อาทิ ขนมจีบ ซาลาเปา ก็อยู่ด้านเดียวกัน
ตรงหน้าของเรา หรือก้นตัวยู ถูกแบ่งเป็นสองชั้น ด้านใน และด้านนอก ด้านในจะเป็นอาหารประเภทปิ้งย่าง บาบีคิว อาหารญี่ปุ่น และอาหารจานเดียว อย่างวันที่เรามานี่เป็นราดหน้าทะเล ที่ทะเล๊ ทะเล หอย หมึก กุ้ง อุดมสมบูรณ์ทะเลไทยมาก
ส่วนที่เป็นบาบีคิว ก็สารพัดบาบีคิว เสิร์ฟกับซอสหลากรส มีทั้งที่เสียบไม้ย่าง และย่างเป็นชิ้น ๆ ทั้งอาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา หรือจะเป็นประเภทเนื้อแดง อย่างเนื้อวัว และเนื้อหมู ก็มีให้เลือกตามใจชอบ
ถัดมาก็จะเป็นซูชิบาร์ ณ จุดนี้ จะมีเชฟทำให้กินกันสด ๆ จัดวางไว้ให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นซูชิหน้าปลามากุโร่ ซูชิหน้าปลาแซลมอน ข้าวห่อสาหร่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะจะเป็นหน้าอโวคาโด้ ไข่กุ้ง หรืออื่น ๆ อีกมากมาย อ้อ ปูอัดไม่เอาข้าวก็ได้นะคะ
ซูชิ และข้าวห่อสาหร่ายหน้าต่าง ๆ
ข้าวปั้นก็มีค่ะ น่ากินทีเดียว
ชั้นถัดมาจากชั้นใน ก็จะเป็นอาหารประเภทแฮม และไส้กรอก ที่ทานกับชีสประเภทต่าง ๆ และอาหารทะเลหลากหลาย ทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ๆ กุ้งสด ๆ และปูทะเลนึ่งที่แกะมาแล้วในระดับหนึ่งเหลือไว้ให้เราสนุกกับการกินในการแกะอีกไม่ยากเท่าไรนัก ขอบอกเลยว่าติดใจน้ำจิ้มซีฟู้ดของที่นี่เป็นอย่างมาก แต่ถึงอยากนั้นก็ลืมน้ำจิ้มประเภทอื่น ๆ ไม่ลงเหมือนกัน
กระจาดกุ้งหอย
กระจาดปู วางเลม่อนเพื่อตกแต่ง และแก้คาว
ถัดออกไปด้านหลังของเคาเตอร์อาหารทะเล จะเป็นเครื่องดื่มหลากหลาย เลือกกันจนตาลาย กินกันจนเบาหวานขึ้นตา ยังกินกันไม่หมด
วกกลับมาที่ปีกด้านขวาตัวยู ด้านอาหารไทย มีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อย่างยำมะม่วงกุ้งสด พล่าหมูย่าง จัดวางในจานเล็ก ๆ พอดีคำ
พล่าหมูย่าง
ยำมะม่วงกุ้งสด
อาหารไทยประเภทแกง ผัด และข้าวผัดที่ข้าวคั่วกะทะมาเป็นเม็ด ๆ กลิ่นหอมฉุย
ไก่อบซอสไวน์แดง
อาหารฝรั่งก็มีหลากหลายไม่แพ้กันนะคะ ตั้งแต่ ไก่อบซอสไวน์แดง หมูอบพริกไทยดำ และ ไก่อบผงกระหรี่และเครื่องเทศแบบอินเดีย หอม ๆ ฟุ้ง ๆ
หมูอบพริกไทยดำ
ไก่อบผงกระหรี่และเครื่องเทศแบบอินเดีย
คราวนี้มาดูปีกซ้ายกันบ้าง ปีกด้านนี้เป็นของหวาน ซึ่งก็มีความหลากหลายไม่แพ้ของคาว อาทิ ฟองดูร์ช๊อกโกแลต เครปส้ม เค็กและเบอรเกอร์รี่ต่าง ๆ ขนมไทย และน้ำแข็งไส เรียกว่าเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว
ขนมไทย ลูกชุบและวุ้น
เค็กและเบอร์เกอร์รี่ต่าง ๆ
เอาหละค่ะดูกันจนครบถ้วนกระบวนความแล้ว คราวนี้มาทานกันเถอะค่ะ ว่าไปแลวห้องอาหาร เดอะ อาวร์กลาสนี้ก็ถือว่าใหญ่นะคะ แต่ก็ไม่ได้จัดโต๊ะจนแออัด ดูโปร่งโล่งสบาย เหมาะกับการชักชวนเพื่อนฝูงมาหาที่กิน หาที่เมาท์ หรือชวนคนที่บ้านมาฉลองได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะโอกาสอยากจะกิน ก็เหมาะเหม็งไม่แพ้กัน มาค่ะมาดูกันว่ากินอะไรกันบ้างวันนี้
เมนูนี้ขาดไม่ได้ สปาเกตตี้คาโบนาร่า เข้มข้น หวานมัน
ไปยืนจ้องมานานละ เอามาลองชิมซักหน่อย
กุ้งย่างซอสมะนาว
หมูสะเต๊ะ และเนื้อสะเต๊ะ อร่อยบอกเลย เคี้ยวหนุบ ๆ มัน ๆ
หมี่กรอบราดหน้าทะเล
จานนี้เด็ด อย่างกับขึ้นเหลา เส้นกรอบ เคี้ยวดัง กุ้งตัวโต ๆ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ยอดคะน้า เห็ดหอม กับน้ำราดหน้ารสชาติเข้มข้น อยากกินจานที่สอง แต่กลัวกินอย่างอื่นอีกไม่ได้ เอาไว้ก่อน เดี๋ยวย้อนมาเบิ้ล
หมูอบโรสแมรี่ สุกกำลังดี ซอสไวน์แดงชุ่ม ๆ กินกับข้าวโพดปิ้ง มะเขือเทศปิ้ง แก้เลี่ยนอร่อย
เอาซุปมาซดร้อน ๆ กับต้มยำอกไก่ อกไก่หั่นเต๋าขนาดใหญ่พอดีคำ เครื่องต้มยำสด ๆ กินแล้วสดชื่น
พลาหมูย่าง จานนี้หวานไปหน่อย แต่ได้ตะไคร้ซอยมาช่วยขับรส กลิ่นรสของหมูย่างหวานมันเข้ากันกับเครื่องแกง
จานนี้ประทับใจอาหารทะเลสด ๆ ได้น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เลยเดินหลายรอบหน่อยวันนี้
จบอาหารคาว ก็มาอาหารหวานกันบ้าง พยายามจะกินทุกอย่างที่เขามีให้กิน ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบซาลาเปา เค็กส้ม ขนมไทย เค็กส้มหวานหอมนุ่มลิ้น กินกับชาร้อนที่เสิร์ฟมาพร้อมกับบุฟเฟต์ยิ่งขับรสหวานซ้อนเปรี้ยวได้อย่างดี
ส่วนพวกเค็กนี่ไม่ต้องพูดถึง ถึงเครื่อง หวานมัน แต่ไม่หวานจัด ได้ชามาด้วย ยิ่งชอบใจใหญ่
เราเลือกไอศครีมซอเบย์สตอร์เบอร์รี่มากินกับแครปส้มสด ได้รสชาติเปรี้ยวจี๊ด สดชื่น แก้เลี่ยน ยิ่งได้ท๊อปปิ้งมาเคี้ยวกรุบ ๆ สนุกปาก เรียกว่าเพลินกันจนหมดเวลากินเลยทีเดียว
สนนราคาบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน ราคา 650 บาท++ /ท่าน ถือว่าไม่แพงสำหรับอาหารคุณภาพดีหลากหลายแบบนี้ นอกจากนั้นในทุก ๆ 3 เดือนเชฟจะรังสรรเมนูสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือก เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการอาหารนอกเหนือจากในบุฟเฟต์อีกด้วย
สายลม ที่ผ่านมา
วันพฤหัสที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 18.41 น.