6.30น. สนามบินดอนเมือง

มาพร้อมอาการท้องเสียเบาๆจากมื้อเที่ยงเมื่อวานที่ชิมส้มตำหลังโรงงานไป1ช้อน

เกือบจะได้ควักคาร์อาบอนที่เตรียมไว้สำหรับทริปนี้ออกมาแล้ว ทำให้กินอะไรไม่ลงเลย กลัวจะจู๊ดๆหน้างาน เช็คอินเรียบร้อยดันเปลี่ยนเวลาบอร์ดดิ้งอีก จาก7.35น.เป็น 6.30 เลยรีบเข้าเกทไปก่อน สรุปคือไร มารอบัสจ้า เป็นบัสเกท รอ3คันได้ขึ้นคันที่4 (คันสุดท้ายของลำเลย) ระหว่างรอขึ้นบันได พนง.ก็น่ารักมาก บอกวให้ถ่ายรูปกับเครื่องบินรอได้เลย เอาน่ะ นานๆทีได้บัสเกทนะ จัดไป (ถ่ายรูปออกมาหางขาดไปอีก)

แค่1ชม.ครึ่งก็มาถึงท่าอากาศยานแห่งชาติ เตินเซินเญิิ๊ต (ฟังกัปตันพูดยังออกเสียงยากไปอีก) นาฬิกาไม่ต้องเซทใหม่เวลาเท่ากทม. อากาศครึ้มๆ 25องศา มีความเย็นนิดๆ ไม่ต้องกรอกใบตม. พุ่งเข้าช่องไปได้เลย(แต่ต้องเก็บหางตั๋วไว้ด้วยนะ) ตม.ที่นี่ก็ยังดูเด็กๆอยู่เลย ปั๊มๆไปไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ ใช้เวลาประมาณ20นาที (ไม่มีกระเป๋าโหลด) ก็ออกมาโลดแล่นได้เลยจ้า ออกมาแล้วมองซ้าย จะมีบูทขายซิมนานายี่ห้อให้เลือสรร เราเลือกVinaphoneสีฟ้าเค้าเตอร์ริมสุดตามที่หาข้อมูลมา เล่นเน็ทอย่างเดียว5G 7วัน
ราคา 105,000ด่อง (152บาท) เสียบซิม รีสตาร์ทเครื่องSMSเข้าใช้ได้ทันที รวดเร็วมาก
*เงินด่องเป็นเงินไทยใช้สูตร หารด้วย 694 จะได้เรทsuper rich
ซื้อซิมแล้วactivateเสร็จเดินออกมา หืมมมม มีความรู้สึกเหมือนดารามีคนชูป้ายไฟต้อนรับเพียบ เดินฝ่าแฟนคลับไปทางขวาค่ะ มองหาเบอร์เกอร์คิง ท่ารถเมล์อยู่ตรงนั้นจ้า มีสาย 152 ไม่มีแอร์ (5,000ด่อง=8บาท) กับ 109 เป็นแอร์พอร์ทบัสมีแอร์ (20,000ด่อง=30บาท) เลือกที่มีแอร์ซิคะจะรออะไร พี่คนขับ+คนขายตั๋วพุ่งมาเลยจ้า พูดดีมากช่วยดูว่าเราต้องลงป้ายไหนแล้วเค้าจะเรียกยกกระเป๋าขึ้นไปวางให้เสร็จ เดินตัวปลิวขึ้นรถไปสวยๆ

สภาพรถก็สะอาดดี ประมาณรถ ปอพ.บ้านเราสมัยก่อน อย่าลืมเก็บตั๋วไว้ด้วยนะ เพราะพอรถออกไปซักพักจะมีพนง.มางับตั๋วเราด้วยจ้า การจราจรที่นี่ติดขัดอยู่พอกับบ้านเราเลย น่าจะเป็นเพราะถนนแคบ+แยกเยอะด้วย แต่ไม่ค่อยมีไฟแดงนะ ใช้วัดใจเอาซะส่วนใหญ่ ทั้งคนข้าม คนขับ ไหนจะมอ'ไซที่ร่ำลือกัน เอาวะประกันการเดินทางก็ไม่ได้ทำมา แถมปีชงไปอีก ทริปวัดดวงที่แท้

ใช้เวลาประมาณ 2ชม.กว่าก็มาลงแถวตลาดเบนถั่น เดินลากกระเป๋ายาวมาจ้า ลงเลยไป1ป้ายรถเมล์เดินย้อนไปอีก ฟุทบาทแถวตลาดจัดว่าแย่ ไหนจะร้านรวงตั้งขายของ แถมเป็นที่จอดมอ'ไซไปอีก (ที่นี่ตึกส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวไม่มีที่จอดรถ ใช้จอดบทฟุทบาทแทน) แนะนำกระเป๋าลากแบบแถมจากบัตรเครดิตค่ะ ลากอย่างไม่ต้องกลัวพัง


ป้ายที่ลง สรุปเดินไกล+ข้ามถนนหลายขยัก ถ้าลงป้ายตลาดจะเดินง่ายกว่าจ้า

เข้าโรงแรม 11 โมงยังเช็คอินไม่ได้ห้องยังมีคนอยู่ก็เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน ออกมาร้านบุ๋นที่หาข้อมูลไว้หันหน้าออกเดินจากหน้าโรงแรมมาทางขวามือ แยกแรก(มีร้านของชำอยู่ตรงหัวมุม)เลี้ยวขวาข้ามถนนเจอเลยจ้า คุณป้าเสื้อฟ้านั่นไง

ร้านอยู่หัวมุมถนนพอดี(เปิดเฉพาะช่วงกลางวันกลางคืนปิด) บุ๋นของเค้า บ้านเราคือก๋วยจั๊บญวณนี่แหละ แต่เส้นไม่เหมือนกันที่นี่ออกเป็นขนมจีนเลย ไม่เป็นใสๆหนึบๆน้ำก็ใสบ้านเราน้ำจะขุ่นๆแป้งๆ นี่น้ำใสแบบก๋วยเตี๋ยว ท๊อปปิ้งสารพัดหมูยอ ลูกชิ้นหมู+กุ้ง แถมกระดูกหมูอีก1ชิ้น กินกับผักสดเป็นหัวปลีฝอย ถั่วงอกผักบุ้งฝอย พวงเครื่องปรุงมีเกลือ น้ำปลา พริกหั่น พริกไทยดำทุบ ขนาดมีชามใหญ่-ชามเล็ก(เราสั่งชามเล็กราคาประมาณ75บาทไทย) สั่งเสร็จหน้าร้าน(ใช้จิ้มๆเอา) เจ้ก็พาไปนั่งโต๊ะแชร์ (ที่เรียกโต๊ะแชร์ เพราะทั้งร้านมี 3โต๊ะ) ไปนั่งแชร์กับอาเฮียญี่ปุ่นคนนึง

ซดน้ำไปแบบไม่ปรุง....หื้มมมมม หวานน้ำต้มกระดูกกกกกก (เหรอออออ) อร่อยจริงนะ ต้องไปโดนจริงๆ

รู้แหละว่าใส่ผงชูรสเยอะอยู่เพราะกินแล้วหิวน้ำแต่มันดีย์จริงๆ ซดน้ำซุปหมดชามเลย

กินเสร็จเดินออกมาหน้าร้าน เจอมอ'ไซค์ในตำนานจ้า มอ'ไซขายกาแฟเวียดนามที่แท้ต้องกินกาแฟจากมอ'ไซ แต่พอดีเป็นคนไม่กินกาแฟ ขอเก็บภาพประทับใจก็พอ

จริงๆก็มีน้ำอย่างอื่นด้วยนะ เหมือนรถขายกาแฟบ้านเรา เดินออกจากร้านมาทางซ้าย(มาทางตลาดเบนถั่น)ก็จะเจอร้านขายทองอยู่ 2 หัวมุม เป็นร้านแลกเงิน เรทดีกว่าsuper richนะ (และไม่มีค่าธรรมเนียม ถ้าแลกที่สนามบินจะมีค่าธรรมเนียม) เราแลกร้านซ้ายมือ

วิธีการคือเตรียมเงินสกุลที่จะแลกไป รอบแรกเราแลก 50USD ใชเแบ๊งค์100USDแลก คุณพี่ในตู้ก็จะกดเครื่องคิดเลขให้เราดูเรทก่อน ถ้าOKก็แลกเลย จะมีสลิปเล็กๆมาให้
(พอกลับจากรร.มาคำนวณแล้วค่อนข้างขาดทุนกับการแลกบาท->USD->ด่อง)

แลกเงินเสร็จก็เดินจากตลาดไปโบสถ์นอร์เธอดาม ประมาณโลกว่าๆ จนเพื่อนถามว่านี่ทริปกินรึทริปเดิน แต่ตลอด2ข้างทางก็มีอะไรให้มองตลอด....มอ'ไซไงคะ สวนเลนกันซ้ายขวา มอซ้าย-มองขวาแล้วก็ต้องมองซ้ายอีกที วิธีการเดินคือเดินๆๆไปค่ะอย่าหยุด พี่เค้าจะหลบเราเอง ส่วนไฟเขียว-ไฟแดงนั้น ไม่มีผลใดๆอย่าไว้ใจ

ข้างทางก็มีของให้ลองชิมไปเรื่อย ถอยมา1อันราคา 7,000ด่อง (10บาท) ตอนถามราคาพี่คนขายควักแบ๊งค์มาโชว์ให้ดู ฟีลประมาณขนมเบื้องแบบนิ่ม

แป้งเป็นเหมือนข้าวเกรียบว่าวแบบนิ่ม ไส้เป็นแป้งแบบขนมตาลที่บิเป็นฝอยๆรสใบเตยมีมะพร้าวขูดกินร้อนๆ หวานๆนิ่มๆก็โออยู่

เดินตรงมามองขวาจะเจอsaigon squareหรือลานที่มีอนุเสาวรีย์ลุง Ho Chi Minh ยืนโบกมือทักทายนั่นแล เลี้ยวซ้ายไปนิดนึงจะเจอโบสถ์ ข้างๆโบสถ์คือไปรษณีย์ แค่5นาทีก็เช็คอินไปแล้ว3จุดสวยๆ แต่ณจุดนี้เดินเข้ามินิมาร์ทก่อนคะ หิวน้ำโฮก ผลจากผงชูในน้ำก๋วยเตี๋ยวที่กินไป มินิมาร์ทที่นี่มีความแข่งขันกันสูงอยู่ มีทั้ง7-11, K-mart ,Mini stop ของนำเข้า80%เลย ขนมญี่ปุ่น เกาหลี ไทย มีขายหมดราคาพอกับบ้านเรา ขนาดน้ำเปล่ารสชานมที่ฮิตๆกันก็ยังมี ออกมาจากมินิมาร์ทก็เข้าไปรษณีย์ก่อน ผู้คนนับล้านมาก สาวๆใส่ชุดอ๋าวหญ่ายรัดรูปอวดเอวเอสมาถ่ายรูปกันเป็นทีม ดูน่ารัก

โซนนี้ก็จะมีสามล้อลาก น้ำมะพร้าวหาบขาย มอ'ไซ และ แท็กซี่ตามที่อ่านในรีวิวมาเชิญชวน ทักทายเราต่างๆถ้าปฎิเสธไปเค้าก็ไม่อะไรนะ ไม่ได้ตื๊อรึทำท่าทางไม่ดีคือถ้าปฎิเสธไปอย่างสุภาพเค้าก็เข้าใจแหละ

เดินออกจากไปรษณีย์มาทางขวาก็จะเป็นถนนหนังสือ ร้านน่ารักๆเยอะ หนังสือก็ดี หนังสือเด็กเยอะมากแต่อ่านไม่ออกภาษาเวียดนามล้วนจ้า เดินชมอย่างเดียว มีของที่ระลึกขายด้วยพวกงานแฮนด์เมด ราคาสูงกว่าในตลาดนิดนึงแต่ก็ไม่ได้แพงมากเวอร์ ถ้าอยากได้ของฝากแบบเก๋ๆ สมุดจด ถุงย่าม ปฏิทิน(ช่วงที่ไปเป็นตรุษจีนพอดี) มาสอยกันที่นี่ได้ไม่ซ้ำใครแน่นอน

มีความเอาหนังสือมาจัดเรียงเป็นตลาดเบนถั่นไปอีก ตรงนี้ก็มีร้านนั่ง ร้านกาแฟอยู่สองสามร้าน

แต่ไม่นั่งค่ะ เหม็นบุหรี่แรง คนที่นี่สูบบุหรี่กันทั้งญ-ช คนแก่-คนหนุ่ม พอกะเมืองจีน สูบทุกที่ทิ้งทุกที่ด๊อนท์แคร์ใดๆ

ฝั่งตรงข้ามเป็นด้านข้างโบสถ์นอเธอดาม เป็นแหล่งชุมนุมรถรับจ้างเดย์ทัวร์ต่างๆ ถ้าไม่สนใจก็บอกไปโนวๆๆเค้าก็ไปเองค่ะ

แล้วก็เดินย้อนมาทางหน้าโบสถ์ เซ็งนิดนึงโบสถ์ปิดปรับปรุงจ้า เข้าไม่ได้ น่าจะปิดยาวเลย ถ่ายรูปข้างนอกก็ได้ จุดนี้มีคุณลุงช่างภาพมาถ่ายแบบเก็บเงินด้วยนะสำหรับคนที่อยากได้รูปแบบมือโปร

มุมมหาชน

เช็คพ้อยเสร็จก็จะไปคาเฟ่แรกกัน Propagandaสุตฮิตของสายฝ. ถ้าหันหน้าเข้าพระแม่มารีคือเดินมาทางซ้ายค่ะแล้วเดินขึ้นไปทางโบสถ์ ถ้าเดินผิดทางจะเจอMK ฟังไม่ผิดหรอก MKสุกี้บ้านเรานี่แหละ มาเปิดสาขาที่นี่ เดินขึ้นไปเลี้ยวซ้าย จะมีสวนสาธารณะอยู่ขวามือ ร้านPropagandaจะอยู่ทางซ้าย


ไปถึงโต๊ะเต็ม ต้องนั่งร้านข้างๆ(เป็นร้านลูก)ชื่อร้าน Cafe Au Parc แต่มีขายแค่อาหารเบาๆ ขนม แล้วก็เครื่องดื่มนะ

แอบมองทะลุกำแพงไป

อีกอย่างนึง ตามร้านกาแฟคนที่นี่นั่งแช่มาก นั่งทั้งวันสั่งน้ำแก้วเดียว เพราะงั้นร้านไหนฮิตๆคือต้องทำใจเลยว่ารอนานแต่ไม่เป็นไรเรามาเก็บRCเพราะมีร้านอื่นให้ไปต่ออีกจ้า

ราคาแรงนะจ๊ะที่นี่ นึกว่าอยู่กทม.NY cheese cake ชิ้นเป็นร้อย(บาท) น้ำผลไม้ประมาณ80บาท

แต่น้ำผลไม้ที่นี่คือดีย์ ไม่ใส่น้ำเชื่อม ผสมผลไม้มาได้แบบลงตัวมาก อันนี้เป็นแครอท+ขิง+ส้มมั๊งไม่แน่ใจอร่อยสดชื่นมั่กๆ พร้อมเดินต่อไป

ไปโรงแรมเดินกลับทางเดิมจ้า บ่าย3พอดี ได้เวลาเช็คอิน รูปโรงแรมเปิดดูจากAgodaได้เลย เหมือนเป๊ะ มีลิฟท์ ในห้องมีทีวี ตู้เย็นเล็ก ตู้เซฟ ไดร์เป่าผม ปลั๊กไฟหลายจุด หัวเตียงข้างละ2 โต๊ะทำงานอีก2 มีน้ำอุ่นน้ำร้อนห้องน้ำเป็นฝักบัวมีกระจกใสกั้นแยกส่วนเปียก-แห้ง ห้องค่อนข้างแคบแต่ก็ตามราคา 1,000บาทนิดๆ/คืนรวมอาหารเช้า มีแม่บ้านทำความสะอาดทุกวัน มีน้ำดื่มให้ฟรี2ขวดเล็กทุกวัน รวมๆถือว่าโอเค ติดที่เก่าไปนิดนึง

*แต่แอบสนใจโรงแรมข้างๆ ราคาถูกกว่าประมาณ200บาท/คืน สไตล์มินิมอลนิดนึงเห็นคนเกาหลีมาอยู่กันเยอะน่าจะสะอาด

เช็คอินเสร็จขึ้นห้อง อันแพคของ อาบน้ำสระผมแล้วก็นอนยาวจนถึง6โมงเลยค่ะ เพลียแดด

เมื้อเย็นกินอะไรดี หอย ซิคะ มาที่นี่คือมาเพื่อกินหอยเลย ดูจากรายการน้องบิ๊มคือน่ากินมว๊าก และมีความออริจินัลสูง คือมีการปรุงหลายอย่าง เสิชใน Foody.vn หาร้านที่ใกล้ๆโรงแรม เป็นร้านเด็ดเหมือนกัน เรท7.4 (เอพนี้ดีมากบอกเลย เหมาะกับสายกิน) ไปค่ะ เดินไปตามเคย ซอยเดียวกับร้านบุ๋นเมื่อเช้า

เดินตรงเข้าซอยมา มองขวามือหน้าร้านแคบๆ สังเกตุป้ายไฟไว้ให้ดี คำว่า Oc อ่านว่า อ๊อค แปลว่า หอย จ้า (เลื่อนขึ้นไปดูในแผนที่รูปแรกได้ ชื่อร้าน Quan Oc Van)

ทั้งร้านมี6โต๊ะ นั่งยอง สายย่อที่แท้ มีลูกค้าอยู่แล้ว1เป็นคู่รักสายย่อ ให้เราแอบดูเมนูเค้าเป็นReferenceไปอีก

วิธีสั่งคือไปยืนจิ้มๆบอกเค้าอยากกินอันนี้ๆ วิธีปรุงคือเค้าไปปรุงตามแบบเค้าเอง ตื่นเต้นไปอีก

สั่งเสร้จ น้ำจิ้มมาแต่บอกเลยว่าไม่ได้จิ้มเลย น้ำจิ้มที่เตรียมไปก็ไม่ได้ใช้ หอบกลับมาอีกจ้า เพราะอะไรดูรูปถัดไปเลย

จานแรกมา อย่าถามว่าคือหอยอะไร ไม่รู้จิงจี แต่รสชาติมันใช่ หวานเค็มเผ็ดลงตัว มีกากหมูเจียวโรยมาอีก แซ่บเวอร์ วิธีกินคือเอาส้อมจิ๋วที่เค้าให้มาแคะเนื้ออกมากินค่ะ ช้อนจิ๋วตักน้ำซดตามรัวๆ

จานที่2 นัวๆถั่วลิสงคั่ว เนื้อหอยเด้งกรุบมาพร้อมต้นหอม ถั่วคั่ว น้ำซอส ตักกินพร้อมกันมันไปอีก

จาน3ตามมาติดๆ ผัดเนยมาการีนอันนี้ออกหวานมันเผ็ดนิดๆ ซอสคืออร่อยขนาดสั่งขนมปังมาจิ้มซอสกินเลยทีเดียว ขนมปังเค้าก็ปิ้งมากรอบๆด้วยนะ ฟินไปอีก

จาน4จานนี้ที่รอคอย หอยนางรมอบชีส เป็นหอย1เดียวที่รู้จัก ซอสเป็นครีมๆชีสไม่ได้เป็นยืดๆนะ คือดีย์

ด้วยความใหญ่และสด ปิ้งมาร้อนๆ กินคำเดียวไม่ได้ต้องตัดแบ่งครึ่งกิน

เทียบขนาดให้ดูความใหญ่ บอกเลยว่าฟินทุกจาน คืออยากกินอีกเลย สดจริงขนาดยังมีเมือกๆอยู่เลย

4จาน+ขนมปังปาเตะ1อัน น้ำเปล่า1ขวด โค้ก1กระป๋อง 500กว่าบาท ถือว่าราคาสูงอยู่ ถ้าเทียบกับค่าครองชีพที่นี่ เอ..รึเราจะโดนหลอก ใครมากินบอกด้วยนะกินร้านไหนว่าราคาเท่าไหร่กันบ้าง ใน2จานที่เป้นหอยตัวเล็กผัดซอสมีจานนึงราคา1แสน2หมื่นด่องด้วย(ประมาณ175บาทไทย) อีกจาน7หมื่น(100บาท) ส่วนหอยนางรม/หอยที่มีถั่วคั่ว ราคาตัวละ35,000ด่อง(50บาท)บั๋นมี่5,000ด่อง(7บาท) กินกันพอกรุบๆก็เดินไปถนนฟาร์มงูเหลา ดูจากggmapคือ650เมตร แต่เดินจริงไกลมาก เพราะหลงจ้า

เดินไปอีกทางมาโผล่โบสถ์อะไรไม่รู้เฉย เดินวนกลับไปเข้าข้างหลังทะลุออกหน้าซอยไปอีก(เส้นแดงคือเดินจริง) ไม่ได้ถ่ายรูปมานะเพราะคนเยอะมาก แล้วก็ไม่ชอบแนวๆนี้ด้วย คือเหมือนวอล์คกิ้งสตรีทพัทยา+ข้าวสาร มีผับบาร์+ฝรั่ง ติดๆกันทั้งซอย ร้านอาหารที่เป็นเพิงๆก็เยอะอยู่ เอาเป็นว่ามาให้รู้ก็พอ

เดินออกจากซอยนั้นตรงมาเรื่อยจะเจอร้านSubwayทางขวา ให้เลี้ยวซ้ายจะเจอวงเวียนเดินเข้าวงเวียนแล้วกลับไปตลาดเบนถันอีกรอบร้านเริ่มตั้งแน่นแล้ว ทั้งร้านอาหาร ของก๊อป เสื้อผ้า ของก็ขายเหมือนๆกันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ออกแนวทัวริส เลยมาแลกตังเพิ่ม ใช้แบ๊งค์พันไทยแลก เฮียจิ้มมาเรท 772 เรทดีกว่าSuper richไปอีก รู้งี้เอาเงินไทยมาแลกนี่ดีกว่าเลยแลกไป1,000บาทได้มา2ล้านกว่า รวยขึ้นมาทันตาเห็น สบายใจละ กลับโรงแรมนอน พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาวิ่งแต่เช้า

SOME ONE LIKE YOU

 วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 17.22 น.

ความคิดเห็น