ถ้าไม่นับเกาะล้านที่ผมเคยพาเธอไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับนั้น ชีวิตเธอไม่เคยไปเที่ยวเกาะเลย

เธอชอบทะเล ไปเที่ยวทะเลมาก็หลายที่ แต่เธอไม่เคยไปเที่ยวเกาะ นี่คือจุดเริ่มต้นในทริปนี้ของเรา

ที่เกาะช้าง เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว มีโรงแรมเปิดใหม่อยู่แห่งนึง ตกแต่งสไตล์ คอนเท็มโพรารี่ เซ็น

อยู่ในเครือเดียวกันกับเดอะเดวาและรามายานา ชื่อว่าเอวา รีสอร์ท ดูรูปของเว็บโรงแรมแล้วสวยดี

ผมพยายามหาข้อมูลและรีวิวของโรงแรมนี้ แต่ก็แทบจะหาไม่ได้ โดยเฉพาะรีวิว ผมหาไม่เจอเลย

คงเนื่องจากเป็นโรงแรมใหม่ คิดอยู่หลายตลบแต่ก็ยังเชื่ออยู่ลึก ๆ ในใจว่า โรงแรมนี้อยู่ในเครือเดอะเดวา ไม่น่าทำให้ผมผิดหวัง

เอาล่ะ ตามผมมา ผมและเธอจะพาคุณไปลองของใหม่ด้วยกัน

ผมออกเดินทางจากบ้านที่ จ.อ่างทอง ตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า ขับรถติงนังมาเรื่อย ๆ ไม่ได้รีบมาก

เพราะถ้าขับเร็วมีเปอร์เซ็นต์สูงที่ศีรษะผมจะลั่นดังเฉี๊ย นั่นคือจะมีฝ่ามือน้อย ๆ ฟาดลงมานั่นเอง 555

ประมาณกว่า 11.00 น. ผมก็ถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปยังเกาะช้าง

เรือเฟอร์รี่สำหรับข้ามฝั่งไปยังเกาะช้างมีอยู่ 2 ที่ด้วยกัน คือท่าเรือเฟอร์รีเกาะช้าง และท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์

ความแตกต่างของ 2 ที่นี้คือ เฟอร์รีเกาะช้าง แพงกว่า ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาที

เซ็นเตอร์พอยท์ ถูกกว่า แต่นั่งเรือประมาณเกือบ 1 ช.ม.

เห็นไหม เกาะช้างอยู่ตรงนู้นนนนน เธอชี้ให้ผมดู

วันนี้ผมและเธอเลือกที่จะไปกับเฟอร์รี่เกาะช้าง

ขอถ่ายภาพกับพาหนะคู่ใจหน่อยนะครับ

หลังจากที่เธอเป็นแบบให้ผมถ่ายภาพอยู่ในเรือเฟอร์รี่ได้ไม่นาน เราก็มาถึงเกาะช้างกันแล้วครับ ผมแอบสังเกตุดูเธอตื่นเต้นดีนะ

เมื่อขึ้นเกาะแล้วเรารีบตรงดิ่งไปยังโรงแรมทันที โรงแรมเอวา ตั้งอยู่ใจกลางหาดไก้แบ้ ติดกันกับโรงแรมเดอะชิลล์

อยู่ใกล้แหล่งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารหลากหลายชนิด และบาร์นั่งดื่มตอนกลางคืน ใครไม่มีรถ ไม่อยากเดินทางไปหาดไหน ไม่ต้องกลัวอดครับ

ตัวโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือฝั่งทะเล และฝั่งภูเขา โดยมีถนนสายหลักของเกาะช้างกั้นไว้นั่นเอง

เมื่อมาถึง ผมนำรถไปจอดด้านหลังตึกห้องพักฝั่งภูเขา จะมีพนักงานขับรถกอล์ฟไปรับ เพื่อพาผมมาเช็คอินที่ตึกฝั่งทะเล

ล๊อบบี้ของที่นี่เป็นแบบโอเพ่นแอร์ ดูสูง โปร่ง โล่ง สบาย

แต่ยามบ่ายในฤดูร้อน ผมว่าที่นี่ร้อนเอาเรื่องเหมือนกันนะ

ห้องพักผมที่ได้อัพเกรดจากแบบซุพีเรียมาเป็นห้องพักแบบดีลักซ์

ขนาดของห้องพักที่นี่กว้างมากเลย

ใส่เตียง 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่อีกเหลือเฟือ ...อ้อ เธอบอกกับผมว่าอยากให้ห้องของเธอกว้างแบบนี้

แต่ผมว่าที่จริงห้องที่บ้านก็กว้างนะ แต่มันเต็มไปด้วยสัมพารกของหล่อนเองมากว่า

ห้องน้ำก็กว้างไม่แพ้กัน โดยหลังกระจกเงาด้านขวามือจะเป็นห้องอาบน้ำ ด้านซ้ายจะเป็นโถชักโครก

ทุก ๆ วัน แม่บ้านจะนำผ้าเช็ดตัวสีขาวมาเปลี่ยนให้

ส่วนสีน้ำเงินนั้นใช้ปูนอนและเช็ดตัวเมื่อเราใช้บริการสระว่ายน้ำ หรือนั่งเก้าอี้ริมหาด

อ่างอาบน้ำ ของโปรดของเธอ

และฝักบัวฝนตกของโปรดของผม

สบู่เหลวและแชมพู กลิ่นสดชื่น

มีเกลือสำหรับขัดตัวให้ด้วย เธอบอกผมว่ากลิ่นหอมจัง จนผมอยากจะเทที่เหลือใส่ถุงเก็บให้เธอกลับมาใช้ที่บ้าน

ผลไม้ต้อนรับในห้องพักของผม

ตัวโรงแรมจะเป็นรูปตัว U ด้านหน้าติดกับถนนสายหลักของเกาะช้าง

อีกด้านเมื่อหันหลังกลับมาจากภาพด้านบนจะเป็นห้องอาหารเย็น ติดริมทะล

ชื่อว่า The Sala

มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก

โต๊ะส่วนใหญ่ถูกจะจัดไว้ที่ชายหาด ริมทะเล

วันนี้ก็เช่นกันพนักงานมาเตรียมจัดโต๊ะไว้รอแขกเพื่อทานอาหารเย็น

บรรยากาศดีๆ แบบนี้ นั่งทานข้าวเย็นไป ดูพระอาทิตย์ตกไป

สระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางขนานกันไปกับตัวตึกทั้ง 2 ด้าน

โดยด้านขวาจะเป็นตึกสำหรับห้องพัก ด้านซ้ายเป็นห้องอาหารเช้าและบาร์ริมสระน้ำ

สระว่ายน้ำยาวดีจัง ผมว่ายไม่กี่รอบเหนื่อยเลย

ห้องอาหารเช้าของที่นี่ชื่อว่า The Spoon

บาร์เล็ก ๆ ริมสระน้ำ

ชื่อ The River

ผมขอรวบรวมภาพอาหารเช้าทั้ง 2 วันของผมไว้เลยนะครับ

ผมไม่กล้าค่อยถ่ายภาพมาก เนื่องจากแขกเยอะ

ก๊วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใส ที่ผมต้องยืนรอ เพราะพนักงานลวกเส้นแล้ว แต่ไม่มีชามใส่ ^_^

สลัดอะไรซักอย่างของเธอ ผมถามเธอทำไมไม่ทานไส้กรอก แฮม ขนมปัง เธอบอกว่าเธอกลัวอ้วน

ผมแกล้งล้อเธอ กลัวตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะ 5555

เธอชี้หน้า พร้อมส่งสายตาแผ่รังสีอำมหิต คาดโทษผมว่าจะโดนไม่ใช่น้อย

คอนเฟล็กผสมธัญพืช ใส่นมของผม เมนูนี้ผมทานทั้ง 2 วันเลย อร่อยดี ชอบ ชอบ

ขนมปังอะไรซักอย่าง

เรียกไม่ถูกแต่อร่อยดีครับ

หลังจากทานอาหารเช้า ผมพาเธอมายังจุดชมวิว ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไรนัก

และแน่นอนเธอไม่พลาดกับการถ่ายรูปคู่กับเจ้าตู้ไปรษณี่ย์จรวด สีแดงสดใสตู้นี้

เธอเพียรพยายามกระโดดอยู่หลายที กว่าจะได้ภาพนี้

ถ้าฟ้าใส ภาพที่ได้คงสวยกว่านี้

หลังจากนั้น เรามากันที่หมู่บ้านบางเบ้า แหล่งขายของที่ระลึก

และท่าเรือที่นักท่องเที่ยวจะออกไปดำน้ำ วันเดย์ทริป

ผมใช้เวลาพักอยู่ที่นี่ 3 วัน 2 คืน

ไม่มีวันไหนเลย ที่ฟ้าใสเป็นใจให้ผมถ่ายภาพ นาน ๆ จะได้เที่ยวซักที ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย

ผมก็ได้แต่มาดักรอถ่ายภาพช่วงแสงทไวไลท์เอา เพราะงั้นภาพส่วนมากก็จะเปฺ็นภาพช่วงทไวไลท์ซะเยอะนะครับ

หาดทรายของที่นี่ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำเท่าใดนัก เนื่องจากมีหินค่อนข้างเยอะ แต่ก็พอจะนั่งแช่ เดินเล่นได้ในช่วงน้ำลง

กระซิก กระซิก...วันนี้ผมและเธอต้องกลับบ้านแล้ว ต้องกลับมาทำงานตามหน้าที่ที่มีอยู่ ผมยังไม่อยากกลับเลย

เวลาแห่งความสุขมันผ่านไปไวจริง ใครมาเที่ยวแล้วเมื่อถึงเวลาต้องกลับบ้านเป็นแบบผมมั่งอ่ะ

***โรงแรมเอวา รีสอร์ท เกาะช้าง เป็นโรงแรมใหม่ ตกแต่งสไตล์ คอนเท็มโพรารี่ เซ็น สวย ดูดี***

***เธอบอกกับผมว่า ตั้งแต่เธอเริ่มเดินทางท่องเที่ยวกับผม พักโรงแรมต่าง ๆ มาก็หลายที่ ไม่มีที่ไหนบริการดีเหมือนที่นี่เลย

พนักงานของที่นี่ ตั้งแต่ยาม พนักงานขับรถกอล์ฟ พนักงานยกกระเป๋า เจ้าหน้าที่เช็คอิน รวมไปจนถึงพนักงานในห้องอาหาร

ทำให้เธอประทับใจมากกว่าทุกที่ที่เธอเคยพักมา ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ไม่ได้ยกยอ แต่นี่คือสิ่งที่ผมและเธอประสบพบมา***

***โรงแรมตั้งอยู่อยู่ในใจกลางหาดไก่แบ้ ร้านรวงต่าง ๆ มากมาย สะดวกมากไม่ต้องกลัวอด***

***ห้องอาหารเช้า The Spoon เล็กไปหน่อย หากแขกที่มาพักเต็ม ห้องอาหารนี้รองรับไม่พอแน่นอน***

***ช่วงที่ผมไปพัก ประมาณเอาจากสายตาแขกที่มาพักน่าจะประมาณ 70 % ยังต้องให้แขกมานั่งทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารเย็นเลย***

***ไลน์อาหารเช้าน้อยไปหน่อย ไม่หลากหลาย แต่อาหารก็มีทุกอย่างตามพื้นฐานที่ควรจะมี และไม่เคยปล่อยให้ของขาด***

เกาะช้างเป็นเกาะที่น่าเที่ยว ผู้คนดูเป็นมิตร มีทะเล มีน้ำตก (ที่ผมไม่ได้ไป) ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ อยู่แต่ในโรงแรมนอนมองดูทะเล จากเก้าอี้ชายหาด

ซึ่งเป็นความตั้งใจทั้งของผมและเธอแต่แรก เพียงเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว

ใครมาเกาะช้างผมอยากแนะนำให้ทานร้านโรตีหลากไส้ มะม่วง กล้วย ฯ อร่อยดี ผมชอบมาก

วันที่ผมกลับเป็นวันอาทิตย์ ผมรอต่อแถวขึ้นเรือนานมาก เกือบ 2 ช.ม. รถติดยาว ใครเลี่ยงได้ควรเที่ยวเกาะช้างวันธรรมดา

อาหารทุกอย่างบนเกาะ ตั้งแต่ร้านข้างทางจนถึงร้านอาหารที่มีชื่อ ราคาแพงกว่าบนฝั่งพอสมควร

นักท่องเที่ยวควรวางแผนเรื่องการเงินมาให้ดี

ผมยังมีโรงแรมอยู่อีกหลายที่ ที่ยังไม่ได้รีวิว เร็ว ๆ นี้ผมจะรีบทยอยลงให้เพื่อน ๆ ได้รับชมนะครับ ...สวัสดีครับ

ติดตามผมได้ที่ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel&month=23-03-2015&group=1&gblog=13