' จากภูเขาไฟที่ยังทรงพลังแห่งศรัทธา สู่ ความงามของเหมืองกำมะถันที่มีอันตรายซ่อนเร้น '

เมื่อโบรโม่เป็นพระเอก Volcano of Indonesia

งานนี้จึงขาดนางเอกไม่ได้ เพราะ ทริปทัวร์ เกือบ 100 % จัดว่าต้องไป !

Locationสุดท้าย ในงบ 5000 กว่าบาท จะพาเราไปพบ " Kawah Ijen "

กับ 3 สิ่งมหัศจรรย์ คือ ภูเขาไฟเหมืองแร่ ทะเลสาบกำมะถัน และเปลวไฟสีน้ำเงิน


ความเดิมตอนที่แล้ว
Location I : Tumpak Sewu Waterfall https://th.readme.me/p/23209
Lacation II : Bromo https://th.readme.me/p/23339


ค่าเสียหาย : อยู่ในงบ Adit (Local guide) ที่เราจ่ายไปวันแรก 2,375,000 IDR /คน หรือ 5,000 บาท โดยประมาณ **

สิ่งที่ต้องเตรียม : ร่างกายที่พร้อม ปราศจากโรคภัย เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ, ไฟฉาย, เสื้อกันหนาวบางๆ, น้ำ, รองเท้าผ้าใบ

สิ่งที่Adit เตรียมให้ : Maskกันสารเคมี, กำลังใจ : )


Location III : Kawah Ijen

ภูเขาไฟคาวาอิเจี้ยน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภูเขา Merapi ที่อยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ภูเขาไฟที่นี่จึงไม่เคยหลับไหล และทำให้ ' คาวาอิเจี้ยน ' เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีความมหัศจรรย์ เป็นที่โจษจันไปทั่วโลก เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวจากแดนไกลแห่กันมาชื่นชม แม้สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย เพราะคาวาอิเจี้ยนนั้น ไม่ใช่แค่ภูเขาไฟธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมืองแร่กำมะถัน ที่มีก็าซพิษพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา !

เช้าวันที่ 3 ที่ทุกคนต้องตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุก การเดินทางจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ! จากที่พัก Catimore Home stay Blawan เส้นทางลึกลับคล้ายว่าอยู่ในเขตอุทยานอะไรสักอย่าง แต่ Adit ขับรถอย่างชำนาญ มาถึง Kawah ijen Natural Park ตอนตี 3 และส่งมอบเราให้ไปกับ Lacal guide อีกคน

' ระยะทาง3 กิโลเมตร '

เสียงเท้าก้าวเดินภายใต้ความมืดมิด มีเพียงไฟฉายเท่านั้น ที่คอยส่องนำทาง และเสียงจากคนท้องถิ่นตะโกนร้อง "Taxi Taxi" พร้อมกับเข็นรถคล้ายๆ ซาเล้งปุเลงปุเลงตามหลังมาติดๆ พร้อมจะให้บริการทุกเมื่อ (แต่เสียตังค์) ช่างเป็นอะไรที่กดดันเหลือเกิน ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ มีโค้งหักศอกเป็นระยะๆ พื้นค่อนข้างลื่น เนื่องจากเป็นดินภูเขาไฟ เสียงหอบดังขึ้น ขาก้าวช้าลง จึงหยุดพักจิบน้ำ เหงื่อเริ่มออก ถอดเสื้อกันหนาวผูกเอวไว้ และบอกตัวเองว่า ' ชิลๆ ภูกระดึงก็ยังผ่านมาแล้ว '


Workingman with Sulfur

เมื่อมาถึงคุณจะพบชายกรรมกรแบกก้อนกำมะถัน เดินขึ้นลงบนเนินโขดหิน ท่ามกลางดวงไฟเล็กๆ ที่ส่องสว่างในระยะไม่กี่เมตร มันน่าทึ่งมาก !

การเดินเท้าลงสู่ Ijen crator หรือพื้นที่เหมืองกำมะถันด้านล่าง มีเส้นทางลาดชัด ที่เต็มไปด้วยหินผา เศษกำมะถัน ชายกรรมกรแบกกำมะถัน และนักท่องเที่ยวที่เดินสวนขึ้นมา จึงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ต้องระมัดระวัง เมื่อคุณเข้าใกล้เหมือง กลิ่นกำมะถันจะรุนแรงจนทำให้คุณแสบตา แสบจมูก หยิบmaskกรองสารเคมีที่ Local guide ให้มาครอบจมูกคุณซะ !

ท่ามกลางความมืดแบบนี้...การเดินบนโขดหินผาสูงชันเป็นไปอย่างยากลำบาก ประกอบกับมีกลิ่นกำมะถันลอยฟุ้งมาเป็นระยะๆ ทำให้การใส่ mask เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนอึดอัด ! จนมีเพื่อนผู้ร่วมทริปขอ ยกธงขาว ยอมแพ้ และขอไกด์เดินกลับไปรอข้างบน ส่วนคนอื่นๆ ยังเดินไปข้างหน้าอย่างหวาดหวั่น และยังคงคิดว่าว่า...เค้าพาตรูมาดูอะไรฟระ !?

ว้าว ! ไงล่ะ... นี่มัน " Blue Flame " เปลวไฟสีน้ำเงินที่เราตามหา มี 2 ที่ในโลก สำหรับ Kawah Ijen คือที่เดียวที่สามารถเข้าชมได้ด้วยตาเปล่า ณ รอยแยกของแผ่นเปลือกโลก ที่อุณหภูมิ 600 ํC บริเวณที่มีแร่ธาตุกำมะถันจำนวนมาก และก่อนท้องฟ้าจะสว่าง คุณจะพบปรากฏการณ์ของเหลวกลายเป็นก๊าซเปลวไฟสีน้ำเงิน บนแผ่นเปลือกโลกบริเวณนี้เท่านั้น !

เมื่อท้องฟ้าสว่าง คุณจะพบกับ ' Blue Lake ' ทะเลสาบปนเปื้อนกรดกำมะถันเข้มข้นจนกลายเป็นน้ำสีฟ้า เบื้องหน้ามีหมอกควันกำมะถันลอยฟุ้ง ราวกับความฝัน แต่เป็นความฝันที่แฝงไปด้วยอันตราย!


การสูดสำลักควันกำมะถัน จะทำให้แสบตาและจมูก มันอันตรายเกินไปแล้วถ้าจะอยู่ต่อ เราเดินย้อนกลับขึ้นมาบนเนินราวๆ 200 เมตร พบจุด ' view point ' ที่เห็นทะเลสาบสวยงามที่สุด ในตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่าข้างล่าง

แม้ควันกำมะถันจะพวยพุ่งอย่างน่ากลัว แต่มีหลายสิ่งมหัศจจรย์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไทยอย่างเรา


ไม่มีอันตรายใดๆ จะสามารถหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาได้


07.00 น. ได้เวลากลับขึ้นไปด้านบนแล้ว บอกลาเหมืองภูเขาไฟสีขาว ควันไฟกำมะถันและทะเลสาบสีฟ้า ที่เริ่มเลือนลางทุกขณะ เนื่องจากลมแรงพัดจนควันไฟลอยคละคลุ้ง ซึ่งนี่เป็นอีกสาเหตุที่เราควรกลับขึ้นไป เพราะความอึดอัด แสบตา คันผิวหนัง ทวีความรุนแรงขึ้น

ระหว่างทาง พบ ชายกรรมกรแบกกำมะถัน วัย 40 ปี หรือแก่กว่า ส่งรอยยิ้มเปื้อนความเหนื่อยล้ามาให้ เขากำลังแบกก้อนกำมะถันหนักถึง 60 kg ขึ้นสู่เนินเขาที่สูงชัน บางคนพักตะกร้ากำมะถันเป็นระยะๆ เพื่อไปชั่งน้ำหนักด้านบน และแบกลงเขาไปด้านล่างอีก 3 km. เฉลี่ยแล้ว เขาสามารถทำได้คนละ 2 -3 รอบ/คน เพื่อขายก้อนกำมะกัน ในราคาเพียง กิโลกรัมละ 2 บาท เท่านั้น !! ค่าแรงอันแสนถูกนี้ จึงทำให้ชายกรรมกรเหล่านี้เกิดไอเดีย ทำ Souvenia ขึ้น จากการแกะสลักเป็นรูปต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก ในราคา 5000 - 10000 IDR


แม้เราจะขึ้นสู่ Ijen Crator แล้ว ควันกำมะถันยังลอยขึ้นมาตามทิศทางลม ฟุ้งเป็นหมอกจางๆ จนมองไม่เห็นทางลงเลยสักนิด



เดินทางกลับแล้ว ที่คือการจากลาที่ต้องทำใจมากที่สุด ! เพราะเวลานี้ คงไม่เหมือนการเดินขึ้นเขาท่ามกลางความมืด แบบที่ไม่ต้องเห็นความยากลำบากใดๆ แค่ส่องไฟฉายไป แล้วเดินตามๆกัน แต่เวลานี้...เห็นทางลงสูงชันได้ชัดแจ๋ว ขนาดรู้สึกเลยว่า โอ้ย...นี่ฉันขึ้นมาถึงนี่ได้ยังไง !!


มองวิวเพลินๆ เดินลงดีๆ Warning your step !


สุดท้าย ก่อนจากลาเกาะชวาตะวันออก ... นี่คือสิ่งที่อยากจะบอก

: ]


Catimore Homestay Blawan

ที่พักท่ามกลางป่าเขา ไม่สามารถบรรยายได้ เนื่องจากมาถึงก็ดึกแล้ว Check in 21.00 น.

YES น้ำอุ่น

YES ผ้าเช็ดตัว

NO แอร์

YES อาหารเช้า (เป็นขนมปัง ไข่ต้ม กาแฟ)




TAXI TAXI : ยานพาหนะสำหรับผู้พ่ายแพ้

ขาขึ้น 1 ล้าน รูเปียห์

ขาลง 5 ล้าน รูเปียห์

(ราคา ณ ตอนนั้น)




ไม่น่าเชื่อว่าอาหารอินโดนีเซียจะมีรสชาติคล้ายอาหารไทยมาก มีรสเผ็ดที่ทำให้รู้สึกไม่เลี่ยนจนเกินไป

แถมบางอย่างอร่อยมากจนต้องยกนิ้วให้

จบปิ้ง !


FBfanpage : https://www.facebook.com/VOYAGER.S.MEMORIES/

Leader : Onslowly

Local guide : Adit adventure

** ราคานี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินนะ

/// ฝากติดตามผลงานผ่านทางfacebook "นักล่าอาณานิคมthememories" กันด้วยนะคะ///



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนจบ!

ขอบคุณ OnSlowly หัวหน้าผู้จัดทริปสร้างแรงบันดาลใจ

ขอบคุณ Adit Local guide สำหรับการบริการที่ดีเยี่ยม ในราคาย่อมเยาว์ !

แล้วพบกันใหม่ ในการเดินทางครั้งหน้า ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล สัญญาว่าจะมาเขียนรีวิว

โปรด ไม่โปรด แล้วแต่พิจารณา : ]


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

นักล่าอาณานิคม The memories






ความคิดเห็น